ขอต้อนรับสู่โลกของนิยายยูริ เรื่องจากประสบการณ์ และทำนายดวงชะตา โดย นิ้วนาง-เดียนา-ลำดวนพยากรณ์
<<
สิงหาคม 2560
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
30 สิงหาคม 2560
 
 
หัวใจว้าวุ่น! It's complicated! ตอนที่ ๑๕ (Yuri)



๑๕

บาดใจ

นัยน์ตาหล่อนสวยบาดใจเหลือจะกล่าว

ผิวนวลขาวเนียนนุ่มชวนพิสมัย

อกพอเหมาะสะโพกงอนช่างเร้าใจ


ใครอยู่ใกล้คอแห้งผากยั่วอารมณ์

เช้าวันเสาร์รมยากรแต่งชุดสวยยาวโทนสีฟ้า เนื้อผ้าพองฟูเบานุ่มเกาะอก แต่งหน้าโทนสีหวาน ดูแล้วสวยสง่าแทบไม่ต่างจากเจ้าหญิงในเทพนิยายนักแม้หญิงสาวจะไม่มีมงกุฎสวมศีรษะก็ตาม

สวยจริงๆสวยวัวตายควายล้มหมดคอกเลย...ให้ตายเถอะ!

ตะวันนาตะลึงลานอ้าปากค้างไปหลายวินาที ที่เห็นหญิงสาวผุดผาดสะคราญปรากฏตัวขึ้น หัวใจรู้สึกซาบซ่าอย่างบอกไม่ถูกแทบลืมหายใจไปเลยทีเดียว

เคลิ้มเชียวหุหุ

“แมลงวันไข่เต็มปากแล้ว”สาวสวยอดที่จะค่อนแคะออกมาไม่ได้ ที่ทำให้อีกคนงวยงง ออกอาการมากกว่าที่คาด จึงอดที่จะภูมิใจในตัวเองไม่ได้

เฮ้ย!

สาวแกร่งสะดุ้งรีบหุบปากทันทีรู้สึกเสียฟอร์ม เผลอยกมือเกาต้นคอแก้เก้อ หน้าขึ้นสีเรื่อเล็กน้อย

“ลูกฉันสวยไหมตะวัน?”โยธินแกล้งสัพยอกบอดี้การ์ดสาวอย่างเป็นกันเอง

“ค่ะท่านคุณรมสวยมาก ฉันเชื่อว่าผู้ชายทุกคนต้องมองเธอตาค้างแน่นอน” ตะวันนาเอ่ยชื่นชม ชนิดปากตรงกับใจสุดๆออกมาเป็นครั้งแรก

ขนาดฉันเองยังตาค้างเลย

“นั่นสิเนอะเป็นนางแบบดังเสียด้วย ไม่สวยได้ไงกัน” นายตำรวจใหญ่หัวเราะลั่นอย่างพอใจภาคภูมิใจในตัวลูกสาวเหลือเกิน

ส่วนนางแบบสาวอดที่จะเขินไม่ได้ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะกล้าพูดชมหล่อนออกมาเต็มปากเต็มคำแบบนี้

กล้ามากนะเนี่ยชมต่อหน้าพ่อแบบนี้

“แล้วผมหล่อไหมครับคุณตะวันนา?”รณชัชแกล้งยิงลูกอ้อนบ้าง โดยหวังจะได้รับผลตอบรับในทางบวกจากสาวเจ้า

อยากให้ฉันตอบแบบไหน?

สาวแกร่งทำหน้าลำบากใจไม่รู้จะตอบอย่างไรถึงจะเหมาะ ขืนชมก็เป็นเรื่อง ไม่ชมก็อาจจะเป็นเรื่อง

“อย่าไปสนใจเลยพี่ฉันไม่ค่อยหล่อเท่าไหร่ แค่พอดูได้”รมยากรตอบแทนด้วยความรู้สึกหมั่นไส้พี่ชายเต็มแก่ ที่ทำให้เสียบรรยากาศ

“เฮ้ย! ได้ไงอ่ะรม” คนเป็นพี่โวยวายอย่างไม่พอใจที่ถูกเตะตัดขาต่อหน้าหญิงสาวที่หมายปอง

“พูดความจริงก็ไม่ยอมรับอีกผู้ชายอะไร”น้องสาวเบ้ปาก ยักไหล่แบบกวนๆ แม้จะรู้ว่าเขาหล่อเหลาชนิดเป็นนายแบบได้สบายๆ ก็ตามแต่หล่อนไม่อยากได้ยินคำชื่นชมคนอื่นจากปากบอดี้การ์ดสาว

...ยกเว้นตัวเอง

“นี่พี่นะครับคุณน้องที่เคารพ” รณชัชประชด

“จำได้ค่ะสมองยังดีอยู่” หล่อนสวนกลับทันควัน

โตแล้วยังไม่เลิกนิสัยเด็กๆอีก

โยธินส่ายหน้าอย่างระอาใจที่เห็นลูกสองคนโต้เถียงกันเหมือนสมัยเด็กไม่ผิดเพี้ยน ก่อนหันมาพูดเล่นกับบอดี้การ์ดสาว

“ขอโทษทีนะตะวันลูกฉันอายุแค่สามสี่ขวบ”

“พ่อค่ะ” /“พ่อครับ” สองเสียงชายหญิงเรียกชายอาวุโสแทบจะพร้อมเพรียงกัน

คนเป็นพ่อหัวเราะเสียงดัง

หึหึ

ตะวันนากลั้นหัวเราะเต็มที่อมยิ้มในหน้า ที่เห็นหล่อนหันมาส่งค้อนวงใหญ่ให้เป็นรางวัล

“เลิกเถียงกันซะทีอายตะวันบ้างสิ โตๆ กันแล้วนะ” โยธินบ่นลูกอย่างรักใคร่เอ็นดู ก่อนหันมาเตือนลูกสาว“รีบทานแล้วก็ไปทำงาน เดี๋ยวสายนะรม”

“ค่ะพ่อ”รมยากรขานรับ ทรุดตัวลงนั่งที่โต๊ะอาหาร แล้วทานมื้อเช้าอย่างเร็ว

บอดี้การ์ดสาวนึกขำกับทีท่าแบบเด็กๆของหญิงสาว แล้วอดที่จะชื่นชมความรักความผูกพันของสมาชิกในครอบครัวนี้ไม่ได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอขาดแคลนมาตลอดชีวิต

เป็นครอบครัวแสนสุขจริงๆ...น่าอิจฉาชะมัด

“คุณสวยสุดๆเลยนะวันนี้ สวยหยั่งกับเจ้าหญิง” บอดี้การ์ดสาวชมขึ้น ขณะทำหน้าที่เป็นสารถีขับรถพาคนสวยไปยังบริษัทยาของบารมีซึ่งเป็นวันเปิดตัวยาตัวใหม่ ซึ่งหล่อนเป็นพรีเซนเตอร์ให้

“ขอบคุณที่ชมนะแต่ฉันรู้อยู่แล้ว” รมยากรพูดอย่างมั่นอกมั่นใจ ด้วยเห็นอีกคนชำเลืองมองมายังตนถี่กว่าปกติเกือบจะทุกหนึ่งหรือสองนาทีเลยด้วยซ้ำ

“โหไม่หลงตัวเองเลยนะเนี่ย” ตะวันนาแกล้งพูดกวนประสาทอีกคนเหมือนปกติ

“ฉันไม่ได้หลงตัวเองแต่มีบางคนหลงต่างหาก” หล่อนเปรยขึ้นลอยๆ อย่างรู้เท่าทัน ปรายหางตามองปฏิกิริยาของอีกฝ่าย

หัวแหลมหยั่งกับหัวลิง

คนขับร้อนตัวไม่น้อยรีบกลบเกลื่อนทำหน้าเหลอหลา แสร้งไม่เข้าใจความหมายที่อีกคนพูด

“หมายถึงใครเหรอ?”

“คนแถวนี้แหละ”

“แล้วคนแถวนี้พอจะมีหวังบ้างหรือเปล่า?”ร่างเพรียวเจตนาโยนหินถามทาง เพื่อหยั่งท่าทีของอีกฝ่ายเธอยังไม่ถึงกับมั่นใจนักว่าหล่อนมีใจให้ตนแบบนั้น จนนึกลังเลว่าจะก้าวต่อไปดีหรือไม่?

“จะรู้ไปทำไม”รมยากรตอบห้วนๆ ยังคงสงวนท่าทีเอาไว้ ไม่อยากให้ความสัมพันธ์กับบอดี้การ์ดสาวสลับซับซ้อนไปมากกว่านี้แม้ว่าอีกฝ่ายจะทำให้หัวใจสั่นมากมาย จนออกอาการซวนเซเข่าอ่อนไปบ้างบางขณะ แต่สำนึกผิดชอบชั่วดีทำให้หญิงสาวยับยั้งชั่งใจตัวเองเต็มที่ที่จะไม่ล้ำเส้น

...ไม่อยากถูกตราหน้าว่าแย่งว่าที่คนรักของพี่ชาย

ดุจริงๆ...น่าเอาไว้เฝ้าบ้าน

ตะวันนาบ่นในใจก่อนจะพูดแหย่อีกรอบ

“ยังไงวันนี้ก็อย่ายิ้มมากนะคะเดี๋ยวแขกในงานจะหัวใจวายตายกันเยอะ”

“บ้าสิ! ใครจะไปทำอย่างนั้นกัน” หล่อนแกล้งปั้นหน้าขรึม รู้ดีว่าอีกคนแอบชมอ้อมๆ

จะชมก็ชมตรงๆ สิทำไมต้องกวนประสาทด้วย ชิส์

รมยากรนึกค่อนอีกคน อมยิ้มอย่างพอใจ เฉสายตามองออกนอกหน้าต่างข้างรถ

เธอซ่อนยิ้มในหน้าที่โดนต่อว่าจึงไม่คิดต่อล้อต่อเถียงให้อีกฝ่ายอารมณ์บูดเน่า จึงปิดปากสนิทแล้วทำหน้าที่ของตัวเองต่อไป

ทั้งคู่ไม่คุยกันอีกเลยจนกระทั่งถึงจุดหมายปลายทางโดยนัดพบกับยุพาที่ชั้นล่างของอาคาร

ทันทีที่ทั้งสามเข้าไปในอาคาร พนักงานต้อนรับกุลีกุจอนำแขกพิเศษไปยังลิฟต์ทันทีและนำไปยังห้องโถงที่ใช้จัดงาน

“ขอบคุณค่ะ” รมยากรกล่าวกับเธอคนนั้นอย่างสุภาพ

“ยินดีที่ได้รับใช้ค่ะคุณรม” พนักงานสาวยิ้มกว้าง ค้อมหัวต่ำแล้วเดินออกไปเพื่อทำหน้าที่ต่อ

นางแบบสาวเยื้องย่างผ่านประตูอย่างมั่นใจ โดยมียุพาซึ่งสวมกระโปรงเสมอเข่าเป็นทางการเดินเคียงข้างส่วนบอดี้การ์ดสาวสวมเสื้อสูททับเสื้อยืดกางเกงสแลคสีดำปิดท้ายขบวน

การปรากฏตัวของสามสาว เรียกความสนใจของผู้ที่มาร่วมงานไม่น้อยซึ่งแขกส่วนใหญ่เป็นผู้มีหน้ามีตา หรือมีฐานะระดับมหาเศรษฐีของประเทศนี้ โดยมีนักข่าวมาร่วมงานเพียงแค่ไม่กี่คนเท่านั้น

นี่มันงานอะไรกันเนี่ย?

ตะวันนานึกประหลาดใจที่เห็นเหล่าคนรวยที่มีประวัติไม่ชอบมาพากลหลายคนยืนสนทนากันอย่างสนิทสนมข้าราชการระดับสูงในหลายหน่วยงานของรัฐ รวมถึงผู้ทรงอิทธิพลบางคนที่ไม่ค่อยออกสื่อบ่อยนักข่าววงในที่เชื่อถือได้หลายแหล่งบอกตรงกันว่า แขกหลายคนที่มาในงานนี้น่าจะอยู่เบื้องหลังเรื่องร้ายๆหลายเรื่องที่เกิดขึ้นในรอบหลายปี แต่ไม่มีใครหน้าไหนกล้าออกมาแฉ ด้วยเกรงเภทภัยจะมาถึงตัว

คนส่วนใหญ่ในสังคมไทย ชอบถือคติที่ว่า...รู้หลบเป็นปีกรู้หลีกเป็นหาง โดยหารู้ไม่ว่า การเพิกเฉยต่อสิ่งชั่วร้าย ไม่ต่างจากการส่งเสริมมันทางอ้อม

ไม่เหมือนงานเปิดตัวสินค้าเลย ...เหมือนมีตติ้งของแก๊งค์ยากูซ่ามากกว่า

เธออดที่จะคิดประชดประชันแบบนั้นไม่ได้

“สวัสดีครับคุณรม ดีใจจริงๆ ที่คุณมาได้”บารมีเจ้าภาพของงานทักทายเสียงนุ่มหล่อ ยิ้มร่าดีใจแบบไม่เก็บอาการด้านหลังเขามีคนสนิทและบอดี้การ์ดสองคนประกบซ้ายขวายิ่งทำให้ดูไม่ต่างจากผู้มีอิทธิพลนัก

“คุณบารมีชวนทั้งที ฉันจะไม่มาได้ยังไงกันคะ”หล่อนตอบเสียงอ่อนหวานกว่าปกติ

“ขอบคุณครับ” เจ้าของบริษัทยายิ้มกว้างมากกว่าเดิมแล้วหันมาทักทายผู้จัดการสาวอย่างคุ้นเคย “สวัสดีครับคุณยุพา”

“สวัสดีค่ะคุณบารมี” เธอทักทายตอบตามมารยาท

หลังสนทนากับสองสาว บารมีปรายตามองไปยังบอดี้การ์ดสาวที่กวาดนัยน์ตาคู่คมกริบไปรอบบริเวณจัดงานอย่างสังเกตสังกาโดยไม่คิดสนใจเขาเลยสักนิด ทำเหมือนคนอย่างเขาไม่อยู่ในสายตา

ไร้มารยาทจริงๆ!

เจ้าของบริษัทนึกตำหนิตะวันนาในใจไม่ชอบใจนักที่เธอคนนี้มาร่วมงานด้วย ไม่ถูกชะตาตั้งแต่เจอคราวก่อนแต่ติดที่อีกฝ่ายเป็นคนของรมยากร หากเป็นผู้ติดตามของคนอื่นคงโดนไล่ตะเพิดไปแล้ว ฐานไม่มีสัมมาคารวะ

“ขออนุญาตควงคุณรมในวันนี้ได้ไหมครับ?” บารมีขอร้องอย่างสุภาพตรงไปตรงมา

ไอ้บ้านี่!

ตะวันนาหันขวับจ้องหน้าหล่อของเขาอย่างฉุนๆ กำหมัดข้างตัวแน่นยืนนิ่งรอฟังการตัดสินใจของหล่อน

ไม่มีทางเลือกสินะ

รมยากรขบคิดอย่างฉับไว ก่อนตอบรับเสียงนุ่ม

“ได้สิคะ”

“ขอบคุณครับ” เจ้าภาพยิ้มกว้าง คว้ามือนิ่มๆ ของหล่อนมาควงแขนตัวเองอย่างถือวิสาสะยืนสนิทสนมใกล้ชิดจนไหล่แทบติดกัน

“ขอบคุณที่ให้เกียรติรมนะคะ” สาวสวยยิ้มน้อยๆ ที่มุมปากไม่แสดงความรู้สึกแท้จริงออกมา แม้จะรู้สึกลำบากใจที่ต้องเสแสร้งแกล้งทำใกล้ชิดกับเขาแต่นี่ก็คือการทำงานอย่างหนึ่งในฐานะนางแบบ จึงได้แต่อดทนอดกลั้นเอาไว้

อยากให้งานนี้จบเร็วๆ จัง เฮ้อ!

ตะวันนาได้แต่ยืนมองตาปริบๆ ทำอะไรไม่ได้ปล่อยให้รมยากรเดินคู่กับบารมีไปหน้าเวที โดยมีแสงแฟลชของเหล่านักข่าวกดรัวบันทึก ภาพชอตเด็ดไว้เป็นระยะ

หมอนี่ฉวยโอกาสเก่งชะมัด

เธอเข้าใจจุดประสงค์ การเชิญหล่อนมาร่วมงานวันนี้ เพื่อให้เป็นจุดสนใจซึ่งแน่นอนว่าภายในเย็นวันนี้จะกลายเป็นข่าวดังบนสื่อออนไลน์ พลอยทำให้สินค้าตัวใหม่ของบริษัทนี้ดังเป็นพลุแตกได้ไม่ยาก

ดีไม่ดีจะมีข่าวรักๆ ใคร่ๆ ของรมยากรกับบารมี ตามมาอีกยาวเป็นหางว่าวหากนักข่าวได้ค่าน้ำร้อนน้ำชา อะไรก็เขียนเป็นข่าวได้ ไม่ว่าจะจริงหรือไม่จริงก็ตาม

“รมไม่เป็นไรหรอก แค่นี้สบายมาก” ยุพาเอียงตัวกระซิบกับสาวแกร่งไม่ให้เป็นห่วงเกินไปด้วยที่ผ่านมาเด็กปั้นระมัดระวังตัวมาก ไม่ทำอะไรเปลืองตัวให้ต้องกังวล เธอรู้จักนิสัยอีกฝ่ายดีว่าเอาจริงเอาจังกับเรื่องงานขนาดไหน บ่อยครั้งที่ทำงานเกินค่าตัวจนจะกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว

ฉันคิดมากเองสินะ

บอดี้การ์ดสาวเอียงคอไปมองคนพูด ก่อนพยักหน้าอย่างเข้าใจ รู้ทั้งรู้อยู่เต็มอกว่าผลลัพธ์วันนี้จะออกมาเป็นอย่างไร...แต่งานบางอย่างก็เลี่ยงไม่ได้

“ไปใกล้ๆ คุณรมกันดีกว่าค่ะ” ตะวันนาเอ่ยชวนด้วยถือว่าตอนนี้เป็นเวลางานเธอต้องดูแลหล่อนไม่ให้คลาดสายตา

“อือ” คนฟังรับคำเข้าใจความนัยที่คนตรงหน้าไม่ได้เอ่ย เธอเองก็ไม่ไว้ใจเจ้าภาพนักแถมบรรยากาศในงานก็ดูแปลกๆ ในฐานะผู้จัดการยุพาต้องดูแลนางแบบของตนให้ดีที่สุด...สมกับที่โยธินกับรณชัชไว้ใจ

ตะวันนาจ้องเขม็งไปยังเจ้าภาพตลอดเวลาในใจร้อนรุ่มเหมือนไฟแผดเผา หงุดหงิดเดือดดาลใจที่เห็นบารมีควงคู่สาวสวย ยิ้มแย้มกว้างอย่างมีความสุขทักทายกับแขกในงานเขาหันมาพยักพเยิดกับหล่อนเป็นระยะ ทำประหนึ่งเป็นคู่รักคู่ควงที่รักใคร่กันปานจะกลืนกิน

“สวัสดีครับท่านปลัดฯ ขอบคุณที่แวะมานะครับ”

“สวัสดีครับท่านรองฯ ขอบคุณที่มานะครับ”

“สวัสดีครับ ขอบคุณที่มาครับท่านรองนายกฯ”

ฯลฯ

ทำไมต้องสนิทสนมกันขนาดนี้ด้วย...นี่มันงานเปิดตัวสินค้า หรือเปิดตัวคนรัก?

นึกประชดอย่างไม่สบอารมณ์นัก ตะวันนาหันสบตากับรมยากรที่เหลียวมองมาพอดีแล้วอ่านสีหน้าแววตาลำบากใจของหล่อนออก แต่จนใจที่ทำอะไรไม่ได้ด้วยเป็นงานของอีกฝ่ายสาวเพรียวได้แต่ข่มอารมณ์บูดเน่าเอาไว้ภายใต้สีหน้านิ่งเฉยราวรูปสลัก

โธ่เว้ย!

สบถในใจอย่างหงุดหงิด กำหมัดข้างกายแน่น

หากเป็นยามอื่น องครักษ์สาวคงถลาไปเสยปลายคางบารมีแล้วกะให้หน้าหล่อนั้นกลายเป็นอดีตได้แบบไม่ยาก หรือจะให้หล่อเหลาแบบมัมมี่ก็จัดให้ได้เธอสามารถทำให้เขาไม่กล้ามองใบหน้าตัวเองในกระจกนานหลายเดือนเลยทีเดียว

สาวเพรียวยืนห่างหล่อนเพียงไม่กี่ก้าวหรี่ตาคู่คมกริบดูเจ้าภาพสลับกับนางแบบสาวเป็นระยะอย่างระแวดระวังเห็นบอดี้การ์ดของบารมีสองคนยืนคุมเชิงอยู่อีกด้านของเขา แต่เธอก็หาสนใจไม่ ด้วยถือว่าต่างฝ่ายต่างกำลังทำหน้าที่ของตัวเอง

เครียด

พี่เครียดขึ้งกลัดกลุ้ม หนุ่มล้อม โอบเจ้า

เกี้ยวพากล่อมตะล่อม ลดเลี้ยว

คำหวานหูพรั่งพร้อม ระบัดรื่นชื่นชม

ใจมาดหมายขบเคี้ยว นิ่มเนื้อนวลนางฯ

ผ่านไปกว่าครึ่งชั่วโมงที่เดินทักทายกับแขกรอบงานบารมียังคงไม่ยอมปล่อยแขนหล่อน แต่เลือกที่จะชวนเดินออกไปยังมุมหนึ่งของห้องโถงปล่อยให้ลูกน้องคนอื่นต้อนรับแขกแทน เพื่อหาโอกาสคุยกับหล่อนตามลำพัง

ผู้หญิงอะไรมีเสน่ห์น่าหลงใหลจริงๆ

ชายหนุ่มอดที่จะเคลิบเคลิ้มไม่ได้ รู้สึกว่าตนเองโชคดีเหลือเกินที่ได้เดินควงแขนกับรมยากรจนหลงลืมไปว่า เขาไม่ได้เป็นอะไรกับหญิงสาว นอกจากฐานะผู้ว่าจ้างกับผู้รับจ้าง

“คุณสวยมากๆ เลยนะครับวันนี้”เจ้าภาพกระซิบข้างใบหูหล่อนใกล้เกินความจำเป็น อยากจะหอมแก้มเนียนนุ่มตรงหน้าหลายฟอดแต่ข่มใจไว้ไม่ทำอะไรผลีผลาม

...ไม่อยากให้รมยากรเผ่นหนีไปเสียก่อน

“ขอบคุณค่ะ” นางแบบสาวยิ้มสวยออกมานิดหนึ่ง

ปล่อยแขนฉันสักทีได้ไหม?

ในใจคิดแบบนั้น เริ่มอึดอัดที่ต้องปั้นหน้าแสร้งทำเป็นสดใสต่อหน้าผู้คนนับร้อย หญิงสาวอยากจะอยู่ห่างๆเขาแต่จนใจที่แขนเรียวโดนควงเอาไว้ จะชักออกเองก็ดูน่าเกลียดเกินไปไม่อยากให้บารมีเข้าใจผิดว่า หล่อนรังเกียจเขา

เจ้าของบริษัทแทบจะอดใจไม่ไหวเมื่อได้กลิ่นน้ำหอมราคาแพงที่โชยออกมาจากร่างสวยข้างกาย

กลิ่นแบบนี้ มันดึงดูดดีจริงๆ

“คุณรมใช้น้ำหอมยี่ห้ออะไรครับ?” เขาเปลี่ยนเรื่องคุยเพื่อจะได้รู้จักหล่อนมากยิ่งขึ้น

“XXXค่ะ”ตอบชื่อยี่ห้อน้ำหอมราคาแพงออกไป ซึ่งมีสโลแกนว่า ‘เพิ่มเสน่ห์ให้อิสตรี’ราคาไม่แพงเท่าไหร่ ขวดแค่เฉียดหมื่นบาทเท่านั้นมีส่วนผสมของฟีโรโมนทำให้ผู้ที่สูดดมลุ่มหลงแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว

“เหรอครับ ไว้ผมจะซื้อมาฝากนะครับ” บารมีจดจำชื่อแบรนด์นั้นไว้อย่างแม่นยำเพื่อจะใช้เป็นของฝากให้หล่อน ด้วยปักใจเชื่อว่า ผู้หญิงส่วนใหญ่ชอบของฟรียิ่งแพงยิ่งชอบ

“เอ่อ ไม่ต้องก็ได้นะคะ” รมยากรรีบปฏิเสธ ด้วยไม่อยากให้เขาคิดว่าหล่อนเห็นแก่ของขวัญ

บารมีเหลือบตามองไปยังตากล้องคนหนึ่งที่พยักหน้าให้ก่อนยิ้มเจ้าเล่ห์มุมปาก

ได้เวลาแล้วสินะ

“หอมมากครับ” เขาพูดเสียงแหบพร่าก่อนคลายวงแขนที่ควงไว้แล้วหมุนตัวมายืนเผชิญหน้าเอื้อมคว้ามือบางของหล่อนมาเกาะกุมแบบถือวิสาสะ

จะทำอะไร!

รมยากรสัมผัสได้ถึงความผิดปกติ แต่ไม่ทันจะชักมือออก

“ขออนุญาตครับ” บารมียกหลังมือนั้นขึ้นมาประทับจูบโดยอีกคนไม่ทันตั้งตัว

แชะ! แชะ!

แสงแฟลชจากตากล้องเก็บภาพประทับใจไว้ ด้วยกล้องฟูลเฟรมที่กดรัวไว้หลายรูปโดยไม่พลาด

“บ้าเอ๋ย!” ตะวันนาหลุดสบถออกมาอย่างฉุนเฉียววิ่งถลันเข้าไปกระชากไหล่เจ้าภาพอย่างแรง จนเขาเซถอยหลังไปหลายก้าว เธอยืนบังร่างของรมยากรเอาไว้จากบารมีองครักษ์สาวเอี้ยวคอไปถามหล่อนอย่างเป็นห่วง

“ไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะ?”

“ไม่ค่ะ” รมยากรที่เพิ่งหายตกใจตอบคิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะฉวยโอกาสแบบนี้

คนฟังพยักหน้าให้หล่อนก่อนหันกลับมาเผชิญหน้ากับเจ้าของบริษัทยาใบหน้าคมบึ้งตึง นัยน์ตาดุดันอยากจะอัดหน้าอีกฝ่ายเหลือเกิน

“คุณทำบ้าอะไร!”

ยายบ้านี่ สอดเข้ามาทำไม!

บารมีบันดาลโทสะที่โดนกระชากไหล่จนแทบล้มลงกับพื้นน้อยคนที่จะกล้าลงไม้ลงมือกับเขาแบบนี้ ตวัดสายตาเขียวปั้ดจ้องก้างชิ้นใหญ่อย่างไม่พอใจที่เข้ามาส.ใส่เกือกในจังหวะเข้าด้ายเข้าเข็ม ยกมือปัดเสื้อสูทบริเวณไหล่ที่โดนอีกคนสัมผัสอย่างรังเกียจ

“ไม่ต้อง” เจ้าภาพยกมือห้ามลูกน้องข้างตัวที่ขยับหมายเล่นงานคนที่ลบหลู่เจ้านายของตน บารมีเงยหน้าสบตากับองครักษ์สาว พร้อมส่งสายตาดูแคลนออกมาประหนึ่งอีกคนต่ำชั้นวรรณะกว่าไม่คู่ควรจะเสวนาด้วย พลางเอ่ยปากขับไล่ไสส่ง “ฉันจะทำอะไรไม่ใช่ธุระของเธอ ถอยออกไป!”

พวกจอมปลอมเอ๊ย!

เธอยิ้มหยันมุมปากที่อีกฝ่ายแสดงตัวตนออกมาเสียที

“ฉันเป็นบอดี้การ์ดคุณรม ทุกเรื่องเกี่ยวกับเธอ คือธุระของฉัน”ตอบสวนกลับทันควันอย่างไม่ยอมแพ้ ไม่แยแสกับท่าทางยโสโอหังของคนตรงหน้า

ยามนี้ตะวันนาคิดแต่เพียงว่าจะพารมยากรกับยุพาออกจากที่นี่ไปให้เร็วที่สุดได้อย่างไร ถ้าต้องลุยหนึ่งต่อสิบโดยห่วงหน้าพะวงหลังไม่ใช่เรื่องง่ายนักที่จะชนะ ประกอบกับการ์ดของฝ่ายตรงข้ามล่ำปึ้กตัวหนาทั้งนั้น

แต่หญิงสาวมั่นใจว่า คู่กรณีไม่กล้าสั่งลูกน้องลงไม้ลงมือต่อหน้าธารกำนัลแน่เขาเป็นพวกนักสร้างภาพที่รักษาหน้าตาอย่างที่สุด ขืนทำอะไรบ้าๆ ไร้สติ ได้ตกเป็นข่าวใหญ่บนสื่อแทนงานเปิดบริษัทซึ่งจะมีแต่เสียกับเสียเท่านั้น

…ซึ่งบารมีคงไม่โง่ขนาดนั้น

หมอนี่ไม่กล้าทำอะไรตอนนี้แน่

“แก!” บารมีเอ่ยเรียกอีกคนเสียงรอดไรฟันจ้องหน้าองครักษ์สาวด้วยความเดือดดาลที่บังอาจต่อปากต่อคำถลึงตาจนแทบจะหลุดออกมานอกเบ้า ลืมตัวเผลอแสดงธาตุแท้ออกมา

เป็นผู้ชายที่น่าขยะแขยงมาก

รมยากรอดที่จะคิดแบบนั้นไม่ได้เผลอดึงแขนเสื้อของตะวันนาที่ยืนบังอยู่ตรงหน้าเป็นที่พึ่งสุดท้าย

สาวเพรียวเอียงคอปรายตามองหล่อน แล้วผงกศีรษะให้เหมือนจะบอกว่า‘ไม่มีอะไร’

แม้ไม่ได้ยินคำพูดนั้น แต่ไม่รู้ทำไมนางแบบสาวกลับสบายใจขึ้นอย่างบอกไม่ถูก...อุ่นใจที่มีตะวันนาเคียงข้าง

แต่ก่อนที่สองคนจะปะทะกันไปมากกว่านี้ ยุพาที่เห็นท่าไม่ดีรีบแทรกเข้ามาสงบศึกเอาไว้เสียก่อนไม่อยากให้เรื่องบานปลายใหญ่โต ซึ่งอาจจะกระทบกับชื่อเสียงของนางแบบสาว และ VK Models

“เอ่อ ดิฉันขอโทษคุณบารมีแทนตะวันนาด้วยนะคะถ้าเธอแสดงอะไรไม่ถูกใจคุณ คือคุณพ่อของรมกำชับมาให้ดูแลรมอย่างดีชนิดยุงไม่ให้ไต่ ไรไม่ให้ตอมน่ะค่ะ เธอแค่ทำตามหน้าที่ค่ะ” ผู้จัดการสาวอธิบายเสียงนุ่มนวล

เจ้าภาพที่เริ่มใจเย็นขึ้น หันมองคนกลาง แล้วพูดเสียงขรึมๆ

“ครับ ผมเข้าใจ”

“ถ้ายังไงพวกเราขอตัวกลับก่อนนะคะ คือรมต้องไปอีกงานต่อน่ะค่ะ”ยุพารีบตีชิ่งทันทีที่สบโอกาส

“ครับ ขอบคุณที่มานะครับ” บารมีได้แต่ตอบตามมารยาทไม่รู้จะรั้งไว้ทำไมอีก เขาใจร้อนเกินไปจึงเผลอทำอะไรรุ่มร่ามออกมา พลาดท่าเสียคะแนนต่อหน้าอีกฝ่ายไปพอสมควร

หวังว่าคุณรมคงไม่คิดอะไรมาก

ชายหนุ่มแอบคิดแบบนั้น โดยไม่รู้เลยสักนิดว่า รมยากรแตกต่างจากผู้หญิงส่วนใหญ่ที่เขาเคยรู้จักหรือเคยมีสัมพันธ์ด้วย

“ลาก่อนค่ะคุณบารมี” หล่อนกล่าวสั้นๆ เสียงเรียบ ยิ้มน้อยๆมุมปาก ด้วยรอยยิ้มที่ยากจะอ่านว่ากำลังคิดอะไรอยู่?

ลาขาดเลยแล้วกันนะคะ

ถ้าต้องให้ร่วมงานกับคนแบบนี้ในครั้งต่อไปรมยากรก็คงเซย์โนเพียงอย่างเดียว

...หล่อนเลือกความพอใจมากก่อนผลประโยชน์

ทำไมถึงยิ้มแปลกๆ

เจ้าภาพร้อนตัว อดที่จะระแวงไม่ได้ว่าสาวเจ้าอาจจะรังเกียจเขาเสียแล้วจึงรีบพูดแก้เกี้ยวออกมา

“ไว้พบกันใหม่ครับคุณรม”

แต่ฉันไม่อยากพบคุณแล้วสิ

แต่คราวนี้ผิดจากทุกครั้ง นางแบบสาวไม่ตอบรับแม้แต่คำเดียวหล่อนปรายตามองเขาแวบหนึ่ง ก้าวออกไปจากงานอย่างสง่างาม โดยมียุพาและตะวันนาตามออกไปไม่ห่าง

บ้าชะมัด!

บารมีสบถอย่างเจ็บใจที่หลายเรื่องไม่เป็นอย่างที่วาดฝันไว้ทั้งที่ทุ่มทุนไปมากมายกับหล่อน เขากวักมือเรียกลูกน้องที่อยู่ใกล้ๆก่อนออกคำสั่งโหด เพื่อระบายความคั่งแค้น

“ส่งคนไปเล่นงานยายการ์ดคนนั้น ไม่ต้องถึงตาย เอาแค่เบาะๆ ก็พอ...จะได้รู้ซะบ้างว่าใครเป็นใคร”

“ครับนาย” ชาติคนสนิทร่างกำยำรับคำ ก้มหัวแล้วเดินหลบออก ไปทันที

เจ้าของบริษัทยายิ้มเยือกเย็นชวนสยองออกมา

ใครที่สอดเรื่องของฉันจะต้องเจ็บตัว ต่อไปจะได้ไม่กล้ากำแหงกับฉันอีกหุหุ

OoXoO

ขอบคุณที่กรุณาติดตามค่ะ

นาง

OoXoO




Create Date : 30 สิงหาคม 2560
Last Update : 30 สิงหาคม 2560 15:12:07 น. 0 comments
Counter : 1133 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
 

นิ้วนาง-เดียนา
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




งานเขียนทั้งหมดใน blog นี้ สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย พระราชบัญญัติ พ.ศ.2537 ห้ามนำไปพิมพ์ เผยแพร่ หรือลอกไปกระทำการใดๆ ก็ตาม หากผู้ใดกระทำการผิด เจ้าของ blog จะเอาผิดท่านตามกฏหมาย ได้ทุกกรณี


[Add นิ้วนาง-เดียนา's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com