ขอต้อนรับสู่โลกของนิยายยูริ เรื่องจากประสบการณ์ และทำนายดวงชะตา โดย นิ้วนาง-เดียนา-ลำดวนพยากรณ์
<<
กุมภาพันธ์ 2558
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
 
10 กุมภาพันธ์ 2558
 
 
ปรารถนารัก...อีกสักครั้ง? Believe...Again? (Yuri) ตอนที่ 6

เพลงใจนักเลง - อิมเมจ

https://www.youtube.com/watch?v=jsU-iR6a5Hg

-๖-

กริ๊ง! กริ๊ง! กริ๊ง!

เสียงโทรศัพท์ในห้องนอนของนงรามกรีดร้องตั้งแต่ก่อนเจ็ดโมงเช้า ขณะที่เจ้าของห้องยังคงนอนหลับสนิท ร่างเปล่าเปลือยใต้ผ้าห่ม โดยมีรสรินที่ไร้อาภรณ์นอนกอดก่ายซ้อนอยู่ทางด้านหลัง

และเป็นรสรินที่รู้สึกตัวก่อน จึงเอื้อมมือไปรับโทรศัพท์นั้น

“สวัสดีค่ะ”

เชฟใหญ่ขานรับด้วยเสียงอู้อี้ขึ้นจมูก หยุดฟังเสียงในสายโดยรับคำเป็นระยะ ไม่อยากพูดมากความให้เสียงดังรบกวนคนรักที่ยังคงสลบไสล

ไม่นานต่อมาถึงกล่าวขอบคุณเบาๆ แล้ววางสายไป รสรินหันมองคนบนเตียงที่เริ่มขยับตัว จึงล้มตัวลงไปนอนกอดซ้อนหลังตามเดิม ประทับจูบเบาๆ บนไหล่บางของอีกคนอย่างรักใคร่

“อรุณสวัสดิ์ค่ะ”

“ใครโทรมาคะ?”

นงรามพึมพำถามทั้งที่ยังไม่ลืมตา รู้สึกร้าวล้าเมื่อยไปหมดทั้งร่าง เมื่อคืนรสรินจัดหนักจัดเต็มเกิน...สงสัยจะหิวโหยมากจริงๆ เมื่อคืนเธอโดนเรียกร้องสัญญา ‘สามยก’ จนหมดแรงเหนื่อยอ่อน กว่าจะได้นอนก็ค่อนคืน ช่วงสองอาทิตย์ที่ผ่านมามัวแต่ยุ่งและเครียดเรื่องงาน จึง ‘อ่อนซ้อม’ ไปนิด

“สมภพค่ะ” เชฟใหญ่ตอบสั้นๆ และหวังว่าอีกคนจะไม่ถามต่อ...แต่คราวนี้เธอเดาผิด

“เรื่องอะไรคะ?”

'เอาไงดี?'

รสรินนึกลังเลว่าจะเล่าวีรกรรมของภาวินีเมื่อคืนดีหรือไม่ แต่เมื่อคนรักขยับตัวมานอนหงายและลืมตาจ้องเหมือนคาดคั้นกลายๆ จึงเล่าทุกคำที่รู้จากสมภพโดยไม่ใส่ไฟหรือเติมเครื่องปรุงใดๆ

ตลอดหลายปีที่ใช้ชีวิตคู่ด้วยกันมา นงรามจะไม่ค่อยบ่น หรือต่อว่าคนรัก เวลามีปัญหาจะหันหน้าคุยด้วยเหตุผลมากกว่าอารมณ์ ทั้งในเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว ทำให้รสรินชื่นชมเคารพในความเป็นผู้ใหญ่ และสุขุมรอบคอบของอีกคนเสมอ

จนลูกน้องหลายคนในรีสอร์ตแอบกระเซ้าว่า เธอเป็นหัวหน้าชมรม ‘คนกลัวเมีย’ แต่เชฟใหญ่ปฏิเสธเสียงแข็ง “ฉันไม่ได้กลัวพี่นงซะหน่อย...ฉันแค่เกรงใจมากต่างหาก”

“นึกไม่ถึงว่าหลานพี่ จะเหลวไหลแบบนี้”

นงรามบ่นกระปอดกระแปด ลุกขึ้นนั่งดึงผ้าห่มคลุมช่วงอกไม่ให้โป๊เปลือยจนเกินไป เธอยังคงทำตัวคล้ายตอนคบกับรสรินใหม่ๆ...ขี้อายเป็นปกติ

หากภาวินีไปก่อเรื่องข้างนอกรีสอร์ต คงไม่โชคดีมีคนช่วยแบบนี้แน่ แถมอาจได้สามีโดยไม่ได้ตั้งใจกลับมาด้วย แค่คิดก็ชวนปวดหัวสุดๆ

'ถ้าคุณดลรู้เข้า ฉันหูชาแน่...ยายภานะยายภา'

เจ้าของรีสอร์ตนึกถึงบิดาของหล่อนที่รักถนอมลูกสาวมากมาย ถ้ารู้เรื่องนี้เข้าเขาคงรีบมารับภาวินีกลับบ้านทันทีเลยก็ได้ และเธออาจโดนต่อว่าฐานดูแลหลานไม่ดีอีกต่างหาก

“เอาน่าที่รัก อย่างน้อยก็ยังไม่มีอะไรเสียหายเกิดขึ้น”

รสรินปลอบอย่างอ่อนโยน สวมกอดนัวเนียแผ่นหลังเปล่าเปลือยที่โชว์อยู่ตรงหน้า โดยเกยคางบนไหล่ของอีกคนไว้ แอบหอมแก้มเนียนนุ่มเบาๆ เชฟใหญ่ยังคงติดใจอยากต่ออีกสักยกสองยก แต่รู้ว่าคนรักคงปฏิเสธแน่ เพราะตอนนี้มีเรื่องภาวินีเข้ามากวนใจอยู่

'ขัดคอขัดใจชะมัด...มารคอหอยจริงๆ'

เธอบ่นในใจ เมื่อนึกถึง ‘ตัวปัญหา’ ที่คาดว่าตอนนี้คงเมาหลับไม่รู้เรื่อง และเชื่อว่าวันนี้คงปวดหัวหมดสภาพทั้งวัน...สมน้ำหน้า

“ถ้าเมื่อคืนไม่ได้น้องเมช่วย ไม่รู้ยายภาจะเป็นยังไงเลยนะคะเนี่ย” นงรามเอ่ยชมหลานของคนรักที่ยื่นมือเข้าช่วย ถ้าเป็นคนอื่นคงปล่อยให้ภาวินีถูกปู้ยี้ปู้ยำไปแล้ว

“เจ้าเมคงไม่นั่งดูดาย ปล่อยให้คนรู้จักถูกรังแกหรอกค่ะ” รสรินรู้จักนิสัยรักความเป็นธรรมของหลานสาวตัวเองดีว่า มีเยอะขนาดไหน ถ้าให้เป็นซุปเปอร์วูแมนได้...เมธาวีคงเลือกเป็นอย่างไม่ลังเลใจ

“นั่นสิเนอะ” นงรามนิ่งคิด ก่อนตัดสินใจทำอะไรบางอย่าง “ทิ้งไว้แบบนี้ไม่ดีแน่ เราน่าจะทำอะไรสักอย่าง”

คนอายุน้อยกว่าทำหน้าสงสัย ตามไม่ทันว่าอีกคนกำลังคิดจะทำอะไรอยู่

เจ้าของรีสอร์ตเอียงคอมองคนรักด้วยสายตาเป็นประกาย

“เราต้องหาวิธีทำให้ยายภากลับมาแฮปปี้ค่ะ”

“ยังไงคะ?” เชฟใหญ่เลิกคิ้วด้วยความสงสัย ตั้งใจฟังสิ่งที่นงรามพูดถึงแผนการ ก่อนคลี่ยิ้มและพยักหน้าเห็นด้วย เมื่อฟังจบรสรินก็ถามต่อว่า “แล้วจะเริ่มเมื่อไหร่ดีคะ?”

“พรุ่งนี้ ไม่ก็มะรืนค่ะ” นงรามตอบหลังใช้เวลาคิดเล็กน้อย “วันนี้คงจะแฮงค์ทั้งวัน ปล่อยให้นอนพักไปก่อน”

“นั่นสิ” รสรินเออออคล้อยตามคนรัก เรื่องเจ้าความคิดแผนเยอะต้องยกให้อีกคน...เธอไม่สามารถ

“รบกวนบอกน้องเมให้ทำอะไรให้ยายภาทานด้วยนะคะ ก่อนเที่ยงพี่จะเอาไปส่งที่ห้องเอง ยังไงวันนี้คงต้องคุยกันหน่อยแล้ว จะมาเหลวไหลเกเรแบบนี้ไม่ได้”

นงรามอดบ่นไม่ได้ แม้จะไม่พอใจพฤติกรรมแย่ๆ ของหลาน แต่ก็ยังอดเป็นห่วงไม่ได้อยู่ดี ภาวินีเป็นหลานคนโปรดที่เลี้ยงมากับมือ เธอไม่ยอมปล่อยให้เสียผู้เสียคนไปแน่

“ได้ค่ะ”

เชฟใหญ่อมยิ้มกับท่าทางดุๆ ของคนรัก ที่เดาได้ว่าอย่างมากก็คงไปบ่นจนภาวินีหูอื้อหูชา ไม่ทำอะไรรุนแรงกว่านั้นแน่ เพราะนงรามเป็นคนใจดีและมีความเป็นแม่ในตัวสูงมาก หลายครั้งที่เธอยังรู้สึกเลยว่าตนเองมีแม่เพิ่มมาอีกคน

รสรินไม่ถึงกับแน่ใจนักว่าแผนการที่ได้ยิน จะช่วยให้ ‘ยัยตัวร้าย’ คลายความเศร้าจากอาการอกหักได้แค่ไหน เธอรู้แต่ว่าการรักษาโรคอกหักที่ดีที่สุด และได้ผลชะงัดที่สุดคือ ‘การมีคนรักใหม่’ ซึ่งนงรามคงไม่เห็นด้วยกับวิธีรักษานี้แน่

'คงต้องปล่อยเลยตามเลย ไม่ได้เรื่องค่อยหาแผนใหม่'

เชฟใหญ่นิ่งคิด

ความช่างสังเกตทำให้เห็นคนรักนิ่วหน้าขมวดคิ้ว เหมือนมีอะไรในใจ นงรามจึงอดถามขึ้นอย่างเป็นห่วงไม่ได้

“รสมีอะไรหรือเปล่าคะ?”

รสรินเหลือบมองไปยังคนข้างตัว แล้วส่ายหน้าปฏิเสธ แกล้งส่งสายตาวิบวับเป็นประกายเจ้าเล่ห์

“รสแค่คิดถึงเรื่องเมื่อคืนค่ะ...ยังติดใจอยู่เลย” คนอายุน้อยกว่าจงใจเน้นประโยคหลัง ด้วยน้ำเสียงแฝงความหมายลึกซึ้ง

นงรามหน้าขึ้นสีเรื่อแทบจะทันที ภาพเมคเลิฟเมื่อคืนย้อนกลับมารีเพลย์ในหัว จึงส่งค้อนวงใหญ่เบ้อเริ่มให้คนพูด แล้วต่อว่าแบบอายๆ

“ทะลึ่งนะคะ”

รสรินเขยิบตัวไปสวมกอดร่างคนรักจากด้านหลังแบบหลวมๆ เคล้าเคลียแก้มแนบแก้มกับอีกฝ่ายเบาๆ ก่อนยื่นข้อเสนอใหม่ เผื่อจะสมหวัง

“คืนนี้ต่ออีกสักสองยก ดีไหมคะ?”

“น้อยๆ หน่อยค่ะ พี่รีบไปอาบน้ำแปรงฟันดีกว่า”

นงรามรีบตัดบท ก่อนจะเผลอตัวเผลอใจหลุดรับปาก แงะมือหนวดปลาหมึกออกจากเอว ลุกขึ้นคว้าชุดคลุมที่พาดราวเสื้อ แล้วเข้าห้องน้ำไปทันที ก่อนที่จะถูกคนรักจับกด ‘ยกที่สี่’

“ฮ่า ฮ่า” เชฟใหญ่หลุดขำออกมาเสียงดัง สนุกกับการได้กระเซ้าเย้าแหย่คนรัก...กิจวัตรประจำวันที่ขาดไม่ได้


ก่อนเที่ยงเล็กน้อย นงรามไขกุญแจสำรองเข้าไปยังเรือนสีรุ้งเพื่อดูสภาพของหลานรัก โดยมีพนักงานสาวคนหนึ่งถือถาดข้าวและเครื่องดื่มแก้แฮงค์ตามมาด้วย

เธอสั่งให้ลูกน้องวางถาดที่ห้องรับแขกแล้วกลับออกไป ส่วนตนเองบุกเข้าไปห้องนอนที่ภาวินียังคงหลับสนิทไม่รู้เรื่องบนเตียงใหญ่ ทรุดตัวลงนั่งบนเตียงข้างหลานสาวที่ยังคงหลับลึก ยกมือขึ้นปัดปอยผมนุ่มที่บดบังใบหน้าหวานของภาวินีอย่างแผ่วเบา รู้สึกสงสารอีกฝ่ายเต็มอก

'เฮ้อ โตแต่ตัวจริงๆ หลานฉัน'

สาเหตุที่อีกคนต้องอยู่ในสภาพนกปีกหักแบบนี้ ก็เพราะความรัก...รักพีระมากเกินไป แต่นั่นก็ไม่ควรใช้เป็นเหตุผลทำร้ายตัวเอง ด้วยการเมาจนหัวราน้ำแบบนี้

การได้เห็น ‘ธาตุแท้’ ของคนรัก ก่อนจะร่วมหอลงโลง อาจเป็นเรื่องดีบนวิกฤตของภาวินี นั่นคือ มุมมองของน้าสาว

นงรามเชื่อว่า หล่อนควรได้คู่ครองที่ดีพร้อม และเหมาะสมมากกว่าพีระ ใครสักคนที่รักจริงใจกับภาวินี และที่สำคัญภาวินีก็ต้องรักคนนั้นด้วย

...แม้ตอนนี้จะยังไม่รู้ว่าเป็นใครก็ตามเถอะ

เธอตัดสินใจปลุกคนขี้เซาที่อาจจะนอนกินบ้านกินเมืองไปถึงเย็น ด้วยการเขย่าตัวอยู่หลายหน

“ตื่นได้แล้วค่ะ จะเที่ยงแล้ว”

“โอย! ปวดหัวจัง” ภาวินีบ่นออกมาคำแรก หลังลืมตาคู่คมขึ้นมองคนปลุกด้วยสายตาพร่ามัว ยกมือเรียวกุมศีรษะหมายบรรเทาอาการปวดให้น้อยลง แต่ช่วยไม่ได้มากนัก

ปกติร่างบางดื่มบ้างเพื่อเข้าสังคม ไม่กระดกอะไรมากมาย ดีกรีกลางๆ แค่แก้วสองแก้วก็แย่แล้ว หล่อนไม่ได้เป็นสมาชิกกลุ่มคอทองแดงคอตะกั่ว

“ก็ใครใช้ให้ดื่มล่ะ” ผู้เป็นน้าประชดเพราะอดหมั่นไส้ไม่ได้ ยื่นมือไปนวดหว่างคิ้วเรียวโค้งของหลานสาว เพื่อลดอาการปวดหัวตามแบบฉบับหมอนวดที่เคยเรียนมาบ้าง

ภาวินีรู้สึกปวดหัวจนแทบระเบิด หลับตานอนนิ่งปล่อยให้นงรามนวดไปเรื่อยๆ และสัญญากับตัวเองในใจว่า...จะไม่ดื่มหนักแบบนี้อีกแล้ว

“ภาไม่ได้ตั้งใจ” หล่อนอ้อนเสียงอ่อนเสียงหวาน เพราะรู้ว่าตนเองผิดเต็มๆ

“ไม่ได้ตั้งใจเลยนะคะ แต่เมาจนหมดสภาพ เกือบถูกฝรั่งหิ้วเนี่ยนะ” นงรามต่อว่าด้วยน้ำเสียงประชดปนดุ

หล่อนลืมตาพร้อมทำหน้าเหลอหลา จำเรื่องเมื่อคืนไม่ได้เลยสักนิด รู้แต่ตัวเองดื่ม ดื่ม แล้วก็ดื่มเท่านั้น กระทั่งกลับมาห้องพักยังไงก็จำไม่ได้

'เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น? แล้วฝรั่งหิ้วหมายความว่าอะไร?'

ตั้งคำถามในใจ พร้อมขมวดคิ้วจนแทบจะเป็นโบว์

“จำไม่ได้?” นงรามถาม หลังเห็นอีกคนมีเครื่องหมายคำถามตัวโตเต็มหน้า

“จำไม่ได้ค่ะ” คนปวดหัวส่ายหน้าน้อยๆ

คนฟังถอนหายใจยาวเหยียดออกมา แล้วพึมพำอย่างไม่พอใจนัก

“ให้มันได้อย่างนี้สิ...ถ้าเมื่อคืนไม่ได้น้องเม ล่ะแย่แน่เลย”

'น้องเมเกี่ยวอะไรด้วย?'

สาวสวยนึก พร้อมทำหน้าสับสน จับต้นชนปลายไม่ถูก

น้าสาวจึงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนออกมา และขอให้หล่อนสัญญาว่าจะไม่ดื่มหนักแบบนี้อีก ซึ่งภาวินีก็รับปาก นงรามนั่งอยู่เป็นเพื่อนคุยจนกระทั่งหล่อนทานอาหารเสร็จ จึงเริ่มคุยเข้าเรื่องที่คิดเอาไว้

“ช่วงนี้ ลูกอยากจะไปเที่ยวที่ไหนบ้าง? มีแผนหรือไว้เปล่าคะ?”

น้าสาวถาม จะได้เตรียมโปรแกรมให้ถูกใจหลานสาว บริษัททัวร์แถวนี้มีให้เลือกหลายแห่งแค่ยกหูโทรศัพท์คุยไม่กี่คำก็จบ ส่วนตัวเธอคงไปด้วยไม่ได้ มีประชุมกับผู้ประกอบการโรงแรมและรีสอร์ตช่วงนี้พอดี

หญิงสาวหยุดคิด ปราณบุรีมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจหลายแห่ง แต่ที่ดังๆ ขึ้นชื่อมากไม่ได้อยู่บนฝั่ง หากแต่อยู่กลางทะเล

“ภาอยากไปเที่ยวเกาะค่ะ คราวก่อนมาก็ไม่ได้ไป”

“แต่ภาว่ายน้ำไม่แข็งนี่คะ” นงรามท้วงขึ้นด้วยความเป็นห่วง เกรงหญิงสาวจะตกน้ำตกท่าไปตามประสาผู้ใหญ่ ทั้งที่อีกคนก็ไม่ได้เด็กเลย

“แล้วน้องเมว่ายน้ำเป็นหรือเปล่าคะน้านง?” หล่อนถาม

“ค่ะ น้องเมว่ายเก่ง” เธอรู้อยู่แล้วว่าเชฟสาวว่ายน้ำเก่งมาก แถมรู้จักสถานที่ท่องเที่ยวแถวนี้พอสมควร แต่ก็อดสงสัยอะไรบางอย่างไม่ได้จึงถามกลับ “ภาอยากให้น้องเมไปเที่ยวด้วยเหรอคะ?”

“ได้ไหมคะ?” หญิงสาวพูดอ้อนเสียงหวาน ก่อนสำทับด้วยเหตุผลที่น่าจะทำให้อีกคนยอมรับปาก “น้านงจะได้ไม่ต้องเป็นห่วงภาไง”

ภาวินีบอกไม่ถูกว่า ทำไมถึงอยากให้สาวร่างสูงไปเป็นเพื่อน อาจเพราะเป็นผู้ที่น้าสาวไว้วางใจ ประกอบกับอีกฝ่ายเป็น ‘อัศวินขี่ม้าขาว’ ที่ช่วยให้หล่อนรอดจากเงื้อมมือของฝรั่งขี้นกเมื่อคืน

...คิดดูแล้ว เมธาวีน่าจะเป็นคนดีพอสมควร

คนฟังทำหน้าแปลกใจ ไม่คิดว่าภาวินีจะเจาะจงเลือกเพื่อนร่วมทางเป็นหลานสาวรสริน เธอรู้ดีว่าปกติหล่อนชอบไปไหนมาไหนคนเดียว เป็นพวกสาวมั่นเป็นตัวของตัวเอง มีโลกส่วนตัวสูง ตามสไตล์คนรุ่นใหม่

อันที่จริง เธอก็ไม่อยากปล่อยให้ภาวินีไปเที่ยวตามลำพังเท่าไหร่ ถ้ามีเชฟสาวไปด้วยจะรู้สึกเบาใจหายห่วงขึ้นเยอะ...สองหัวยังไงก็ดีกว่าหัวเดียวแน่

นงรามกลอกตาคิด และเชื่อว่ามีวิธีจัดให้ตามที่หลานสาวต้องการ

“ไว้น้าจะลองชวนน้องเมให้ก็แล้วกัน”

OoXoO



Create Date : 10 กุมภาพันธ์ 2558
Last Update : 10 กุมภาพันธ์ 2558 17:44:19 น. 0 comments
Counter : 814 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
 

นิ้วนาง-เดียนา
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




งานเขียนทั้งหมดใน blog นี้ สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย พระราชบัญญัติ พ.ศ.2537 ห้ามนำไปพิมพ์ เผยแพร่ หรือลอกไปกระทำการใดๆ ก็ตาม หากผู้ใดกระทำการผิด เจ้าของ blog จะเอาผิดท่านตามกฏหมาย ได้ทุกกรณี


[Add นิ้วนาง-เดียนา's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com