ขอต้อนรับสู่โลกของนิยายยูริ เรื่องจากประสบการณ์ และทำนายดวงชะตา โดย นิ้วนาง-เดียนา-ลำดวนพยากรณ์
 
กรกฏาคม 2564
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
23 กรกฏาคม 2564
 
 

Women in White เพื่อเธอ เพื่อฉัน...เพื่อเรา - บทที่ ๑ (YURI)

 

 
สามปีต่อมา
ญาณินในชุดเสื้อผ้ากระโปรงเรียบร้อย สวมแว่นสายตากรอบใส มัดผมสีเข้มที่ยาวเกือบกลางหลัง ก้าวเข้าไปในโรงพยาบาลเอกชนตั้งแต่เช้าตรู่ด้วยท่าทีสบายๆ เอ่ยทักทายกับทุกคนที่เดินผ่าน เธอไม่ค่อยชอบสายตาที่เพ่งมองมาเหมือนจับผิดนัก แต่ก็ไม่คิดใส่ใจ  
“สวัสดีค่ะ” สาวแว่นยิ้มกว้างให้คนตรงหน้าอย่างเป็นมิตร  
“สวัสดีค่ะคุณหมอ” นางพยาบาลวัยกลางคนทักทายอย่างคุ้นเคย หลังเห็นอีกฝ่ายมาหลายเดือน   
“หมอนินคนนี้ใช่ไหม?” เสียงซุบซิบของเหล่านกกาเริ่มดังขึ้น ทั้งที่เธอเพิ่งคล้อยหลังไปไม่กี่ก้าว  
“อือ คนนี้แหละ”
“น่ารักเนอะ”
“ไม่เถียงเรื่องน่ารัก แต่ย้ายมาทำงานที่นี่ได้ แค่นี้ไม่พอต้องเส้นใหญ่มากด้วย” อีกคนเอ่ยตามที่รู้ หลังโรงพยาบาลเอกชนแห่งนี้มีชื่อเสียงอันดับต้นๆ ให้เงินเดือนสูง เลือกรับแต่แพทย์เก่งๆ ที่มีประสบการณ์สูง  
การรับแพทย์ทั่วไปซึ่งมีประสบการณ์ไม่มากเข้าทำงาน จึงชวนสงสัยคลางแคลงมาก มองอย่างไรก็เด็กเส้นชัดๆ  
หรือจะถูกใจลูกชายผู้อำนวยการ?       
หลายคนนึกเดาไปแบบนั้น หลังลูกชายผู้อำนวยการที่นี่หน้าตาหล่อเหลา แถมยังไม่มีภรรยาเป็นตัวเป็นตน  
...สเปคสามีแห่งชาติเลยทีเดียว  
“ไม่แน่หรอกแก เท่าที่รู้คะแนนหมอนินสูงมากนะแก แถมตอนใช้ทุนก็ได้รับคำชมมาเพียบ”
“จริงอะ?”
“รอดูต่อไปก่อนเถอะ”
 
ที่ไหนก็เหมือนกันหมด
ญาณินถอนใจเบาๆ สะบัดทิ้งความน่ารำคาญ แล้วก้าวเท้าต่อไปยังบอร์ดคณะแพทย์ซึ่งติดอยู่ระหว่างทางผ่านไปห้องพัก กวาดตามองไปยังรูปหนึ่งที่มีคำอธิบายด้านล่างว่า...‘ลาเรียนต่อ’ ไม่ต่างจากทุกวัน
อรุณสวัสดิ์นะคุณ
กล่าวทักทายในใจ ก่อนเดินต่อไปยังห้องพักตัวเอง แต่ไม่ทันถึงต้องชะงักฝีเท้า 
“อรุณสวัสดิ์หมอนิน”      
“สวัสดีค่ะอาจารย์” เธอยกมือไหว้หลังหันไปเห็นคนเรียก ยงยุทธอาจารย์หมอสูงวัยและเป็นหัวหน้าแผนกของตน    
“มาแต่เช้าเลยนะ” เขาชอบมาก่อนเวลาเป็นชั่วโมง ไม่คิดเลยว่าหมอใหม่จะขยันกว่าตนเสียอีก มาก่อนเกือบทุกวันตั้งแต่ย้ายมาทำงานที่นี่   
“นินไม่อยากรถติดน่ะค่ะ”
“นั่นสิน่ะ” แพทย์สูงวัยเห็นด้วย หลังการจราจรในเมืองหลวงเป็นอะไรที่น่าเบื่อสุดๆ ถึงบ่นไปก็เท่านั้น เป็นปัญหาโลกแตกที่ยากจะแก้ไข “ถ้าเหนื่อยก็พักบ้างนะ อย่าหักโหมเกินไป”   
เขาเตือนอย่างเป็นห่วง หลังเห็นแพทย์หลายคนแอบไปแลกเวรกับหมอสาวคนนี้ จนตารางงานแน่นเอี๊ยด ทำงานวันละ 16 ชั่วโมงไม่ใช่เรื่องสนุก แต่อีกฝ่ายทำวันเว้นวันมาเป็นอาทิตย์แล้ว         
ขี้เกรงใจเกินก็เหนื่อย
ชายสูงวัยไม่อยากให้ลูกน้องต้องเสียสุขภาพ ก่อนจะดูแลรักษาคนไข้ ควรดูแลตัวเองให้ดีก่อน  
“ค่ะอาจารย์”
“ไปดื่มกาแฟกัน” เขาชวนอย่างเป็นกันเอง
แม้จะรู้ว่ากาแฟไม่ใช่ของดี แต่มันช่วยให้ร่างกายกระฉับกระเฉง ตาสว่าง เป็นเครื่องดื่มที่แทบขาดไม่ได้ก่อนทำงาน ไม่ต่างจากยาชูกำลัง
...วันไหนขาดกาแฟ คงแทบขาดใจ      
“ค่ะ” ญาณินยิ้มแล้วตามไปอย่างว่าง่าย
หลังจากชงเสร็จก็เดินกลับมานั่งที่ห้องพัก ดื่มไปมองกรอบรูปที่ตั้งอยู่บนโต๊ะไป
...รูปคู่ของเธอกับมารดาหลายปีก่อน  
 
สิบปีก่อน
มารดาของญาณินทำงานเป็นแม่บ้านที่โรงพยาบาลแห่งนี้ ตอนนั้นเธอยังเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เด็กสาวมีมารดาเป็นโลกทั้งใบของตน ลืมตาก็รู้จักแต่แม่ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพ่อของตนเป็นใคร หลังเขาทิ้งไปตั้งแต่เด็กสาวยังแบเบาะ
ทุกวันหลังเลิกเรียน เธอจะแวะมาหาแม่ที่ที่ทำงาน เพื่อกลับบ้านพร้อมกัน ฐานะของเราถือว่าแค่พอกินพอใช้ ต้องเช่าบ้านอยู่ ด้วยราคาบ้านในเมืองหลวงแพงเกินเอื้อมสำหรับมนุษย์เงินเดือนตัวน้อย แม่เลือกจะส่งเสียให้เธอได้เรียนโรงเรียนที่ดี โดยบอกว่า
“ตั้งใจเรียนนะนิน โตขึ้นจะได้ไม่ลำบากเหมือนแม่” คำสอนของแม่ทำให้ญาณินตั้งใจเรียน ไม่อยากทำให้แม่ผิดหวังในตัวเธอ         
เย็นวันหนึ่งได้เกิดเหตุไม่คาดฝัน หลังรถยนต์คันหนึ่งฝ่าไฟแดงมา ขณะที่สองแม่ลูกกำลังข้ามถนนหน้าโรงพยาบาล แม่ผลักเธอให้พ้นจากอันตราย แต่ตัวเองต้องโดนชนแทน ผู้เห็นเหตุการณ์แจ้งโรงพยาบาล แม่จึงถูกนำตัวมารักษา
เด็กสาวนั่งเฝ้าอยู่ที่หน้าห้องฉุกเฉินหลายชั่วโมง จนเกือบจะสามทุ่ม ใจคอไม่ค่อยจะดีนัก น้ำตาก็ร่ำๆ จะร่วงออกมาอยู่เรื่อย จนต้องยกหลังมือปาดทิ้ง ไม่คิดจะแสดงความอ่อนแอออกมา ทั้งที่ในใจหวาดกลัวไม่น้อย
‘แม่จ๋า...’
“ทานอะไรหน่อยสิ” เสียงหวานใสเอ่ยขึ้น ยื่นถุงที่มีกล่องข้าวผัดร้อนๆ กับน้ำเปล่าหนึ่งขวดที่ซื้อมาจากร้านสะดวกซื้อตรงหน้าเธอ ขณะที่พูดมืออีกข้างยังคงล้วงกระเป๋าเสื้อคลุมอยู่  
‘หืม?’ 
ญาณินเงยหน้าขึ้นมองผู้หญิงคนนั้น ซึ่งแต่งชุดเหมือนหมอมีเสื้อกาวน์สีขาวคลุมอย่างงุนงง จำไม่ได้ว่าตนรู้จักอีกฝ่าย
...ถ้าเคยเจอก็น่าจะจำได้
ผู้หญิงตรงหน้าสวยสะดุดตามาก ใบหน้าสวยหวานรูปไข่ ผมยาวเกือบถึงกลางหลัง นัยน์ตาดูมีเสน่ห์ดึงดูดใจอย่างบอกไม่ถูก อายุอานามน่าจะมากกว่าตนหลายปี      
‘สวยมาก...ใคร?’
“คะ?”  
ดลลชาถอนใจเบาๆ ทรุดตัวลงนั่งเก้าอี้ว่างข้างอีกฝ่าย ก่อนวางถุงนั้นบนตักของเด็กมัธยมปลายอย่างถือวิสาสะ 
“ทานอะไรหน่อย ฉันไม่อยากเห็นเธอเป็นลม กว่าจะผ่าตัดเสร็จคงอีกหลายชั่วโมง”     
“ขะ ขอบคุณค่ะ” เด็กสาวพึมพำ มองอาหารแต่ในยามนั้นเหมือนจะกินอะไรไม่ลง “นินยังไม่หิวค่ะ”
“ไม่หิวก็ต้องทาน ทานสักหน่อยก็ยังดี ถ้าเธอเป็นลมฉันไม่ช่วยหรอกนะ” หล่อนพูดเสียงเข้ม
‘แค่นี้ก็ต้องดุด้วย’ 
ญาณินไม่คิดจะดื้อกับสาวแปลกหน้าอีก หลังกลิ่นหอมๆ ลอยมาเตะจมูกกระตุ้นต่อมความอยากอาหาร จึงเปิดกล่องออกแล้วตักทาน ตาชำเลืองมองไปทางประตูห้องที่มีไฟแดงติดเป็นระยะ
‘หวังว่าแม่จะไม่เป็นอะไรมาก’
ได้แต่คิดปลอบใจตัวเอง หลังทานไปไม่กี่คำ ภาพแม่นอนจมกองเลือดยังคงติดตาตรึงใจก็ผุดขึ้นในหัว จึงวางช้อนลง อิ่มกะทันหัน  
“หมอที่นี่เก่งมากนะ แม่เธอต้องปลอดภัย เชื่อฉันสิ” เสียงหวานของสาวสวยข้างๆ พูดขึ้นเหมือนรู้ความคิดอีกคน   
เด็กสาวหันไปมองหล่อน
“คุณเป็นหมอ?”
“ยังหรอก ฉันเป็นนักศึกษาแพทย์น่ะ” ดลลชาตอบ ก่อนถามกลับ “เธอชื่ออะไร?”
“นินค่ะ ญาณิน”
“ฉันพลอย ยินดีที่ได้รู้จักนะ”
เธอทำหน้าแปลกใจ ไม่เคยได้ยินใครพูดแบบนี้กับตน ส่วนใหญ่จะโดนมองข้ามหัวบ่อยๆ เพราะฐานะทางสังคมที่ต่ำเตี้ย    
“ค่ะ”
ทั้งสองคุยไปเรื่อยๆ หล่อนสอบถามเด็กสาวหลายเรื่อง และนั่งอยู่เป็นเพื่อนจนกระทั่งการผ่าตัดเสร็จสิ้น
แม่เธอปลอดภัย แต่สุขภาพไม่แข็งแรง ต้องใช้เวลาพักฟื้นหลายเดือน
...อย่างน้อยก็ทำให้ญาณินโล่งอก  
เด็กสาวแวะมาหามารดาเช้าเย็น หลังคนไข้ต้องนอนพักดูอาการหลายวัน พออาการดีขึ้นหมออนุญาตให้กลับบ้านได้ นางพยาบาลจึงยื่นเอกสารให้ไปยังชั้นล่างเพื่อชำระเงิน ค่ารักษาที่นี่ไม่ถูกเลย เพราะเป็นโรงพยาบาลเอกชน ถึงจะลดพิเศษสำหรับพนักงานแล้วก็ตาม   
‘ฉันจะไปหาเงินที่ไหน มาจ่ายค่าหมอล่ะเนี่ย?’
ญาณินหน้าซีดแทบเป็นกระดาษ หลังเห็นบิลค่ารักษาพยาบาลของแม่จากเจ้าหน้าที่การเงิน ทั้งเนื้อทั้งตัวเธอรวมในบัญชีธนาคารมีไม่ถึงห้าพันบาทด้วยซ้ำ
‘ทำไงดี?’  
“คุณกัญญาเป็นคนไข้ของท่านรองผอ. ไม่ต้องเก็บเงิน” เจ้าหน้าที่การเงินอีกคนที่เป็นหัวหน้าเดินเข้ามาบอกรุ่นน้อง    
“อ้าวเหรอคะ”
“น้องเอาบิลนี้ ไปยื่นกับพยาบาลก็พอ” หัวหน้าฝ่ายการเงินบอกกับญาณิน พร้อมส่งเอกสารที่ประทับตราชำระแล้วให้    
“ไม่เสียเงินเหรอคะ?” เธอถามย้ำ     
“อือ เรียบร้อยแล้ว ไปเถอะ”
ญาณินยกมือไหว้อีกฝ่าย ในใจลิงโลดยิ่งกว่าได้ของขวัญวันเกิดเสียอีก
“ขอบคุณค่ะ”
“ไม่ต้องขอบคุณพี่หรอก เธอควรไปขอบคุณคุณพลอยมากกว่า” ผู้หญิงคนนั้นบอก
เด็กสาวทำหน้างง แล้วเดินพึมพำกับตัวเอง  
“คุณพลอยเกี่ยวอะไรด้วย?” 
ญาณินเห็นนักศึกษาแพทย์คนนั้นหลายครั้งตอนมาเยี่ยมแม่ แต่ไม่รู้ว่าหล่อนเกี่ยวข้องอะไร? หรือเป็นใครด้วยซ้ำ?
...รู้แค่ว่าอีกฝ่ายเป็นนักศึกษาแพทย์
พอกลับบ้าน แม่สั่งให้เด็กสาวเก็บข้าวของ สองแม่ลูกย้ายไปอยู่ที่เรือนเล็กในอาณาเขตของคฤหาสน์หลังใหญ่ เด็กสาวถึงได้รู้ว่า
...หล่อนเป็นลูกสาวของท่านรองผอ. โรงพยาบาลแห่งนั้น
หลังพักฟื้นจนหายดี แม่ได้เป็นหัวหน้าแม่บ้านของบ้านหลังใหญ่ ได้เงินเดือนมากขึ้น อาหารการกินดีขึ้น แถมค่าเช่าบ้านก็ไม่ต้องจ่าย สาวใช้คนอื่นต้องเกรงใจตนกับแม่
...สำหรับเธอเป็นอะไรที่ดีเกินความฝันเสียอีก   
ดลลดาพูดโน้มน้าวให้เด็กสาวเรียนหมอ เพื่อจะได้มาช่วยคนไข้ พร้อมช่วยติวหนังสือให้เธอบ่อยๆ เด็กแว่นเริ่มสนใจอาชีพแพทย์ จึงตั้งใจเรียนอย่างหนัก และสอบเข้าคณะแพทยศาสตร์ได้ในที่สุด
จนได้เป็นแพทย์หญิงญาณินในวันนี้   
‘สิบปีแล้วสินะ’
 
“นิน...นิน” เสียงเรียกของหมอปัณรสเรียกชื่อเจ้าของห้อง ที่นั่งใจลอยไปไหนก็ไม่รู้ จึงเคาะโต๊ะเสียงดังจนอีกฝ่ายสะดุ้ง
“อ้าว รส มาเมื่อไหร่?”
“มาเป็นนาทีแล้ว เรียกตั้งหลายครั้งแล้วไม่ตอบ ไม่สบายรึเปล่า” เพื่อนสนิทนั่งเก้าอี้ตรงข้ามโดยไม่ต้องเชิญ
ปัณรสเป็นเพื่อนที่เรียนมาด้วยกัน แต่ห่างกันไปตอนใช้ทุน 2 ปี ได้ทำงานที่นี่ เพราะมีพ่อเป็นอาจารย์หมอชื่อดัง  
...นี่ต่างหากเด็กเส้นตัวจริง  
“โทษที นั่งคิดอะไรเพลินๆ น่ะ” เธอขยับแว่นสายตาด้วยความเคยชิน “มีอะไรรึเปล่า?”
“คืนนี้ว่างไหม ว่าจะชวนไปดื่มหน่อย”
“คืนนี้เหรอ...ไม่ได้อ่ะ อยู่เวร” หมอญาณินพูดตอบ หลังดูปฎิทินตั้งโต๊ะที่มีตารางเวรเขียนอยู่ 
“หา!” เพื่อนสนิททำหน้าตื่น ก่อนโวยวายใส่ “นี่แกจะใช้ร่างกายหนักไปรึเปล่า อยู่เวรยาวเป็นอาทิตย์แล้วนะ”
“แค่ช่วงนี้แหละ” ร่างสูงไม่รู้จะปฎิเสธอย่างไร หลังหมอคนอื่นมาอ้อนวอนพร้อมเหตุผลที่น่าฟัง     
“ใจดีเกินไปรึเปล่า?”
“ก็ฉันมันคุณหมอญาณินผู้แสนดีไง” เธอพูดยิ้ม พลางยักคิ้วแบบกวนๆ ให้อีกคน 
ปัณรสเบะปากอย่างหมั่นไส้ ก่อนประชดกลับ 
“เชอะ แสนดีตายหรอก”
คนถูกประชดหัวเราะเบาๆ อย่างอารมณ์ดี
“ที่แกไม่กลับบ้านกลับซ่อง เอ๊ย กลับช่อง...เป็นเพราะน้องอุ้มรึเปล่า?” ประโยคหลังเพื่อนรักถามเสียงเบา ไม่ต่างจากกระซิบ
หมอแว่นยกนิ้วชี้แตะปาก เหมือนไม่ให้เพื่อนพูดอะไรมาก แล้วส่ายหน้าน้อยๆ 
‘หน้าต่างมีหู ประตูมีช่อง’ โดยเฉพาะในที่ทำงาน จะพูดจาอะไรต้องระวังให้มาก ด้วยน้องอุ้มคนนั้นเป็นลูกเลี้ยงของท่านผอ. หากมีใครเอาไปพูดต่อ ความซวยจะบังเกิดได้ง่ายๆ
...ข่าวลือมักมีแต่ผลเสียมากกว่าผลดี  
“โทษทีลืมไป” เพื่อนเธอพึมพำ  
แต่ปัณรสไม่คิดจะวางมือ จนกว่าจะรู้คำตอบที่ชัดเจน หลังน้องอุ้มมาวอแวกับสาวแว่นมากจนผิดสังเกต 
...พี่หมอนินคะ พี่หมอนินขา ฟังแล้วชวนขนลุกไม่น้อย
สรุปคือนินชอบผู้หญิงหรือเปล่า?
นั่นต่างหากคือสิ่งที่ปัณรสอยากรู้
ญาณินยกกาแฟร้อนขึ้นจิบรวดเดียวหมด หลังเหลือเวลาอีกไม่ถึงสิบนาทีต้องไปตรวจคนไข้
“เกือบได้เวลาแล้ว รีบไปเถอะ”
“เออ พักผ่อนมากๆ หน่อยนะ ขอบตาจะเป็นแพนด้าอยู่แล้ว” อีกฝ่ายเตือนทิ้งท้าย
“รู้แล้ว ไว้ค่อยคุยกัน”
“อือ”
 
“พี่หมอนินคะ” เสียงใสหวานของสุพรรณี ลูกเลี้ยงของผอ. เรียกหมอสาวแว่นที่กำลังจะก้าวไปยังห้องตรวจ โดยไม่แยแสสายตาหลายสิบคู่ที่มองมา
ผู้หญิงคนนั้นถลาเข้าไปคล้องแขนอีกฝ่ายอย่างถือวิสาสะ แสดงความสนิทสนมประหนึ่งว่ารู้จักกันมานาน
จะจับแขนทำไมกันเนี่ย!  
ญาณินเกร็งแขนที่โดนเกาะ ไม่ชอบที่อีกฝ่ายถึงเนื้อถึงตัว เป็นอะไรที่ชวนอึดอัดอย่างที่สุด ยังไม่รวมสายตาของคนไข้กับบุคลากรของโรงพยาบาลที่มองมาอย่างจับผิด ประหนึ่งว่าทั้งคู่มีความสัมพันธ์พิเศษต่อกัน   
“เอ่อ น้องอุ้ม...มีอะไรรึเปล่าคะ?”
“อุ้มคิดถึงค่ะ”
ฉันไม่ได้คิดถึงคุณเลยนะคะ
เธอฝืนยิ้ม
“ขอบคุณค่ะ” หมอสาวแว่นไม่อยากเสียเวลางาน “ขอตัวก่อนนะคะ พี่ต้องไปห้องตรวจค่ะ”
“อุ้มไปส่งค่ะ”
แค่นี้ฉันคงไม่หลงทางหรอกนะคะ  
“ไม่เป็นไรค่ะ น้องอุ้มไปทำงานเถอะ” สาวร่างสูงแกะมือของอีกคนออกอย่างนุ่มนวลที่สุด
“แต่-”
“ไปนะคะ”
ญาณินรีบก้าวเท้ายาวๆ ไปจากตรงนั้นทันที โดยไม่คิดจะสนใจอีกฝ่ายที่ยืนทำหน้ามุ่ย เธอยิ้มให้กับทุกคนที่เดินผ่าน ไม่อยากไปถึงห้องตรวจสาย เพราะที่นั่นมีคนไข้หลายคนรออยู่
สาวแว่นไม่รู้ด้วยซ้ำว่า ใครบางคนยืนมองอยู่อย่างไม่สบอารมณ์นัก
ไม่เจอกันหลายปี เสน่ห์แรงเกินไปนะเด็กน้อย      
OoXoO
ดลลชากลับมาแล้วค่ะ เห็นชัดๆ แบบนี้ ญาณินจะโดนอะไรไหม?

เรื่องนี้ลองเปลี่ยนวิธีเขียนนิดหน่อย ช้าไปเร็วไปก็บอกไรท์นะคะ อัพช้าเพราะมีการปรับพล็อตเล็กน้อยค่ะ

ตอนแรกว่าจะแค่มาม่าน้ำใส ไปๆ มาๆ ก็ขุ่นข้นไปบ้าง อารมณ์มันพาไป อย่างเคืองกันนะคะ

นาง ^^
OoXoO




 

Create Date : 23 กรกฎาคม 2564
0 comments
Last Update : 23 กรกฎาคม 2564 15:20:48 น.
Counter : 682 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

 

นิ้วนาง-เดียนา
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




งานเขียนทั้งหมดใน blog นี้ สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย พระราชบัญญัติ พ.ศ.2537 ห้ามนำไปพิมพ์ เผยแพร่ หรือลอกไปกระทำการใดๆ ก็ตาม หากผู้ใดกระทำการผิด เจ้าของ blog จะเอาผิดท่านตามกฏหมาย ได้ทุกกรณี


[Add นิ้วนาง-เดียนา's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com