ขอต้อนรับสู่โลกของนิยายยูริ เรื่องจากประสบการณ์ และทำนายดวงชะตา โดย นิ้วนาง-เดียนา-ลำดวนพยากรณ์
<<
สิงหาคม 2562
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
30 สิงหาคม 2562
 
 

Closer บทที่ 10 (Yuri)

๑๐

 

รถบัสจอดยังร้านขายของฝากแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นที่นิยมสำหรับผู้ที่ผ่านไปแถบนั้น และมีร้านอาหารขนาดใหญ่ตั้งอยู่ใกล้กัน

“เราจะแวะทานข้าวกันประมาณหนึ่งชั่วโมง ใครอยากซื้อขนมนมเนยไปตุนก็ซื้อได้เลย” นพคุณตะเบ็งเสียงบอกลูกศิษย์ ก่อนลงจากรถ

“ครับผม” / “ครับอาจารย์”

อาจารย์หนุ่มหันไปชวนสองพี่น้อง ด้วยสุ้มเสียงที่อ่อนหวาน

“เดี๋ยวอาจารย์พรกับคุณธัญ นั่งทานด้วยกันนะครับ”

“ค่ะ” สาวสวยตอบรับคำเชิญ แล้วเดินลงจากรถ

หล่อนเข้าคิวสั่งอาหาร โดยยืนอยู่หลังน้องสาว เป็นข้าวราดแกงเขียวหวานกับหอยจ๊อปูสองชิ้น และน้ำเปล่าหนึ่งขวด จากนั้นเดินไปนั่งยังโต๊ะที่นพคุณนั่งรออยู่ก่อน

“น่าอร่อยจังเลยนะครับ” อาจารย์หนุ่มเอ่ยชมขึ้น เริ่มแจกขนมจีบหลังสบโอกาสได้อยู่ใกล้กับผู้หญิงที่ตนสนใจ

ธัญชนกยิ้มแทนคำตอบ หิวจนตาลาย ไม่มีอารมณ์จะต่อปากต่อคำด้วย

“ทานค่ะ” พรชนกรีบชวน ก่อนที่เขาจะทำให้พี่สาวหงุดหงิด

ทั้งสามจึงลงมือรับประทานแบบเงียบๆ

ชวารีนั่งอีกโต๊ะที่อยู่ถัดไป โดยมีคมกริชนั่งตรงข้าม เธอปรายตามองสาวงามแวบหนึ่ง รีบตักอาหารเข้าปากเคี้ยวตุ้ยๆ สองหูเงี่ยฟังกลุ่มเพื่อนหนุ่มสนทนาอย่างสนุกสนานเฮฮา

...ทว่าไม่มีเรื่องใดน่าสนใจไปกว่าเรื่องของ ‘หล่อน’

“ฉันว่าจะหาเรื่องไปถามความเห็นของคุณธัญ แกว่าฉันควรถามเรื่องไรดีวะ?” เพื่อนคนแรกเปิดประเด็น เขาเป็นพวกมือใหม่ในเรื่องการจีบสาว สถิติที่ผ่านมา...ไม่เคยจีบสาวติดเลยซักคนเดียว

“แกจะไปถาม หรือแค่หาเรื่องจีบ?” คนที่สองถามตรงเผง

“ก็เหมือนๆ กันนั่นแหละ” หมอนั่นทำหน้าหงุดหงิดที่โดนดักคอ

“ถ้าจะถามเรื่องถ่ายรูปให้สวยก็พอได้ รับรองว่าเธอต้องคุยกับแกแน่” ฐากรที่นั่งฟังอยู่แนะนำขึ้น ในฐานะที่รู้จักอาชีพของหล่อน

แต่แกจะคุยกับเธอรู้เรื่องหรือเปล่า...นั่นอีกเรื่องหนึ่ง

คิดต่อในใจ แต่ไม่ได้พูดออกไป แล้วตักข้าวเข้าปาก

“ถ้าคุยเรื่องถ่ายรูป ก็ไม่น่ายาก” เพื่อนคนนั้นพึมพำอย่างมั่นใจ

ใช่ไม่ยาก...ตายเลย

ชวารีที่บังเอิญได้ยิน ทำหน้าเหนื่อยหน่าย

เธอรู้จักทักษะการถ่ายภาพของเพื่อนชายคนนี้เป็นอย่างดี หมอนี่ถ่ายรูปสวยมาก สวยตามความฉลาดของกล้อง เพราะใช้ออโต้ทั้งหมด ไม่เคยที่จะตั้งค่าอะไรเอง ยกกล้องขึ้นได้ก็กดชัตเตอร์อย่างเดียว

ช่างภาพประสาอะไร ไม่รู้จักความสัมพันธ์ของรูรับแสง ความเร็วชัตเตอร์ กับค่า iso...ให้ตายสิ!

นึกสบถในใจอย่างเซ็งๆ

ปกติหญิงสาวไม่เคยคิดที่จะดูแคลนใคร แต่ความรู้พื้นฐานก็ควรจะมีติดหัวไว้บ้าง ไม่ให้อายขายขี้หน้าคนอื่นเวลาโดนซักโดนถาม

เพราะสิ่งที่หลุดจากปากจะบ่งบอกว่า...เรามีกึ๋นแค่ไหน

แม้เธอจะคุยกับธัญชนกเรื่องการภาพถ่ายเพียงไม่กี่ประโยค แต่รู้ทันทีว่า สาวสวยมีสายตาหลักแหลม และน่าจะมีฝีมือการถ่ายภาพที่ไม่ธรรมดา...สมกับที่เป็นผู้จัดการแกลอรีชื่อดัง

เด็กน้อยฟันไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมแบบเพื่อนคนนี้ คงไม่อาจทำให้คนงามสนใจในเชิงชู้สาวได้ เว้นแต่จะเรียกร้องความสงสาร หรือความเอ็นดู ก็อาจจะได้จากหล่อนมาบ้าง...นิดหน่อย

คิดอยากเป็นแฟนพี่ธัญ อีกสองชาติตอนเย็นๆ ยังยาก ถึงจะเป็นอาจารย์นพ ก็ไม่แน่ว่าหล่อนจะโอเคด้วย

สาวหน้าคมกลอกตาไปมา เผลอยิ้มเยาะมุมปาก มั่นใจว่าความปรารถนาของหนุ่มๆ ยากจะเป็นจริงแน่นอน

...พวกคุณไม่ได้ไปต่อ

“เป็นอะไรรี?” คมกริชที่นั่งตรงข้ามถามขึ้น สงสัยท่าทางแปลกๆ ของเพื่อนรัก ที่ดูจะหลุกหลิกกว่าปกติ

เจ้าของชื่อเงยหน้าจากอาหารตรงหน้า สบตากับชายหนุ่ม

“ปะ เปล่านี่”

“ไม่อร่อยเหรอ?” เขาถามขึ้น หลังเห็นข้าวผัดกะเพราของหญิงสาวพร่องไปแค่ครึ่งจาน ทั้งที่เป็นอาหารจานโปรด

สาวร่างสูงคว้าขวดน้ำเปล่ามาดูดหลายอึก แล้วพึมพำตอบ

“เผ็ดไปหน่อย”

“เอากุนเชียงแก้เผ็ดไหม?” คมกริชเสนอขึ้น

“เอาสิ” เธอรีบตอบรับแบบไม่คิดมาก และเมื่ออีกคนตักมาวางในจานก็ยิ้มกว้าง “แท๊งกิ้ว” จากนั้นก็ตักเข้าปากเคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อย

“คู่นั้นเขาแบ่งกุนเชียงกันด้วย อิจฉาไอ้คมกับไอ้รีโว้ย! เมื่อไหร่จะแจกการ์ดสักทีวะ” หนึ่งในวงเพื่อนหันมาแซว สมาชิกของชมรมโฟโต้ส่วนใหญ่เข้าใจว่า สองคนนี้ไม่ใช่เพื่อนสนิท แต่เป็นคู่รักกัน

มั่วอีกแล้วพวกนี้ ฉันเป็นแฟนคมที่ไหน บอกตั้งกี่ครั้งก็ไม่เคยเชื่อ เฮ้อ!

เธอเบ้ปาก คร้านที่จะโต้แย้งกับเพื่อน หลังบอกมาหลายหน

ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ คมกริชไม่ค่อยสมาคมกับเพื่อนผู้หญิงคนอื่น เอาแต่ขลุกอยู่กับเธอตั้งแต่ปีหนึ่ง จึงไม่น่าแปลกใจที่เพื่อนจะเข้าใจผิด

“หยุดเลย พูดแบบนี้รีมันเสียหายนะ” คมกริชรีบปรามเพื่อน

ทว่าคนพูดไม่ได้รู้สึกผิดอะไร ยักไหล่แบบกวนๆ

“ไม่เสียหรอก แกก็ทำให้มันจริงเสียสิ ง่ายจะตายไป”

“นั่นสิ พวกฉันเอาใจช่วยแกอยู่นะ” อีกคนเสริม พร้อมยกนิ้วโป้งขึ้นเป็นสัญลักษณ์เชียร์เต็มที่

“เอาใจช่วย หรือรอกิน?” ฐากรพูดทะลุกลางปล่องขึ้น

“เขาเรียกแสดงความยินดีต่างหาก” หนึ่งในพวกเห็นแก่กินรีบพูดแก้ตัว

“อ๋อ เหรอ” ฐากรแกล้งลากเสียง

“ชอบขัดคอคน” คนเห็นแก่กินพึมพำอย่างหมั่นไส้ แล้วไปคุยกับเพื่อนคนอื่นแทน

ฉันกำลังพยายามจะจีบรีอยู่ แต่พวกแกกำลังทำให้มันยาก ไอ้พวกบ้า!

คมกริชนึกด่าเพื่อนในใจ หันไปสบสายตาชวารี

“อิ่มหรือยัง?”

“อือ” สาวผมสั้นไม่มีอารมณ์ที่จะทานต่อ รวบช้อนส้อม หยิบขวดน้ำขึ้นมาดูด เบือนสายตามองไปเจอกับสายตาคู่สวย ซึ่งจ้องตนอยู่ก่อน จึงชะงัก แล้วให้รู้สึกเสียวสะท้านสันหลังอย่างไร้เหตุผล

ทำไมสายตาของพี่ธัญถึงได้ดุนัก?

ร่างสูงคิดอย่างไม่เข้าใจ ว่าตนไปทำอะไรให้หล่อนไม่พอใจ แต่พอเห็นสาวงามหันไปสนทนา พร้อมส่งยิ้มหวานกับนพคุณ เธอจึงสะบัดความคิดฟุ้งซ่านออกจากหัว

ฉันคงตาฝาดไปมากกว่า

เมื่อกลับไปขึ้นรถทัวร์อีกครั้ง ธัญชนกนั่งเงียบ เบนสายตามองออกนอกหน้าต่างเกือบตลอดทาง ทำให้สาวเฉยไม่กล้าชวนคุยจนกระทั่งถึงที่พัก

ทุกคนลงจากรถ รอพรชนกซึ่งเป็นผู้ติดต่อเรื่องที่พัก รีสอร์ทแห่งนี้เป็นอาคารสองชั้น มียี่สิบกว่าห้อง ซึ่งได้ค่าเช่าในราคาพิเศษ เพราะเดือนนี้ไม่ใช่ฤดูท่องเที่ยว อาจารย์สาวนำกุญแจมาแจกลูกศิษย์ โดยพักห้องละสามถึงสี่คนตามอัธยาศัย

ชวารีใจตุ้มๆ ต่อมๆ หลังคนงามเฉยชากับตน รับรู้ได้ถึงสายตาคู่สวยที่แฝงความไม่พอใจลอบมองมาอยู่บ่อยๆ

ฉันทำอะไรให้พี่ธัญไม่พอใจ?

ร่างสูงเลิกคิ้วเรียว ตั้งคำถามในใจอย่างสนเท่ห์ แม้จะใคร่ครวญอยู่นาน แต่จนปัญญาที่จะรู้ จึงได้แต่ลากกระเป๋าเดินทางตามสองพี่น้องต้อยๆ ไปยังห้องพัก

แม้จะเป็นเพียงรีสอร์ทเล็กๆ แต่สะอาดสะอ้าน มีเครื่องอำนวยความสะดวกครบครัน นอกห้องเป็นระเบียง มีโต๊ะเก้าอี้ให้ออกไปนั่งชมวิวชมดาวได้ ขนาดห้องกว้างขวางไม่ต่างจากโรงแรมห้าดาวนัก มีเตียงคู่สองเตียงวางเรียง

“พี่ธัญเลือกเตียงไหนคะ?” พรชนกเปิดประเด็นแรกขึ้น

คนงามทำหน้าไม่ยินดียินร้าย

“พรเลือกเถอะ พี่สุดท้าย”

“งั้นพรนอนเตียงนี้นะคะ” อาจารย์สาวเลือกเตียงที่อยู่ด้านใน ยกมือชี้ไปยังอีกเตียง พร้อมบอกกับลูกศิษย์สาว “รีนอนเตียงนั้นนะ”

“ค่ะอาจารย์”

ชวารีไม่มีปัญหากับการที่จะค้างแรมที่ไหน เพราะมารดาสอนไว้เวลาไปต่างถิ่นให้สวดมนต์ก่อนนอน อุทิศส่วนกุศลให้เจ้าที่เจ้าทาง จะได้นอนหลับอย่างสบาย เธอเดินไปวางสัมภาระข้างเตียง หลังเข้าใจว่าทุกอย่างลงตัวแล้ว

ธัญชนกกวาดตามองรอบห้อง เหมือนกำลังชั่งใจอะไรบางอย่าง

“พี่ธัญนอนกับพรนะคะ?” พรชนกชวนขึ้น หลังเห็นพี่สาวไม่ยอมวางกระเป๋าสักที

“พรนอนดิ้นจะตายไป พี่ก็ไม่ได้นอนพอดี พี่ขอนอนกับน้องรีแล้วกัน” คนสวยสรุปแบบเอาแต่ใจ

น้องสาวยิ้มเขินเล็กน้อยกับความจริงนั้น มองไปยังลูกศิษย์สาว

“ไม่มีปัญหาใช่ไหมรี?”

เอ๋!

สาวร่างสูงกระพริบตาถี่ ชำเลืองมองหล่อนอย่างไม่เข้าใจ

“มะ ไม่มีค่ะ”

หรือว่าประจำเดือนมา ถึงได้อารมณ์แปรปรวนเหลือเกิน

ขณะที่เธอกำลังมึนงงไปกับอารมณ์ของสาวสวย ก็ได้ยินพรชนกพูดขึ้นว่า

“ที่นี่นอกจากชายหาด ด้านหลังรีสอร์ทมีสวนดอกไม้ วิวสวยๆ เยอะเหมือนกัน ลองไปเดินดูนะ ครูว่ารีน่าจะเก็บภาพได้เยอะอยู่เลย” อาจารย์สาวรู้ข้อมูลพวกนี้ตอนค้นหาจากอินเตอร์เน็ต ซึ่งมีรูปถ่ายสวยๆ ไว้เป็นจุดขาย บวกกับราคาที่ไม่แพง ทำให้ลูกค้าหลายคนเลือกใช้บริการที่นี่

“เหรอคะ?” นัยน์ตาของคนฟังเป็นประกายวิบวับ อยากออกไปถ่ายรูปตอนนี้เลยด้วยซ้ำ แต่ติดตรงที่ว่าแสงแดดแรงช่วงเวลานี้ไม่เหมาะกับการถ่ายภาพนัก ต้องรอจนแดดอ่อน สักสี่โมงเย็นไปแล้วภาพถ่ายที่ได้จึงจะสวย ไม่แข็งกระด้าง และไม่มีเงาดำ

“ไว้รอเย็นๆ ก่อนค่อยไป” น้องสาวหล่อนพูดดักไว้ก่อน

“ค่ะ” เธอรับคำอย่างกระตือรือร้น

คนสวยเหลือบมองเพื่อนต่างวัย แต่ไม่พูดอะไร ขยับกระเป๋าวางข้างเตียงฝั่งของตน ทิ้งตัวนั่งบนเตียงนุ่ม นั่งไม่ทันก้นร้อนเสียงโทรศัพท์ก็กรีดร้อง

กริ๊ง! กริ๊ง!

ขอเอนหลังสักนาทีก็ไม่ได้...เมื่อยจะแย่อยู่แล้ว

ธัญชนกถอนใจเบาๆ หยิบอุปกรณ์สื่อสารออกมาดูชื่อคนโทรเข้า แสดงเป็นชื่อเลขาฯ ของตนจึงกดรับ

“สวัสดีค่ะพี่แนน มีอะไรหรือเปล่าคะ?” หล่อนถามด้วยเสียงเป็นการเป็นงาน ลุกเดินไปเลื่อนประตูกระจก ออกไปคุยธุระนอกระเบียงห้อง ไม่อยากรบกวนคนอื่น “เขาจะนัดวันไหนคะ...”

“วันหยุดก็ไม่เคยได้หยุดกับคนอื่นเขา ไม่รู้อะไรนักหนา”

พรชนกมองว่า งานของพี่สาวซ้ำซากน่าเบื่อ แถมยังต้องปวดหัวกับลูกค้าไม่หยุดหย่อน ซึ่งเป็นเหตุผลสำคัญทำให้เธอเลือกไม่ไปช่วยงานที่โฟกัสแกลอรี ทั้งที่กานต์พยายามเกลี้ยกล่อมอยู่หลายหน

“ท่าทางงานจะรัดตัวมากนะคะ” สาวร่างสูงพูดอย่างเห็นใจ มองผ่านกระจกใสเห็นหล่อนคุยเรื่องงานด้วยใบหน้าจริงจัง ยิ่งทึ่งในตัวผู้หญิงคนนี้มากขึ้นไปอีก

พี่ธัญเป็น Working Woman ที่สวย สง่าและเท่มากๆ

ชวารีนึกชื่นชมในใจ

“ยุ่งมากจนหัวฟูเลยล่ะ เกินปีแล้วมั้งที่พี่ธัญไม่ได้ลาพักร้อน ถ้าไม่ใช่เพราะแฟนเก่ามาวอแวให้รำคาญใจ คราวนี้คงไม่ยอมมาด้วยหรอก” อีกคนบ่นกระปอดกระแปด

พรชนกไม่ชอบเมฆินทร์มากๆ ที่ทำให้พี่สาวทุกข์ใจอยู่นาน พอหล่อนเหมือนจะทำใจได้ หมอนั่นก็แวะเวียนมาจองเวรจองกรรมกันอีก

ต่างคนต่างอยู่ไม่ได้รึไง...จะจองล้างจองผลาญกันไปถึงไหน

น้องของหล่อนนึกว่าแฟนเก่าพี่สาว

นิสัยแย่ชะมัด นอกจากหลายใจ ยังคิดจับปลาสองมืออีก...ไว้ใจไม่ได้เลย

ชวารีนึกหมั่นไส้ ทั้งที่ไม่รู้จักแฟนเก่าของคนงาม ใจหนึ่งก็อยากเจอตัวเป็นๆ อยากรู้ว่าชายคนนั้นมีดีอย่างไร ถึงได้หัวใจหล่อนไปครอง?

...ลึกๆ แล้ว เธอนึกอิจฉาเขาไม่น้อย

ถ้าฉันเป็นคนโชคดีแบบนั้น ฉันจะถนอมความรักเอาไว้ และไม่มีวันทำร้ายจิตใจของพี่ธัญแน่

“ถ้ายังไงทริปนี้ฝากดูแลพี่สาวของครูด้วยนะรี พี่ธัญเป็นพวกเก็บความรู้สึกน่ะ แต่วันนี้ดูพี่ธัญจะถูกใจรีนะ คุยเยอะยิ้มเยอะกว่าปกติ”

ถูกใจฉัน?

เธอไม่ค่อยแน่ใจว่า พรชนกเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า แต่ก็เออออไปตามเรื่อง

“เหรอคะ?”

“อือ” อาจารย์สาวผงกหัว “ปกติกับคนเพิ่งรู้จัก ไม่มีทางคุยเยอะด้วยหรอก เห็นแบบนี้ ตัวจริงท่ามากฟอร์มเยอะเลยล่ะคุณเธอน่ะ ขี้วีนขี้ใจน้อยอีกต่างหาก...อย่าไปบอกว่าครูบอกล่ะ”

ไม่น่าเชื่อ...

ร่างสูงหัวเราะเบาๆ ที่ได้ยินอาจารย์เปิดเผยความลับของคนงามออกมา ก่อนหลุดถามสิ่งที่คาใจออกไป

“ว่าแต่เลิกกันไปตั้งนาน ทำไมพี่ธัญถึงยังไม่มีแฟนอีกล่ะคะ?”

แย่แล้ว ปากไวเกิน

ชวารีอยากจะตบปากตัวเอง ที่ดันพลั้งปากถามเรื่องส่วนตัวสุดๆ ของหล่อนออกไป

พรชนกถอนใจเบาๆ เมื่อนึกถึงความโชคร้ายของพี่สาว ที่มีชีวิตสมบูรณ์พร้อมทุกอย่าง...ยกเว้นเรื่องหัวใจ

“จริงๆ ก็เห็นมีคนมาจีบตลอดนะ” คนพูดเบะปาก แล้วส่ายหน้า “แต่พี่ธัญคงเข็ดขยาดแล้วมั้ง เข้ามาสามสี่คนก็แบบเดียวกันหมด เป็นครูขออยู่คนเดียวดีกว่า สบายใจกว่ากันเยอะ”

น่าสงสารจัง

สาวร่างสูงคิดแบบนั้น หันมองไปทางระเบียงเห็นหล่อนยังคงคุยโทรศัพท์อยู่

“ครูไม่ขออะไรมาก แค่อยากให้รี เป็นเพื่อนที่ดีกับพี่สาวของครูก็พอ ได้ไหม?” พรชนกพูดเหมือนขอร้องลูกศิษย์

เธอรู้ว่าผู้คนรอบตัวของพี่สาว หาคนจริงใจด้วยยากยิ่งเหลือเกิน ส่วนใหญ่เข้ามาตีสนิทหล่อน เพื่อหาประโยชน์เสียมากกว่า

ทำไมต้องฉันด้วย?

“เข้าใจแล้วค่ะ” สาวหน้าคมนึกฉงนฉงาย แต่ก็รับคำ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไรสำหรับตน หญิงสาวเป็นจำพวกดีมาก็ดีตอบ แต่ถ้าร้ายมาก ก็เฉยๆ หลบหลีกไม่สมาคมด้วย

“ขอบใจนะ”

 

ตกเย็น ธัญชนกชวนชวารีไปเดินเล่นที่ชายหาด ซึ่งสาวเฉยก็ไม่ปฏิเสธ นึกดีใจที่คนสวยยอมพูดดีด้วย เพราะเธอง้อคนไม่เก่ง คว้ากล้องถ่ายรูปดิจิตอลราคาแพงติดมือไป เผื่อเจอช็อตเด็ดจะได้ไม่พลาด

สองสาวเดินเคียงกันไปตามทางเดินลาดปูนแบบเงียบๆ

“พี่ไม่ชอบคนโกหก” ผู้จัดการสาวเปรยขึ้นลอยๆ โดยไม่เหลียวมองคนข้างกาย

“คะ?” คนถูกถามขมวดคิ้ว “พี่ธัญหมายถึงเรื่องอะไรคะ?”

“เรื่องที่เราบอกกับพี่บนรถ เป็นความจริงหรือเปล่าคะ?” อีกฝ่ายถามด้วยน้ำเสียงเย็นเยือก

เรื่องไหน?

คนอายุน้อยกว่าทำหน้าเหลอหลา เพราะเรื่องที่คุยกับสาวสวยมีเยอะเสียจนจำไม่ได้ พยายามนึกว่าน่าจะเป็นเรื่องอะไร

ที่เธอไม่ชอบที่สุดก็คือ โทนเสียงเย็นชาแบบนี้ ฟังแล้วเหินห่างมากเหลือเกิน...เหมือนเราเป็นคนแปลกหน้า

ทั้งคู่ก้าวมาจนถึงชายหาดที่มีผู้คนบางตา

ธัญชนกหันมองชวารีชัดๆ หลังคู่สนทนาเงียบนานเกินไป ก่อนยอมเฉลยออกมา เรื่องที่ทำให้ตนขุ่นเคืองใจอยู่หลายชั่วโมง ตั้งแต่ช่วงทานมื้อกลางวัน

“สรุปคือน้องรีมีแฟนแล้วใช่ไหมคะ?” โทนเสียงเรียบเย็น แต่แฝงความไม่พอใจอยู่ในนั้นเต็มเปี่ยม

คนงามไม่เข้าใจตัวเองเลยสักนิดว่า ทำไมถึงได้หงุดหงิดกับเรื่องส่วนตัวของสาวเฉย รู้สึกเจ็บแบบหน่วงๆ ที่เห็นเธอสนิทสนมกับคมกริช พอได้ยินเพื่อนหลายคนแซวเรื่อง ‘แจกการ์ด’ ก็เติมเชื้อให้หล่อนฟุ้งซ่านจนจิตใจไม่สงบ จึงตัดสินใจถามออกมาตรงๆ

ก็บอกไปแล้วนี่?

ร่างสูงขมวดคิ้ว นึกไม่ถึงว่าจะเป็นเรื่องนี้ จึงยิ้มบางๆ แล้วตอบออกไปว่า

“รียังคงยืนยันว่าไม่มีแฟนค่ะ คมไม่ใช่สเปคของรี ไม่ใช่ว่าคมเป็นคนไม่ดี แต่รีไม่เคยคิดอะไรมากกว่าเพื่อนสนิทที่รู้ใจ” หญิงสาวตอบตามความรู้สึก ไม่จำเป็นที่จะต้องโกหกพกลมใคร เหยียดยิ้มเหมือนสมเพชตัวเอง “อีกอย่างรีเป็นแค่ผู้หญิงธรรมดา ที่ไม่มีอะไรพิเศษเลยสักนิด เป็นลูกเป็ดขี้เหร่ ไม่มีใครคนไหนมาสนใจรีหรอกค่ะ”

ลูกเป็ดขี้เหร่? ...นี่ไม่รู้ตัวเลยสินะ

หล่อนจ้องหน้าคนอายุน้อยกว่าเขม็ง เหมือนจะหาพิรุธในคำพูดนั้น แต่ไม่พบข้อสงสัยอะไร จึงรู้ว่าตนเข้าใจอีกฝ่ายผิด ความรู้สึกหนักอกซึ่งสะสมอยู่หลายชั่วโมง อันตรธานไปแบบไร้ร่องรอย

สาวสวยยืนกอดอก เบนสายตาคู่สวยชื่นชมเกลียวคลื่นที่ซัดสาดเข้าหาชายฝั่ง ปล่อยอารมณ์ไปกับธรรมชาติ สายลม และแสงแดด

ฉันนี่ไม่ไหวจริงๆ ที่มองน้องรีเป็นคนแบบนั้น ฉันควรจะขอโทษอย่างไรดี?

ผู้จัดการสาวครุ่นคิดหนัก

ชวารีเหม่อมองใบหน้าสวยด้านข้างของอีกฝ่ายอย่างหลงใหล ซึ่งหล่อนดูไม่ต่างจากรูปสลักมหาเทวีของกรีกโบราณ

สง่างาม น่าหลงใหลเสียนี่กระไร

พอคิดแบบนั้น ร่างสูงจึงยกกล้องขึ้น กดชัตเตอร์บันทึกภาพแห่งหัวงความทรงจำนี้ไว้อย่างเร็วหลายใบ โชคดีที่ตั้งโหมดเงียบเอาไว้ อีกคนจึงไม่ทันรู้ตัว

...ภาพอิสตรีผมยาวสีดำพัดสยายกลางสายลม มีทะเลกับท้องฟ้าสีครามเป็นแบ็คกราวน์

เยี่ยม!

ช่างภาพสาวถ่ายรูปไปยิ้มไปอย่างพึงพอใจ

จู่ๆ สาวสวยหันขวับกลับมา รู้ว่าตนโดนแอบถ่ายรูป จึงทำหน้ามุ่ย แล้วกลอกตาไปมา

“ตกลงอยากเป็นช่างภาพ portrait เหรอคะ ค่าตัวพี่แพงนะเออ น้องรีจะจ่ายไหวไหมคะ?” สาวหวานแกล้งพูดทีเล่นทีจริงออกไป

เชื่อค่ะว่าค่าตัวพี่น่ะแพงมาก...แพงสุดๆ

คนถูกถามยิ้มแหยๆ ไม่มีปัญญาจ่ายค่าตัวอีกฝ่ายแน่ อย่างเก่งก็เลี้ยงข้าวหนึ่งมื้อ...แบบร้านอาหารธรรมดา

“รีแค่อยากเก็บภาพสวยๆ ของพี่ธัญเฉยๆ ไม่ได้คิดจะเอาดีทางนั้นหรอกค่ะ”

ธัญชนกผุดยิ้มละไมที่มุมปาก ก้าวเท้ามาหาชวารีอย่างช้าๆ โดยไม่ได้ละสายตาไปจากอีกคน

“พี่สวย?” หล่อนเอื้อนเอ่ยคำถาม เมื่อก้าวไปอยู่ในระยะประชิด

สวยสิคะ...สวยที่สุดสำหรับรีเลยล่ะ

นึกตอบในใจ แต่ไม่กล้าปริปาก หัวใจเต้นแรงเร็วจนผิดจังหวะ แล้วตอบเสียงเบาไม่ต่างจากกระซิบนัก

“ชะ ใช่ค่ะ”

“สวยแค่ไหนคะ?” สาวหวานถามต่อ หรี่ตาคู่สวยเล็กน้อยจับจ้องหน้าคมเขม็ง

“สะ สวยมากๆ ค่ะ” สาวหน้าคมตอบตะกุกตะกัก ยืนตัวแข็งทื่อ เมื่อปรอยผมยาวสีเข้มปลิวมากระทบใบหน้า ได้กลิ่นของแชมพูผสมกับกลิ่นของน้ำทะเล ทำให้ใจยิ่งเต้นแรงหนักกว่าเดิม

ในวินาทีนั้น ชวารีรู้ว่าตนไม่อาจละสายตาไปจากผู้หญิงแสนสวยตรงหน้า เหมือนตนไม่ต่างจากผีเสื้อที่หลงไปติดหยากไย่ ไม่สามารถหนีรอดได้ ไม่มีความคิดจะถอยหนี ได้แต่ยืนนิ่งตัวแข็งทื่อ เหมือนต้องมนตร์สะกด

เจ้าของเสียงหวานขยับเข้ามาใกล้ยิ่งขึ้น

“แล้วน้องรีชอบไหมคะ?”

ชอบ?

สาวน้อยทำหน้าสับสน ไม่เข้าใจคำถาม

“คะ?”

หล่อนคลี่ยิ้มงดงามที่กระชากหัวใจคนมานักต่อนัก ตาคู่สวยจ้องใบหน้าของอีกคนที่อยู่ห่างไม่ถึงคืบ แล้วโน้มไปกระซิบข้างหู จงใจขยับริมฝีปากเซ็กซี่ที่เคลือบสีหวานสัมผัสกับเนื้อนุ่มของอีกฝ่ายเบาๆ

“น้องรีชอบพี่ไหมคะ?” สาวงามถามด้วยน้ำเสียงที่ไพเราะกังวานชัดถ้อยชัดคำ

ชวารีตาเบิกโพลงกับคำถามที่คาดไม่ถึง ใบหน้าคมขึ้นสีแดงเข้ม ปากคอสั่นเทา

ทะ ทำไมถามแบบนี้!

OoXoO

ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นท์ ทุกหัวใจ และทุกการทวงถามนะคะ...อ่านไปก็ยิ้มกว้างๆ ไป อิอิ 

น้องรีโดนพี่ธัญรุกหนักขนาดนี้...แล้วยังไงต่อนะ? ...ไรท์ไม่ขี้แกล้งนะ แต่อยากรู้ก็ต้องรอตอนหน้าค่ะ ^^

...ภายในสองวันนี้ไรท์จะส่งต้นฉบับทั้งหมดให้คุณพี่บอกอ ส่วน E-book จะคลอดได้เมื่อไหร่ ต้องขึ้นกับคุณพี่ แต่น่าจะได้ภายในเดือนหน้าค่ะ 

ขอให้มีความสุขในการอ่านค่ะ 

นาง ^^

เมนต์เค้าหน่อยฝากติดตามด้วยน้าขอบคุณน้า

OoXoO




 

Create Date : 30 สิงหาคม 2562
0 comments
Last Update : 30 สิงหาคม 2562 13:15:17 น.
Counter : 735 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

 

นิ้วนาง-เดียนา
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




งานเขียนทั้งหมดใน blog นี้ สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย พระราชบัญญัติ พ.ศ.2537 ห้ามนำไปพิมพ์ เผยแพร่ หรือลอกไปกระทำการใดๆ ก็ตาม หากผู้ใดกระทำการผิด เจ้าของ blog จะเอาผิดท่านตามกฏหมาย ได้ทุกกรณี


[Add นิ้วนาง-เดียนา's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com