ขอต้อนรับสู่โลกของนิยายยูริ เรื่องจากประสบการณ์ และทำนายดวงชะตา โดย นิ้วนาง-เดียนา-ลำดวนพยากรณ์
<<
สิงหาคม 2561
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
19 สิงหาคม 2561
 
 

ก็ว่าจะไม่รัก Just You บทที่ ๑๕ (Yuri)



๑๕

เย็นหลายวันต่อมาสุธาสินีแทบจะถลาออกจากห้องเรียน เพื่อไปหากรองแก้วหลังน้องสาวเขียนข้อความมาบอกเมื่อชั่วโมงก่อนว่า ‘วันนี้แก้วไม่ค่อยสบายแวะมาดูอาการหน่อย’

หวังว่าน้องแก้วคงไม่เป็นอะไรมาก

หล่อนนึกกังวลอย่างบอกไม่ถูกจะรู้สึกดีหากได้เห็นด้วยตาว่าอีกฝ่ายไม่เป็นอะไร ยิ่งคิดก็ยิ่งร้อนใจตรงดิ่งไปยังอาคารเรียนของรุ่นน้องพลันหันไปเห็นเป้าหมายกำลังเดินไปลานจอดรถมอเตอร์ไซด์จึงเปลี่ยนทิศทางเดินกะทันหัน แล้วก้าวยาวๆ ไปทันที

“ได้ข่าวว่าน้องแก้วไม่สบายค่อยยังชั่วแล้วเหรอคะ?”

สาวหน้าคมสะดุ้งที่ได้ยินเสียงคุ้นหูหมุนตัวไปมองต้นเสียง ด้วยสีหน้าสับสน

“ใครบอกคุณ?”

“ไม่สำคัญหรอกค่ะ”ไม่คิดเฉลย ด้วยไม่อยากให้น้องสาวถูกต่อว่าฐานเป็นสปายสายตาคู่หวานสังเกตใบหน้าอีกฝ่ายดูซีดขาวกว่าปกติ จึงอดเป็นห่วงไม่ได้ เอื้อมมือสัมผัสแก้มและหน้าผากอย่างถือวิสาสะเพื่อเช็คอุณหภูมิ “ตัวอุ่นๆ นะคะ”

อ๊าย!

กรองแก้วยืนตัวแข็งไปหลายวินาทีไม่ชินกับการถูกเนื้อต้องตัวแบบนี้ พอรู้สึกตัวจึงคว้าข้อมือสาวรุ่นพี่ไว้

“ฉันไม่เป็นอะไรแค่...แค่ประจำเดือนมา ก็เลยปวดท้อง”

ปากว่ามือถึงจริงๆ

“งั้นเหรอคะ”ร่างสูงพึมพำเบาๆ คลายความกังวลลงหลังรู้ถึงต้นสายปลายเหตุอันเป็นธรรมชาติของผู้หญิงที่จะมีอาการในช่วงวันนั้นของเดือน“วันนี้ต้องทำงานหรือเปล่าคะ?”

“วันนี้หยุดฉันกำลังจะกลับบ้าน” เธอก้าวช้าๆ ไปยังสกู๊ตเตอร์สีขาวทำหน้านิ่งข่มความเจ็บเสียดในช่องท้องไว้ ไม่คิดแสดงความอ่อนแอออกมาต่อหน้าใครโดยเฉพาะกับสุธาสินี

ประธานสาวก้าวตามไปด้วยแล้วอดจะถามขึ้นไม่ได้

“ทานยาหรือยังคะ?”

“ทานพาราไปแล้ว”

“แล้วจะขี่กลับบ้านไหวเหรอคะ?”

“ไหวสิแค่นี้เองสบายมาก” กรองแก้วตอบอย่างมั่นอกมั่นใจ

ปากเก่งจริงๆ

สาวสวยถอนใจกับความเชื่อมั่นที่สูงลิบของรุ่นน้องแล้วตัดสินใจทำอะไรบางอย่าง

“งั้นพี่จะขับรถตามน้องแก้วไปนะคะ”

ร่างเล็กขมวดคิ้ว

“ตามไปทำไม?”

“พี่เป็นห่วงค่ะ”หล่อนตอบเสียงนุ่มนวลแฝงไปด้วยความห่วงใย

ตึกตัก! ตึกตัก!

คำตอบนั้นทำให้ก้อนเนื้อในอกเต้นผิดจังหวะเจ้าของหน้าคมขึ้นสีเรื่อจางๆ อย่างควบคุมไม่ได้ จึงรีบเฉหน้ามองไปทางอื่นรู้สึกแปลกๆ ที่อีกคนพูดแบบนี้

“กะก็แล้วแต่คุณ...” ตอบเสียงตะกุกตะกัก

ดีจังน้องแก้วไม่ปฏิเสธ

สุธาสินีผุดยิ้มสวยหวานอย่างพึงพอใจ

“จอดรถรอพี่แถวหน้าประตูด้วยนะคะพี่จะรีบขับตามไป”

“อือ”อีกคนรับคำเบาๆ มองตามสาวร่างสูงที่เดินแยกไปยังรถคันงามที่จอดอยู่ไม่ไกลยกมือขึ้นทาบอกเหนือตำแหน่งหัวใจของตัวเอง ที่ยังคงเต้นรัวแรงไม่หยุด

จะตื่นเต้นอะไรนักหนาก็แค่กลับบ้าน

นึกดุหัวใจที่เต้นผิดจังหวะอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยก่อนขยับตัวคร่อมม้าเหล็กคู่ชีพ เพื่อออกไปรอสาวรุ่นพี่

“ติดนี่แถวท้องจะช่วยบรรเทาอาการปวดท้องได้ค่ะ”สุธาสินีหยิบแผ่นประคบร้อน ซึ่งมีติดรถออกมาทั้งกล่องแผ่นนี้ช่วยคลายอาการปวดกล้ามเนื้อและลดอาการปวดประจำเดือนหาซื้อได้ตามร้านสะดวกซื้อและร้านขายยาทั่วไป ดึงแผ่นสีขาวที่ติดด้านหลังออก ซึ่งเป็นกาวติดกับเสื้อ“เดี๋ยวพี่ติดให้นะคะ”

กรองแก้วทำหน้าไม่เชื่อแต่ก็ไม่ปฏิเสธความหวังดีของสาวรุ่นพี่ นั่งนิ่งบนโซฟาภายในบ้านของตัวเองมองอีกฝ่ายแปะแผ่นประคบที่เสื้อของตนอย่างงงๆ

“ช่วยได้จริงอ่ะ?”

“ก็ช่วยได้ในระดับหนึ่งค่ะ”หล่อนตอบอย่างนุ่มนวล

“ขอบคุณนะ”เธอยิ้มอ่อนๆ เคอะเขิน ไม่ชินกับการถูกดูแลแบบนี้เอาเสียเลยแล้วพลันนึกอะไรขึ้นมาได้ ขยับตัวหมายจะลุกขึ้น “ฉันนี่แย่จัง ลืมเลี้ยงน้ำแขก”

“น้องแก้วนั่งเฉยๆพี่บริการตัวเองได้ค่ะ” สุธาสินีห้าม ลุกยืนขึ้น

กรองแก้วจึงนั่งพิงโซฟาตามเดิม

“แก้วเปล่าคว่ำอยู่ในถาดขวามือนะ”

ไม่กี่นาทีต่อมาหล่อนก็กลับมาพร้อมแก้วน้ำสองใบ โดยใบหนึ่งเป็นน้ำเย็น อีกใบเป็นน้ำธรรมดา

“ดื่มน้ำธรรมดานะคะช่วงนี้ไม่ควรดื่มน้ำเย็น เดี๋ยวจะปวดท้องกว่าเดิม”

จู้จี้เหมือนกันนะเนี่ย

สาวแว่นนึกบ่นในใจยกแก้วน้ำธรรมดาขึ้นดื่มอย่างว่าง่าย ก่อนวางแก้วลงตามเดิมเอนหลังพิงเก้าอี้แล้วหลับตาลง หลังอาการปวดท้องกำเริบขึ้นเป็นระยะ

“ถ้าคุณมีธุระจะกลับเลยก็ได้นะ ฉันไม่เป็นอะไรมากหรอก พักสักหน่อยก็หาย” พึมพำบอกกับแขกสาว

แย่แบบนี้ยังบอกไม่เป็นอะไรอีก...ปากแข็งไปนะคะ

สุธาสินีถอนใจยาวเหยียดแล้วตัดสินใจทำบางอย่าง

เจ้าของบ้านลืมตาขึ้นหลังเก้าอี้ยวบยาบขมวดคิ้วเอียงหน้ามองสาวสวยที่ย้ายมานั่งใกล้ๆ

จะทำอะไร?

“พี่จะนวดให้ค่ะรับรองว่าน้องแก้วจะสบายตัวขึ้น” ตอบเหมือนอ่านความคิดได้ วางมือบนหน้าท้องอีกคน แล้วกดเบาๆค้างนานหลายวินาที ตามความรู้ที่ได้มาจากหนังสือ

กรองแก้วมองมือเรียวของคนข้างกายด้วยความรู้สึกแปลกๆ ไม่ชินเอาเสียเลยที่ได้รับการเอาอกเอาใจแบบถึงเนื้อถึงตัวจากสาวสวยคนนี้ ที่เข้ามาวนเวียนในชีวิตรวดเร็วชนิดแทบตั้งตัวไม่ทันจึงออกอาการเกร็งไม่น้อย ที่อีกฝ่ายแตะต้องถึงเนื้อถึงตัว

“คุณทำแบบนี้ให้คนอื่นบ่อยเหรอ?”เอ่ยถามอย่างสงสัย

“หมายถึงนวดแบบนี้?”สาวรุ่นพี่เงยหน้าสบตาคนถามที่จ้องหน้าอยู่ก่อน ขยับมือนวดไปเรื่อยๆอย่างไม่เสียสมาธิ

“ใช่”เธอไม่กล้าถามตรงๆ ว่า ‘ทำให้แฟนบ่อยเหรอ’

“ทำไมคิดอย่างนั้นคะ?”

“ก็ดูชำนาญ”

“พี่เคยนวดให้เสาสองสามครั้งถ้าคนอื่น น้องแก้วเป็นคนแรกค่ะ”

ไม่น่าเชื่อ

คนฟังทำหน้าประหลาดใจแล้วอดที่จะอมยิ้มในหน้าไม่ได้ บอกไม่ถูกว่าทำไมหัวใจถึงได้พองโตกะทันหัน?

“กดช่วงท้องเบาๆสักสิบวินาที แล้วหยุดสักสี่ห้าวิ ทำสักสิบหรือยี่สิบครั้งจะช่วยได้มากค่ะ”สุธาสินีเล่าเกร็ดความรู้เหมือนเบี่ยงเบนความสนใจอีกคนไปด้วย “ดีขึ้นไหมคะ?”

“อืม”สาวแว่นขานรับเสียงต่ำในลำคอ หลับตาพริ้มลง รู้สึกหายเกร็งรวมถึงไม่ค่อยปวดท้องมากเท่าตอนแรก

หลังนวดไปได้สักพัก หล่อนก็พูดขึ้น

“เดี๋ยวน้องแก้วนอนคว่ำนะคะ พี่จะนวดข้างหลังให้”

จะดีเหรอ?

กรองแก้วนึกลังเล มองหน้าเขม็งอย่างไม่ถึงกับไว้วางใจนัก

รุ่นพี่เผยยิ้มเหมือนรู้เท่าทันความคิด ยกนิ้วเคาะแก้มตัวเองแล้วเอ่ยดักคอออกมา

“เอ๋! อย่าบอกนะคะว่าน้องแก้วกลัวพี่จะทำอะไรมิดีมิร้ายคะ”

จะเก่งไปไหม

นึกประชดในใจ กับความฉลาดเป็นกรดของอีกฝ่าย

“ทำไมฉันต้องกลัวคุณด้วย คุณก็ลุกสิ นั่งเกะกะแบบนี้ฉันนอนไม่ได้หรอกนะ”

หล่อนลุกขึ้นยืน รอจนสาวแว่นนอนคว่ำจึงทรุดตัวลงนั่งขอบเก้าอี้ แล้วลงมือนวดหลังส่วนล่างด้วยวิธีเดียวกับที่นวดช่วงท้องเมื่อกี้

“นวดเก่งแบบนี้น่าจะไปเป็นหมอนวดนะ รับรองลูกค้าเพียบ”ร่างเล็กพูดชมกึ่งประชด รู้สึกสบายตัวขึ้นอย่างมาก

“ขอบคุณสำหรับคำชมค่ะ” สุธาสินีเริ่มชินกับนิสัย ‘ปากไม่ตรงกับใจ’ของอีกคนมากขึ้น จึงไม่คิดถือสาเอาความ หล่อนเพลิดเพลินกับการต่อปากต่อคำกับกรองแก้วอย่างบอกไม่ถูกประหนึ่งเจอะนักดาบที่มีฝีมือทัดเทียมกัน

หญิงสาวส่วนใหญ่ที่ผ่านเข้ามา จะแสดงความปลื้มออกนอกหน้าจนดูน่ารำคาญมากกว่าน่าสนใจ มีเพียงไม่กี่คนที่จะแสดงท่าทีกระด้างกระเดื่องหรือเย็นชาใส่หล่อน คนประเภทหลังจึงดูน่าสนใจและดึงดูดให้อยากใกล้ชิด ประกอบกับความเข็ดขยาดผู้หญิงอ่อนหวานแบบรัศมีแข

...ซึ่งสาวสวยจะไม่ยอมพลาดซ้ำสองเด็ดขาด

“ถ้ารวย ก็อย่าลืมแบ่งเปอร์เซ็นต์ให้ด้วยล่ะ ในฐานะคนแนะนำ”สาวแว่นพูดอย่างอารมณ์ดี

“งกมากเลยนะคะ” หล่อนแกล้งยั่วกลับ

“ฉันไม่ใช่ลูกเศรษฐีแบบคุณ มีเงินดีกว่าไม่มี” สาวรุ่นน้องพึมพำเมื่อคิดถึงความแตกต่างทางฐานะครอบครัวของเรา

...สาวสวยใช้รถเก๋งคันเป็นล้าน บ้านเธอมีรถปิคอัพกับสกู๊ตเตอร์เก่าๆช่างต่างกันมากเหมือนฟ้ากับเหว

“พี่ไม่เคยพูดสักคำว่ารวย เข้าใจกันไปเองต่างหาก”ร่างสูงโปร่งค้าน ไม่คิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงแค่พ่อแม่เป็นมนุษย์เงินเดือนที่มีรายได้สูงเท่านั้น ยังนับว่าห่างไกลกับคำว่า ‘เศรษฐี’ มาก

ถ้าทุกวันแทบไม่ต้องทำอะไรแล้วมีรายได้เข้ามาทุกเดือนอย่างเหลือกินเหลือใช้ หรือที่เรียกกันว่า Passive Incomeจึงจะถือว่าเข้าขั้นเศรษฐี...ในนิยามของหล่อน

“ก็มันจริงนี่” กรองแก้วค้าน

“พี่ไม่สนใจเรื่องบ้านใครรวยใครจนกว่ากัน พี่รู้แต่ว่าน้องแก้วกับพี่...เราเป็นคนเหมือนกันค่ะ” สาวสวยหยุดนวดโน้มตัวไปใกล้ข้างหูของเจ้าของบ้าน แล้วพูดเสียงเบาไม่ต่างจากกระซิบนัก“และพี่อยากรู้จักน้องแก้วให้มากกว่านี้ด้วยค่ะ”

รู้จักแบบไหน!

เธอนึกสงสัย ขยับตัวเอียงหน้าเพื่อจะมองคนพูดแต่แล้วเรียวปากไปประกบกับริมฝีปากอุ่นของสุธาสินีเข้าพอดิบพอดีก็ต้องเบิกตาโตกว้างตกใจ

เฮ้ย!

หล่อนทำหน้าแปลกใจ แต่ก็ไม่คิดหลบหรือถอยหนีจงใจปล่อยเลยตามเลย แล้วอดที่จะชื่นชอบไม่ได้ จึงขยับจุมพิตตอบอย่างแผ่วเบาอ่อนโยนอ่อนหวาน

ริมฝีปากน้องแก้วนุ่มมาก

สาวแว่นชะงัก ปล่อยให้รุ่นพี่เชยชิมหลายวินาทีกว่าสติจะกลับเข้าร่าง ก็รีบผละตัวออก นั่งตัวตรง ลืมตัวยกมือแตะริมฝีปากใบหน้าแดงก่ำ ร้อนวูบวาบไปทั่วทั้งเรือนร่าง

จะ จูบแรกของฉัน...

สุธาสินีซ่อนยิ้ม นัยน์ตาคู่สวยเป็นประกายวิบวับ ติดอกติดใจจึงขยับตัวไปนั่งข้างๆ โน้มตัวไปหมายจะจูบซ้ำอีกรอบ หากแต่อีกฝ่ายเอียงหน้าหลบ จมูกโด่งจึงประทับแก้มนุ่มเนียนแทนทว่าหล่อนไม่ยอมพลาดโอกาสทอง ยกมือประคองใบหน้าคมไว้ กดจมูกลูบไล้คลอเคลียแก้มนุ่มไล่ดอมดมจนทั่วหน้าคม ขบเม้มใบหูเล็กเบาๆ จนได้ยินเสียงครางต่ำๆ จึงเลื่อนต่ำไปยังลำคอเรียวระหง

“ยะ อย่า ค่ะ...” กรองแก้วพยายามห้ามปรามเสียงสั่นเครือยกมือดันไหล่สาวรุ่นพี่ไว้ แต่เหมือนเรี่ยวแรงจะหายไปหมด ยามนี้เลือดสาวพลุ่งพล่านกับสัมผัสที่ไม่คุ้นชินแต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า เธอรู้สึกวาบหวามไปทั่วร่างชนิดที่ไม่เคยเป็นมาก่อน คล้ายกำลังจะหลอมละลาย

“อีกนิดนะคะ คนดี” สาวสวยงึมงำอ้อนวอนเสียงพร่า พรมจุมพิตต่อเนื่องอยากจะฝากรอยจูบไว้ทุกตารางเนื้อนุ่มของอีกฝ่ายเลยด้วยซ้ำ

“พะ พอเถอะค่ะ...” เธอค้านเสียงแหบพร่า

สุธาสินีข่มความปรารถนาร้อนๆ ที่ตื่นขึ้น ยอมผละออกห่างทั้งที่ใจจริงไม่อยากหยุดเลยสักนิด แต่ยังคงคลอเคลียอยู่ใกล้ๆ ใช้มือหนึ่งโอบเอวคอดเอาไว้ไม่ให้อีกคนกระเถิบออกห่าง

“พี่ไม่ทันขอรางวัลค่านวดเลยสักคำ แต่ได้แบบนี้พี่โอเคมากๆ ค่ะน้องแก้วหวานกว่าที่พี่คิดเสียอีก” แกล้งกระซิบล้อๆ

ยังจะพูดอีก...หน้าไม่อาย

“คุณฉวยโอกาส” ร่างเล็กตัดพ้อต่อว่าไม่เต็มเสียงนัก เฉมองไปทางอื่นไม่กล้าสบสายตาด้วย เคอะเขินจนแทบพูดไม่ออก

“จริงเหรอคะ?” หล่อนเอียงคอ แสร้งทำเป็นสงสัย“พี่คิดว่าน้องแก้วอยากจูบพี่เสียอีก พี่เข้าใจผิดเหรอเนี่ย แย่จัง”

“คนบ้า! ใครอยากจูบคุณกัน” เธอโวยวายเสียงดังใบหน้าแดงเข้มขึ้นอีกรอบ

“ไม่รู้สิ พี่คิดว่าน้องแก้วอยากซะอีก” สาวรุ่นพี่แกล้งกวนประสาทยิ้มสวยเต็มหน้า สนุกกับการต่อล้อต่อเถียง สายตาจับจ้องเรียวปากที่เพิ่งได้ลิ้มรสไปเมื่อสักครู่แล้วกล่าวสิ่งที่อยู่ในใจออกมา “พี่อยากจูบน้องแก้วอีกสักหลายๆ ที ถ้าได้สักร้อยทีพันทีจะดีมาก”

โลภมากไปนะ ใครจะไปยอมง่ายๆ

“ฝันไปเถอะ” สาวหน้าคมส่งค้อนวงโตให้คนชอบแกล้ง

“พี่จะทำให้ฝันนี้เป็นจริงให้ได้...คอยดูสิ”

“ไม่มีทาง ชิส์” กรองแก้วย่นจมูกให้คนตรงหน้า

ไม่น่าเชื่อว่า ทำแบบนี้เป็นด้วย

สุธาสินียกมือป้องปาก ขำกับอากัปกิริยาแบบเด็กๆ ของอีกคนที่น่ารักน่าเอ็นดูแตกต่างจากตอนอยู่ในสถาบันลิบลับ

“หยุดหัวเราะเดี๋ยวนี้เลย” อีกคนนึกหมั่นไส้ที่โดนหัวเราะเยาะ

“ก็น้องแก้วทำหน้าตลกนี่คะ” หล่อนหัวเราะลั่น

“นี่แน่ะ” สาวแว่นยกมือขึ้นทุบไหล่สาวสวย

สุธาสินีคว้าข้อมือไว้ หลังโดนทุบไปสองหนแรงๆแลบลิ้นเลียริมฝีปากอย่างยั่วยวน

“ถ้าน้องแก้วทำร้ายร่างกายพี่อีก พี่จะจูบนะคะ เอาแบบ French Kiss หรือ Deep Kiss ดีคะ?”

คิดแต่ละอย่างทะลึ่งสุดๆ

เธอส่งค้อนให้คนช่างยั่วพยายามดึงมือที่ถูกเกาะกุมแต่ไม่สำเร็จ

“ปล่อยมือเลย”

“ขอจูบทีนึงก่อน” รุ่นพี่ยกมืออีกคนขึ้นจูบ ก่อนปล่อยเป็นอิสระ

กรองแก้วรีบชักมือไปวางบนตักตัวเอง หน้าร้อนวูบวาบเขินอายอย่างที่สุด กับความใกล้ชิดที่เกิดขึ้น

น่ารักจริงๆ

หล่อนอดที่จะยิ้มไม่ได้ กับความสัมพันธ์ที่รุดหน้าโดยไม่ได้ตั้งใจ

แอ๊ด!

เสียงเปิดประตูดังขึ้น สองสาวหันสบตากัน ก่อนเหลียวมองไปยังประตูโดยไม่ได้นัดหมาย

“สวัสดีครับพี่สุ” เด็กหนุ่มทักทายขึ้น ทันทีที่เห็นหน้าแขกสาว

“สวัสดีกวิน”

“ทานข้าวด้วยกันไหมครับ?” เขาชวนขึ้น ในมือมีถุงใส่กับข้าวมื้อเย็นหลายอย่างที่พี่สาวโทรฝากซื้อจากร้านหน้าปากซอย

“ไม่รบกวนดีกว่าค่ะ” หล่อนปฏิเสธอย่างสุภาพหันไปมองสาวรุ่นน้อง “ดูแลตัวเองด้วยนะคะ ไว้พรุ่งนี้เจอกัน”

“ฉันไปส่งที่รถ” สาวแว่นพูดในฐานะเจ้าของบ้านที่ดี

“ค่ะ” ร่างสูงพยักหน้า ลุกยืนเต็มความสูง “ไว้ค่อยคุยกันนะกวิน”

“ครับ”

“ขอบคุณที่ช่วยนวดให้นะ” กรองแก้วพูดกับอีกคนที่หน้าประตูรั้ว

“ยินดีค่ะ” สาวสวยยิ้มบางๆ “ขอบคุณสำหรับรางวัลนะคะ”

เธอหน้าขึ้นสีอีกรอบ รู้ดีว่าหล่อนหมายถึงจูบเมื่อสักครู่โบกไม้โบกมือไล่แขกอย่างหมั่นไส้สุดๆ

“ทะลึ่ง!”

“ถ้าอยากให้จูบอีกก็บอกได้นะคะ พี่พร้อมเสมอ” สาวรุ่นพี่แกล้งพูดเชิญชวน

“คนบ้า! รีบกลับไปเลย”

“พรุ่งนี้เจอกันค่ะ” สุธาสินียิ้มร่าอย่างมีความสุขโบกมือให้รุ่นน้องอีกครั้ง ก่อนขึ้นรถแล้วขับออกไป

กรองแก้วมองจนรถคันงามหายลับตา จึงล็อกประตูรั้วแล้วกลับเข้าบ้าน หน้าคมแดงก่ำหลังย้อนคิดถึงภาพความประทับใจ ที่ทำให้เธออยากแทรกแผ่นดินหนี

จูบเก่งขนาดนี้คงทำบ่อยล่ะสิท่า...นี่ฉันคิดอะไรอยู่ น่าอายจริงๆ

ไม่พอ

ใจเต้นรัวกอดแก้ว กานดา

ดวงเนตรคมเจิดจ้า แจ่มแจ้ง

ประคองลูบจูบเจ้า บ่เบื่อบ่หน่าย

ขับเคลื่อนรุกแสร้ง แลกลิ้น ไม่พอฯ.

OoxoO

ขอบคุณที่กรุณาติดตาม ตอนหน้าจะลงเป็นตอนสุดท้ายนะคะ

ถ้าชอบอุดหนุนนักเขียนได้ด้วยการ โหลดซื้อ E-book ได้ที่ MEB ลิงค์ขวามือบน หรือสั่งหนังสือได้ที่ ลิงค์สินค้า ซ้ายมือค่ะ

นาง ^^

OoXoO




 

Create Date : 19 สิงหาคม 2561
0 comments
Last Update : 19 สิงหาคม 2561 15:19:48 น.
Counter : 1169 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

 

นิ้วนาง-เดียนา
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




งานเขียนทั้งหมดใน blog นี้ สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย พระราชบัญญัติ พ.ศ.2537 ห้ามนำไปพิมพ์ เผยแพร่ หรือลอกไปกระทำการใดๆ ก็ตาม หากผู้ใดกระทำการผิด เจ้าของ blog จะเอาผิดท่านตามกฏหมาย ได้ทุกกรณี


[Add นิ้วนาง-เดียนา's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com