กุ๊ดจัง
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 75 คน [?]




ไม่มีสาระ...จริงๆ นะ..

แต่ถ้าหลวมตัวมาแล้ว จะแอบอ่านก้อไม่ว่ากัน ถ้ารับแนวเถื่อนนิดๆ ถ่อยหน่อยๆ แต่จริงใจได้ ^_^

คิดถึง ถูกใจ ก้อเจิมกันสักนิดนุง แต่ถ้าไม่ถูกใจ มาทางไหนเชิญกลับไปทางนั้น ไม่ต้องเม้นไว้ให้เปลืองมือนะ ฮ่าๆๆ
HighStudio

สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์
บทความ โดย littlemiumiu.com อนุญาตให้ใช้ได้ตาม สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ต้นฉบับ.
อยู่บนพื้นฐานของงานที่ www.littlemiumiu.com.
การอนุญาตนอกเหนือจากที่ระบุไว้ในสัญญาอนุญาตนี้ อาจมีอยู่ที่ www.littlemiumiu.com
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2556
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
22 มิถุนายน 2556
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add กุ๊ดจัง's blog to your web]
Links
 

 
Dialogue in Office#1

บัททึกไดอะล็อค ในออฟฟิสครั้งแรก...

จากประสบการณ์ของตัวเองในวงไดอะล็อค ทำให้รู้สึกว่า ชีวิตตรูนี่ ช่างมีปัญหาเรื่องการสื่อสารจริงๆด้วย จะมีคนอื่นเป็นแบบเราไม๊นะ.....
เราเริ่มกลับมาสังเกตรายละเอียดในชีวิตตัวเอง  คนรอบตัว ที่บ้าน ที่ทำงาน โว๊ะ..
ดิชั้นเริ่มรู้สึกว่า บางทีใช้ชีวิตอยู่บนความสุขที่เหมือนจะสุข เพราะบอกตัวเองว่าสุข แต่จริงๆ แล้วเรายอมแพ้ต่อปัญหาไปแล้วเหมือนๆกัน เพราะเราไม่รู้จะแก้มันยังไง หรือเรากำลังไม่รู้ตัวเองว่าเรามีปัญหาเพราะ วันๆ ก็ได้แต่หาเหตุผล โทษดินฟ้าอากาศ ไอ่นั่นก็ไม่ดี ไอ่นี่ก็แย่ นี่ก็ไม่ใช่ โน่นก็ไม่เอา(แล้วเมิงจะเอาอะไรคะ) สรุป ถูกอยู่คนเดียวว่างั้น!  
หรือ คร่ำครวญหวญไห้ ตั้งสเตตัสบ่น กร่นด่า สร้างภาพ อวด โชว์ ซึ่งก็ไม่รู้จะโชว์ใคร โชว์ไปทำไม กับคนที่ไม่รู้จัก จะสนใจสร้างภาพอะไรกันนักหนา 
อ่าว ละนั่น...จะแย่งพูดกันไปไหน ที่ไม่พูด ก็ไม่พูดเลย ที่พูด ก็พูดไม่หยุด
ส่วนนี่ มีปัญหากันละทำไมไม่ไปเคลียร์กะเจ้าตัว เมิงจะเอาเค้ามาพูดลับหลังให้คนโน้นคนนี้ฟัง เพื่อ? 
ทำงาน 5 วัน ประชุมกัน 4 วัน แบบสมองกลวงๆ มานั่งเปิดคอม คนนึงคิดถึงเฟสบุ๊ค คนนึงจิ้มมือถือ แล้วประชุมกัน เพื่อให้รู้สึกว่าได้ประชุม ได้ทำงานละนะ คิดอะไรออก ก็พ่นๆ แย่งกันพูดออกมาไม่ได้สนใจรึใส่ใจจะฟังคนอื่น คนแรกออกทะเล ขอให้กูได้ฟิน คนต่อมาแทนที่จะดึงเอาไว้ ช่วยแจวกันไปอีก สรุป เสียเวลาประชุมไปแบบไม่ถึงฝั่ง คุยเรื่องนึง ได้ผลลัพธ์สำหรับอีกเรื่องนึง ข้อสรุปของเรื่องนึง สุดท้ายวกกลับมาที่เดิมแบบหมดมุข จนใจ ช่วยไม่ได้ เอาวะ คิดไม่ออกละ แบบนี้แหละ จะได้เสร็จๆ
ทำงานกันแบบ รับปากว่าจะทำให้เสร็จ เพื่อให้รอดตายไปวันๆ แล้ว ใช้คำว่า จะพยายาม เพื่อให้ตัวเองและคนฟังรู้สึกดี  Timeline 108 tasks ไม่ได้ช่วยอะไร ถ้ามันไม่เสร็จ ก็คือไม่เสร็จ ไม่ว่าจะบอกว่าพยายามแค่ไหนก็ตาม 
ลูกค้างี่เง่า ทีมงานทำงานช้าไม่เสร็จตามกำหนด พอคนนึงไม่เสร็จ คนอื่นก็ทำต่อไม่ได้ คนนึงทำไม่ได้ บอกว่าเพราะอีกคนทำไม่เสร็จ ย้อนกลับไปวงจรอุบาทว์เดิม คือ ลูกค้างี่เง่าอีก เราไม่ได้มองตัวเองว่า เราได้ทำหน้าที่ตัวเองเต็มที่หรือยัง เราได้สื่อสารและเข้าใจกันอย่างที่ควรจะทำหรือเปล่า ถ้าเราสื่อสารให้คนอื่นเห็นความสำคัญของสิ่งที่เรากำลังเผชิญอยู่ตรงหน้าจริงๆ ทำไมคนอื่นถึงไม่เข้าใจและไม่เห็นความสำคัญเดียวกับเรา ตกลง การทำงาน เรามีเป้าหมายอันเดียวกันหรือเปล่า ไอ่ที่เราบอกเต็มที่ของเรานั่น ข้ออ้าง หรือ เหตุผล หรือ สิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆ 
ละดิชั้นก็เป็นเจ้านายนิสัยเสีย ทำเป็น แต่สอนไม่เป็น แล้วปกติทำ ก็ไม่เคยมานั่งคิดว่า ทำทำไม ทำเพราะอะไร เป็นคนคิดเร็วมาก เยอะมาก ต้องทำอันไหนก่อนหลังยังไง ใช้สัญชาติญาณล้วนๆ เลยสอนไม่ได้ บางครั้งดิชั้นก็จะฟิน แอบนั่งดูหายนะของลูกน้องเงียบๆ แบบว่า กุเตือนละ เห็นมะๆ ซึ่ง ก็ไม่ได้ช่วยให้ไรดีขึ้นมาเลยนะ Smiley

คิดไปคิดมาหลังจากหวั่นๆ ว่าจะไหวหรอวะ  แต่ก็ลองดู มีแนวร่วมเห็นด้วย เลยเลือกนำเสนอ Dialogue มาลองกับออฟฟิส น่าจะเบาๆ สบายๆ ที่สุด มีพื้นที่ปลอดภัยให้คนที่พร้อมและไม่พร้อม ด้วยรักและหวังดีเหมือนว่าเป็นครอบครัวเดียวกัน นอกจากเรื่องของการสื่อสารในที่ทำงานแล้วมันเป็นทักษะการใช้ชีวิตที่ติดตัวทุกคนไปได้ตลอดๆ อีกด้วย ถ้านี่เป็นสิ่งที่เราสามารถทำให้ครอบครัวได้ ก็คงเป็นสิ่งที่ดีมากสิ่งหนึ่งที่จะเสนอให้  คนรับรับได้มากน้อยแค่ไหน ชอบไม่ชอบ ดีไม่ดียังไง สุดแท้โชคชะตาละกัน

สำหรับวันแรก ของ Beginner ทั้งที่เคยฟังมาแล้วก่อนหน้านี้ แต่ก็คิดว่าไม่เหมือนกัน ยังอยากมาฟังพร้อมกับทุกคนอีกครั้งนึง ด้วยความที่เป็นคนนำเสนอไดอะล็อคเข้ามาในองค์กร  เลยรู้สึกแอบตื่นเต้น อยากฟังความคิดเห็น สีหน้า แววตา สิ่งที่ทุกคนได้รับ ได้สัมผัส ว่าเป็นยังไงบ้าง  ถึงจะลงเครื่องบิน ถึงบ้านตีสี่ ลากสังขารมาแบบง่วงๆ ท้องไส้ปั่นป่วน เหมือนไข้จะจับ ก็เอาวะ 
ช่วงเช้าดูสนุกสนานดี เหมือนจะเริ่มเห็นอะไรบางอย่างร่วมกัน (อาจจะคิดไปเองคนเดียว) ทุกคนเริ่มมองเห็นตัวเองลางๆ เริ่มมองเห็นความสำคัญของการฟัง  เริ่มมองเห็นว่า ที่ผ่านมา เราได้ทำร้ายคนอื่น จะคนที่เรารัก หรือรู้จัก ไม่รู้จัก ทั้งโดยรู้ตัวหรือไม่รู้ตัวก็ตามไปมากน้อยแค่ไหน เพียงเพราะการตอบโต้ รูปแบบการฟังและการตัดสินคนอื่นของเราเองที่ผ่านมา

พอช่วงบ่าย เป็นการไดอะล็อคจริง
ทั้งง่วงมากกกกกกกก เพลียมากกกกก ไม่สบายตัวอย่างแรง เปนชนวนก่อความหงุดหงิดได้ดีทีเดียว

บางโมเม้นท์ แอบชำเลืองมองผู้ชายข้างๆ เป็นระยะๆ แม๋ กระบวนกรนั่งหัวเราะร่วนเลยเชียว ได้มาอยู่ในวงเม้าส์สาวๆ ฮ่า   ส่วนเรา ทั้งง่วง ทั้งหงุดหงิด นั่งบอกตัวเองว่า นี่ เค้าขนาดบอกก่อนแล้วนะ ว่ากติกาของไดอะล็อคคืออะไร อะไรไม่ใช่ไดอะล็อค มันได้ฟังกันบ้างปะวะเนี่ย.....เวลาผ่านไป ท็อปปิกเริ่มเป็นท็อปปิกเดียว กับบทสนทนาของคนไม่กี่คน พยายามโน้มน้าว เกลี้ยกล่อม สั่งสอน ตัดสิน เม้ามอย  คุยเพื่อจะสร้างความบันเทิงให้คนอื่น โพล่งออกมาเพื่อจะปกป้องตัวเอง บร๊ะ เมิงมากันครบ แย่งกันพูดอีก....ไม่ต่างจากนั่งเม้าส์กันในออฟฟิส แค่เปลี่ยนสถานที่ 

ยิ่งง่วงหนัก หงุดหงิดหนัก  นี่ไม่เหมือนวงไดอะล็อคที่เคยเจอมา เพราะที่ผ่านๆมา มักจะเป็นวงที่คนไม่รู้จัก ไม่สนิทกัน มาคุยกัน เรื่องราวที่สนใจ หรือ ทับซ้อนกัน มีประสบการณ์ร่วมกันจึงอาจจะยังมีไม่มาก และทุกคน  mature พอ ที่จะรักษากติกาไดอะล็อค
คราวนี้ หันไปมองคนข้างๆ อีกรอบ แบบนี้ไม่ใช่ไดอะล็อคงิ  เค้าจะทำไงนะ ไม่ต้องทำไรเลยหรอ....คุณอ๊บนั่งข้างๆ ยังนั่งหัวเราะดังลั่น....มันก็ขำนะ แต่ง่วง ฟังบ้างไม่ฟังบ้าง หลักๆคือ รู้สึกว่า นี่ไม่ใช่ไดอะล็อค ไม่รู้ตัวกันเลยรึไงวะ แล้วตาก็เหลือบไปที่ประตูเป็นระยะๆ.....เดินออกไปนอกห้องตอนนี้เลยดีมะ...ขี้เกียจฟัง เบื่อ 
อีกใจนึงบอกว่า อะ ไม่ได้ๆ อยากรู้ว่า ถ้าเวลานำวง แล้วสถาณการณ์เป็นแบบนี้ จะทำไง

ณ เวลานั้นเอง......อ้าว ละนี่กุจะไปตัดสินอะไรคนอื่นล่ะเนี่ย นี่ไง ก็นิสัยมันเป็นอย่างนี้  เดี๋ยววันนึงก็คงรู้เอง หรือถ้าไม่รู้ ก็สุดแท้แต่ล่ะ ละจะไปคาดหวังอะไร พอรู้ตัวและวางความคาดหวังลง ตั้งใจฟังมากขึ้น ก็เริ่มเห็นว่า เออ อย่างน้อย แบบนี้ก็แย่งพูดกันน้อยลง อย่างน้อย นี่ก็เป็นครั้งแรกของทุกคน อย่างน้อยเราก็ได้คุยกันมากขึ้น รู้จักกันมากขึ้น อย่างน้อยนี่คือ อีกรูปแบบหนึ่งที่แปลกไปจากเดิมของวงไดอะล็อคที่เคยเจอ มันมีความสนิทสนม ใกล้ชิด มันมีความเป็นธรรมชาติ มีสีสัน มีเสียงหัวเราะ มีเสียงของน้องๆ ที่บางคนไม่เคยมีโอกาส ไม่มีจังหวะได้พูด

ตอนเช็คเอ้าท์ เราก็ได้พบความจริงอย่างนึงที่เราแอบด่วนตัดสินคนอื่นไปทีแรก ทำให้ตัวเองหงุดหงิดไปเองว่า สำหรับไดอะล็อคครั้งแรก นี่เป็นความพยายามของทุกคนอย่างสุดๆ แล้วที่จะรู้จัก ยับยั้งชั่งใจ รอจังหวะ แบ่งให้คนอื่นพูด ทุกๆ คนพยายามลองทำงานกับตัวเองเป็นครั้งแรกและได้อะไรไปมากกว่าที่เราคาดหวังว่าจะเห็นในครั้งนี้ด้วยซ้ำ เป็นการทำงานเป็นทีมที่ทั้งองค์กรได้ทำร่วมกันอย่างแท้จริง  การได้สื่อสารซึ่งกันและกัน เหมือนมันมีสายสัมพันธ์บางๆ บางอย่างเริ่มก่อเกิดขึ้นมา มากกว่าเดิม 

อยากหันไปขอบคุณคนข้างๆ คุณอ๊บ กระบวนกรของเราและ กอดๆ ทุกคน...

อืมม...แต่ง่วง และไร้สติ ชิบเป๋ง...โดดขึ้นแทกซี่กลับบ้านนอนดีกว่า 








Create Date : 22 มิถุนายน 2556
Last Update : 22 มิถุนายน 2556 23:24:17 น. 2 comments
Counter : 707 Pageviews.

 
บล็อคนี้น่าไปแชร์ในกรุ๊ปด้วยครับ

ขอวิเคระห์สภาวะของเกดในวันนั้น จากมุมมองของผม

อันดับแรก เราเผลอคาดหวังกับคนใกล้ตัวมากกว่าคนไม่รู้จัก ทำให้ระดับการฟังแบบเปิดกว้างลดลง
อันดับสอง ร่างกายที่ไม่พร้อม ส่งผลให้สติและสมาธิในการฟังลดลง
สุดท้าย การที่เป็นคนแนะนำไดอะล็อคเข้ามาในองค์กร เพิ่มความคาดหวัง(ว่าต้องออกมาดี)ด้วยรึเปล่า

อย่างไรก็ตาม เกดทนสังเกตและอยู่กับความหงุดหงิดได้จนตลอดรอดฝั่ง ทั้งยังเชื่อใจในกระบวนการ ห้อยแขวนและปล่อยให้มันดำเนินไปอย่างไม่จัดการและไม่บังคับควบคุม อันนี้คือการพัฒนาภายในอย่างก้าวกระโดดของเกดเองด้วย (คนทั่วไปเค้าไม่ทนกันหรอกนะ)

การพัฒนาขั้นต่อไปคือ อ่านพลังในวงให้ออกว่า ทุกคนได้แบ่งปันกันอย่างเท่าเทียม ได้ฝึกและได้ประโยชน์กันขนาดไหน ซึ่งวันนี้เราอ่านได้ว่า ทุกคนได้เริ่มต้นแล้ว1ต่างมีส่วนร่วมอย่างเต็มใจและสนุกไปกับมัน ^ ^

ทัศนะจากกระบวนกร: สำหรับวงครั้งแรก แถมเป็นคนที่รู้จักกัน ถือว่ามีระดับความยากกว่าวงปกติ ดังนั้นคุณภาพการพูดคุยในวันนั้นนับว่าดีมากแล้ว ไดอะล็อคแบบ GEN Y จะให้ช้าเนิบนาบแบบวงผู้ใหญ่คงไม่ได้ เพราะไดอะล็อคมีชีวิตและมีธรรมชาติของมันเอง นี่คือมหัศจรรย์ของมันล่ะ ^ ^


โดย: เรือรบ IP: 171.97.20.37 วันที่: 23 มิถุนายน 2556 เวลา:10:17:43 น.  

 
Nice read, I just passed this onto a friend who was doing some research on that. And he actually bought me lunch since I found it for him smile Therefore let me rephrase that: Thanks for lunch!
cheap snapbacks hats //www.waterstoneprojects.com/aboutus.htm


โดย: cheap snapbacks hats IP: 94.23.252.21 วันที่: 3 สิงหาคม 2557 เวลา:21:31:53 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.