กุ๊ดจัง
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 75 คน [?]




ไม่มีสาระ...จริงๆ นะ..

แต่ถ้าหลวมตัวมาแล้ว จะแอบอ่านก้อไม่ว่ากัน ถ้ารับแนวเถื่อนนิดๆ ถ่อยหน่อยๆ แต่จริงใจได้ ^_^

คิดถึง ถูกใจ ก้อเจิมกันสักนิดนุง แต่ถ้าไม่ถูกใจ มาทางไหนเชิญกลับไปทางนั้น ไม่ต้องเม้นไว้ให้เปลืองมือนะ ฮ่าๆๆ
HighStudio

สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์
บทความ โดย littlemiumiu.com อนุญาตให้ใช้ได้ตาม สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ต้นฉบับ.
อยู่บนพื้นฐานของงานที่ www.littlemiumiu.com.
การอนุญาตนอกเหนือจากที่ระบุไว้ในสัญญาอนุญาตนี้ อาจมีอยู่ที่ www.littlemiumiu.com
Group Blog
 
 
กุมภาพันธ์ 2556
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
2425262728 
 
17 กุมภาพันธ์ 2556
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add กุ๊ดจัง's blog to your web]
Links
 

 
Lesson 1 : From Dialogue

เป็นเรื่องราวที่อยากจะบันทึกไว้ เผื่อวันหน้าจะได้กลับมาอ่าน

เมื่อวานนี้ค่ะ เราไป workshop dialogue มา....ก่อนหน้านี้ รู้สึกตัวเองหมดไฟไปสักพักใหญ่ๆ หลังจากลุกโชนมาพักนึง รู้สึกว่ามีเรื่องมากมาย หลายอย่างให้คิด ให้ทำ แต่สุดท้าย หลากหลายปัญหาสะสมอยู่ เราเลือกที่จะหันหน้าเข้ากำแพง ทำเป็นไม่รับรู้ ไม่สนใจ เหมือนว่ามันไม่มีตัวตน  เชื่อว่า หลายๆ คนที่บอกตัวเองว่า อ๊า...ฉันมีความสุขจังเลย ฉันมีความสุขในทุกๆวัน ฉันมีงานที่รัก มีครอบครัวที่มีความสุข มีเงินทองใช้ ได้ไปเที่ยวโน่นนี่ แต่เชื่อว่าทุกคนจะมีเรื่องบางเรื่อง ปัญหาบางปัญหาที่เข้ามาในชีวิต แต่เราเลือกที่จะเดินหนี มองผ่านมันไป แล้วก็ยังบอกตัวเองว่า ฉันเป็นคนมีความสุข 

มีพี่คนนึงส่งคำเชื้อเชิญมาทางเฟสบุ๊ค หลังจากอ่านรายละเอียดคร่าวๆ ก็ตัดสินใจไปละกัน ถึงแม้จะไม่เคยรู้อะไรมาก่อนเลยเกี่ยวกับ dialogue (ภาษาไทยเรียกว่า สุนทรียสนทนา) ดูเหมือนว่า วัตถุประสงค์ของ dialogue คือ สิ่งที่เรากำลังอยากรู้ ตามหาอยู่ จาก workshop คุณ Gil ครั้งก่อน ที่จ่ายตังค์เรียบร้อย ตัดคิวเป็นมั่นเป็นเหมาะ แต่พลาดไปเพราะมิวมิวเป็นไข้เลือดออกเข้า รพ.วันนั้นพอดี 

ถึง ณ ตอนนี้ ก็ต้องบอกก่อนเลยว่า ยังไม่สามารถเอ่ยปากได้ว่า รู้จัก dialogue  ไม่เคยอ่านหนังสือ ไม่เคยหาข้อมูลอะไรมาก่อน เป็นความรู้สึก จากประสบการณ์  1 วัน 8  ชั่วโมง ในร้านกาแฟ กับมนุษย์อีก  20 กว่าชีวิตที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน

สุนทรียสนทนา ชื่อก็พอจะเดาออกได้เลาๆ แค่ไปฟังมาครั้งเดียว คงจะไม่ซาบซึ้ง หรือบอกความหมายมันได้ละเอียดนัก หลายคนอาจจะรู้ดีกว่า หรือรู้จักกันมาบ้างอยู่แล้วก็ได้ 
คอนเซปของไดอะล็อค คือ การฝึกฝืนตัวเองให้เป็นผู้ฟังที่ดี ฟังคนอื่นอย่างตั้งใจ เข้าใจ ไม่ตัดสิน 
ฟังเหมือนง่ายใช่ป่าว......ทีแรก เราก็คิดว่า อะไรวะ แค่คนเราคุยกันในวงสนทนา จะคุยกันดีๆ ไม่น่าจะเป็นเรื่องยาก
แต่ไม่ใช่....
สำหรับการสังเกตตัวเอง...ด้วยอาชีพการงาน ทำให้ต้องเจอคนเยอะแยะมากมายยย....จนรู้สึกว่า การคุยกัน เป็นเรื่องธรรมดา การพบปะคนใหม่ๆ เป็นเรื่องธรรมดา และสบายมาก เจอหน้ากัน คุยกัน แล้วก็ผ่านเลยไป บทสนทนาต่างๆ ที่ผ่านเข้ามา และตอบกลับไป บางอย่าง เป็นเหมือนระบบอัตโนมัติ 
หรือหลายๆ คนที่เวลาคุยกับคนอื่น แล้วมักจะชอบตัดสิน แค่คนอื่นอ้าปากจะพูด ขึ้นต้นมาประโยคแรกเราก็เดาไปถึงตอนจบได้แล้ว เนื้อหาสาระสำคัญตรงกลางๆ เราได้แค่ฟังผ่านๆ ไป เพราะ กูรู้ละ ว่าจะตอบมันว่าอะไร หรือแม้แต่บางครั้ง ไม่ทนฟังให้จบเลยด้วยซ้ำ ตัดบทซะ แกก็แค่ไปทำแบบนี้ๆ สิ

ถ้าเรานั่งสมาธิ เราอาจจะได้รู้จักตัวเอง อย่างค่อยเป็นค่อยไป ใคร่ครวญ
แต่ในวงไดอะล็อค เราจะได้รู้จักตัวเอง ใน 360 องศา  ขอบอกว่า เป็นแค่ รู้จักมากขึ้น แต่การรู้จักมากขึ้นไม่ได้แปลว่าจะเข้าใจมากขึ้น  หลังจากกลับมาบ้าน เมื่อจบสิ้น workshop รู้สึกว่า เออเรารู้จักตัวเองดีขึ้น แต่ที่ผ่านมา ที่เราคิดว่าเราเข้าใจตัวเอง เรากลับไม่เข้าใจซะฉิบ.....ตัวเราในมิติของคนอื่นเป็นอีกแบบหนึ่ง ในขณะที่ตัวเราเอง ที่เราเห็นตัวเองในกระจก เป็นอีกแบบหนึ่ง
เหตุผลต่างๆ นาๆ ที่เราเคยใช้สนับสนุนการกระทำของตัวเอง เพื่อให้ตัวเองถูกและดูดี.....
เหมือนลูกโป่งที่มีลมอยู่ เป่งพองเต็มที่ ฉันมั่นใจว่าฉันทำถูกแล้ว

ในขณะเดียวกันมีคนสะท้อนตัวเราเองในอีกมิตินึงออกมา ในวงไดอะล็อค จะมีคนที่เหมือนเป็นขั้วตรงข้ามกับเราอยู่ หรือแต่ละคน จะมีประสบการณ์ มีมุมมอง มีความเห็น ความรู้สึกต่อเรื่องเรื่องเดียวกันที่แตกต่าง ประสบการณ์ที่เราต่างเจอมา ถึงแม้จะคนละสถาณการณ์กัน แต่ด้วยพื้นฐานความเป็นมนุษย์ จะมีบางอย่างที่เป็น emotional  ขับเคลื่อนเหตุการณ์นั้นคล้ายๆกัน ความต้องการของมนุษย์ ต้องการความรัก การเป็นที่ยอมรับ การปกป้องดูแล เราไม่สามารถตัดสินว่า ใครถูก ผิด ขาว ดำ ฉันดีกว่าเธอ ฉันถูกกว่าเธอ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม เพศ อายุ ประสบการณ์ ในเมื่อทุกคน เท่าเทียมกัน เพราะทุกคน เป็นมนุษย์ ที่มีความต้องการพื้นฐาน เหมือนๆ กัน

การที่มีคนมาบอกว่า....ฉันเคยเจอคนทำกับฉันเหมือนที่ เธอเคยทำ แต่ฉันรู้สึกแย่มากๆ
หรือมีคนบอกว่า เหตุผลลึกๆที่เราพูดออกมาแบบนี้ มันมีแรงขับเคลื่อน หรือมีความหมายต่อผู้ฟังมากกว่าความหมายตรงๆ ตามตัวอักษร....
มันอาจจะเหมือนเป็นข้ออ้างที่ฟังให้ตัวเองดูดี แต่เหมือนมีเข็มมาจิ้มลูกโป่ง ให้แตกดังโพล๊ะ....อ๊า...
ฉันเพิ่งเคยเห็นเงาตัวเองในกระจกหลายๆ บาน
บางที ปัญหาที่เราเอาตัวเองเข้าไปขลุกอยู่ คิดว่าเป็นเรื่องใหญ่มาก สำหรับคนอื่นที่เคยผ่านมาแล้ว เขาก็จะคิดว่า ง่ายๆ เธอก็แค่ทำแบบนี้ แบบนั้นสิ

เรื่องที่เราแชร์ไป ทำให้หลายคน หลุดจากกติกา ไดอะล็อค เผลอให้คำแนะนำ ชี้แนะ โน้มน้าวกันเป็นแถบๆ  

แต่มีเรื่องหนึ่งที่ได้เรียนรู้เพิ่มคือ เมื่อเวลาเราฟังใครเขาพูดถึงปัญหาของตัวเอง.....เราไม่ควรบอกทางแก้ไข หรือชี้แนะ ถ้าไม่จำเป็น  จริงๆ นะ ถ้าเขาไม่ได้มาขอความช่วยเหลืออย่างแท้จริง คนส่วนมาก เอาเข้าจริงๆ แล้ว มักจะรู้แหละว่าปัญหาที่เกิดขึ้น ต้องทำยังไง แก้ยังไง เพียงแต่ ความยากที่สุดคือ กล้าที่จะเผชิญหน้ากับมันตรงๆ และรับผลที่จะตามมา

แบบที่คุณเรือรบพูดเปี๊ยบบบบ...ในฐานะคนที่ มีคนอื่นมาชี้แจ้ง และบอกว่า ปัญหาของเธอน่ะ เล็กนิดเดียวเองฉันเคยเจอมาก่อนละ เพียงแค่.....@#$#$%%%  กลไกต่างๆ จะเริ่มทำงานทันที....อ่า...กูยังเล่าไม่จบเลย นี่มันเป็นแค่เศษเสี้ยวของชีวิตฉัน เธอฟังแค่นี้แล้วบอกว่าปัญหาเล็กหรอ....ถ้าแค่พูดมันออกไป ถ้ามันพูดกันได้ง่ายฉันคงไม่ต้องมานั่งคิดมากปวดกะบาลสินะ
อีกคนในหัว เริ่มพยักหน้าหงึกๆ รับรู้ รับฟังสิ่งที่คนอื่นพูดมา....หรือว่า ปัญหาเรามันจะขี้ผงจริงๆ วะ....ใครๆ ก็เคยเจอ ปัญหาที่เราคิดว่าคอขาดบาดตาย ทีแท้ ยังมีคนลำบากกว่าเราอีกตั้งเยอะ ลองดูสักตั้งก็ไม่เห็นจะเป็นไร 

วันหลังใครมาปรึกษาอะไร จะต้องตั้งใจฟัง ใส่ใจ และ งดให้คำแนะนำแบบพล่อยๆ ชนิดที่คิดว่า ปัญหาเมิงนะ เล็กนิดเดียวเอง ทำแบบนี้ๆ นิ กูผ่านมาแล้ว เพราะอันที่จริงนั้น ไม่มีใครเหมือนใคร เหตุการณ์ไหน เหมือนกันเลย  มนุษย์ทุกคนมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง นี่คือเหตุผลว่า ทำไมเราถึงต้องเรียนรู้ที่จะฟังให้เป็น และ ฝึกที่จะลดอัตตาตัวเอง ยอมรับ เข้าใจตัวเอง และเผื่อแผ่ไปถึงคนรอบข้างด้วย 

ถ้าบอกว่า การนั่งสมาธิ คือการกำหนดสติให้รู้ตัว จับความรู้สึกตัวเองให้เท่าทันปัจจุบัน
ไดอะล็อค ก็เป็นอีกวิธีการหนึ่ง ที่จะลดอัตตาตัวเอง จับความรู้สึก กำหนดรู้ ความรู้สึก โดยมีสิ่งกระตุ้นเป็นผู้คน และเรื่องราวในวงไดอะล็อค.....เหมาะสำหรับคนซาดิสม์ จริงๆ ด้วย T_T

เมื่อวานกลับมาบ้าน แบบมึนๆ เหมือนลูกโป่งโดนจิ้มแตกดังโผละ อย่างที่บอก...
แล้วก็ไม่รู้จะเล่าให้ใครฟัง คนที่จะอิน และเข้าใจเรื่องอะไรแบบนี้ได้....สุดท้ายเลือกนางสวยมั่นผู้เคราะห์ร้ายได้หนึ่งนาง นางว่า นางธรรมะธรรมโม  55555

ก็คนมันแบบ เสีย self พอประมาณ ถึงแม้บางเรื่องจะรู้ว่าที่ทำๆ ไป อาจจะทำร้ายจิตใจใครไปบ้างไม่มากก็น้อย (แค่คนเหล่านั้นมันก็ไม่ได้พูดออกมา)
และมีอีกหลายเรื่อง ทีทำไปแบบไม่รู้ตัว หรือทำไปแบบมีข้ออ้างสวยๆ ให้ตัวเอง
บางเรื่องเป็นเรื่องจุกจิก จ๊อกแจ๊ก บางเรื่องเป็นเรื่องใหญ่ ไปจนถึงเรื่องของความคาดหวังในตัวคนอื่น

แล้วก็นึกขึ้นมาได้ว่า ที่เรามานั่งกลัดกลุ้มทั้งหลายทั้งปวง ส่วนนึงเกิดจากการที่เราลืมคิดไปว่า ทีแท้
ไม้บรรทัดของแต่ละคนยาวไม่เท่ากัน ความกว้างถี่ห่างของสเกล แต่ละคนก็ไม่เท่ากัน 
รู้ๆ อยู่ แต่การที่ต้องพยายามเข้าใจคนอื่น เข้าใจตัวเอง และลดความคาดหวังลงแบบไม่เจ็บปวด นี่เป็นเรื่องที่ยากมากซะจริงๆ....



จบ บันทึก dialogue ครั้งที่ 1

จริงๆ แล้ว เป็นคนมีความบกพร่องทางการสื่อสาร  ทั้งการฟัง และการพูดแง๋มๆ 55555








Create Date : 17 กุมภาพันธ์ 2556
Last Update : 22 มิถุนายน 2556 0:14:23 น. 2 comments
Counter : 685 Pageviews.

 
การเริ่มเห็นความน่ารังเกียจของตัวเอง ในการตัดสินผู้อื่น การเริ่มเห็นว่าตัวเองไม่ได้ฟัง นี่่คือก้าวแรกของไดอะล็อค

การเริ่มเห็นว่า ในหนึ่งปัญหา มีหลายมุมมอง มีหลายทางออก มีหลายการรับรู้ตีความ จะทำให้ทุกปัญหา ไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป แต่จะกลายเป็นความท้าทาย ให้เราได้ช้าลงในการมอง และหาคำตอบให้กับมัน

เมื่อรู้จักตัวเองมากขึ้น จะเริ่มเข้าใจตนเอง และจะเป็นหนทางให้เข้าใจผู้อื่นในที่สุด

ขอให้เดินทางอย่างสนุกและระทึกต่อไปครับ


โดย: เรือรบ IP: 103.3.66.19 วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:10:05:48 น.  

 
^_^

55555555 ขอบคุณค่า


โดย: เกด IP: 171.7.135.46 วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:2:03:23 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.