มะม่วง - น้ำปลาหวาน
เมื่อวันอาทิตย์ก่อน ไปเที่ยวบ้านเพื่อนแล้วไปสอยผลไม้นี่มาค่ะ
ต้นมะม่วงสูงชะลูดไปนู่นนนน อายุมะม่วงนานหลายปีมากแล้ว
ในรูปเป็นพันธุ์ น้ำดอกไม้ ... ดาวจ๋าใช้ตะกร้อสอยมาเองค่ะ
ขอบอกว่า ต้องใช้ไม้สอยแบบยาวมากกกก เพราะลูกมะม่วงอยู่ ซู้งงงง...สูง
มือที่ถือไม้สอย สั่นพลั่บๆเลย เหมือนยกเวทเล่นกล้ามอย่างไรอย่างนั้นค่ะ 555
แดดก็ร้อน เหงื่อชุมหลังไปเลยงานนี้
อ่ะนะ ...งานนี้ได้บุญเพียบเลยค่ะ คริคริ
เก็บมะม่วงน้ำดอกไม้มาเยอะมาก เก็บมาบ่ม จะไว้ทำขนมอย่างอื่นค่ะ
ทำเสร็จแล้วจะมารีวิวให้ทราบนะคะว่าทำอะไรไปบ้าง
วันนี้เรามาจัดการเจ้านี่ก่อนค่ะ มะม่วงเขียวเสวย พระเอกของงานวันนี้ ..
ไปสอยไปเก็บมาเองเช่นเดียวกับเจ้าน้ำดอกไม้ค่ะ ..
งานนี้กะไปขนมะม่วงที่บ้านเพื่อนรักมาโดยเฉพาะค่ะ เอิ้กๆๆ
น้ำปลาหวาน จะมีสองแบบ
แบบแรกคือแบบไม่เคี่ยวกับไฟทุกอย่าง
คือทำให้น้ำตาลละลายแล้วใส่เครื่องปรุงผสมๆกัน ก็ทานได้แล้ว ...ก็อร่อยค่ะ
แบบที่สองคือแบบที่ดาวจ๋าทำวันนี้
คือแบบที่นำลงไปตั้งเตาเคี่ยวผ่านความร้อนทุกอย่าง
แบบนี้จะได้ความหอม และความสะอาด เหมาะกับอากาศร้อนๆของเมืองไทย
ทานของสุกแล้ว ท้องไส้จะไม่ปั่นป่วน
และอีกอย่างหนึ่งก็คือ ดาวจ๋าทำแบบมากมายเป็นหม้อๆเพราะจะทำไปถวายเพลพระค่ะ
กลัวพระบางรูปที่ฉันแล้วอาจเสาะท้อง เลยใช้สูตรแบบที่สองดีกว่า
...ส่วนผสม...
มะม่วง จะเป็นมะม่วงเปรี้ยว มะม่วงมัน ก็ได้
วันนี้ดาวจ๋าใช้มะม่วงมันไม่ใช่มะม่วงเรา 555 (เขียวเสวย) นะคะ
น้ำตาลปีบ หรือเป็นน้ำตาลโตนด น้ำตาลมะพร้าวยิ่งดี
น้ำปลา (ขอให้เป็นน้ำปลาอย่างดีหน่อยค่ะ จะได้หอมๆ เป็นน้ำปลาหวาน)
กุ้งแห้ง ปริมาณตามชอบ
หอมแดง ปริมาณตามชอบ
พริกขี้หนู
ผักชี ไม่ต้องมากนัก(บางสูตรก็ไม่ใส่กัน แต่ที่บ้านดาวจ๋าใส่อ่ะ)
ปอกหอมและซอยให้ฝอยๆ ..พักไว้ ..
ใส่เยอะน้อยแค่ไหนก็กะๆเอาค่ะ ...ดาวจ๋าไม่ได้ชั่งตวงเป็นกรัมไว้
ตำกุ้งแห้งให้เนื้อกุ้งแห้งมันฟูๆ .. บางสูตรเขาจะตำจนฟูๆไม่เป็นตัวกุ้ง
แต่ดาวจ๋าชอบแบบเป็นตัวๆค่ะ เวลาทานแล้วอร่อย ได้เคี้ยวเนื้อกุ้งไปด้วย
ซอยพริกขี้หนู..ปริมาณที่ใส่ตามความชอบกันนะคะ
ใส่แต่น้อยๆแล้วค่อยๆเติมทีหลังก็ได้ จะได้ไม่เผ็ดนักค่ะ
เคี่ยวน้ำตาลให้ละลายไปสักพัก อาจจะใส่น้ำเปล่าลงไปสัก 1-2 ช้อนโต๊ะค่ะ
ความจริงไม่ใส่น้ำก็ได้ เพราะเด๋วเราต้องเติมน้ำปลาอยู่แล้ว
เด๋วน้ำปลาหวานจะไม่ข้นๆเหนียว ๆ .. ดาวจ๋าชอบให้ข้นๆเหนียวๆค่ะ
ใส่น้ำปลา ..ด้วยน้ำตาลที่เห็นหลายๆก้อนในหม้อนั้น
ดาวจ๋าเติมน้ำปลาลงไปประมาณ 15 ช้อนโต๊ะ ค่ะ
(น่าจะจำไม่ผิด ยังไงก็ลองชิมกันดูนะคะ ว่าชอบรสชาติแบบไหน)
เคี่ยวน้ำตาลให้เดือดไปสักพัก น้ำตาลจะใสๆแล้วเริ่มหนืดๆ ก็ใส่กุ้งแห้ง
ใส่หอมแดงลงไปค่ะ
ใส่พริกขี้หนูที่ซอยไว้ลงไป ใส่ตามชอบเลยค่ะ
ใส่ผักชีซอยลงไป แล้วคนให้เข้ากัน
เสร็จแล้ว ปิดไฟได้เลยค่ะ
รูปหมดเท่านี้เองค่ะ
ดาวจ๋าใส่น้ำปลาหวานในถุงและปอกมะม่วง ฝานเป็นแผ่นบางๆไปถวายเพลพระทั้งหมด
มีเกร็ดฮาๆ เล่าแถมท้ายว่า .. ดาวจ๋าฝานมะม่วงเป็นชิ้นบางๆ แล้วจะมีเม็ดมะม่วงเหลืออยู่
ดาวจ๋าก็คิดแบบเราว่า ให้พระแทะเม็ดมะม่วงอร่อยๆเหมือนเราน่ะ เนอะ
แต่มารู้เมื่อพระ(เพื่อน)บอกว่า พระทำแบบที่ดาวจ๋าตั้งใจไว้ไไม่ได้หรอก
พระจะมาถือขนมถือของถือเม็ดมะม่วงแล้วแทะแล้วฉันไม่ได้ค่ะ
.....อ้าวววว...กำแล้วตรู
พระจะต้องหักต้องตัด ต้องตักอาหารให้พอดีคำแล้วทานเข้าไปค่ะ ..
อย่างข้าวโพดฝักก็จะถือมาแทะแบบเราไม่ได้ ต้องแกะทีละเม็ดแล้ววางฝักไว้ในจาน
หรือฝานเอาแต่เนื้อข้าวโพดอะไรประมาณนั้นให้พระท่านฉันได้..
เป็นความรู้ใหม่ๆของดาวจ๋าเลยค่ะ ... แห่ะๆ
เราก็นะ คิดว่าพระคงได้แทะเม็ดมะม่วงอร่อยไปแระ ..
หูยยย ..รู้อย่างงี้เก็บไว้แทะเองดีกว่าเนาะ ... เอิ้กๆๆ
ขอให้เพื่อนๆมีความสุขมากๆ
พบกันใหม่บล็อกหน้า บายๆกิ๊วๆนิ
แวะมาทักทายตอนดึกๆจ้า