Coke กับ Pepsi

ถ้ามีใครถามฉันว่า.... ชอบกิน Coke หรือ Pepsi ...

คำตอบของชั้น คือโค้ก เพราะชอบในความนุ่ม ไม่บาดคอ ของ ของเหลวสีดำๆ
ที่เค้ามักเรียก กันว่า"สีโค้ก" จนสาวๆ หลายคนเวลาไปโกรกผม ยังบอกขอสีโค้ก
ไม่ยักเห็นมีใคร บอก ขอโกรกผม"สีเป๊ปซี่"เลย ???

วันนี้จะมาเล่าเรื่อง ของเหลวสีดำๆ หวานๆ อัดแก๊ส คาร์บอนไดออกไซค์(CO2)
ให้ฟังแล้วกัน

หมุนนาฬิกาย้อนเวลาไป30ปี Pepsi เนี่ย เป็นแบรนด์ที่คนอเมริกันรู้สึกเชยและบ้านนอก ในขณะที่Cokeเป็นตัวแทนของคนอเมริกัน

ความเชยของเป๊ปซี่ถึงขนาดว่าแม่บ้านไม่กล้าเอาเป๊ปซี่ออกมาเลี้ยงแขก
ต้องเทใส่แก้ว ไม่กล้าเสริฟขวด กลัวคนเม้าส์ ว่ามีรสนิยมเชย

เป๊ปซี่วางแผนการตลาดทุกอย่างแต่ไม่รุ่ง
ในขณะที่โค้ก มีพลังของแบรนด์ที่แข็งแรงเหมือนกำแพงเมืองจีน

มีอยู่วันนึงแผนกการตลาดของเป๊ปซี่ทำการวิจัยแบบ Blind test บอกว่าคน

อเมริกันชอบรสชาติของเป๊ปซี่มากกว่า ( ในฐานะที่ทำอาชีพเกี่ยวกับบริษัทยาพอจะมีความรู้เรื่องการอ่าน paper วิธีทำการทดลองอยู่บ้างขออนุญาติ อธิบายนะคะ-->blind test มันก็เหมือนกันเราทำการทดลองโดยใช้ของ 2 สิ่งที่เราไม่รู้มาก่อนว่าคืออะไร คนกินก็ไม่รู้ว่าแก้วไหนเป็นโค้ก แก้วไหนเป็น เป๊ปซี่)

เป็ปซี่เปลี่ยนวิธีโฆษณาโดยเลิกเล่นเกมบน Platfrom ของการสร้างภาพพจน์แบรนด์มุ่งประเด็นไปที่เรื่องรสชาติ


pepsi ใช้ผลวิจัยมาพัฒนาเป็นคอนเซป โฆษณาชุด Pepsi challenge

โฆษณาชุดนี้ถ่ายทำแบบ Candid camera แอบถ่ายผู้บริโภคขณะทดสอบดื่ม

pepsi และ coke และเสียงโฆษกเข้ามาตอนท้ายถามว่าชอบแก้วไหนมากกว่ากัน

คำตอบคือ แก้วดำๆนั้นคือเป๊ปซี่

"เป๊ปซี่ทิ้งคำถามให้คนคิดว่าจะเชื่อสมองหรือลิ้นตัวเอง"

จากนั้นการยิงโฆษณานี้ก็ได้ป่วนไปทั่วทำให้ยอดขายโค้กลดลงเรื่อยๆ
แม้โค้กจะพยายามคิดสูตรใหม่.....
ก็ยังไม่สามารถกู้จลาจลนี้ให้กลับมาเหมือนเดิมได้

โค้กที่เรากินทุกวันนี้เรียกว่า Coke Classic
ส่วนโค้กที่คิดสูตรมาใหม่ชื่อว่า New coke (ซึ่งไม่มีแล้ว)
คนที่รักโค้ก ไม่ยอมให้เปลี่ยนสูตรโดยเฉพาะที่เมือง Atlanta ซึ่งเป็นสำนักงานใหญ่ของ Coke

ผลงานทั้งหมดสร้างความ ภาคภูมิใจ ให้กับ อดีตCEO Pepsi
ที่ชื่อว่า....... Roger Enrico

ที่บ่นมาก็ไม่ได้มีอะไรมากค่ะ พอดีนั่งกินโค้กอยู่ เลยนึกอยากเขียนขึ้นมา เฉยๆค่ะ ^^

Create Date : 09 กรกฎาคม 2553		3 comments
Last Update : 22 สิงหาคม 2553 13:45:02 น.
Counter : 335 Pageviews.
Share Tweet