Group Blog
 
<<
กันยายน 2553
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
28 กันยายน 2553
 
All Blogs
 

"เชียงคาน นานนะเธอ"

เขียนไว้นานมากแล้ว เพิ่งเอามาลง
ไป เชียงคานกันไหม?

ไม่ ได้มีใครถาม ไม่ได้มีใครชวนหรอก แต่โน้ตไว้ในไดอะรี่ แปะวันเวลาไว้กับปฏิทิน ตกลงกับตัวเองว่า...ตั้งใจจะไปไหนสักแห่ง...ในมุมเงียบ ไม่วุ่นวายสักสามสี่วัน จะว่าไปแล้ว เป็นผู้หญิงก็ยุ่งยากมากหน่อยกับการเดินทางแบกเป้ เดินเดี่ยว ขาดบอดี้การ์ดประชิดตัว แต่ เรื่องใจ..ไม่ต้องห่วง !!!ใจใครก็ใจใคร...

คนเราออกเดินทางด้วยเหตุผลต่างๆ กัน ...ผจญภัย ...พบเจอ...สังสรรค์... ผ่อนพัก..หยุดนิ่ง..และทบทวน บางทีนั่นก็เป็นความสุขแล้วสำหรับคนบางคนกับปลายฝนต้นหนาวท้ายปีในเดือนหมอก ห่มคลุม ออกจากสังคมเมืองวุ่น เอ็มพี 3 เพื่อนคู่หู ทำงานตั้งแต่ รถประจำทางออกเคลื่อน หลับๆ ตื่นในห้วงฟ้ามืด กว่า 8 ชม. ก็ถึง...เชียงคาน อำเภอเล็กๆ ติดชายแดนไทย-ลาว เลียบลำน้ำโขง อีกหนึ่งอำเภอของจังหวัดเลย


ความช้า ง่ายๆ ไร้พิธีรีตอง ผู้คนไม่ขวักไขว่ ร้านรวงบ้านช่องยังคงดิบเดิม บ้างเป็นไม้ทั้งหลัง ประตูบานเฟี้ยม เก้าอี้แคร่ตัวย่อมวางอยู่หน้าบ้านเหมือนๆ กัน เรื่อยเดินไปถึงริมฝั่งโขง

สิ่ง ที่อยู่ปรากฏตรงหน้า ทำเอาสะกดใจซะอยู่หมัด ให้ตาย!! นั่นมันหมอกใช่มั้ยนะ ? หันรีหันขวางสำรวจรอบๆ ให้แน่ใจว่า ไม่ได้มีใครพร้อมใจก่อควันไฟกันต้มยำทำแกงเป็นประชาคมในตอนนี้ ยาม นี้อากาศที่ห่อหุ้มเราอยู่น่าจะราวๆ สัก 10 องศาเห็นจะได้ ที่หนาๆ คละคลุ้งคลุมผืนน้ำ แทบจะมองไม่เห็นอะไรเลย นั่นคือ หมอก หมอก และก็หมอก ไม่นานนัก...แดดยามสายเริ่มตื่น มองเห็นสายน้ำไหลเอื่อย หลายชีวิตทอดตัวอยู่บนผืนน้ำสีทอง...เรื่อยมอง หมู่บ้านเล็กๆ ริมโขงที่ผสมผสานและหน่วงเหนียวอะไรไว้มากมาย ความไม่รีบเร่ง ความเงียบของที่นี่ ทำให้บางคนแถวนี้ใจไหวๆ คิดถึงบ้านเก่าและคิดถึงใครบางคน...

ราวๆ 8 โมงเช้า ผู้คนเริ่มออกมาทำสัมมาอาชีพ ปั่นจักรยานไปตลาด บางบ้านมีหญิงชราจับกลุ่มนั่งสนทนา รอใส่บาตรข้าวเหนียว วัฒนธรรมที่ปฏิบัติต่อๆ กันมาเป็นอาจิณ เดินไปบ้านไหน..ก็มีแต่คนส่งยิ้มให้..ทักทายพูดคุย ราวกับรู้จักมานาน มากไปกว่านั้น...เชียงคานมี “ภูท่อก” จุดชมวิวขึ้นชื่อ เหมาะกับการขึ้นไปอาบลมห่มหมอก เป็นมนต์เสน่ห์อีกจุดราวกับได้ไต่ฟ้า ยืนใกล้เมฆ “สวย”...บอกได้แค่นี้คำเดียว...แค่นี้จริงๆ

ไม่ไกลจากนั้นมี “แก่งคุดคู้” ทะเล สันดอนทรายที่ในยามน้ำแห้ง สามารถลงไปเดิน ตั้งเก้าอี้ นอน นั่ง ได้สบายชีวี ที่นี่เป็นแหล่งพักผ่อนของคนมาเยือนเชียงคาน แถมมีร้านค้า ร้านอาหารพื้นเมืองให้ได้เลือกชิมเลือกชม เด็ดสุด น่าจะเป็น “มะพร้าวแก้ว” สุดอร่อย ขึ้นชื่อติดดาว

ยามเย็นหลังแดดเริ่มลดทอนความ กร้าว...ถนนตัวหนอน เลียบน้ำโขงกลายเป็นถนนมิตรภาพ มีทั้งเด็กเล็กวิ่ง เดินเล่น กลุ่มแม่บ้านตั้งวงคุยริมรั้วลำน้ำโขง บ้างบ้างเดิน-วิ่ง หาความกระปรี้กระเปร่าให้ร่างกาย บ้างตั้งวงกินข้าวยามเย็นรับตะวันคล้อยตกดิน

ฉากหลัง...ที่เห็นเป็นสายน้ำโขง สีชมพู อมม่วง...มองด้วยตาเปล่า แทบไม่เชื่อว่านี่คือภาพจริง...เชียงคานน่าจะเป็นอีกเมืองผ่านที่ไม่ควรเลย สำหรับคนกล้าเหงา เพราะที่นี่มีรอยจาง-จาง ของความเก่าหล่อเลี้ยงหลายต่อหลายลมหายใจ เชียงคานมีคนใจดี ทุกซอกทุกมุม ยิ้มส่ง ยิ้มรับ ถึงกันไม่มีเขิน....ที่นี่ปะปนระหว่าง คนเดินช้า กับคนเดินเร็ว คนใจดีต่อหน้าและคนใจดีลับหลัง ทุกอย่างดำเนินไม่ว้าวุ่นเหมือนเมืองกรุง มีแต่กลิ่นฟุ้งๆ ของความเป็นมิตรที่ไม่อยากให้ใคร มาเทสี....ความเปลี่ยนแปลง

*ท้ายที่สุดขอให้เชียงคาน อยู่ในเสน่ห์ที่ไม่ต้องแต่งเติม ไร้ข้อแม้...อย่างนี้ ไปนาน นาน...




 

Create Date : 28 กันยายน 2553
0 comments
Last Update : 28 กันยายน 2553 22:53:52 น.
Counter : 600 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


อ. อะตอม
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




My Style... My Opinion... My Life... My Love...

MusicPlaylist
Music Playlist at MixPod.com
Friends' blogs
[Add อ. อะตอม's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.