พฤศจิกายน 2558

2
3
4
5
6
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
All Blog
แกงส์ พธ. เยี่ยมบ้านบู่ (ตอน 1)
 ก่อนอื่นต้องขอเตือน ใครที่ถ่ายรูปสวย มีบ้านที่น่าอยู่ มีสถานที่ ที่น่าไป ถ่ายแล้วกรุณาเก็บไว้ดูคนเดียว ถ้าเมื่อใดที่คุณโพส แล้วมีกลุ่มแกงส์นี้ เข้าไปส่องเมื่อไหร่ ความหายนะ ความสงบสุข ของคุณจะหมดไปแน่ ๆ Smiley


จุดเริ่มต้นของทริปนี้ ก็คือ เจ้าบ้าน เค้าก็โพส รูปเค้าเป็นปกติ ในหน้าเฟสเค้า แต่ได้มีชะนีนางหนึ่ง นี่สิ เข้าไปเริ่มก่อน ทริปเยี่ยมเพื่อนเก่า พธ. จึงเกิดขึ้น ณ บัดนาว  Smiley


SmileySmileySmiley





นังอ๋น เริ่มก่อนใครเลย (เค้าโพส รูปวิว แต่มันถามหาบ้านเช่า 555)




 เพื่อนบู่ ......  พลาดอย่างแรงส์ ดันไปตอบคอมเม้นท์มัน Smiley




ขาเผือก เริ่มเข้ามาทำงาน หุ หุ Smiley






เฮ้ย ๆๆๆๆ  นี่พวงเมิงสรุปกันเองเลย ถามเจ้าของบ้านเค้าก่อนไหม Smiley




เจ้าบ้านเค้าแย้งมาแล้ว ...... อีนี่ยังด้านจะไปอีก 5555




นังชะนี พวกนี้ มันหน้าด้านหน้าทน ไล่ไปนอนโฮมสเตย์ ยังไม่หยุดความตั้งใจดูมัน ๆ Smiley






เพื่อนบู่ พลาดเป็นครั้งที่ 2 เผลอปากเรื่องที่พัก เลยต้องยอมพ่ายแพ้ แก่นังชะนีทั้ง 2 นาง ฮิ้วววว





คุยกัน 24 สิงหา ....... 25 ปรึกษา....... 26 จ่ายตังค์ อุ๊แม่เจ้าประคุณทูลหัว จะรวมรัด ตัดตอน มัดมือชกอะไรกันขนาดนี้ 555 สรุป เป็นทริปของแกงส์ใจง่าย ที่อยากไปเยี่ยมเพื่อน (แต่กรุว่าอยากไปหาธรรมชาติ ซะมากกว่า เอิ๊กกกก แต่เอามาอ้าง 555)  การทำงานเป็นทีม จึงมีตัวแสดงเพิ่มอีก 2 ตัว หุ หุ (อีหน้าม้า 2 ตัว หมดหน้าที่ ส่งต่อให้อีก 2 คนดำเนินการ... แหม ระบบการจัดการช่างยอดเยี่ยม) 


ไอ้กอล์ฟ หาข้อมูลการจองตั๋วรถทัวร์ 



ไอ้ต๋อย หน้าที่ด้านการเงิน ไปชำระโดยไวแท้   .... ห้ามเบี้ยวกันนะเว้ย ค่าใช้จ่าย เริ่มแล้ว 




ใกล้ถึงวันเดินทาง เกรงใจ๊ เกรงใจ เจ้าบ้าน ต้อง modifly บ้านใหม่ ให้นางชะนี ทั้ง 6 เพื่อเตรียมต้อนรับ อิ ๆ 




จะทำอะไรเพื่อพวกเรานะ...... ลุ้น ๆ  (สงสัยจะเป็นกรงหมา หรือป่าวว๊ะ) 





แอบส่อง ความเคลื่อนไหวไปเรื่อย ๆ 




ยิ่งใกล้เวลาเดินทาง เจ้าของบ้านก็บิ้ว สถานที่ ทุ๊กวัน อีนังเพื่อน ๆ ก็เข้ามาเม้าส์ใน line สวยหว่ะ บู่ ลงรูปอีกแล้ว อยากไป ๆ ถ้าเป็นแบบนี้ กุว่า บู่ ตั้ง FC ให้พวกเราเลยดีกว่า Smiley


สิงหา....กันยา.... บ๊ะ นี่ตุลาคมแล้ว วันที่รอคอยใกล้เข้ามาทุกที แต่ฝนตกทุกวี่วัน อากาศเริ่มหนาวแล้ว ความคึกคัก  ความกระหาย เริ่มมาเยือน อยากไปเต็มแก่แล้วสิ 


ก่อนวันเดินทาง พวกเราคิดว่าต้องมีของขวัญ จากใจเล็ก ๆ น้อย ๆ ไปฝากเพื่อนบู่ สักหน่อย แม้ราคาจะไม่สูงเท่าไหร่ แต่ก็ขอมอบจากหัวใจอันบริสุทธิ์ และหอมหวล จากพวกเรา หุ หุ หน้าที่นี้จึงเป็นของ เจ้ากอฟล์ ทั้งซื้อ ทั้งห่อเบ็ดเสร็จสรรพ สุดยอดหว่ะ ขอชื่นชมจากใจจริง Smiley





ก่อนไป ไอ้กอฟล์ ก็จะให้ เจ้าต๋อย ปักตะไคร้ อีก กลัวฝนจะตก แต่มันไม่กล้า วุ้ย บอก เกิดสูตรโบราณใช้ไม่ได้จริงตรูซวยเลย  55  กลัวไรว๊ะ Smiley


ถึงวันเดินทางแล้ว 22 ตุลาคม พุทธศักราช 2558  แยกออกเป็น 2 กลุ่ม  ต๋อย อ๋น นัดเจอกันที่บ้านกอฟล์ เพราะสะดวกกว่าไปทาง bts และเตรียมตัวเกี่ยวกับตั๋วโดยสารด้วย  ส่วน ข้าพเจ้า นันท์ กุ้ง นัดเจอกันที่ bts บางหว้า เวลา 20.30 น. (เนื่องจากต้องรอเลิกงานก่อนค่อยตามไป)


เราเลิกงาน 18.00 น. รีบกลับไปอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า ทานอาหาร และรีบไปยังจุดนัดพบ ฝนเพิ่งหยุดตก ทางเฉอะแฉะ สาธุ ที่โน้น อย่าตกเล้ย เพี้ยง 

เราไปถึง bts ประมาณ 20.10 น. เดินไปที่จุดซื้อตั๋ว เห็น นันท์ กะ กุ้ง กำลัง หยอดเหรียญ ซื้อตั๋วอยู่พอดี จึงเข้าไปทักทาย กันตามประสา คนที่ไม่ได้เจอกัน เป็นสิบ ๆ ปี โดยเฉพาะกุ้ง เพราะนันท์ ได้เจอกันแล้ว เมื่อทริปเชียงคาน 

ได้ตั๋วเสร็จ ก็เดินไปขึ้นรถไฟฟ้า ระหว่างทาง ก็คุยกันไปตลอดทาง ไม่ได้หยุดปาก (โดยเฉพาะนันท์)Smiley

ถึงสถานีหมอชิด ให้ออกทางประตู 3 เมื่อท่านได้เดินลงบันไดมาสู่ท้องถนน กรุณาเตรียมตัว เตรียมใจ ให้พร้อม เพราะท่าน จะได้พบกับพวก " สัมภเวสี "  ยืนรออยู่ท่านอยู่ พวกวินมอเตอร์ไซด์ จะกรู กันเข้ามา เรียกให้พวกท่านขึ้นรถเพื่อไปหมอชิต ซึ่งดูจากกระเป๋า และหน้าตาเรา ก็คงจะเดาได้ไม่ยาก 5555  แทบจะอุ้มกันขึ้นรถเลยทีเดียว ช่วงที่เดินผ่านไปที่ป้ายรถเมล์ ทำไมมันช่าง ยาวนานเหลือเกิน ถ้ามาคนเดียวคงแย่แน่ 

พอเดินผ่านแท็กซี่ (ซึ่งก็จอดเยอะพอ ๆ กัน) ลองเดินเข้าไปถามดูว่า ไปส่งท่ารถนครชัยแอร์ ซึ่งไม่ไกลเลย ถึงก่อน หมอชิตเสียอีก  " สัมภเวสี " บอกคนละ 50 บาท 3 คนก็ 150 บาท   โอ้่ !!!! สัส  เมิงไปคนเดียวเถอะ ถึงหนังหน้าตรูจะบ้านนอก แต่ก็ไม่โง่นะคร๊าบ  เลยเดินไปที่ป้ายรถเมล์  ยืนรอสักพัก มี  " สัมภเวสี "  อีกตัวมาจอดอีก ลองเรียกดู มันเรียก 100 บาท ชั่วน้อยกว่าตัวแรก แต่ก็ยังแพงอยู่ดี สัส สัส มีมิเตอร์ แต่พวกเมิงไม่กดกัน แล้วแบบนี้จะเรียกแท็กซี่มิเตอร์ทำไมฟ๊ะ ไอ้พวก นรกเอ้ย Smiley

รออีกสักพัก ลองเรียกดูอีกคัน คันนี้คือแท็กซี่จริง ๆ เพราะกดมิเตอร์ เฮ้อ แท็กซี่ดี ๆ ก็ยังมีอยู่เนอะ เลยรีบขึ้นไป รถติดจริง ๆ อ่ะ ระหว่างที่เรานั่งอยู่ บนแท็กซี่ ไอ้่พวกวินมอเตอร์ไซด์ มันยังเรียกเราขึ้นรถมันอีก โธ่ ... ไอ้เวร คิดได้เนอะ 

ช่วงกำลังขับไป คนขับก็บอกว่าไม่เคยมา เราก็ช่วยมองทางไปเรื่อย ๆ พอถึง ท่าสมบัติทัวร์ คนขับบอก สงสัยจะเลย เราก็ตกใจ ส่วน 2 คน ด้านหลัง ก็มีแต่เสียงนันท์ บอก กระเป๋าตังค์หาย ๆ กุ้งก็บอกให้ดูดี ๆ นันท์ ก็บอกหายจริง ๆ นันท์ใส่ไว้ในนี้ แน่ ๆ  เรากะคนขับ ก็กระวนกระวายกันแล้ว ไหนรถจะเลย ไหนกระเป๋าเพื่อนจะหาย บอกให้มัน ใจเย็น ๆ ไม่ต้องค้น รอลงรถก่อน แล้วค่อยไปหา ที่สว่าง ๆ ค้น มันก็ไม่เชื่อ บอกหาย หาย ตลอดทาง เออ.... กุรู้แล้ว ว่าหาย แต่ คนขับก็กังวล ว่าจะเลยเหมือนกัน 

เรารีบ โทร. หา กอฟล์ ก็ไม่รับ line กลุ่มเข้าไป ก็ไม่อ่าน ทำไง วุ้ย .... สักพัก กอฟล์ โทร. กลับมา เราก็ถึงท่า นครชัยแอร์ พอดีเลย  ค่ารถแท็กซี่ แค่ 60 บาท จึงรีบจ่ายเงิน และสำรวจ กระเป๋านันท์ ว่าล่วงในรถหรือเปล่า ปรากฏว่าก็ไม่มี  พวกเราจึงรีบเดินเข้าไปสมทบ กับอีก 3 คน ด้านในท่ารถ 




พอไปถึง ก็บอกเพื่อน ๆ ว่านันท์ ทำกระเป๋าเงินหาย ทุกคนก็ช่วยกันดู ก็หาไม่เจอ แล้วให้นันท์ คิดทบทวน ย้อนหลังไปว่าทำหล่นหายที่ไหน นันท์ ก็จำไม่ได้ เลยสันนิฐาน ว่าน่าจะโดนล้วง ช่วงระหว่างหยอดเหรียญ เพราะนันท์ มัวแต่ตื่นเต้น ที่ได้ไปเที่ยวและเจอเพื่อน 





สรุปว่าหายชัวร์  แล้วซักถาม ว่าในกระเป๋ามีเงินเท่าไหร่ มันบอกว่า ประมาณ 16000 บาท เพราะเงินเดือนเพิ่งออก แม่เจ้า .... เมิงเอามาทำเอี้ยอะไร ตั้งมากมายขนาดนี้ มาเที่ยวนะเฟ้ย ไม่ได้มาดาวน์รถ  แถมด้วย แหวนทองอีก 1 วง  พ่อเจ้า .....มีแหวน แต่เจือกไม่สวม เมิงพาแหวนมาเที่ยวด้วยหรือ ???  แถม ด้วยบัตรประชาชน บัตรเครดิต อีกหลายใบ  ไอ้กอฟล์ เทศนาสอนไปยกใหญ่ แล้วให้รีบโทร.ไปอายัดบัตรทุกใบ  นันท์เริ่มหน้าแดงแล้ว..... สงสารก็สงสาร แต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้ เราก็โทร. ไปที่ bts ถาม เจ้าหน้าที่ ว่าทำกระเป๋าตังค์หาย บอกลักษณะกระเป๋าไป แต่เจ้าหน้าที่บอกว่าไม่มีใครแจ้งเก็บได้ ความหวังจึงริบหรี่ และดับสูญ ไปในที่สุด พวกเราได้แค่ปลอบว่า ฟาดเคราะห์ไป ถือว่าเสียทรัพย์ ดีกว่าเสียของมีค่าแล้วกันเนอะ จะได้ไม่เสียใจมากนัก  Smiley


ตัดเรื่อง ซวย ๆ ฟาดเคราะห์ไป ดีกว่า ...... ท่ารถทัวร์ปัจจุบันนี้ เค้าทันสมัยจริง ๆ เกินความคาดหวังของเรามาก ๆ การแข่งขันสูง ไหนจะคู่แข่ง ต่อมามีสายการบินซึ่งบางช่วงเวลา ราคาค่าตั๋วจะถูกกว่ารถทัวร์ด้วยซ้ำไป การบริการ สถานที่นั่งรอติดแอร์ สะอาดดูดี มีระดับ แถมเก้าอี้นั่งรอรถ ดีกว่าสนามบินอีกนะเนี่ย 555




เที่ยวรถของเราคือ 23.15 น. แต่กว่าจะโหลดกระเป๋า ขึ้นรถจริง ก็ปาเข้าไป 23.40 น. แหม...ติดเชื้อ นกแอร์ มาแน่ ๆ เพราะชอบแถมเวลาให้ผู้โดยสาร ตลอด ๆ Smiley





รถที่นั่งไป เป็นรถประเภท Gold Calss (VIP) 32 ที่นั่ง มีผ้าห่ม เบาะไฟฟ้า หูฟัง ปุ่มปรับเสียง และปุ่มกดนวดได้ด้วย  ดีจุงเบย ไม่เคยนั่งรถทัวร์ มาหลาย 10 ปี เค้าพัฒนาไปเยอะจริง ๆ และมีบริการ แจก ขนม ข้าวกล่อง น้ำเปล่า น้ำผลไม้ ผ้าเย็น ....โอ้ สุดยอดอ่ะ  เรียกว่ากินกันไม่หมดเลยทีเดียว อิ ๆ (เพราะตรูต้องการนอน จึงไม่มีเวลากิน ก๊ากกก ๆๆๆๆ )








เดินทางแล้วนะ  รถติดบ้างเพราะเป็นวันหยุดยาว แต่ไม่ถึงกับมากนัก หรือไม่มากก็ไม่รู้เพราะหลับมาตลอดทาง ขาไปขับนิ่มดีค่ะ บอก จนท. ก่อนว่าจะลงดอยติ  ประมาณ 8 โมงเช้าก็น่าจะถึง  นอน ๆ ๆ Smiley


ตี 5  กว่า ๆ เราตื่นขึ้นมา Smiley เพราะได้ยินเสียง แกว๊ก ๆ ก็อบแก๊บ ๆ ฉีกถุงแซนวิส จากเบาะด้านหลัง ไม่ใช่คนอื่นไกลเลย คือนังอ๋น ตื่นมาแปรงฟัน ด้วยฮอตดอก 5555 แหม ตอนแรกได้ยินแค่เสียง.... สักพัก กลิ่นตามมาติด ๆ ไม่ได้แล้ว พยาธิ ตื่น เราเลยหยิบมาแปรงฟันบ้าง Smiley

ประมาณ 8 โมงกว่า รถจอดที่ดอยติ  คนลงหลายคนเลย พวกเราไปรอเพื่อนบู่ ที่ศาลาสีเหลือง รอสักพัก บู่ก็มารับ เย้.... และแล้ว นครชัยแอร์ ก็พาพวกเรามาเจอกันจนได้ กี่ปีแล้วนะ ตั้งแต่เรียนจบปี 34 ติ๊กต๊อก ๆ ๆ ๆ 24 ปี เอ๊ง หุ หุ 

บู่ พาพวกเรา ไปบ้าน ระยะทางจาก ดอยติ ไปถึงบ้านบู่ ไม่ไกลเท่าไหร่ เราคุยกันไปตลอดทาง (นุช กะ กอฟล์ นั่งหน้า) ส่วน ต๋อย นันท์ กุ้ง อ๋น นั่งกะบะท้าย ชมวิว อิ ๆ 





ถึงบ้านพัก สิ่งแรก ที่เราอยากเห็นมากที่สุด คือ สิ่งปลูกสร้างใหม่ ที่บู่เพิ่งสร้างเสร็จ มันคืออะไรนะ มันจะใช่ห้องน้ำ หรือกรงสุนัข 555 ถ้าใช่ห้องน้ำจริง ข้าฯ ขอกราบตรีน ขอบพระคุณเป็นอย่างสูง ที่พวกเราต้องทำให้เพื่อนต้องเสียเงินจำนวนมาก เพื่อไว้ต้อนรับพวกเรา ขอบคุณ ขอบคุณ จริง ๆ ค่ะ Smiley


มันคือห้องน้ำจริง ๆ ด้วย โอ้...แม่เจ้า สวยงามเหลือเกิน เหมือนห้องน้ำตามรีสอร์ท ดูเก๋ ไก๋ สวยงามดีค่ะ  










Before & After  Smiley





บู่ พาพวกเรา เดินเที่ยวรอบ ๆ บ้าน แหม่ มันช่างน่าอยู่เสียจริง ๆ รู้สึกอิจฉา คนที่นี่จัง อากาศ ดี๊ดี บรรยากาศน่าอยู่สุด ๆ อิจฉาวุ้ย Smiley








ภายในบ้านกันบ้าง  งดงามไม่แพ้นอกบ้านค่ะ 





Smiley





หลังเดินชมบ้านสักพัก เจ้าบ้านเตรียมข้าวต้มกุ้ย เป็นอาหารมื้อเช้า ที่ธรรมดา แต่มันไม่ธรรมดา เลย เป็นมื้อแรก ของพวกเรา ทั้ง 7 คน ที่ได้ทานอาหารร่วมกัน มื้อแรกในชีวิตเลยนะเนี่ย ขอบอกว่าอร่อย จริง ๆ  ขนาดเขียนเนี่ย ยังอยากจะจัดข้าวต้ม รอบดึก สักอีกชาม หุ หุ หุ 





เมื่อท้อง อิ่ม ก็ล้างหน้า ล้างตา บ้างก็อาบน้ำ เตรียมลุย เพราะโปรแกรมวันนี้ บู่ จะให้น้องฟลุ๊ด และน้องไนซ์ ........ พานำเที่ยว และเป็นการฝึกวิชา การเป็นไกด์ ครั้งแรก ของ น้อง ๆ ด้วยหลังจากที่ได้อบรม การเป็นไกด์ มาไม่นาน หึ หึ ทริปแรกซะด้วย ลุ้น ๆ 




สถานที่แรก ของเราในวันนี้ คือ วัดพระธาตุดอยเวียง เราจะขึ้นไปจุดที่สูงที่สุดก่อน ทางขึ้นไปมี 2 ทางคือ เดินขึ้น และขับรถขึ้นไป (ถ้าเดินขึ้นไป คงหอบจับแน่ ๆ ขอบคุณไกด์ที่เข้าใจ ศักยภาพ ของร่างกายพวกเราดี อิ ๆ) 











พระธาตุดอยเวียงเป็นที่ประดิษฐานเจดีย์เก่าแก่ซึ่งมีพระสารีริกธาตุบรรจุอยู่ สันนิษฐานว่าสร้างเมื่อ พ.ศ. 1220 ในสมัยพระนางจามเทวี ตามตำนานจารึกในใบลานเล่าว่าขุนหลวงปาละวิจา มาตั้งเมืองที่นี่ซึ่งเป็นเมืองหน้าด่านและได้สร้างวัดไว้บนดอย และมีตำนานว่าใต้ฐานพระธาตุเป็นถ้ำ ซึ่งจะมีสมบัติ จำนวนมากแต่ถูกปิดไปแล้ว  แหม เสียดายจัง อิ ๆ 










ถัดลงมาอีกหน่อย ก็จะเป็น หลวงพ่อดำดิน (พระเจ้าดำดิน) เดิมอยู่ที่วัดร้างสมัยที่ค้นพบนั้นเหลือไม่เต็มองค์ เศียรปักดินลักษณะแขนขาดขาขาด ไม่มีใครบูรณะ ต่อมามีบุคคลชื่อ “หนานหมื่น” มาปรึกษาชาวบ้านพร้อมใจกันแต่งเติมองค์พระพุทธรูปส่วนที่ขาด แล้วอัญเชิญมาประดิษฐานไว้บนเขาที่วัดพระธาตุดอยเวียง    เพื่อให้ประชาชนได้มากราบไหว้





ถัดมาก็จะเป็น วิหารหลวงพ่อสายฝน  สวยงาม มาก ๆ ค่ะ เราเข้าไปดูข้างในกันดีกว่า มีเรื่องเล่าว่าครั้งหนึ่งฝนแล้ง ชาวบ้านเดือดร้อนเลยนำพระองค์นี้มาแห่ขอฝน ปรากฏว่าฝนตก ชาวบ้านจึงพร้อมใจกันตั้งชื่อพระองค์นี้ว่า “พระเจ้าสายฝน”














ออกจากวัดเริ่มหิวน้ำ เพื่อนบู่พาเราไปที่ "อ่างเก็บน้ำแม่ธิ" ใช้เก็บน้ำเพื่อใช้การเกษตร ปัจจุบันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีทัศนียภาพ อันสวยงาม ทิวทัศน์ ภูเขา เขียวขจี ประชาชนมาตกปลากัน เหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจ แต่ ถ้าพวกเรายืนอยู่อีกไม่เท่าไหร่ คงจะร้อนใจแน่ ๆ เพราะผิวท่านจะสุก อีกภายในไม่ช้า  555  แดดเปรี้ยง ๆ เชียวหล่ะคุณ Smiley







ระหว่างที่พาทัวร์ ท่องเที่ยว น้องไกด์เรา 2 คน ก็ยังไม่คล่อง เท่าไหร่ แถมเตรียมตัวมายังไม่ดี 555  จดจำสถานที่ ยังไม่ค่อยได้ ต้องอาศัย ครูบู่ (ครูชาเด)  แนะนำตลอดทาง เอาน่า ฝึกอีกนิด ตั้งใจให้มากกว่านี้อีกหน่อย คิดว่าคงเป็นไกด์ ได้ในอนาคต ผิดถูก ไม่ว่ากัน ถ้าเป็นเราก็คงจะจำไม่ได้เหมือนกัน อิ ๆ  


ออกจากอ่างเก็บน้ำ บู่ พาเราไป ดูภูมิปัญญาท้องถิ่นกัน ซึ่งปัจจุบัน แทบจะไม่มีให้ได้เห็นกันแล้ว คือ

  " น้ำถุ้ง"   น้ำถุ้งได้คิดค้นจากการทำไม้ซางที่มีอยู่มากมายนำมาจักสานทำเป็นของใช้  ซึ่งเป็นภาชนะใช้ตักน้ำขึ้นจากบ่อ  นำมาดื่ม กิน อาบชำระร่างกาย  ซึ่งในอดีตกาลที่ผ่านมา  ในเขตภาคเหนือเกือบทุกจังหวัด  จะใช้น้ำถุ้งกันเป็นส่วนมาก  ซึ่งต้นกำเนิดที่แท้จริงคือ มาจากภูมิปัญญาชาวบ้านของบ้านป่าเป่า  อำเภอบ้านธิ  จังหวัดลำพูน 







เย้ ๆ  นี่เราโชคดี ได้มีโอกาส ได้เข้ามาเห็น ถึงสถานที่ Original เลยหรือนี่ ซึ่งทุกวันนี้เหลือทำแค่ ไม่กี่หลังคาแล้ว เนื่องจากปัจจุบัน โลกเราวิวัฒนาการขึ้น ที่ตักน้ำ ก็เปลียนเป็น ขันพลาสติก กระป๋อง หรือภาชนะอย่างอื่นแทน  ชาวบ้านที่นี่ก็เลยยังอนุรักษ์ไว้ และได้ประยุกต์ให้ทันสมัยโดยการ นำขามา เพิ่มเติม จากที่ตักน้ำ เป็นที่ ใส่ของแทน 55  ชาญฉลาด จริง ๆ ค่ะ แต่วันไป น่าเสียดาย ที่บ้านมีงาน เลยไม่ได้เห็นวิธีการทำ    Smiley แถมมีเหลือแค่ 1 อัน ที่เสร็จสมบูรณ์แล้ว เราเลย รีบซื้อเก็บไว้ เพราะเค้าบอกว่า มีแต่ผู้มีฐานะเท่านั้น ที่จะได้ครอบครอง ของหายากชนิดนี้ เสร็จเราสิ รีบคว้าไว้ก่อน แถมราคาก็ถูกแสนถูก แค่ 200 บาทเอง Smiley



.... ต่อไปเราจะเป็นคนมีฐานะ แล้ววุ้ย Smiley





ก่อนที่จะเราไปที่อื่นต่อ บู่ ชี้ให้ดู สิ่งนี้ เค้าเรียกว่า ต๋าแหลว (ตาเหลว) ชาวบ้านมักจะติดไว้ที่หน้าบ้าน ไว้กันพวกสิ่งไม่ดี ภูตผี ปีศาจ หรือสิ่งชั่วร้าย ไม่เข้ามาภายในบ้านได้ค่ะ




ต่อมา บู่ พาเรามาชม บ้านทรงไทลื้อหลังสุดท้าย  ซึ่งน่าเสียดายมาก ๆ ทำไมเค้าถึงไม่อนุรักษณ์กันไว้ ปล่อยจนเหลือหลังเดียว และหลังสุดท้ายเสียด้วย น่าเสียดายจริง ๆ ค่ะ 

จำชื่อ เจ้าของบ้านไม่ได้แล้ว ซึ่งใจดีมาก ๆ ค่ะ เราไปโดยไม่ได้นัดมาก่อน ซึ่งท่านก็ให้เราเข้าไปเยี่ยมชมภายในบ้านได้ ขอกราบขอบพระคุณ คุณพ่อมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ  Smiley






 อายุบ้านเก่าแก่ เกิน 60 กว่าปี ส่วนรายละเอียดบ้าน เพื่อนอธิบายนะ แต่จำไม่ได้อ่ะ 555   ขอชมแต่ภาพ ไปก่อนแล้วกัน สรุป ว่าสวยงาม น่าอยู่ มาก ๆ คนสมัยก่อน ฉลาด ไม่ได้จบสถาปนิก แต่สามารถ สร้างบ้าน ให้เหมาะกับภูมิอากาศของประเทศไทย ได้ดีเลยจริง ๆ ขอนับถือค่ะ 









Smiley






ชอบอันนี้ อ่ะ 











ที่นี่ เป็นดินแดน แห่งลำใย เค้าเลยใช้เปลือกลำใย เป็นปุ๋ยให้กับต้นไม้ งาม แต้ ๆ จ้าว 




ชาวไทลื้อ มักจะปลูกผักปลอดสารพิษไว้หน้าบ้าน เอาไว้รีบประทานเอง มิน่าหล่ะ คนเฒ่าคนแก่ แถวต่างจังหวัด ถึงได้มีอายุยืนยาว มากกว่าคนกรุงนัก 





ก่อนกลับ มีสมาชิกของเรา 1 คน ไปสร้างวีรกรรมเอาไว้ ที่นี่ด้วย สงสัย หล่อน คงจะหิวข้าว จนแข้ง ขา อ่อนแรง ทำรั้ว ต้นไม้เค้าล้มอีก 555   ไม่บอกแล้วกัน ว่าเป็นใคร งั้นเราส่ง เด็กไกด์ 2 คนกลับบ้าน แล้วไปหาอะไร กินกันดีกว่า  Smiley



ไม่นะ  ..... ไม่มีอะไรเกิดขึ้นนะ  พวกเราไม่ได้ทำ จิง ๆ นะ 5555   (คนบางคน ยืนจังก้า จะหาเรื่อง รั้วหรือฟ๊ะ 555  คงคิดว่าน้องไนซ์ไม่ได้แอบถ่ายไว้นะสิ 555 ) 



หลังซ่อมเสร็จ ยิ้มร่า เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น Smiley






หลังส่งเด็ก บู่ พาไปร้านอาหาร ชื่อร้าน เฮือนใจ๋ยอง เป็นร้านอาหาร เรือนไม้โบราณ สวยงามน่านั่งมาก ๆ ร้านเปิด 10.00 - 16.00 น. (หยุดทุกวันจันทร์) นะคะ ให้มาเร็ว ๆ หน่อย เพราะอาหารที่นี่เค้าอร่อยทุกอย่าง ถ้ามาช้า หมด อดกิน ดั่งเช่นพวกเราค่ะ Smiley






ภายในร้าน นำของเก่า มาตกแต่ง ได้ลงตัวและสวยงาม มีชั้น บน และชั้นล่าง น่านั่งทุกโต๊ะ ไม่เชื่อลองไปสิ ส่วนอาหารก็อร่อยทุกอย่างบอกเลย แนะนำ 







สวย ๆ 







แถวบ้านกระติ๊บข้าวเหนียว ไม่ได้หน้าตาแบบนี้ แปลกดี 




เสียดายลาภปลา  เพื่อนบู่ แนะนำว่าอร่อย ลำแต้ ๆ แต่หมดค่ะ  ส่วนอีกหลาย ๆ อย่างก็หมด เลยได้ทานแค่ไม่กี่อย่าง แต่ก็อร่อยดี ไว้จะมาทานอีกนะ 




นอกจากมีร้านอาหารแล้ว ยังมีเฮินศิลป์ จัดไว้ให้นักท่องเที่ยว เข้าไปดูฟรี ด้วยค่ะ  





Smiley



 ขณะประชุม น้ำท่วม เราก็ไม่กลัว 






มีร้านกาแฟ ให้นั่ง ชิว ๆ ด้วย 










จัดร้านน่ารักดี 




อั๊ยย๊ะ .....  18+ 




หลังจากเดินชมได้สักพัก บู่ก็พาพวกเรากลับบ้าน ปิดทริปวันแรก ด้วยความสนุก ไม่หนักมากนัก เพราะเพิ่งเดินทางมาถึงวันแรก ถือว่าเป็นการ จัดโปรแกรม ได้ดีเลยทีเดียว 

ถึงบ้านพัก ก็พักผ่อนตามอัธยาศัย  แต่ก็ไม่ค่อยได้พักหรอก เพราะมี เจ้าขนุน คอย กวนตลอดเวลา ซึ่งเรียกเสียงฮา ได้มาก แถมยังเจ้าชู้อีกต่างหาก Smiley  ใครมานอนบ้านนี้  ถ้าเป็นผู้หญิง แถมโสด ๆ ต้องระวังตัวให้ดีนะ หุ หุ ถ้าเผลอเมื่อไหร่ อาจเสร็จแน่ ๆ 5555


ป๋มหล่อไหมคร๊าบ สาว ๆ 




 เรามาแต่งงานกันไหม....  พี่กุ้ง  Smiley





เรามาดอง กันไหม  ป้าต๋อย Smiley





ตกดึก บู่ พาพวกเราไปกิน หมูกะทะ ชื่อร้านบ้านอิ่มสุข ร้านอยู่ตรงสี่แยกป่าไผ่ สันกำแพง (มากินไกลวุ้ย มาจากลำพูนเลยนะพวกเรา อิ ๆ )

หัวละ 149 บาท ถือว่าถูกมาก ๆ เมื่อเทียบที่กรุงเทพฯ ของถือว่าสด อาหารให้เลือกเยอะดี  ไอติม อร่อย น้ำดื่มฟรี ราคาโอเค ใช้ได้เลยค่ะ  ถ้าอยู่แถวบ้าน จะมาทานบ่อย ๆ เลย 555


ก่อนตักอาหาร ตามกฏกติกา  ซึ่งทุกคนจะกำชับ ก่อนไปตักอาหารว่า " ตักของใคร ของมัน เอามาแค่กินคนเดียว ต่างคนต่างตัก อย่าตักให้กันนะ " ซึ่งทุกคน ก็ทราบกันดี และใครชอบอะไร ก็ตักอย่างนั้น  

แรก ๆ ก็กินกันอย่างสนุก กินไป คุยไป ทุกคนเริ่มอิ่ม บางคนเริ่มหาของหวานกินกันแล้ว ซึ่งนันท์ นั่งข้าง ๆ เรา บอกอิ่มเหมือนกัน แต่พอเรามองไปที่หน้าโต๊ะนันท์  โอ้.... แม่เจ้า  อาหารที่เมิงตักมา มันไม่ได้ยุบเลย   สาดดดดดด  แล้วที่เมิงบอกว่าอิ่ม อ่ะ คือ ส่วนของเพื่อน ๆ ที่เค้าตักมา ส่วนของมันยังไม่ได้ย่างเลย ซวยแล้ว จะเอาท้องที่ไหนไปยัด เครียดเลยตรู นั่งข้างมันด้วย  Smiley


เรากะอ๋น ช่วยกุ้ง มันไปหลายตัว นอกนั้นช่วยไม่ได้ โดยเฉพาะหมู อะไรไม่รู้ แผ่นใหญ่มาก ๆ และผักขึ้นฉ่าย she เห็นว่ากินดี เอามาซะ ครึ่งโล 555  ตาย ๆ กว่าเธอจะยัดอาหารหมด (แอบทิ้งด้วย)  เล่นเอาทุกคนรอ เธออยู่คนเดียวเลย 5555 


เข้าบ้าน อาบน้ำ อาบท่า ราตรีสวัสดิ์ พรุ่งนี้ พี่ชายบู่ จะพาเราตะลุยเที่ยวกัน บาย ต่อ ตอน 2 นะจ๊ะ













Create Date : 01 พฤศจิกายน 2558
Last Update : 6 พฤศจิกายน 2558 22:46:21 น.
Counter : 2122 Pageviews.

1 comments
  
thx u crab
โดย: Kavanich96 วันที่: 3 พฤศจิกายน 2558 เวลา:2:49:24 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

nuch9981
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]



ไปทุกที่...ที่มีทาง