Group Blog All Blog
|
อีกครั้ง.....ที่เขาสก ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ที่ได้ไปเที่ยวเขาสก (เขื่อนรัชชประภา หรือเขื่อนเชี่ยวหลาน) สืบเนื่องจากพวกเราได้ไปเที่ยวเขื่อนครั้งที่แล้ว โดยซื้อทัวร์ของแพ 500 ไร่ และไปนอนแพภูตะวัน 7 คน เกิดอาการติดยา เฮ้ย..ติดใจ และประทับใจมาก ๆ จึงเกิดภาค 2 ตามมา แต่ครั้งนี้สมาชิก เหลือ 6 อีก 1 ติดภาระกิจเลี้ยงลูกน้อยอยู่กับบ้าน เลยพลาดไป 555 เหมือนเดิม... สาวกหางแดงแบบเรา ได้จองตั๋ว 0 บาท (ไป-กลับ 160.50) จองข้ามปี แต่ก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับพวกเรา ของฟรี ๆ นานเท่าไหนก็รอได้ อิ ๆ ดีเสียอีก จะได้เตรียมเงิน เตรียมตัว ได้นาน ๆ หน่อย 55 เริ่มจาก จะนอนแพไหนดี และไม่ต้องการไปกับทัวร์แล้ว เพราะเคยไปแล้ว ไปเองจะราคาถูกกว่า และจุดประสงค์หลัก ๆ ของพวกเราคือ ต้องการไปอาบน้ำก จึงได้เลือกแพสายชล ตอนแรกจองแพใหม่ 3 ห้อง แต่ทางแพแจ้งว่า ห้องเต็ม จึงได้แพใหม่ 2 หลัง แพไม้ไผ่ 1 หลัง พวกเราก็โอเค ค่าแพใหม่ 2000 บาท/หลัง แพไม้ไผ่ 1200 บาท/หลัง รวมอาหาร 3 มื้อ และค่าเรือนอนค้าง 1 คืน 2000 บาท (จองโดยตรงกับแพ จะถูกกว่าจองตรงท่าเรือนะ เพราะจะราคา 2200 บาท) วันเดินทาง ติ๊กกับพี่ผ่อง นั่งแท็กซี่จากมหาชัย มารับเราที่บ้าน ตอนตี 4 เกือบตี 5 และไปรับน้องหนุ่ย ที่บ้านวัดจันทร์ และต่อไปสนามบินดอนเมืองเลย (เป็นครั้งแรกที่ได้ใช้บริการสนามบินดอนเมือง อิ ๆ ) ลืมไม่ได้ที่จะต้องขอบคุณสายการบินนี้ซะหน่อย ถึงสนามบิน เช็คอินจากบ้านมาแล้ว ก็ดูว่าได้ gate อะไร เราได้ gate 44 ดีหน่อย เดินไม่ค่อยไกลเท่าไหร่ ถึงจุดไฮไลท์ จัดไปเสียหน่อย 8.10 น. ถึงสนามบินสุราษ เจอเจ้าตัวนี้มาต้อนรับ ดีใจมากมาย เพราะไม่เคยเห็นตัวเป็น ๆ เลย คิดว่าต้องไปเดินป่าถึงจะได้เห็น รีบเรียกเพื่อน มาดูและถ่ายรูปเป็นที่ระทึกดีกว่า มันชื่อ " กระสุนพระอินทร์ " กระสุนพระอินทร์เป็นกิ้งกือชนิดหนึ่ง ลำตัวยาวประมาณหนึ่งนิ้วครึ่ง ปล้องมีลักษณะโค้งนิดๆอำพรางตัวเพื่อระวังภัยโดยการขดตัวเป็นก้อนกลมเหมือนลูกกระสุน จึงได้ชื่อว่า กระสุนพระอินทร์นับเป็นวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตที่แปลก ซึ่งอาจพบได้ในป่าธรรมชาติ เช่น อุทยานแห่งชาติปางสีดา อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เป็นต้น ถ่ายเสร็จ มาดูกันว่าจะเป็นกระสุน ได้อย่างไร (ลองใช้เท้าเขี่ยดู) ..... เป็นแล้วจ้า กลมบล็อคเลย อิ ๆ ขอแบบชัด ๆ ปล้องแข็งมาก ๆ ค่ะ เมื่อเข้ามาในสนามบิน ก็โทรนัดรถตู้ ไปส่งที่ท่าเรือ คนละ 180 บาท (077-287059 โทรนัดติดต่อเวลากันก่อนนะจ๊ะ) ใช้เวลา จากสนามบินถึงท่าเรือ ประมาณ 1 ชั่วโมงนิด ๆ ถึงท่าเรือ 9 โมงครึ่ง หิวแล้ว ครั้งนี้ไม่มีอาหารฟรี บนเครื่อง จึงหาอะไรทานรองท้องที่ร้านใบพัดริมเขื่อน ราคา 60-70 บาท แพงอ่ะ แถมให้น้อย มาก ๆ ด้วย แต่ต้องทาน เพราะมีเจ้าเดียว 55 มื้อนี้หมดไป 430 บาท ทานเสร็จก็โทร.เรียกเรือมารับ ...รอนานหน่อย เพราะตอนแรกกะเวลาไม่ถูก นัดไว้ 11 โมงเช้าแต่พร้อมจริง ๆ 10 โมง 555 ระหว่างรอ ไปเสียค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานกัน คนละ 40 บาท (โชคดีที่เลื่อนปรับราคาเป็นปีหน้า ไม่งั้นโดนไป 100 บาท แพงเหมือนกันนะเนีย) เรือมาแว้ว.... ครั้งนี้ เหมาไปแบบส่วนตัว ไม่มีคนอื่น ๆ สบายหล่ะ (แต่ไม่สบายกระเป๋า) ถ่ายรูปได้สบาย ๆ ชิว ๆ ระหว่างทาง คนขับแวะหาเพื่อนที่แพนางไพร พวกเราก็ขึ้นไปด้วย (ขึ้นไปถ่ายรูปปลาตะเพียนหางแดงมา สวยมาก ๆ อาหารที่นี่น่าทานสุด ๆ ปลาตัวโต ๆ แต่แพไม่ค่อยน่านอนเท่าไหร่ (ไปว่าเค้าอีก) ขาไปแวะ ชมเขาสามเกลอ และหินรูปอินเดียแดง (คนขับไม่ได้บอกอะไรนะ จอดเรืออย่างเดียว ไม่บอกอะไร แต่ทราบจากไกด์ครั้งที่แล้วค่ะ) ถึงแพสายชล เที่ยงพอดี เช็คอิน และ จนท.พาไปที่พัก ให้เรานอนแพใหม่ 3 หลัง เราก็แย้งว่า อ้าว ... ตอนจอง ได้แพใหม่ 2 แพไม้ไผ่ 1 จนท. บอกเฉยไว้ ๆ นอนไป นอน ไป ไอ้เราก็คิดว่า upgrade เป็นแพใหม่ ฟรี แม่ง..... ตอนเคลียร์เงินเจือกคิดเพิ่มอีก 800 บาท เราก็บอกไป เราจองไม้ไผ่ นะ ย้ายให้เราเอง ทำไมเก็บเพิ่มหล่ะ และเราก็เก็บเงินผู้ชายแค่ 1200 บาทเอง แพบอกก็เอาบิลไปให้เค้าดูสิ เซ็งกับแพนี้มาก ๆ ครั้งเดียวเลย อะไรว๊ะ ติดตามกันต่อไป ว่าอะไรจะแย่ ๆ อีกของแพนี้ ได้เวลาอาหารเที่ยงพอดี กับข้าวไม่ประทับใจเลยอ่ะ น้อย ถึงแม้จะเติมได้ แต่ก็ไม่อร่อย จึงเติมแต่ผัดผักกูด อย่างเดียว ไป 6 คนจัดมา 1 ชุด หลังจากทานเสร็จก็เข้าที่พัก รอเวลาเล่นน้ำ.....เราไม่ไปเที่ยวถ้ำเพราะเคยไปมาแล้ว อากาศร้อนมาก ๆ ไฟจะเปิด เวลา 18.00 น. ปิด 24.00 น ค่ะ จากนั้นก็นอนฆ่าเวลา แต่ก็นอนไม่ค่อยหลับ เพราะนักท่องเที่ยวเดินผ่านหน้าบ้านกันตลอด เสียงดังมากก ๆ เพราหน้าห้องเรา ไม้กระดานแผงหนึ่งมันตะปูหลุด พอคนเดินผ่าน จะดังมาก ๆ ถ้าคืนนี้ตายแน่ ๆ พวกเราจึงแก้ไขกันเอง ยกไม้ขึ้น และเอาผ้าเช็ดเท้าหน้าบ้าน รองไว้ เออ .... หายดังไปได้มาก ๆ สบายหูหน่อย (จนท. ก็เดินกัน ไม่คิดจะดูแลเล้ย) อาบน้ำกันดีกว่าค่ะ อาบ ๆ ไปฝนตก ขึ้นมารอฝนหยุด แล้วเล่นต่อ 555 .... เป็นห้องอาบน้ำที่คิดว่าสวยที่สุดในโลกแล้วค่ะ หมอกสวย ๆ หลังฝนตก มาช่วงนี้ มีฝน แต่ก็สวยไปอีกแบบ ฝนที่นี่จะตกช่วงเย็น ๆ นอนกลางคืน เย็นสบาย ๆ ไม่หนาวจนเกินไปค่ะ อาหารเย็น จะมีกับข้าว 4 อย่าง อีก 2 อย่างลืมถ่าย คือไข่เจียว (ทอดไม่สุกสีขาวจั๋ว ....ทานไม่หมด) และผัดผักแสนหวานค่ะ ส่วนปลาอร่อยดี แต่เติมไม่ได้ 6 คน 1 ตัว ไม่ค่อยพอกินเท่าไหร่ เช้าวันใหม่ นอนไม่ค่อยเต็มอิ่ม เนื่องจาก นักท่องเที่ยวเดินไป-เดินมา เค้าจะไปไหนกันนะ ... เดินทั้งคืน หนวกหูมาก ๆ (ขนาดเอาผ้าไปรองแล้วนะ) ส่วนมาก จะเดินลงเท้ากัน บางคนเดินไม่มีเสียง บางคนเดินดังมาก ๆ (แพภูตะวันไม่เสียงดังค่ะ ที่นี่ดังมาก ๆ ) และห้องน้ำที่นี่ไม่ดีเลยน้ำไหลบ้างไม่ไหลบ้างสกปรก จนท. ไม่มาดูแล ใครที่มีผู้สูงอายุมาด้วย และมีกำลังทรัพย์ หน่อย ให้ไปนอนแพที่มีห้องน้ำในตัวว นะคะ แพงหน่อยแต่น่าจะสะดวกสบายกว่านี้ ส่วนพวกเราเบี้ยน้อยหอยน้อยต้องทน ตื่นมาพร้อมกับอากาศสดชื่น ชงกาแฟกิน เก็บภาพความประทับใจไว้ให้เต็มอิ่ม และไปทานอาหารเช้ากัน เป็นข้าวต้มกุ้ย+กับข้าว 3 อย่าง แม่ครัวที่นี่ inlove นะใครชอบหวานคงได้เฮ .... ส่วนพวกเราได้โฮ อ่ะ (หวานไม่หวาน สังเกตุขนมปัง ไม่ได้ทาน เพราะเล่นคลุกน้ำตาลมาเต็มแผ่นเลย) 9 โมงขึ้นเรือกลับ บ๊ายบาย คงไม่มาที่นี่อีกแล้วแพสายชล แต่สุราษ ยังต้องมาอีก เพราะสมุยฉันต้องไปเที่ยวให้ได้ค่ะ ถึงท่าเรือ โทร.หาคนขับรถตู้ตอนแรกคุยกับคนขับว่า วันนี้จะเหมารถพาเราไปไหว้พระราคา 1500 บาทก่อนขึ้นเครื่อง 15.55 น. พอติดต่ออีกที 1500 คือค่าเช่า น้ำมันต่างหากก เลยไม่ได้ไปและเรียกรถตู้ไปส่งที่สนามบินเลยแล้วกันคนละ 180 บาทเท่าขามา ถึงสนามบินก็ขึ้นไปทานข้าว ที่ชั้น 2 ค่ะ (มื้อนี้ทานกันตามอัธยาศัย ใครใคร่ทาน ตามใจ ไม่ใช้เงินกองกลาง จำราคาไม่ได้ ก๋วยเตี่ยวเรา 80 บาท น้ำขวด20 บาท ขนมจีน 90 บาท ส่วนข้าวก็ 70-100 ประมาณนีค่ะ อยู่สนามบิน ก็ซื้อของฝาก ที่นี่ดีหน่อย ราคาของฝากสนามบิน กับร้านค้า จะราคาเท่ากัน เลยซื้อที่นี่ เพราะมารถตู้ ไม่สะดวกแวะซื้อร้านข้างนอกค่ะ เครื่อง delay นิดหน่อย เรียกว่ามาถึงปุ๊บ ไม่ทำความสะอาด เราก็ขึ้นปั๊บ ที่นั่งมีน้ำที่ผู้โดยสารทำหกอยู่เลย ขากลับ ทำไมเที่ยวนี้ควันอะไรไม่รู้ เต็มห้องผู้โดยสารเลย เยอะเกินนะ เราว่า แต่ไม่ทราบสาเหตุเหมือนกัน ถ่ายไว้ดูดีกว่า ถึงสนามบิน เข้าแถวเรียกแท็กซี่ ต่อแถวไปเรื่อย ๆ เค้าคงไม่ให้เราขึ้นแน่ ๆ ตั้ง 6 คน คงต้องเรียก 2 ค้น เลยเดินขึ้นมาเรียกชั้น 2 พอดีเจอ แท็กซี่ INNOVA จอดพอดี พอเอากระเป๋าขึ้น คนนั่งเสร็จ แท็กซี่ ไม่กดมิเตอร์ ให้เหมา 800 บาท สาดดดด เสียท่าแระ โซเฟอร์บอกไม่งั้นพวกคุณก็ต้องเรียก 2 คัน แพงกว่าอีก พวกเราเลยต่อเหลือ 700 บาท (แพงอ่ะ ขามาจากมหาชัยแค่ 620 เอง 55) ตอนหลังเจือกเก็บค่าทางด่วนอีก 20 บาท ออกคนละครึ่ง เซ็งเลย แต่ช่างมัน ดีกว่าเรียก 2 คันนาน ๆ ไปที สรุป ประทับใจในสถานที่ (คือธรรมชาติ) คุ้มค่าที่รอคอยมาหลาย ๆ คนได้ภาพสวย ๆ ได้อาบน้ำชุ่มปอดสะใจไปตามๆ กันส่วนเราประทับใจที่สุดจะเป็นเจ้ากระสุนพระอินทร์ เพราะอยากเป็นตัวจริง ๆ มานานแล้ว(เคยดูในรายการเนวิเกเตอร์) รายละเอียดค่าใช้จ่าย 6 ท่าน ค่าที่พัก = 6000 บาท ค่าเรือ = 2000 บาท ค่ารถตู้ ไป-กลับ 2160 บาท ค่าแท็กซี่ขาไป = 620 บาท ขากลับ 720 บาท ค่าอาหารก่อนขึ้นเรือ = 430 บาท ค่าเข้าอุทยาน = 240 บาท ค่าตั๋วเครื่องบิน 963 บาท รวม 13,133 บาท บ๊าย บาย จ้า ทริป ไป 6 คน กลุ่มนี้ไม่มีอีกแล้ว (หมดสต็อคแล้ว 55 คงต้องรอหางแดงออกโปรฯ อีกครั้งต่อไป แต่ไม่รู้ว่าสมาชิกจะครบแบบนี้หรือเปล่า วันข้างหน้า เราไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไร ขอให้ทำวันนี้ให้ดีที่สุดดีกว่า เจอกันอีกที สิ้นปีนี้ที่เชียงใหม่ กับ สามี คงไม่สนุกแบบนี้ แต่ก็จะพยายามนำเรื่องราวท่องเที่ยวมาแบ่งปัน เพื่อน ๆ เพื่อจะเป็นแนวทางได้ ไม่มากก็น้อยค่ะ บายยยย) โดย: Kavanich96 วันที่: 24 ตุลาคม 2555 เวลา:4:46:16 น.
|
nuch9981
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?] ไปทุกที่...ที่มีทาง Friends Blog
Link |