Group Blog
 
 
กันยายน 2552
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
26 กันยายน 2552
 
All Blogs
 
ขวบปีแรก

เผลอแป๊ปเดียว ตอนนี้ลูกจะ 5 เดือนแล้ว ส่วนblog ยังไม่ไปถึงไหนเลย ต้องรีบซะแล้ว เอาเป็นว่ามาเริ่มที่เดือนที่ 1ก่อนเลยแล้วกัน


เดือนแรก
เป็นเดือนแห่งความวุ่นวาย แล้วก็สับสนสำหรับตัวคุณแม่เอง เพราะว่าไม่มั่นใจว่าจะสามารถเลี้ยงลูกได้รึป่าว เกิดอาการเครียดหลังคลอดที่เค้าเรียกว่าซึมเศร้า 3 วัน 7วัน จะทำอะไรก็เกร็งไปหมด ลูกร้องก็ไม่รู้ว่าจะตอบสนองความต้องการลูกได้ยังไง ไม่เข้าใจว่าที่เค้าร้องเค้าต้องการอะไรกันแน่ จะหิว จะร้อน จะหนาว ปวดอึ ปวดฉี่ เอาไงกันดีล่ะที่นี้ คุณพ่อไปหาซีดีของแคร์ที่เค้าบอกว่าฟังเสียงเด็กออกว่าเด็กต้องการอะไรมาให้ดู ดูไปก็ไม่เห็นจะได้ผลอะไร ฟังยังไงมันเสียงเดียวกันหมด เอาไงดีล่ะทีนี้ มึนเลย เลี้ยงลูกนี่ยากสุดๆ จะอาบน้ำให้ลูกก็อาบไม่เป็น กลัวที่สุดกลัวน้ำเข้าหูลูก เพราะว่าคอลูกก็ไม่แข็ง จับก็ไม่ถนัดมือ เช็ดตัวมาเป็นอาทิตย์แล้ว กว่าจะทำใจอาบน้ำให้ลูกได้ ทางโรงพยาบาลเค้าก็สอนมาหรอกนะ แต่เราไม่ได้ทำตามแบบนั้นหรอก เพราะว่าสถานที่ไม่อำนวย ก็เลยดัดแปลงกันไป อาบไปอาบมาเปียกทั้งแม่ทั้งลูก เล็บก็ไม่กล้าตัดกลัวตัดเข้าเนื้อลูก ก็เลยใช้ตะไบค่อยๆ ถูเอา สรุปเดือนแรกเป็นเดือนที่ทั้งคุณแม่และคุณลูกต้องทำการศึกษากันไป

>center>

เดือนที่2
เริ่มมีความมั่นใจมากขั้น แต่ยังไม่เข้าใจที่หรอกนะว่านู๋ร้องทำไม มีอยู่วันนึงนู๋ร้อง ร้องหนักมาก คุณแม่ก็อุ้มนู๋ตลอด อุ้มไปอุ้มมา ลัลลาก็เรอออกมาอ๊อกนึงแล้วนู๋ก็หยุดร้อง คุณแม่ถึงได้เข้าใจว่าที่นู๋ร้องเพราะว่ามีลมในท้อง ช่วง 3 เดือนแรกร้องมาก แบบที่เค้าเรียกว่า โคลิค กันนั่นหล่ะ ร้องเพราะว่าปวดท้อง ต้องทามหาหิงค์กันแบบว่าอาบกันเลยถึงจะหาย ตอนแรกคุณพยาบาลก็บอกแล้วว่าลัลลาเป็นเด็กที่มีลมเยอะกว่าคนอื่น แล้วก็เรอยากมั๊กๆ แต่ก็ไม่เข้าใจหรอกนะที่พูดมามันจะมีปัญหาอะไร พอมาเลี้ยงเองถึงได้รู้ว่าการที่เค้าเรอยาก ทำให้เค้าปวดท้อง เพราะฉะนั้นหลังกินนมทุกครั้งต้องทำให้เด็กเรอก่อน ห้ามวางลงนอนเด็ดขาด เพราะว่าไม่อย่างงั้นเค้าจะอ๊วกออกมา แต่ลัลลาทั้งจับลูบหลัง พาดบ่า ทำท่าไหนก็ไม่เรอ เพราะฉะนั้นหลังกินนมเสร็จก็เลยต้องอุ้มไว้ก่อนอย่างน้อยก็ครึ่งชั่วโมงให้นมย่อยให้หมดก่อน ถ้าไม่งั้นอ๊วกออกมาหมดแน่ ต้องเริ่มกินกันใหม่อีก เปลี่ยนชุดกันใหม่อีกเพราะว่าเลอะไปหมด ตอนนี้ที่นอนเน่าไปหมดแล้ว ทั้งอึ ทั้งฉี่ ทั้งอ๊วก สารพัด กะว่าลูกโตเมื่อไหร่ เปลี่ยนที่นอนทีเดียว



เดือนที่ 3
เริ่มเข้าใจแล้วว่าเค้าร้องเพราะว่าอะไร ใช้การสังเกต บวกกับความรู้สึกผสมกันไป แต่ว่าก็ยังร้องมากเหมือนเดิม ส่วนใหญ่ก็ร้องเพราะว่าปวดท้องนั่นแหละ แต่ว่าตอนนี้ดีอยู่อย่างไม่ได้นั่งให้ลูกกินนมเหมือนก่อน เริ่มมีการหัดให้ลูกนอนกินนม เพราะจะได้ไม่เหนื่อยมาก เผลอๆ ลูกกินนมเสร็จจะได้หลับไปเลยไม่ตื่นมาอ๊วกอีก ไม่งั้นไม่ได้หลับไม่ได้นอนกันเลย เพราะว่าลัลลาชอบปวดท้องตอนกลางคืน เพราะฉะนั้นตอนกลางวันเค้าจะหลับทั้งวัน ก็ไม่มั่นใจเหมือนกันว่าเป็นเพราะว่าติดนิสัยตอนท้องที่นอนไม่หลับตอนกลางคืนแล้วมานอนตอนกลางวันรึป่าว ลูกถึงได้นอนกลางวัน ตื่นกลางคืน สลับกัน แต่ท่าทางลัลลาจะชอบนอนกินนมมากกว่านั่งกินบนตัก เพราะว่าสามารถดิ้นได้ นอนสบายกว่า เพราะว่าบางทีดูท่าทางจะหิวจับให้นั่งกินไม่กิน แต่พอจับนอนกินถึงได้กิน เดือนนี้เบาแรงขึ้นเยอะ แต่ปัญหาที่หนักใจก็คือ วันๆ ก็คือไม่ได้ออกไปไหนเลย อยู่กันแต่ในห้อง เพราะว่าเวลาที่ตื่นน่ะดึกแล้ว ออกไปไหนไม่ได้ ต้องเล่นกันสองคนแม่ลูกทุกคืน แต่ที่หนักใจที่สุดทำยังไงลูกถึงจะเปลี่ยนเวลามานอนตอนกลางคืน เพราะถ้าขืนปล่อยไปแบบนี้ ลูกจะขาดโอกาสที่จะเรียนรู้อะไรอีกเยอะเลย และช่วงนี้ลัลลาก็ชอบอมมือมากๆ ต้องคอยล้างมือบ่อยๆ



เดือนที่ 4
เด็กนี่ตลกเนอะ วันที่ 89 คอยังอ่อนโงกเงกๆ แต่พอวันที่ 90 ปุ๊ปคอแข็งปั๊บเลย และพอลัลลาคอแข็งนี่แหละ ก็ปวดท้องน้อยลง เรอง่ายขึ้น สบายขึ้นเยอะ และพออายุได้ 3 เดือนกับ 20 วัน ลัลลาก็คว่ำได้แล้ว หลังจากที่พยายามมาหลายวัน ช่วงนี้ก็พาออกไปเดินเล่นกันตอนเย็นๆ บ้างแล้ว แต่หน้าตาเวลาออกจากบ้านจะไม่ค่อยยิ้มเท่าไหร่ จะดึงหน้าเก็กนิดนึง พากลับมาก็หิวแล้วก็หลับตื่นมาตอนดึกเหมือนเคย



เดือนที่ 5
และแล้วก็เปลี่ยนเวลานอนลูกได้สำเร็จ นอนประมาณ 2 ทุ่ม ตื่นประมาณ 6โมงเช้า กินนมบ้างนิดหน่อยแล้วก็หลับต่อ มันเกิดจากความบังเอิญที่อยู่วันนึงลัลลาหลับเร็วเฉยเลย หลังจากนั้นก็พยายามดูเวลาการนอนกลางวันให้ดีไม่ให้มากเกินจนมาทับเวลานอนตอนกลางวัน แต่ตัวคุณแม่เองดันปรับไม่ได้ ติดนอนดึกซะเอง แล้วก็มาง่วงตอนกลางวันแทน เฮ้อกลุ้มเลยเรา ส่วนหน้าก็ผดเต็มไปหมดชอบอมมือแล้วก็มาป้ายหน้าตัวเอง และก็ยังมีรอยเล็บข่วนยาวเลย แถมลึกด้วยขอโทษนะลูก คุณแม่มัวแต่ง่วงนอน ลืมตัดเล็บให้ลูก รับรองจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีกนะลูก
แล้วประสบการณ์ให้ของลัลลาก็มาถึง คุณพ่อพาน้องลัลลาไปที่ทำงานครั้งแรก โอโห ร้องจะเป็นจะตาย ตอนแรกก็ยังดีๆ อยู่ แต่พอคนมามุงเยอะเข้า คนนี้อุ้ม คนโน้นอุ้ม พอรู้ตัวอีกว่าคนที่อุ้มไม่ใช่คุณแม่ก็เลยร้องไม่หยุดเลย เลยพาลเสียไปทั้งวัน แต่คุณแม่ก็ยังยืนยันว่าจะพาลัลลาไปห้างให้ได้ แต่พอคุณพ่อเห็นว่าลัลลาร้องไห้ก็เลยจะไม่พาไป คงกลัวว่าลูกจะพาไปทำให้อายด้วยแหละ แต่ไม่ได้ ยิ่งร้อง ต้องยิ่งพาไป ดีนะที่รู้ตัวตั้งแต่เนิ่นๆ นี่แหละคือผลเสียที่เลี้ยงลูกแต่ในห้องไม่เคยพาไปไหน สาเหตุก็มาจากการที่คุณพ่อกลัวเชื้อโรคนี่แหละ ตอนไปถึงห้างแรกๆ ก็ทำปากแหลม เลยหล่ะ ตั้งใจจะร้องแน่นอน เพราะได้ยินเสียงลำโพงเสียงดัง แต่คุณแม่ทำเป็นไม่สนใจ พาเบี่ยงเบนความสนใจไปเรื่อย แล้วก็ค่อยๆ พาเข้าไปใกล้ลำโพงเรื่อยๆ ค่อยๆ เขยิบเข้าไปที่ละนิด ทีละนิด จนเค้าไม่กลัว แต่ก็มาร้องตอนเกือบกลับนิดหน่อย ไม่เป็นไร นี่คือครั้งแรก เคยแต่ไปโรงพยาบาล กับอยู่กับบ้าน งั้นต่อไปต้องออกบ้านบ่อยๆ ลูกจะได้ไม่กลัว สู้ๆ นะนู๋ลัลลา

>center>

เดือนทีุ่6
ลัลลาได้ไปบ้านคุณตา คุณยายครั้งแรก
และก็ ได้เจอกับพี่มาวินครั้งแรก วันนี้นู๋ไปฉีดวัคซีนมา ขากลับเลยแวะมาเยี่ยมคุณตา คุณยาย แล้วก็เลยถือโอกาสค้างคืนด้วย ซะเลย
ลัลลาร่าเริงมาก ฉีดยาก็ไม่ร้องไห้เลยสำหรับเข็มแรกนะ ส่วนเข็มที่สองร้องนิดหน่อยแต่โอ๋แปปเดียวก็หาย ระหว่างรอคุณหมอ ลัลลาก็เล่นกับคนไข้ พี่พยาบาล สนุกสนาน หัวเราะคิกคักสนุกเชียว วันนี้คุณแม่พาน้องมาหาหมอคนเดียว เพราะว่าไม่อยากมากับคุณพ่อ น้องลัลลาเลยสนุกเต็มที่

หลังจากตลอด6เดือนที่ผ่านมา กินแต่นมแม่อย่างเดียว ต่อไปนี้จะได้ลองกินอาหารที่คุณแม่ทำสักที แต่ก็เคยลองให้ชิมพวกโยเกิรต์ ผลไม้ต่างๆ มาบ้าง
เพราะลัลลาดูสนใจ และชอบมองตอนที่คุณแม่กิน ดูท่าทางจะเป็นเด็กกินง่าย
พอมาอยู่บ้านคุณยาย คุณยายก็เลยทำให้กินด้วย เพราะว่าต้องทำให้พี่มาวินกินอยู่แล้ว กินง่ายมาก ผิดกับพี่มาวินที่ต้องหลอกต้องล่อ สบายเลยเรา แบบนี้ต้องอ้วนแน่ๆ เลย
ไม่น่าเชื่อ ไม่ค่อยจะได้เจอ คุณตา คุณยาย น้าตั๊ก ซักเท่าไหร่ แต่ก็ไม่มีปัญหาอะไร ดูสนิทแล้วก็เข้ากันได้ดี อย่างไม่น่าเชื่อเลย อยู่ที่นี่ก็สนุกดีมีพี่มาวินเป็นเพื่อน อากาศก็บริสุทธิ์ ไม่ต้องอยู่ในแอร์ตลอดทั้งวัน มีที่ให้เดินเล่น ลัลลาก็ดูสดชื่นมากๆ เลย



เดือนที่7
เดือนนี้เป็นเดือนที่น่าเศร้าที่สุด น้องลัลลา เข้าโรงพยาบาลเพราะท้องเสีย เหตุก็เกิดจากคุณแม่นี่แหละ แต่ระหว่างอยู่ที่โรงพยาบาล เอาแก้วน้ำให้ลัลลากิน ก็ได้ยินเสียง แก๊ก ๆๆๆ อะไรหว่า มองผ่านแก้ว อ้าว ลัลลาฟันขึ้นแล้ว 2 ซีก แต่ยังโผล่ไม่พ้น กำลังจะขึ้น
ไม่น่าเชื่อเนอะ เด็กตัวนิดเดียวจะสามารถนั่งรถไกลได้เป็น10ชั่วโมง ตอนแรกก็เป็นกังวลเหมือนกันกลัวว่าน้องลัลลาจะ ป่วยเดินทางไกล ที่ไหนได้แข็งแรงยิ่งกว่าผู้ใหญ่ ขนาดน้าตั๊ก กับคุณยายนั่งปวดหัว ไปตลอดทาง แต่ลัลลา ร่าเริงตลอด หัวเราะคิคคัก ชอบเดินทางเอามากๆ

เดือนที่8
เดือนนี้น้องลัลลาได้ไปหัวหิน เล่นน้ำทะเลเป็นครั้งแรก ชอบมากๆ เอาเก้าอี้ไปให้นั่งในน้ำทะเล นั่งไปนั่งมา น้ำซัดเกือบล้ม ตั้งแต่ลัลลาป่วย ก็ไม่ค่อยจะกินข้าวเลย แต่พอมาอยู่ที่หัวหิน ลุงเซฟต้มข้าวให้ลัลลากิน ปรากฏว่าลัลลากินข้าวหมดวันละหม้อเลย (หม้อเด็กนะ)
ก็ทำตามที่ฉลากเขาบอกว่าให้ใส่ในน้ำร้อนแล้วกินได้เลย จมูกข้าวกล้องสำหรับทำโจ๊กนั่นแหละ แต่ผลปรากฏว่าลูกไม่กิน พอดีน้าตั๊กชิมข้าวที่ต้มให้ลัลลากิน บอกว่ามันยังแข็งอยู่เลย งั้นที่ลูกไม่ยอมกินข้าว คงมีสาเหตุมาจากคุณแม่เอง ที่ชุ่ย ไม่ชิมของที่ให้ลูกกิน กลับไปจะทำตามที่ลุงเซฟทำให้กินเลยนะ ช่วงนี้ลัลลาเลยอ้วนขึ้นมาหน่อย พอดึกๆ ก็พาเดินเล่นที่ตลาดโต้รุ่ง ลัลลา ชอบมากเลย เวลาร้องไห้อุ้มให้ยืนดูตลาดก็หายทันที ตอนกลางวันก็มาช่วยน้าตั๊กขายของ มีฝรั่งมาคุยเล่นกับลัลลาทุกวันเลย
Hello sweety..... ลัลลา hello hello อยู่ที่นี่ลัลลาชอบมากๆ ชอบให้คนพาเดินเที่ยว ตอนแรกนึกว่าจะร้องไม่ยอมให้ใครอุ้ม ที่ไหนได้เข้าได้กับทุกคนในบ้าน ยกเว้นคนนอกบ้านไม่ยอมให้อุ้มเลย มองหน้ายังไม่ได้เลย อยู่ที่ happy จังเลย ลัลลามีความสุข คุณแม่ก็มีความสุข แต่ที่น่าแปลกใจก็คือตอนดึกๆ จะเสียงดังมากเพราะว่าพวกพ่อค้า แม่ค้าต้องเก็บร้าน ส่วนตอนตีห้าก็ต้องมีคนมาตั้งตลาดอีกกว่าจะเงียบก็ 8 -9โมงเช้า แต่ก็มีเสียงรถอีก กังวลเหมือนกันกลัวว่าลัลลาจะนอนไม่ได้ ที่ไหนได้หลับสบายเลย เด็กนี่ก็แปลกนะสามารถปรับตัวได้แบบไม่น่าเชื่อ ทีที่บ้านนะเงียบสงบเสียงอะไรนิดอะไรหน่อยเด๋วตื่น เด๋วตื่น จนคนในบ้างเกร็งไม่กล้าทำอะไรเสียงดัง กลัวลัลลาตื่น แต่นี่อะไร เสียงดังมั๊กๆ ไม่รู้จะอธิบายว่าอะไร ดังจริงๆ ขนาดผู้ใหญ่ยังนอนไม่หลับเลย แต่ลัลลาดันหลับสบาย

เดือนนี้ฟันลัลลาขึ้นอีก 2 ซีกบน แต่ดันขึ้นคนละที ห่างกันด้วย คนอื่นเค้าขึ้นเป็นคู่ชิดกัน นี่ดูเหมือนฟันหลอเลย ต้องรอให้ฟันข้างๆ ขึ้น ถึงจะชิดกัน แต่ก็น่ารักไปอีกแบบ ตอนนี้กำลังหัดนั่ง เด๋วล้ม เด๋วล้ม หัวโนไปหลายที

เดือนที่9
พอกลับมาจากหัวหิน 2 วันแรกก็ยังกินปกติดี แต่หลังจากนั้นไม่ยอมกินเลย อีกสัก 3- 4 วันปรากฏว่าลัลลาไข้ขึ้น หัวค่ำยังปกติอยู่เลย วัดไข้ไป วัดไข้มา ไข้ขึ้นเรื่อย จน 39 แล้ว โอยไม่ไหวกลัว ชวนคุณพ่อพาน้องลัลลาไปหาหมอดีกว่า กลัวลูกชัก เพราะว่าได้ยินมาว่าถ้าไข้ขึ้นสูงมากๆ อันตราย ก็เลยไปหาหมอตอนเที่ยงคืน ถามคุณหมอว่าทำไม หรือว่าเกิดจากอาบน้ำให้ลูกตอนดึก คุณหมอบอกว่าไม่ใช่หรอก แสดงว่าเค้าได้รับเชื้อมาหลายวันแล้ว แต่พึ่งแสดงอาการ คิดไปคิดมา เอ..หรือว่าที่พาลูกไปเดินเล่นตลาดนัดวันอาทิตย์ เพราะว่ามันก็ร้อนมากเหมือนกัน แต่ว่าก็ไม่ได้สกปรกอะไรนี่หน่า หรือจะเป็นวันก่อนที่พาลัลลาไปดูคุณพ่อแตะบอลที่หน้าวัด แล้วระหว่างรอ ก็นั่งเล่นในรถอาแปะ หรือว่ารถจะสกปรก เพราะถ้าจะว่าลมโกรก หนาวก็ไม่ใช่ เอ.หรือว่าจะเป็นวันอาทิตย์ตอนกลางคืนที่ไปงานวันเกิดอาม่าแล้วไปเล่นกับเหม่ยเหมย ไจ่ไจ๋ เพราะว่าวันจันทร์ ได้ยินเสียงเหม่ยเหมยร้องได้โยเย ประมาณว่าไม่สบาย สงสัยจะได้ไปรับเชื้อเค้ามา แต่ไม่ว่าจะอะไรก็ตาม การที่ลัลลาได้รับเชื้อโรคแล้วไม่สบายง่ายแบบนี้ แปลว่าเราเลี้ยงลูกไม่ดี ไม่แข็งแรง ลูกถึงไม่มีภูมิต้านทานกับเชื้อโรค พอไปหาหมอพี่พยาบาลมาเช็ดตัวให้ ลัลลาก็ร้อง ยังกับว่ามีใครมาหยิก ร้อง อยู่นั่นแหละ คุณหมอก็อธิบายว่าการจะเช็ดตัวให้อุณหภูมิลดต้องเช็ดเป็น 5- 10 นาทีไม่ต้องกลัวว่าลูกจะปอดบวม อือ ก็พึ่งรู้เนอะ นึกว่าต้องเช็ดนิดๆ หน่อยๆ เป็นความรู้ใหม่จะได้เช็ดถูก พี่พยาบาลป้อนยาก็อ๊วก ตอนแรกหวังดีช่วยที่ไหนได้อ๊วกเหมือนกัน ก็เลยให้พี่พยาบาลเค้าทำเอง แต่ต้องช่วยกันจับแขน จับขาลัลลาไว้ ไม่ให้ดิ้นไม่งั้น คราวนี้พี่พยาบาลโกรธแน่ คุณพ่อก็ดันถามคุณหมออีกว่า การให้ลูกสัมผัสเชื้อโรคบ้าง ที่เค้าว่าเป็นการสร้างภูมิต้านทานแก่ลูกบ้างไม่งั้นลูกจะไม่แข็งแรง ถูกต้องมั๊ย คุณหมอก็ว่าไม่ได้ เพราะปัจจุบันเชื้อโรคเยอะมาก อันตราย และก็เน้นให้ล้างมือทุกครั้งก่อนจับลูก โอ้ย....คุณหมอ ล้างจนมือเปื่อย เหี่ยวไปหมดแล้ว ป้องกันกันทุกวิธี ก็ไม่เข้าใจ ลูกได้รับมาจากไหน ของเล่นก็ล้างทุกวัน แปลกนะ ลูกบางคนไม่เท่านี้เลยก็ไม่เห็นเป็นอะไรเลย บางบ้านเค้าว่าขวดนมไม่ต้องต้มก็ได้ เขย่าน้ำร้อนก็พอ เด็กเค้าก็ปกติดี น้ำยาก็ไม่ใช่น้ำยาล้างขวดนม อาหารที่เค้าขายข้างถนนก็กินกันได้ ไม่ใช่เป็นอะไรหรอกนะ เคยให้กินกระเพาะปลา กับก๋วยจั๊บลูกดันท้องเสีย ก็เลยไม่กล้าเอาอาหารที่ซื้อให้ลูกกินอีก แต่ป่วยครั้งนี้ไม่มาก 2 วันก็หาย แต่เช็ดตัวทีไรร้องไห้ทุกที แต่ดีหน่อยที่ยอมกินอาหารอื่นบ้าง แต่ถ้าเทียบกับที่หัวหิน ถือว่าน้อยมาก เออ....ก็ยังดี ดีกว่าไม่กินเลย

สำหรับพัฒนาการในเดือนนี้ ลัลลาสามารถ ตบมือตามเพลงได้ เวลาได้ยินเสียงเพลง จะแอ่นตัวดึ๊กๆๆ ถ้าอาม่าพูดว่า เตงๆจ๋า แล้วมีจังหวะเร็วเค้าก็จะตบมือ แล้วที่สำคัญเค้าเข้าใจว่า clap your hand คือการปรบมือ คุณแม่ภูมิใจมั๊กๆ
ส่วนทางด้านร่างกาย ลัลลาสามารถลุกขึ้นนั่งเองได้ แล้วก็สามารถนั่งเองไม่ต้องใช้อะไรช่วยพิงหลังในการนั่งแล้ว อาจจะมีบ้างที่เซไปด้านหลัง แต่นิดหน่อยไม่มาก แล้วตอนนี้เค้าก็พยายามพยุงตัวเองให้ลุกขึ้นยืน เกาะของเล่น
แต่ว่าขายังไม่แข็ง ล้มแล้วก็ร้องไห้ แง แง แง

แล้วไม่กี่วันต่อมา จากการล้มลุกคลุกคลาน โดยมีหมอนกอดอยู่ตรงกลาง ลัลลาพลิกตัวขึ้นมาค้างอยู่บนหมอนกอดอันเล็ก แล้วก็ทำอีท่าไหนก็ไม่รู้ พยุงตัวเองลุกขึ้นมาได้ แล้วนับแต่นั้นมา ลัลลาก็รู้ว่าตัวเค้าเองก็มีความสามารถที่จะลุกขึ้นมาเองได้นี่หน่า หลังจากนั้นเค้าก็พยายามอีกสอง สามครั้ง ลัลลาก็สามารถลุกขึ้นนั่งเองได้ ไชโย ลัลลาโตขึ้นอีกแล้ว

แต่นับตั้งแต่ลัลลาเริ่มรู้จักโลกภายนอก ที่ไม่ได้มีแค่ห้องสี่เหลี่ยม ลัลลาก็ดูจะเพลิดเพลินกับการเรียนรู้โลกภายนอกมากๆ จากตอนแรกๆที่จะกลัวไปหมด ใครผ่านมาทักก็ไม่ได้ ไม่ยอม กลัว ร้องไห้แงงงงงงงง แม้แต่กินข้าวจะมานั่งป้อนกันในห้องธรรมดาไม่ได้แล้ว ต้องมีการชมนกชมไม้ก่อน พาไปเดินเล่นซักรอบ ก็ยังดี ยิ่งถ้ามีกู๋ไจ๋ กับอี๊เหมยมาเล่นด้วยตอนกินข้าว ยิ่งสนุกไปกันใหญ่ เห็นเค้าวิ่งเล่นกัน ก็อยากจะตามเค้าไป เค้าหายไปก็ร้องตาม ดูเป็นเด็กจะชอบสังคมเหมือนอากง คุณพ่อ แล้วก็คุณตาซะจริงๆ ลัลลาชอบออกไปเที่ยวนอกบ้านมากๆ ถึงขั้นว่าเห็นใครออกนอกบ้านไม่ได้จะร้องตามไปหมด อยากจะไปด้วย ช่วงนี้ถือโอกาสว่าลัลลายืนได้แข็งแล้ว คุณพ่อก็จะลัลลาไปตักบาตรทุกเช้า ถ้าลัลลาตื่นเช้านะ (ช่วงนี้นอนดึกมากบางทีถึงตีหนึ่ง เพราะฉะนั้นช่วงนี้นู๋ตื่นสายมากๆ) เพื่อเป็นการเปิดโลกทรรศน์ให้ลัลลา ยิ่งช่วงนี้มีงานวัด ลัลลาเลยไปเริงราทุกคืน เวลาออกนอกบ้านนี่จะร่่าเริงเป็นพิเศษ แต่พอไปถึงงานก็จะตีหน้าเฉยๆ ไม่แสดงอารมณ์อะไร พาไปนั่งม้าหมุน จะว่ากลัวก็ไม่กลัวนะ ไม่ร้อง ไม่ทำท่าจะออก แต่หน้าตาก็ไม่ยิ้มอะไร แต่ตัวจะเต้นดึ๋กๆๆ ตามจังหวะดนตรี ส่วนขาก็จะเตะๆๆ แต่เวลาไปยืนดูเค้าเล่นบ้านบอล ก็จะตบมือ นั่นแสดงว่าพอใจ แต่หน้าจะตายมาก ตีหน้านิ่งๆ แต่ก็ชอบใจนะแต่ไม่ยอมยิ้ม แปลกเหมือนกัน
เดือนนี้ถือว่าเป็นเดือนที่ลัลลามีพัฒนาการมากเลยเพราะจากที่เคยสอนโน่น สอนนี่มาตั้งนาน ธุจ้าสิลูก ส่งจูบด้วย สวนเท่าไหร่ก็ไม่ทำ อยู่ดีๆ ก็ทำขึ้นมาเอง สงสัยจะสังเกตจากคุณแม่ กะคุณพ่อว่าเวลาเจอผู้ใหญ่ต้องสวัสดี พอเค้าเจอคุณตาเค้าก็ยกมือสวัสดีเองเลย ส่วนเวลาที่เห็นคนอื่นกำลังจะไปก็ยกมือบ๊าย บาย และที่ทำได้ก่อนอย่างอื่นเลยก็คือยกมือที่ข้างหูทำเป็นฮัลโหล คุณพ่อบอกว่าสงสัยวัน ๆเอาแต่คุยโทรศัพท์ ลูกเลยทำได้ก่อนอย่างอื่น และถ้ายิ่งร้องเพลง นอย นอย นอย ก็จะเอามือขึ้นมารำหน้าตานิ่งๆ พอคุณแม่เห็นลูกชอบรำ ก็เลยพยายามจีบมือเป็นตัวอย่างให้ลูกดู ตอนนี้ก็เลยรำแบบจีบ น่ารักไปอีกแบบ เด็กนี่เป็นวัยแห่งการเลียนแบบจริงๆ เพราะฉะนั้นเราต้องระวังซะแล้ว
ส่วนทางด้านร่างกาย เดือนนี้หนูนั่งแข็งแล้วจ้า



เดือนที่10
ฟันซีกที่ห้า หกข้างบนกำลังขึ้น
และก็สนุกกับการคลาน
พอลัลลาย่างเข้าเดือนที่สิบ หนูก็ไปเกาะช้างมาแล้วจ้า ลัลลาเก่งมีแต่คนชมว่านั่งรถเก่ง ไม่งอแงเลย ก็ใช่สิขอแค่ได้ออกนอกบ้าน คุณเธอก็ระรื่นจนลืมหิว ลืมนอนอยู่แล้ว แต่ติดขัดนิดหน่อยที่ช่วงเช้าก่อนจะไปถึงเกาะช้างต้องรอเรือเฟอร์รี่ อากาศร้อนมาก กว่าจะได้เข้าห้องพักก็เกือบเที่ยง เครื่องเลยรวนนิดหน่อย แต่ดูน่าสงสารมากกว่า แต่พอได้เข้าห้องพัก ได้เจอแอร์เย็นๆ ก็สบาย ร่าเริงเหมือนเดิม ใครๆก็บอกว่าเลี้ยงง่าย ไม่น่าเชื่อเลย อยู่บ้านไม่เห็นง่ายแบบนี้เลย แต่ก็ไม่ได้บอกใครหรอกนะ พอกลับมากรุงเทพๆ ลัลลาก็คลานเริ่มเก่ง แต่ที่แย่คือกินยากมากๆ บังคับก็ไม่ได้ ตอนแรกพอเปลี่ยนมาเป็นอาหารซื้อก็ตื่นเต้นกินดีอยู่สักพัก ตอนนี้จะซื้อจะทำ ไม่เอาทั้งนั้น น่าเบื่อมากเลย ก็ไม่ได้อยากให้ลูกอ้วนหรอกนะ แต่การที่เค้ากินน้อย ก็หมายถึงอาหารที่จะบำรุงสมองจะไม่ถึง ทำไงดีน้า

เดือนที่ 11
เวลามันเดินไปเร็วมาก แปปๆ ลัลลาจะขวบแล้ว แต่ไดอารี่ยังไปไม่ถึงไหนเลย เอาล่ะ ต้องตั้งใจใหม่ซะแล้ว
เดือนนี้ลัลลา ลัลลาเหมือนชื่อจริงๆ บ้านช่องไม่ยอมอยู่ อยากจะออกข้างนอกอย่างเดียว ช่วงนี้ก็เลยเปลี่ยนบรรยากาศ ช่วงเย็นๆ ก็พาไปเดินเล่นหน้าวัด พาไปไหว้พระ แล้วก็เดินเล่น ดูเค้าเต้นแอโรบิกกัน วันแรกที่ออกไปโชคดีมากเลย มีคนเค้าจัดงานทำขวัญนาค มีเวทีเปิดเพลงกินโต๊ะจีน บรรยากาศครึกคักมาก พอเริ่มมีดนตรีมีนักร้อง มีหางเครื่อง โหยายนี่โยกไม่หยุดเลย ตอนพาไปซื้อน้ำกินหน้าปากซอย ดันไปรอหน้าบ้านเค้าทำขวัญนาคกันอยู่ ยายนี่รำ จีบไม้จีบมือ คนก็มองเด็กอะไรรำจีบมือด้วย ตัวนิดเดียว พอมีเพลงก็เปลี่ยนมาโยก ท่าทางน่ะ happy สุดๆ แต่หน้านะ ตึงเป๊ะ ไม่ยิ้ม แบบว่าตั้งใจรำมาๆ ที่นี่มีอะไรแปลกๆ ให้ลัลลาดูเต็มไปหมด ดูตื่นเต้นดีใจ แต่พอพาบ่อยๆ ก็เริ่มเบื่อเหมือนกัน เลยต้องเปลี่ยนไปที่ใหม่เรื่อยๆ ไม่เข้าใจเหมือนกันชอบออกนอกบ้าน หรือว่าเด็กคนอื่นก็เป็นแต่เราไม่รู้ ตัวแค่นีไปงานกาชาด มา 3 วันแล้ว เดินแบบว่าแดดร้อนๆเลย แต่ก็happy นะ ตื่นเต้น นมเนิม ให้กินก็ไม่กิน ชี้แต่จะไปลูกเดียว แต่พอกลับบ้านสลบเลย ช่วงนี้เริ่มติดคุณพ่อแล้ว เพราะเรียนรู้ว่าคุณพ่อพาไปข้างนอกทุกอาทิตย์ รู้ว่าคุณพ่อพาไปข้างนอกได้ คุณพ่อคือสัญลักษณ์ของการเที่ยว เพราะฉะนั้นเวลาลัลลาเจอคุณพ่อจะดีใจมาก รีบผวาไปหา ใครขออุ้มจะไม่ยอม กลัวไม่ได้ไปกับคุณพ่อ เวลาอยากออกนอกบ้านจะไปอ้อนคุณพ่อ แสดงละคร ร้องห่มร้องไห้ให้พาไป ไม่มาทำกับคุณแม่เพราะรู้ไง ว่าไม่ได้ผล คุณแม่ไม่ใจอ่อนง่ายๆ หรอกนะ ลูกไม้ตื้นๆ ของลัลลา แต่คุณพ่อทนฟังไม่ได้ ก็ต้องพาไปทุกที บางคืนต้องพาไป seven ถึงสามรอบถึงจะยอมหลับ เล่นเอาเหนื่อยกันไปหมด แค่ได้นั่งรถ จะไปไหนก็ช่าง ระหว่างทางก็จะรำ ตบมือ เรียกหมา ฮัมเพลงไปตลอด ตัวนี่โยกไปโยกมา เวลาอยากจะไปทางไหนจะชี้ ถ้าไม่ไปจะไม่ยอมหันตัวตามมาเลย ยิ่งคุณพ่อตามใจก็ยิ่งเป็นห่วงกลัวจะเสียเด็กเหมือนกัน เพราะนับวันนิสัยก็ร้ายขึ้นทุกวัน บางทีไม่ได้อย่างใจ จะเอาจะเอา จะไป จะนอนทิ้งขากับที่นอนแรงๆ ขว้างของ ทุบคุณแม่บ้าง บางทีจะออก จะออกอย่างเดียว รอให้แต่งตัวก่อนก็ไม่ยอม บางทีก็ต้องวางทิ้งไว้กับพื้นให้ร้องไห้ไปอย่างนั้น เพราะถ้าไม่วางก็แต่งตัวไม่ได้ คุณเธอก็จะแหกปากร้องไม่ลืมหูลืมตา ร้องจนกว่าจะมาอุ้ม แต่พอทำอะไรเรียบร้อยไปอุ้มเมือแตะลูกบิดปรับเงียบทันที เราเลยเรียกประตูนี้ว่า magic door ทำเด็กหยุดร้องไห้ได้ ออกได้แต่ห้ามกลับนะ ร้องกลัวแต่ไม่ได้ไป พอได้ไป ตาเป็นประกายวิบวับเลยหล่ะ โอย ออกบ้านจนเหนื่อยไปหมด อุตสาห์เลือกไปว่ายน้ำที่เดอะมอล์บางแคมีมุมให้นม แต่ยัยนี่ออกบ้านตื่นเต้นจัดดันไม่ยอมกินนมอีก เฮ้อ เหนื่อยจัง
งานกาชาดยัยนี่ก็ไป สามวันได้ ไปแบบว่าหลับกันกลางอากาศกลับเลย แดดร้อนแต่ยัยนี่ไม่ร้อน วันนึงไปกับหยิหวา ให้หยิหวาจับตอนเล่นรถไฟราง โหยัยนี่ชอบสุดๆ เสียดายไม่ได้เอากล้องไป บางทีเห็นร้องจะเป็นจะตายก็รีบหาที่ให้นม ที่ไหนได้พอให้กินก็ไม่กิน สรุป ไม่ชอบอยู่ที่ไหนนานๆ ชอบไปเรื่อยๆ โอ๊ยเหนื่อยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
พัฒนาการทางด้านร่างกาย ตอนนี้สามารถยืนปล่อยที่เกาะได้หลายวิแล้ว ส่วนฟันบนที่ว่าจะขั้นซีกห้ากะหก ตอนนี้โผล่ชัดแค่ห้า หกยังมิดโผล่จิดเดียว คลานเก่งมาก ซนสุดๆ รื้อโน่น รื้อนี่ ชอบเล่นหูฟังต่างๆ พังไปหลายอันแล้ว แล้วก็ใช้หลอดดูดนมได้เก่งแล้ว จากช่วงแรกๆ พ่นออกจนเลอะไปหมด
พัฒนาการทางด้านสมอง ฟังอะไรรู้เรื่อง ช่วงนี้พาสวดมนต์ไหว้พระ พอคุณแม่สวดมนต์ ลัลลาก็จะแวะมาไหว้เป็นระยะๆ พอเห็นหนังสือสวดมนต์ก็จะไว้ เข้าใจคำว่า pay respect แปลว่าไหว้
พอบอกว่า no no no จะทำมือปฎิเสธแปลว่าไม่เอา
wave your hand โบกมีข้างเดียวแปลว่าไปแล้วจ้า
kiss a blow ส่งจูบ ไปแน่นอน ถ้าเวลาไปข้างนอกเวลาอยากจะพ้นจากตรงนั้น บ๊ายบายแปลว่าเบื่อแล้วไปที่อื่นดีกว่า
ดีไปอย่างเริ่มกินหลอดได้แล้วเลยกินนมกล่องได้ ไม่นั้นก็คงแต่ แต่ก็ไม่กินจริงจัง กินนิดๆ หน่อย เอ้อ ก็ยังดี

เดือนที่ 12
เดือนนี้ก็ขวบแล้วจ้า ช่วงนี้ตะลอนๆ ไปเยี่ยมคุณตาทวดอีกแล้ว เด็กอะไรก็ไม่รู้ คึกคัก ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ที่สำคัญไม่เมารถ อาจเป็นเพราะชอบเที่ยวเป็นชีวิตจิตใจอยู่ ไม่ว่าอะไรลัลลาก็ทนได้ แต่ช่วงนี้ลัลลาเริ่มเอาแต่ใจตัวเอง ไม่ยอมไม่ยอม ร้อง งี่เง่า ชี้บอกทางไปโน่นไปนี่ พอไม่พาไป ตัวนี้จะไม่ยอมเอี้ยวตาม เวลาอยากออกนอกบ้านก็จะเกาะแกะคุณพ่อ ชวนคุณพ่อไปข้างนอก ตัวแค่นี้มีมารยา รู้จักแกล้งร้องไห้ ร้องห่มร้องไห้จะเป็นจะตายเพื่อให้พาไปข้างนอก ไม่รู้มันจะอะไรกันนักกันหนา จากแต่ก่อนไม่ชอบนั่งรถเข็น ตอนนี้เหรอชอบสุดๆ เพราะหมายถึงการได้ออกนอกบ้าน แต่ที่แย่สุดๆ ก็เป็นเรื่องการกิน ไม่ชอบอาหารที่คุณแม่ทำ สงสัยจะทำไม่อร่อย สรุปก็เลยต้องซื้อของนอกบ้านให้กิน แต่ก็ต้องทำใจเรื่องความสะอาด งั้นก็เลยซื้อปิ่นโตไว้ใส่เวลาซื้ออาหารให้ เพราะไม่อยากให้ลูกกินสารพิษที่ติดมาจากถุงใส่อาหารร้อน เพราะฉะนั้นก็เลยลำบาก อากง กะ อาม่า ที่ต้องแบกปิ่นโตไปทุกครั้งที่ซื้ออาหารให้ลัลลา
ส่วนฟันก็เริ่มงอกออกมาให้ครบ 6ซีกแต่โผล่นิดๆหน่อย แต่ก็แย่นิดชอบกินนมช็อกโกแลต จะแปรงฟันให้ก็ไม่ค่อยยอม ยอมบ้างไม่ยอมบ้าง ทำไงดี เริ่มเป็นสีซ็อกแล้ว แต่ถึงยังไงก็ แฮ๊ปปี้เบริ์ดเดย์นะจะสาวน้อยคนสวยของคุณแม่




Create Date : 26 กันยายน 2552
Last Update : 13 ตุลาคม 2553 0:14:14 น. 1 comments
Counter : 942 Pageviews.

 
โชคดีจังเลยค่ะ มีลูกง่ายจัง เรารอมานานแล้ว เรื่องเลี้ยงยากไม่กลัวเลย กลัวไม่มีมากกว่า


โดย: nongmacki วันที่: 26 กันยายน 2552 เวลา:10:27:50 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

nu-lanla
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add nu-lanla's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.