เมษายน 2553

 
 
 
 
1
3
4
5
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
6 เมษายน 2553
All Blog
มิติแห่งเวลา

วันนี้เอาบทความเก่าที่เคยเสนอมาหลายแห่ง เพื่อให้บางท่านที่ไม่เคยอ่านได้รู้ หรือท่านที่เคยอ่านก็ทบทวนอีกครั้ง


เรื่องราวของเวลา เป็นเรื่องที่ต้องเล่าขานกันมาก ทั้งส่วนที่เป็นจริงตามหลักวิทยาศาสตร์ และส่วนที่ยังไม่รู้ว่าจริงเท็จตามหลักศาสตร์อื่น


วิทยาศาสตร์ได้แก่.....เวลาตามที่มนุษย์ตกลงกันเป็นสากล ตั้งแต่หน่วยใหญ่ เช่น 1 ปี คือเวลาที่โลกหมุนรอบดวงอาทิตย์ ลงมาจนถึง เศษ 1 ส่วนล้านของวินาที และยังมีเรื่องประกอบของเวลาที่มีให้ต้องอธิบายกัน กินเวลาเป็นวัน เป็นเดือน ทีเดียว


ศาสตร์อื่นได้แก่....เวลาตามไสยศาสตร์ เช่นการข้ามภพ การก้าวย่างของภพอื่นๆ เทวดา ใช้เวลามากแต่ผลน้อย เช่น เทวดากินข้าว 1 มื้อ อาจต้องใช้เวลาของมนุษย์ 20 เดือน ฯลฯ เวลาตามศาสตร์อื่นๆ เราจะไม่ต้องพูดถึงเพราะไม่หยั่งรู้และหมดทางพิสูจน์ชัดเชื่อได้


กลับมาที่เรื่องประกอบของเวลา... ในเวลาของมันเองจะมีคุณสมบัติ และคุณภาพแตกต่างกัน เช่น เวลากลางวัน สัตว์โลกจะตื่น ส่วนกลางคืนสัตว์โลกจะนอน (ส่วนหนึ่ง) เวลาเช้าจะเป็นช่วงที่อาทิตย์ขึ้น แสงจะส่องมาที่พื้นที่(แสง) กลางวันจะร้อนกว่าตอนเย็นหรือกลางคืน(อุณหภูมิ) วันเพ็ญ น้ำทะเลสูงขึ้น (ระดับ) ความจริงรายละเอีดยมาก ๆ จนเล่าได้ทั้งวันทั้งคืน จนถึงเรื่องของหยินหยาง ก็เกี่ยวกับมิติแห่งเวลาทั้งสิ้น แล้วก็มาเกี่ยวกับร่างกายคน ส่วนต่างๆ มีหยินมีหยาง ลองดูสันมือที่นิ้วชี้ จะเห็นว่ามีสีที่ถูกแบ่งจากหยาง(ส่วนครึ่งของสันนิ้วด้านนอกที่อยู่ข้างนิ้วหัว จนถึงหลังข้อนิ้ว) จะมีสีเข้มกว่าด้านฝ่านิ้ว(หยิน) ฯลฯ


เล่าไปเล่ามาเรื่องจะยาวขึ้น เมื่อยนิ้วตาลาย 555


การเล่นหุ้นนั้น เวลาก็มีความหมายมาก มากกว่าที่หลายคนคิดหรือตั้งใจศึกษามันเสียอีก
ส่วนหนึ่งของเวลาหุ้น ถูกกำหนดโดยมนุษย์ คือ กฎของตลาด เช่นเปิดตลาด เวลา 10.00น พักเที่ยง และเปิดบ่ายอีกครั้ง และปิดตลาดตามเวลาที่กำหนด ลองเปลี่ยนเป็นเปิด 08.00 ปิด 24.00 น ดู กลยุทธการเล่นอาจเปลี่ยนไป แล้วลองหนึ่งวันตั้งกฎว่าเวลาเปิดคือ 14.00 -16.00 น ดู มันจะส่งผลต่อหลักการคิดและวิเคราะห์ทางปัจจัยเทคนิคและพื้นฐานทันที และกราฟก็เชื่อถือไม่ได้ 555 แต่ไม่มีใครบ้ากำหนดเช่นนั้น แต่ถ้าลองกำหนดว่าตลาดหุ้นเปิด 24 ชั่วโมง ไม่มีพัก ทุกวันแล้วให้หยุดเฉพาะวันอาทิตย์ ดู ไม่คนเล่นประสาทกิน ก็มาร์ต้องบ้าแน่ๆ 555


ในตลาดเวลายังถูกกำหนดโดย รายใหญ่ เช่นพวกใหญ่เทียม ก็จะมาปั่นตอนใกล้ปิดตลาด 16.00-16.30 น หรือพวกใหญ่มหึมาของแท้ ก็มาปั่นหุ้นตลอดวันให้ดู ซื้อตลอดเหมือนมันจะยึดธุรกิจนั้นให้ได้ บ้าจริงๆ ถ้าไม่มีรายใหญ่มากำหนด ตลาดก็เป็นหง่อย หงอยเหงา สิ้นท่าใดๆ รายย่อยก็ได้แต่ซื้อธูปภวานารายใหญ่มาหน่อยมาช่วยซื้อให้ข้าน้อยลงจากดอยด้วย 555


มิติเวลาในระบบตลาดหุ้น เราจึงเรียกอีกแบบว่า จังหวะซื้อ จังหวะขาย มันสำคัญมากจนถึงขั้นทำให้คนที่ไม่รู้ไม่เป็น หรือซื่อบื้อ เจ๊งบ้ง หมดตัวเอาเลย คนเก่งจึงคิดกราฟขึ้นมาช่วยเหลือคนที่ไม่รู้ แต่กราฟที่นำมาใช้บ้านเราเป็นกราฟที่เกิดจากการคิดจากประเทศที่เขาพัฒนามานาน ตลาดเขาใหญ่วอลุ่มเขามากจนนำมาเข้าสูตรคำนวณเป็นรูปร่างกราฟจนน่าเชื่อถือได้
ส่วนตลาดไทยหากจะนำสูตรเขามาใช้ก็ต้องปรับแต่งให้เหมาะสมกับธรรมชาติของเรา ที่เรียกว่าการตั้งค่า parameter หรือค่าของมิติเวลา


นอกจากเรื่องมิติเวลาในกราฟ คนเล่นหุ้นยังต้องรู้มิติเวลาของวงจรจิตใจคนปั่นที่ยึดหลักทางสมเหตุสมผลด้วย เช่นรอบขึ้นลงของหุ้น หมายถึงความสัมพันธ์ของจำนวนเงินที่จะปั่นกับจำนวนหุ้นที่ไหลในตลาดที่รายใหญ่คำนวณว่าสู้ได้กับสะตังในกระเป๋าของเขา ฯลฯ นั่นคือรายใหญ่คุณภาพ แต่พวกรายใหญ่เกเร คือพวกที่มีเงินแต่ไม่สนใจใครไม่สนใจใดๆ คิดว่าตลาดคือบ่อน ก็อยากเข้ามาแล้วก็เลือกหุ้นที่จะปั่น จากนั้นก็ปั่น ๆ ๆ ๆ ให้เพลินใจ บางรายก็กำไร อื้อซ่า บางรายก็เจ๊งในเวลาสั้นๆก็มี นั่นขึ้นกับโชคของเขาผู้นั้นจริงๆ (ไม่ใช่ฝีมือ) รายใหญ่จึงต้องรู้แล้วอ่านเกมเวลาของคนรายใหญ่ทั้งหลายให้ออก ซึ่งยาก(เพราะง่ายก็มีแต่รายย่อยรวย รายใหญ่เจ๊ง แต่นี่ มีแต่รายย่อยเจ๊งรายใหญ่รวย เอ้อ...)


ในหนึ่งวันทำการจะมีเวลา 270 นาที หลังจากนั้นก็มีเวลาให้คุณกลับบ้านไปคิดอีก 1050 นาทีว่าที่ซื้อขายมาใน 270 นาทีนั้นกำไรหรือขาดทุนเพราะเหตุใด จะแก้ไขอย่างใด เวลา 1050 นาทีจึงไม่มีปรากฎในกราฟ ฉนั้นใน 1 รอบเวลาซื้อขายรวมจะเท่ากับ 1350 นาที แต่ไม่มีใครตั้งparameter เป็นเช่นนั้น อย่างบางท่าน มักตั้ง 120 นาที เป็นต้น เมื่อเอามิติของเวลาที่คิดด้วยหน่วยแตกต่างกันแต่เท่ากันมาเปรียบเทียบดู เช่น ตั้งเป็น day กับ 270 นาที หรือ 1050 นาที ทันทีจะเห็นแตกต่าง (หยุดแค่นี้ไม่อธิบายต่อ เพราะผมยังศึกษาอยู่) 555


มีบางคนเช่น ชาวญี่ปุ่น หรือชาวจีน จึงแบ่งเวลาของตลาดใน 1 วันทำการเป็น 4 คาบเวลาแล้วลองคิดหากราฟมาดูก็จะแตกต่างไปอีกแบบ


ดังนั้นใครคิดเล่นหุ้นให้มีกำไร ให้ปลอดภัยต้องเรียนรู้และคิด หา จังหวะลงมือให้ดี บางท่านถึงขนาดดูฤกษ์ยาม ดูยามอุบากองก็มี ก็ช่างเถิด ขอให้มีกำไรก็พอ


แต่อยากฝากไว้อย่างหนึ่งคือ อะไรก็ตามที่ต้องลงทุนศึกษาจนถึงเหน็ดเหนื่อยล้มป่วยแล้วทำกำไรได้แต่น้อยมากจนไม่คุ้มค่าชีวิต เครื่องมือนั้นๆ ก็ไร้ประโยชน์ไร้ค่าต่อเวลาแห่งชีวืตที่ต้องสูญไป


ค้นหาไปเถิดเพื่อนๆ จนกว่าจะเจอสิ่งที่จะมาหาจังหวะได้ ไม่ว่าจะเชื่อวิธีการใด พื้นฐาน หรือ เทคนิค หรือหมอดู ก็ตาม 555



มีความจริงในเรื่องของเวลามาฝาก(เกี่ยวกับหุ้น ซึ่งยังมีเรื่องเกี่ยวกับอื่นๆ เช่นความรัก การเงิน เทสะ วินัย การทหาร การเรียน ฯลฯ)


.....เวลาคือตัวทำละลายความเสี่ยง แต่ต้องชั่งน้ำหนักกับเวลาของชีวิตที่ถูกเวลากินไปด้วย


.....เวลาคือตัวช่วยที่สำคัญของการหาจังหวะลงมือ ATO ATC FOC OPEN MP H SP






Free TextEditor



Create Date : 06 เมษายน 2553
Last Update : 6 เมษายน 2553 12:42:44 น.
Counter : 1038 Pageviews.

4 comments
  
เห็นด้วยคะ เวลาสำคัญจริงๆ

ย้อนเวลาไม่ได้ มีแต่เดินหน้าไปกับเวลาเรื่อยๆ

แค่ไม่รู้ว่า เราจะมีเวลาเหลือเท่าไหร่ ก็แค่นั้นเองคะ

โดย: ใหม่ IP: 124.122.231.128 วันที่: 6 เมษายน 2553 เวลา:18:02:32 น.
  
เรื่องเวลาเป็นเรื่องที่สำคัญทุกคนมีเวลาเท่ากัน จงใช้เวลาให้น้อยที่สุดในการเก็บข้อมูลที่จำเป็นและกลั่นออกมาเป็นคำตอบ แล้วลงมือทันที จะกำไรหรือขาดทุนหลายครั้งอยู่ที่การใช้เวลาของเรา
โดย: ไม้แดง IP: 125.27.123.74 วันที่: 6 เมษายน 2553 เวลา:20:31:57 น.
  
สวัสดีครับ อ.นาวย่า

ไม่เห็นเสียนาน

ดัชนีขึ้นสูง แต่ที่ลงทุนดันลง
โดย: คลื่นสูง IP: 118.173.160.159 วันที่: 31 กรกฎาคม 2553 เวลา:17:40:10 น.
  
แวะมาลงชื่อครับ
โดย: Pu121 วันที่: 29 พฤศจิกายน 2553 เวลา:13:17:23 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

nowya
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 35 คน [?]



ชาวกรุงเทพฯ เล่นหุ้นมาตั้งแต่ตลาดหุ้นอยู่สยามเซ็นเตอร์ ผ่านการกำไรและเจ๊ง ครบทุกรส มองเห็นขบวนการปั่นราคา และมองเห็นรายย่อยที่เล่นเจ๊งกันต่อหน้าต่อตา ยืนอยู่หลัง ผจก ตลาดฯ สมัยมีคนจะฆ่าตัวตายที่อาคารสินธร
เห็นใจรายย่อยที่เข้ามาเล่นแบบไม่รู้อะไร แต่อยากรวยเร็ว ๆ ด้วยทุนน้อยๆ อยากเก็งกำไร แต่ไม่รู้อะไรคือวิถีการเก็งกำไร
จึงอยากมีส่วนในการช่วยชี้แนะบ้างเท่านั้นเอง
New Comments