ตอบ 10 คำถาม แล้วเล่นหุ้นฉลาดคิดขึ้น( ตอน 2)
p>สืบเนื่องจากกระทู้ ข้างล่าง ผมทำลิงค์ ให้
//www.bloggang.com/viewdiary.php?id=nowya&month=10-2011&date=09&group=1&gblog=44

คำถามที่ 7 คือ ทำไมหุ้นพื้นฐานดี จึงไม่รู้จักถูกซื้อให้หมดไปจากตลาด จนขาดสภาพคล่องไปเลย ถ้าเป็นหุ้นดีน่าถือยาว ก็ควรจะถูกเก็บหายไปจากตลาด เหลือหุ้นออกมาหุนเวียนในตลาดน้อย จนขาดสภาพคล่อง  แต่ทุกวันนี้ หุ้นใหญ่พื้นฐานดี มีขายมีซื้อ ไม่รู้จักหมด เพราะมีหุ้นมากหมุนเวียนหรือถูกนำออกมาหมุนรอบทำกำไร? ทำไม ไม่เก็บไว้นาน ๆ 10 ปี 20 ปี  คนที่ถือยาวทำให้ราคาสูงขึ้นหรือคนเล่นสั้นทำให้ราคาสูง แล้วทำให้ใครได้ประโยชน์  ในเมื่อทุกคนทำเพื่อประโยชน์ตัวเอง

ตอบ...ลองคิดดูถ้าหุ้นถูกเก็บไปหมด ราคาตลาดก็เป็นราคา ตาย คือไม่เคลื่อนไหวอีกต่อไป อยู่อย่างนั้นจนใกล้ประกาศปันผล ก็จะมีพวกอยากได้ปันผลเงินสด ไม่ใช่รอรับอีก 1  ดืนหลัง XD ขายออกมาก่อน ถ้าถูกรายย่อยเก็บไป หุ้นก็ออกมาหมุนบ่อยขึ้น ราคากเคลื่อนไหวได้ แต่หากรายใหญ่เก็บไป ราคาก ตายอีก     ที่มีออกมาหมุนเพราะมีกลยุทธแบ่งให้คนอื่นถือ แต่ตนเองผันต้นทุนให้ลดลง (ต้องมีโปรแกรม nowya method จะมองเห็นวิธีการชัดขึ้น)
คำถามที่ 8 คือ ท่านคิดว่า รายย่อย ที่ถูกตราหน้าว่า แมงเม่า คือพวกโง่เขลา จริงหรือไม่ ถ้าให้รายใหญ่ มีสถานะเท่ากับรายย่อย จะเล่นแบบสไตล์รายย่อยหรือไม่ 
ตอบ...ความเป็นรายย่อย หรือสถานะรายย่อย   หากพวกรายใหญ่  มีสถานะเดียวกับรายย่อยก็ต้องเล่นสไตล์เดียวกัน คือ การถือครองระยะสั้น  แต่ใครที่มีเทคนิคดี กลยุทธเยี่ยมอาจ ลดความเสี่ยงได้ดีกว่า รายย่ยที่ซื้อ ๆ ขาย ๆ แบบคาดเดาราคาเอาเอง  ตลาดไม่ได้ตามใจรายย่อย ขึ้นกับกาลงมือรายใหญ่ในการทำราคาขึ้นหรือลง นำก่อน
คำถามที่ 9 คือ ท่านคิดว่า ในตลาดหุ้น ที่เขาบอกว่า เข้ามา 10 คน กำไร 1  เสมอ 2 ขาดทุน 7คน นั้น คืออุปมา ที่น่าเชื่อถือเพียงใด  หรือว่า กำไร 7 เสมอ 2 ขาดทุน 1 แล้วมันสมจริงไหม ใครเอากำไรมาแจก ค่าคอมมิชั่นใครได้ใครจ่าย ใครเอาปันผลของส่วนแบ่งจากหุ้นในตลาดไปหรือไม่

ตอบ...มันเป็นความจริงที่คนขาดทุนมากกว่าคนได้ ไม่ได้หมายว่าคนขาดทุนเป็นคนโง่เขลากว่า แต่ตลาดหุ้นมีองค์ประกอบปัจจัยในการทำกำไรน้อย  แต่ขาดทุนมาก เงินเข้ามา 100 บาท หายไปในค่าคอม 0.25 ถือนานราคาขึ้นแย่งขายไม่ทัน ขาดทุน10 บาท เมื่อขาดทุน ท้อแท้ใจ ขายก่อนแต่ไม่ได้ซื้อคืน กลับมาซื้อตอนราคาขึ้นเพราะถูกกล่อมให้เชื่อว่า จะตกรถ ขาดทุนอีก 5 บาทตอขึ้นครั้งสองไม่ถึงทุนตนเอง ไม่ยอมขายก่อน พอลงอีกครั้งกลัวฝังใจครั้งก่อนรีบคัท ขาดทุนอีก 5 บาท   ทำแบบนี้ เป็นรอบ สัก 3 สอบ รวมขาดทุน  21ต่อรอบต่อปี ก็ขาดทุน 63 บาท ปีครึ่งไม่มีอะไรเหลือ  กำไร แต่ความชราภาพกลับบ้านไป
คำถามที่ 10 คือ ราคาในตลาด ขึ้นง่ายและจัดสรรแบ่งปันทั่วถึงครบกับผู้ถือหุ้นระยะยาวนานหรือไม่ หรือราคาในตลาด จะให้แบ่งกำไรกับรายใด(ใหญ่หรือย่อย) มากกว่ากัน  จากนั้นก็จะกระชากราคาลงมาเริ่มต้นใหม่  เป็นสัจจะของตลาดหรือไม่ แม้จะอ้างอิงตามเศรษฐกิจของประเทศหรือของโลกก็ตาม

ตอบ...สมมติคน100 คน ถือเงินคนละ 100 บาท เข้าไปซื้อหุ้นราคา 1 บาทพร้อมกันหมดทุกคนจนเงินหมด  อีก 3 เดือน ราคา ขึ้นจาก 1 บาท เป็น 2 บาท(+100%)  คนแย่งกันขาย มีแค่ 20 คนขายได้ 2 บาทแต่ไม่ยอมขายหมด ขายเพียง 50% พรอท ส่วนที่เหลือ อีก 80 คนมีความสุขที่ราคามีกำไร แต่ไม่ได้ขาย ผ่านไป อีก 3  เดือน ราคาตกมาที่ เดิม 1 บาท มีคนกลุ้มใจขายออกไป 50 คน ขายหมด ราคาเท่าทุน(ขาดทุนค่าคอมฯ)  ต่อไป อีก 3 เดือน ราคาลงไป เหลือ 0.50 บาท ที่เหลือ อีก 30 คนตื่นกลัวขาย และคนที่ขาย 2 บาทครึ่งหนึ่งก็ทำใจขายหมด สุดท้าย คนกำไรจริงมีนิดเดียวจริงๆ  แต่ราคาก็ถูกบันทึกลงไปในกราฟ เพื่อยั่วกิเลสให้คนมาใหม่น้ำลายไหลเข้าซื้อ ที่ ราคา 0.50 -0.80 บาท จากนั้นก็ต้องมีอันเจอสารพัดปัญหา ราคาหุ้นไม่ขึ้น ที่ถูกยั่ววน้ำลายก็ต้องกลืนน้ำลายตนเองอีก  เงินที่เข้ามาใหม่ก็มีกำไรแต่ก็ขาดทุนมาก  กลองไปคิดเรื่องค่าคอมมิชั่น 2 หมื่นล้านบาท/วัน หนึ่งปี เท่าใด หากไม่มีเงินใม่เพิ่มมา ราคาหุ้นก็ต้องลงไป ครึ่งหนึ่งไม่งั้นเงินทุนที่เหลือน้อยจะเฉลี่ยออกมาไม่ได้ลงตัว  ทุกวันนี้ยัง  DW   option อิ่น แล้วยังซื้อฟิวเจอร์อีก  คนเล่นคือคนเล่นหุ้นผันไป เงินก็เกาะตามไป  ตลาดก็เงินลดลงแล้วจะขึ้นได้อย่างไร