Group Blog All Blog
|
ดูเหมือนตลาดจะเป็นขาขึ้น แต่คนขาดทุนยังเยอะ +วิธีลงจากดอย ช่วงนี้แทนที่ผมจะมาเขียนหรือเล่าเรื่องกลยุทธเล่นหุ้น สไตล์เก็งกำไร แต่กลายเป็นมาเล่าพูดคุยเรื่องของสภาวะตลาด ปัจจุบัน ไป ทั้งนี้เพราะมีเพือนชาวหุ้นถามมา เพราะติดดอยมากจนทนไม่ไหว ดัชนีขึ้นจาก 855จุด มาเห็นถึง 934 จุด แต่หุ้นในมือทำไมไม่เสมอเหมือนตอนลง ณ 934 จุด (ราคาวัน 7 ตค 54 ไม่เท่ากับ 30 กย54) คำตอบอยู่ตรงนี้ 1...เงินที่เข้ามาไม่ใช่เงินรายย่อย เป็นเงินจากรายใหญ่(ต่างชาติ กองทุน พรอทโบรก) เสียมากกว่า กลุ่มนี้เขาขายหุ้นหลักไป เขาก็มาซื้อหุ้นหลักคืน ทั้งที่ต้องซื้อแพงกว่าเดิม ทำให้หุ้นหลักส่วนใหญ่ ราคาจะสูงกว่า 30กย หรือใกล้เคียงมากแล้ว 2...รายย่อยกว่า 70% เล่นหุ้นเล็ก แม้จำนวน deals จะมาก แต่ราคาหุ้นก็ยังต่ำกว่า 30 กย เพราะ รายย่อยซื้อแล้วขายแล้วซื้อแล้วขาย ไม่เหมือนกลุ่มรายใหญ่ ซื้อมากกว่าขายแถมซื้อแล้วเก็บ ดังนั้นหุ้นเล็กจะมีราคาเหมือนภาพว่า ขึ้น +2 ช่อง ลง - 3 ช่อง ราคาจึงไม่ไปไหน แถมตกต่ำกว่าอีก อย่าโทษพฤติกรรมรายย่อย เพราะมันคือกฎแห่งธรรมชาติ ลองให้ผู้จัดการกองทุนต่างชาติ มีทุนเท่ารายย่อยแล้วมาเล่น เขาก็ต้องเล่นแบบรายย่อยเหมือนกัน แล้วรายย่อยที่ติดดอยต้องทำงัยดี ? ปัญหาที่คนถามมาก ความเห็นจากประสบการณ์ส่วนตัว คือ 1...อย่าปล่อยให้ราคาหุ้นในมือติดดอย เกินกว่า - 3 ช่องราคา นั่นคือ การคัทออกไปก่อน ทันทีที่เห็นราคาต่ำกว่า - 3 ช่องราคา(แล้วจะมาเล่าว่าทำไมในวันหน้า มันจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับแนวต้านแนวรับสั้น ๆ) 2...เมื่อขายคัท(cutloss) แล้วต้องรีบตั้งซื้อคืนด่วน อาจจะต่ำลงจากขาย - 1ถึง -2 ช่องราคา เท่านั้นก่อน อย่าคิดว่าตัวเองกะแม่นคะแนแม่นเด็ดขาด เพราะราคาที่ซื้อแล้วลง แสดงว่าคะแนไม่แม่นแล้วครั้งแรก ที่เป็นเช่นนี้ก็คือ เราไม่มีทางรู้ว่าหุ้นจะรีบาวน์หรือไม่เมื่อไรราคาใด(แต่คนเล่นชำนาญจะคะแนได้แม่นกว่า)วันหน้ามาเล่า 3...หลังซื้อคืนครั้งแรกแล้ว ราคายังลงอีก ถ้าต่ำกว่าราคาซื้อคืนอีก - 3 ช่อง ต้องขายคัทอีก (อย่ากลัวเสียค่าคอม อย่าคิดว่าขาดทุนซ้ำซาก เพราะหากไม่ทำแล้วราคาลงไปอีก จะติดดอยสูงจนแก้ปัญหยากและท้อแท้) วิธีแบบนี้หากใช้โปรแกรม nowya method จะมองเห็นภาพชัด ว่า อย่าถือหุ้นติดดอยโดยไม่คิดทำอะไรเลย จะติดดอยสูงจนแก้ไม่ตก 4...ทุกครั้งที่คัทหุ้นออก ต้องซื้อคืน จะเล่นตัวเดิมซื้อคืนหรือจะเปลี่ยนตัวก็ได้แต่หุ้นใหม่ควรมีคุณสมบัติที่ดีกว่าหุ้นเก่าในเรื่องจำนวน deals คือความนิยมของตลาด อย่ากลับไปเลือกหุ้นที่คนไม่นิยมจะเสียการเปล่า ข้อแนะนำข้างต้น แสดงให้เห็นว่า รายย่อยที่ติดดอยคือยังไม่อาจ ประเมินสภาวะตลาดได้ จึงติดดอย หรือไม่ก็ก้มหน้าก้มตาเล่นจนเพลินกับกำไรก่อน ๆ จนหลงทาง นั่นคือรายย่อยที่ไม่มีประสบการณ์ การเล่นหุ้นไม่จำเป็นต้องเล่นทุกวัน เพราะมันก่อเกิดภาพหลอนได้ อีกทั้งระบบตลาดบ้านเราและสิ่งแวดล้อมการเล่นบ้านเรา ทำให้หลงง่าย เช่น ฝังคำในสมองว่า ...อย่าตกรถจะเสียโอกาส... ไม่จริงไม่สน ประโยคนี้ทำให้รายย่อย เจ๊งหมดรูปทั้งน้าน อย่ากลัวตกรถ ที่ผมแนะนำให้รีบซื้อคืนคือรายย่อยที่ไม่อาจคาดการณ์ได้แม่น(มีกว่า90%) ถ้าเป็นเซียนขายคัทแล้ว ก็รอเป็นรอก่อน ค่อยๆฝึกอีกหน่อยเก่งก็จะเริ่มเล่นทางได้ ไม่ใช่เล่นแต่ทางเสียอย่างเดียว Free TextEditor จะนำแนวทางไปใช้ ต่อไปน่าจะติดดอยน้อยลง หรือถ้าโชคดีอาจไม่ติดดอยเลย ขอบคุณนะคะ
โดย: พอใจ IP: 118.172.126.167 วันที่: 8 ตุลาคม 2554 เวลา:18:58:13 น.
ขอบคุณค่ะ ที่แบ่งปันความรู้สำหรับเม่าใหม่ ไม่เคยรู้ข้อมูลแบบนี้เลยค่ะ
โดย: เราเอง IP: 118.173.97.90 วันที่: 8 ตุลาคม 2554 เวลา:20:21:43 น.
ท่านที่สนใจโปรแกรม nowya method โปรดติดต่ออีเมล์ nowya11@yah00.c0m
โดย: nowya IP: 58.11.25.114 วันที่: 8 ตุลาคม 2554 เวลา:22:15:57 น.
ขอบคุณสำหรับข้อคิดแนวทางดีๆ ที่นำมาเขียนแบ่งปันกันครับ^_^
โดย: บัคจัง วันที่: 9 ตุลาคม 2554 เวลา:0:02:00 น.
|
nowya
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 35 คน [?] ชาวกรุงเทพฯ เล่นหุ้นมาตั้งแต่ตลาดหุ้นอยู่สยามเซ็นเตอร์ ผ่านการกำไรและเจ๊ง ครบทุกรส มองเห็นขบวนการปั่นราคา และมองเห็นรายย่อยที่เล่นเจ๊งกันต่อหน้าต่อตา ยืนอยู่หลัง ผจก ตลาดฯ สมัยมีคนจะฆ่าตัวตายที่อาคารสินธร เห็นใจรายย่อยที่เข้ามาเล่นแบบไม่รู้อะไร แต่อยากรวยเร็ว ๆ ด้วยทุนน้อยๆ อยากเก็งกำไร แต่ไม่รู้อะไรคือวิถีการเก็งกำไร จึงอยากมีส่วนในการช่วยชี้แนะบ้างเท่านั้นเอง
Link |
เป็นคำ แนะนำที่ดีมากค่ะ พึ่งได้เข้ามาอ่าน ตอนนี้ขาดทุนติดดอย สูง ช่วยโพสต์มาให้ความรู้เม่าบ่อยๆนะคะ ขอขอบคุณอย่างสูง