เมษายน 2555

1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
23
24
25
26
27
29
30
 
 
All Blog
เงิน คือ พลังงานในระบบตลาดหุ้น

เงิน คือ พลังงาน ในระบบตลาดหุ้น

กิจกรรมใดๆ ที่มีการแข่งขัน ต้องอาศัยพลังงาน

 

น้ำมันเป็นพลังงานของรถยนต์

 

สุขภาพเป็นพลังงานของนักกีฬา

 

สมองดี เป็นพลังงานของการเรียน

 

ความดี เป็นพลังงานของคน

 

เงินเป็นพลังงานของการเล่นหุ้น  เพื่อเอากำไรสะสมพอกพูน 

 

ข่าวและสื่อ เป็นพลังงาน(ส่วนหนึ่ง) ของการสร้างราคา (ให้ราคาขึ้นหรือราคาลง)

 

เมื่อผู้มีเงินน้อย ก็ซื้อหุ้นได้น้อย (เช่น ซื้อ 200  หุ้น ราคา  150 บาทต่อหุ้น  อีก 3ปีผ่านไป ราคาหุ้นเป็น  300บาทต่อหุ้น ได้กำไร 100% แต่คิดเป็นเงินจาก 30,000บาท เป็น 60,000 บาท  กำไร 30,000บาท ใช้เป็นค่าอาหารได้ ไม่กี่เดือน หมด  ส่วนอีกผู้หนึ่ง ซื้อ 5  ล้านหุ้น ตัวเดียวกัน ผ่านไป 3  ปี กำไร 100%  แต่คิดเป็นเงินกำไร 75 ล้านบาท   ถ้าทานอาหารเท่ากัน ทานได้ตลอดชาตินี้ข้ามไปชาติหน้า ยังมีเหลือ)

 

คนส่วนมากที่เข้าตลาด คาดว่านำเงินเข้ามาเล่นหุ้น ทั้งแบบก้อนเดียว หรือแบบเพิ่มทุนเมื่อติดดอย หรือเพิ่มทุนเมื่อราคาตก รวม ๆ เฉลี่ยไม่เกิน 1  ล้านบาท  (โดยยึดสถิติจากโบรกเกอร์ที่ให้เครดิส  มากที่สุด ไม่เกิน 3 แสนบาท รองลงมา 5 แสน  ตามด้วย 1 ล้าน และ 20 ล้าน 50 ล้าน และ 100 ล้านบาท  น้อยสุดที่เป็นรายบุคคลคือ 1000 ล้านบาทหรือมากกว่า)  

 

คนที่มีพรอทใหญ่ และสามารถมาออกรายการทีวี ก็มักคุยแต่เรื่องการลงทุน การถือยาว การดูปัจจัยและเลือกหุ้นแล้วก็ถือยาวจนถึงเป้าหมาย  ดดยไม่ได้กล่าวว่า เริ่มต้นที่เงินเท่าใด กำไร 1 ล้านแรก ใช้เวลากี่ปี  คนที่เป็น idol มักพูดแต่ การถือยาว การใช้หลักปัจจัย เป็นฐานข้อมูลตัดสินใจ  เสมอ  ส่วนคนที่เป็นพรอทใหญ่มากๆ และเล่นจากการเก็งกำไรเริ่มต้นนั้น ก็มักพูดตอนปลายๆของการกำไร คือ ตอนที่พรอทใหญ่เป็นร้อยล้านพันล้าน ก็ต้องเลือกวิธีการถือยาว แต่ไม่ได้บอกว่า ซื้อตอนนั้น กี่ 10 ล้านหุ้น ด้วยวิธี ลงทยอยซื้อ หรือ ขึ้นทยอยซื้อ  บอกได้เลยว่า ส่วนมาก ลงทยอยซื้อ ยิ่งลงยิ่งซื้อ มาก แล้วก็อาศัยเวลา เป็นตัว ละลายความเสี่ยง   ค่าเฉลี่ยทุนของหุ้นก็จะต่ำลง แต่ไม่ยอมบอกว่า ถือนานกี่ปี ตอนนั้นดัชนีตลาดยังลงต่อ หรือเป็นขาขึ้น กำลังจะท้อแท้หรือไม่

 

นั่นคือ คำลวงที่พิสูจน์ไม่ชัดเจน  และเป็นเรื่องที่รายย่อยไม่ต้องนำมาเข้าสมอง เพราะชีวิต ทำตามต้นแบบ แบบนั้นไม่ได้   ราคาลงแรง ๆ สามครั้งเงินก็หมดกระเป๋า  หากคิดจะซื้ออีกต้องขายบ้าน  ขณะที่รายใหญ่พรอทยักษ์ ยังสามารถไปทานอาหารเที่ยงที่ฮ่องกงได้   ลงแรง 5 ครั้ง รายย่อยก็ต้องหาหมอตรวจสุขภาพจิต  และมีอาการขยาดหุ้น บางคนบ้านใกล้แตก สาแหร่กที่ว่าเหนียวแน่ก็ใกล้ขาด  อย่างนี้ยังจะเอา สไตล์ ลงทยอยซื้อ ตามที่เป็นคำฮิทของนักวิเคระห์ชักชวนหรือไม่   มันเป็นความผิดของการไม่มีพลังงาน(คือ ไม่มีเงินเยอะ )นั่นเอง   ถ้าเช่นนั้น รายย่อยที่เงินไม่ถึงล้าน  ก็ไม่ควรเล่นหุ้น  หรือรอให้ตลาดขาขึ้นค่อยเข้าหรือใด   (แต่ตลาดขาขึ้นระยะแรก มักไม่มีใครพบเจอ  กว่าจะรู้ราคาก็เริ่มสูงแล้ว  ความเสี่ยงเริ่มมาประปลาย)   คำตอบที่เป็นมาตรฐานน่าจะตอบว่า  ใช่

 

แต่ ในความเป็นจริง  ไม่จำเป็นเสมอไป  มีเงิน ตั้งแต่ 25000 บาทก็เล่นได้ แต่ต้องมีหลักการเล่นในเชิงเก็งกำไรมากกว่าการถือยาวเอากำไรแค่เพื่อค่าอาหาร ในเวลา 3  - 4 ปี (ทำมาหากินอย่างอื่นดีกว่า)  ที่ต้องการ  25000 บาทก็คือ ค่าคอมมิชั่นบางโบรกฯ กำหนดน้อยสุด 50 บาทจาก ร้อยละ 0.25

 

รายย่อยต้องตระหนักว่า พลังน้อย ก็ขับเคลื่อนได้ช้าก่อน  รอให้เครื่องติดค่อยๆ มีพลังจึงเล่นได้กำไรมากและเร็ว   ดังนั้น สิ่งที่สำคัญ ก่อนการคิดลงทุนถือยาว  ต้องถามตนเอง พอใจสไตล์ไหน ด้วยพลังเงินที่มีน้อยและจำกัดนี้  หากคิดว่า ตลาดยังไม่มีคำตอบชัด คือ ยังเสี่ยง และทุนมีจำกัด  สุดท้ายก็ต้องกลับมาศึกษา วิชาเก็งกำไร (อย่าคิดว่า กองทุนใหญ่ๆ ข้ามชาติ   เขาไม่เล่นเชิงเก็งกำไร ) 

 

ความรู้การเก็งกำไรนั้น มีหลากหลาย ไม่ได้แพ้ วิชาการลงทุนถือยาวเลย  ถ้าศึกษาลึกซึ้ง  การลงทุนถือยาว ๆ ก็คือการเก็งกำไรทางเวลาอีกแบบหนึ่ง  ถ้าเป็นการลงทุนจริงคือการเอาทุนไปเปิดกิจการจริง บริหารจริง  ไม่ใช่ฝากให้ใครก็ไม่รู้จัก แล้วก็เชื่อคนนั้นโน้นนี่ว่า จะทำกำไรปันผลงาม แล้วก็ขายบ้านซื้อหุ้นนั้นเลย ผิดแน่นอน  การเล่นหุ้นไม่ใช่ เรียลเซกเตอร์ 100 %  และแน่นอน การเก็งกำไรก็ไม่ใช่วิธีเดียวในการเริ่มต้น  แต่เมื่อไม่เชื่อหรือได้มองลึกถึงวิธีอื่นแล้วไม่เหมาะสมกับตัวเรา ก็ต้องเปลี่ยนวิธีการ

 

ข้อเตือนใจทุกครั้งที่ดู idol ที่ออกทีวี  ต้องมีคำถามว่า เขาเริ่มที่เงินเท่าใด  1 ล้านแรกที่กำไรเริ่มอย่างไร เวลาเหมาะตรงไหน ตลาดลงสุดๆ พอดีหรือไม่ และทำไมเขาเลือกหุ้นตัวนั้น พื้นฐานบ้านเดิมเขาทำธุรกิจอะไร  อาชีพเดิมเขาเป็นอะไร รู้ลึกอะไร และเขามีพลังงานเหลือใช้กับหุ้นแค่ไหน  ทำไมเวลาเขาขาดทุน  กล้าบอกว่า เฉย ๆ มีทุนหนุนข้างหลังเป็นมรดกหรืออื่นๆ อย่างไร  ฯลฯ

 

สุดท้าย เงินคือพลังงานในการเล่นหุ้น ที่จะผลักดันให้มีโอกาสกำไรถ้าใช้พลังงานนั้นถูกเวลา ถูกหลักการ  ....ความรู้เป็นเรื่องใหญ่ที่จะใช้ขับพลังงานให้เป็นกระโยชน์ได้......

 

 

โปรแกรม nowya method

 

 

โดย  nowya  

 

Nowya11@yahoo.com

 




Create Date : 28 เมษายน 2555
Last Update : 28 เมษายน 2555 15:14:18 น.
Counter : 3592 Pageviews.

3 comments
  
= เพราะชีวิต ทำตามต้นแบบ แบบนั้นไม่ได้ =

เห็นด้วยเลยครับ
แต่ทั้งๆที่เป็นแบบนั้น ก็อาจจะมีคนหลายคนพยายามทำตามนะครับ อิอิ..
โดย: Unsign วันที่: 28 เมษายน 2555 เวลา:19:54:23 น.
  
เพราะต้นทุนชีวิตของคนเราไม่เท่ากัน
โดย: เคาะแล้วร่วง IP: 10.0.0.75, 58.8.96.57 วันที่: 28 เมษายน 2555 เวลา:20:39:08 น.
  
ขอบคุณครับ
โดย: นักคำนวณแพ้ฟ้าลิขิต IP: 101.108.179.64 วันที่: 28 เมษายน 2555 เวลา:21:36:11 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

nowya
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 35 คน [?]



ชาวกรุงเทพฯ เล่นหุ้นมาตั้งแต่ตลาดหุ้นอยู่สยามเซ็นเตอร์ ผ่านการกำไรและเจ๊ง ครบทุกรส มองเห็นขบวนการปั่นราคา และมองเห็นรายย่อยที่เล่นเจ๊งกันต่อหน้าต่อตา ยืนอยู่หลัง ผจก ตลาดฯ สมัยมีคนจะฆ่าตัวตายที่อาคารสินธร
เห็นใจรายย่อยที่เข้ามาเล่นแบบไม่รู้อะไร แต่อยากรวยเร็ว ๆ ด้วยทุนน้อยๆ อยากเก็งกำไร แต่ไม่รู้อะไรคือวิถีการเก็งกำไร
จึงอยากมีส่วนในการช่วยชี้แนะบ้างเท่านั้นเอง
New Comments