สำหรับกิจกรรมภายในงานประกอบด้วย 4 กิจกรรมหลัก คือ
การจัดพิธีอัญเชิญพระพุทธสิหิงค์ จากพระที่นั่งพุทไธสวรรย์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร ไปประดิษฐานบนมณฑป ณ ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ในวันที่ 12 เม.ย.2554 เวลา 08.00 น. โดยขบวนแห่อัญเชิญพระฯ จะหยุดเพื่อให้ประชาชนได้ร่วมสักการบูชาและสรงน้ำรวม 3 จุด ได้แก่ บริเวณวงเวียนใหญ่ เขตธนบุรี เวลา 10.00 น. บริเวณสวนสันติชัยปราการ เขตพระนคร เวลา 13.00 น. บริเวณถนนข้าวสาร หน้าวัดชนะสงคราม เขตพระนคร เวลา 14.00 น. และขบวนจะเข้าสู่ลานคนเมือง เพื่อทำพิธีอัญเชิญพระฯ ขึ้นประดิษฐานบนมณฑป ในเวลา 15.00 น. และเปิดให้ประชาชนได้สักการบูชาและสรงน้ำ ตั้งแต่วันที่ 12 – 15 เม.ย.54 ในเวลา 15.00 น.
การ จัดพิธีทำบุญตักบาตร ในวันที่ 13 เม.ย.54 เวลา 07.00 น. โดยนิมนต์พระราชาคณะ จำนวน 10 รูป มาเจริญพระพุทธมนต์ และพระสงฆ์ จำนวน 184 รูป ออกรับบิณฑบาต ณ ลานคนเมือง ซึ่งกรุงเทพมหานครได้จัดตั้งโต๊ะตักบาตร เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนที่จะมาร่วมในพิธี การจัดพิธีรดน้ำขอพรผู้สูงอายุ ในวันที่ 13 เม.ย.54 เวลา 08.15 น. โดยเรียนเชิญศิลปินดาราอาวุโส ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของคนไทยให้เกียรติมาร่วมในพิธีรดน้ำขอพรผู้สูงอายุ
การ จัดกิจกรรมการแสดง ระหว่างวันที่ 12 – 15 เม.ย.54 ประกอบด้วย การแสดงแสง สี เสียงและสื่อผสม การแสดงดนตรีไทยลูกทุ่งและสากล การแสดงศิลปวัฒนธรรมของหมู่บ้าน 4 ภาค การละเล่นพื้นบ้าน การแสดงน้ำพุ การก่อเจดีย์ทราย การจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชนและของดี 50 เขต และลานสวนสนุก
สำหรับ กิจกรรมตอนเช้าทั้งหมดนั้น มนต้นไม้ไม่ได้ไปร่วมด้วยเลยค่ะ เพราะมารู้เอาช่วงเย็นมากแล้วของวันที่ 12 เลยไม่ได้มีภาพมาฝาก แต่ช่วงกลางคืนนี่ อิๆ เต็มที่เลยค่ะ ว่าแล้วเราก็ไปดูรูปกันเลยดีกว่า
เริ่ม จากก้าวลงจากรถ รอดมือเหล่าปืนฉีดน้ำมาได้อย่างหวุดหวิด ก็มาเจอ สัญลักษณ์ของกทม. ที่เห็นปุ๊บก็ร้อง ฮ้อ...เอ้ย ร้องอ้อ...ทันที นั่นก็คือเสาชิงช้านั่นเอง
ในรูปจะเห็นรถขายปลาหมึกแห้งบด คลาสิคสุดๆ นึกถึงกระทงน้ำจิ้มใส่ถั่วลิสงกับพริกป่น แล้ว จี๊ดดด อย่าบอกใครเชียว อิๆ
พร้อมแล้วอย่ารอช้า ตามมาไวๆค่ะ สังเกตมาดคุณตากับเครื่องแต่งกายนะคะ เท่สุดๆ อิๆ ย่างไป ปาดเหงื่อหัวล้านไป ดีนะที่ใส่หมวกปิด หล่อไม่บันยะบันยังเลยค่ะงานนี้ เห็นแล้วอดเก็บภาพมาฝากไม่ได้
ไม่กล้าเสี่ยงตายกับชิงช้าสวรรค์ แต่ขอกล้าตายกับรถไต่ถังแทนค่ะ คนละ ยี่สิบบาทเท่านั้น ก็ทำให้คุณ....เสียว ได้ เหอๆ(แอบมือสั่นปาดเหงื่อเล็กน้อย จะรอดไหมเนี่ยเรา เหอๆ)
ว่าแต่ตอนนี้ตามไปเสียว เอ้ย...ตามไประทึกกับรถไต่ถังกันก่อนนะคะ
คนขับอายุไม่เกิน ยี่สิบห้า แต่ขอบอกเลยค่ะว่า ใจถึงจริงๆ มนต้นไม้ขึ้นไปบนนั้น บอกได้คำเดียวค่ะ ว่า เสียว...กลัวตกมาก ยิ่งพอน้องคนขับเริ่มสตาร์ทเครื่อง โห...แม่จ้าแม่ ถึงว่าทำไม แม่ไม่ยอมให้ขึ้นดู
ก็โครงถังที่ประกอบเอาไว้มันสั่นอย่างกับเจ้าเข้า สะเทือนจนคิดว่าจะแยกออกมาเป็นเสี่ยงๆ
มือ หนึ่งเกาะโครงเหล็กสุดชีวิต แต่ว่าอีกมือ แหะๆ กดชัตเตอร์ไม่ยั้งเหมือนกัน เหงื่อกาฬแตกพลั๊ก...กลัวตายมากเลยค้า ชาตินี้หนเดียวพอ เง้อ...
น่าน...มี ปล่อยมือ มนต้นไม้งี้เหงื่อแตกพลั๊ก แถมยังพนมไหว้ แล้วไต่ขึ้นมาโฉบเอาแบ็งยี่สิบที่คนดูยื่นให้อีกต่างหาก โอ้ย...หัวใจคนสวย เอ้ย คนแก่จะวาย ก็เล่นพุ่งเข้ามาหา ห่างไปไม่เกินเมตรเลยนี่พ่อ...พุทโธ ธัมโม สังโฆ บ่น ๆๆ รอดมาจนได้นะเรา แฮ่ๆ
ช่วงรอพระเอกของเราบึ่งรถขึ้นมาโชว์ ไม่ให้เสียเวลามนต้นไม้ก็ค่อยคลาน เอ้ย...กระดื๊บๆ ไต่ไปตามราวเหล็ก(กลายเป็นตัวอะไรไปแล้วเนี่ยเรา) ไปเก็บภาพบรรยายกาศจากมุุมสูงมาให้ดูกันค่ะ
การแสดงรถไต่ถังกินเวลา แค่ตดยังไม่ทันหายเหม็น เอ้ย...ประมาณ สิบห้านาทีอุ่นเครื่อง ไม่เกินห้านาทีที่ไต่ถังขึ้นมาค่ะ พริบตาเดียวเท่านั้น เพราะเขาต้องใช้ความไวในการไต่เร็วมากค่ะ ไม่งั้นงานนี้ต้องเรียกหมอกันแน่นอน
ไปดูรูปบรรยากาศรอบๆก่อน แล้วเดี๋ยวมนต้นไม้พาไปหาของกินอร่อยๆกันค่ะ
ปาขวดด้วยลูกเทนนิสค่ะ ตามด้วย ปาลูกดอกใส่ลูกโป่ง เสียตังค์ทั้งนั้น แต่ก็สนุกดีค่ะ ห้าลูกยี่สิบ หมดไปหลายอยู่ค่ะ อิๆ จบนี่เดี๋ยวเดินตามมนต้นไม้ไปโยนกำไลลงขวดกันค่ะ
เสียตังค์พอเป็นพิธีค่ะ ได้ฮาเป็นระยะๆ เดี๋ยวจบภาพนี้แล้ว ตามมนต้นไม้ไปหาของกินอร่อยๆกันค่ะ
เดี๋ยวมนต้นไม้พาไปกินข้าวเกรียบย่างนะคะ
แต่ตอนนี้แอบไปเปิดหม้อข้าวหม้อแกงของคุณสันติบาลกันก่อนดีกว่า อิๆ
ปล. ก๋วยจั๊บน่ากินมากกกกกกค้า
ไปดูเขาทำขนมถังแตกสมัยใหม่กันค่ะ ตอนแรกมนต้นไม้งงเล็กน้อย เพราะเคยกินแต่ถังแตกบ้านนอก แบบโบราณ โรยงานโรยมะพร้าวขูดและน้ำตาล แต่ว่าถังแตกสมัยนี้ เลือกหน้าแบบเรยา ได้ด้วยน๊า อิๆ
ขนมเบื้องก็ใช่น้อยหน้านะคะ คนขายทำไปส่งยิ้มไป แล้วจะไม่ให้อุดหนุนได้ไงเนี่ย ปากมนต้นไม้ไม่เคยว่างเลยค่ะ พ่อค้าแม่ค้าใจดี ให้ชิมตลอดเลยค่ะ แถมให้อีกตังหาก
มาดูขนมถังระเบิด เอ้ย ถังแตกสมัยใหม่กันชัดๆค่ะ
อิ่มค่ะ อิ่มบุญอิ่มน้ำใจ อิ่มพุงกะทิด้วย ว่าแต่บ๊ะจ่าง ก๋วยเตี๋ยวหลอด ตบท้ายด้วยน้ำสตอ...นี่ทำเอามนต้นไม้เดินแทบไม่เป็นเลยค่ะ อิๆ
ย้ายข้างบ้างค่ะ มนต้นไม้จะพาไปกินข้าวเกรียบย่างแล้วนะ ยังเหลือท้องเอาไว้บ้างไหมเอ่ย กินข้าวเกรียบแล้วเดี๋ยวไปเดินเที่ยวในงานกันต่อค่ะ
คุณตาย่างสดๆให้ชิมเลยค่ะ แค่ชุดคนย่างก็กินขาดแล้วอ่ะ หล่อซ้าาา
ไปหาอย่างอื่นกินต่อค่ะ ลูกชิ้นย่างแม่เอ้ย งานวัดต้องมีลูกชิ้นย่างเน๊อะๆ
พาไปชิมไอติมโบราณค่ะ แท่งละ สิบบาท มนต้นไม้แนะนำรส ระกำ เปรี้ยวหวาน อร่อยยยยมากกกกก ของดองก็ชวนให้อยาก แถมหมูฝอยหมูหวานอีก โอ๊ย อิ่มจนจะอ้วกแล้วค่ะ
เดี่ยวตามมนต้นไม้ไปสรงน้ำพระ ไปยืนฟังเพลงลูกทุ่งแล้วไปดูสาวๆเขาเป็นแบบให้วาดรูปเหมือนกันนะคะ
ต่อๆค่ะ เดี๋ยวมนต้นไม้พาไปดูนางแบบจำเป็นนะคะ ใครไม่รู้อ่ะ แต่เห็นว่าน่ารักเลยแช๊ะมาฝากกัน
วันนั้นอากาศไม่ร้อนมากค่ะ ฝนไม่ตกด้วย ท้องฟ้าปลอดโปร่งมากเลย เด็กๆชอบมา ผู้ใหญ่ก็ชอบอิๆ อิ่ม อร่อย หลับฝันดีอีกต่างหาก สี่ทุ่มกว่า มนต้นไม้ก็นั่งตุ๊กๆกินลมกลับบ้านค่ะ แต่ยังไม่ได้นอนนะคะเพราะต้องมาจัดกระเป๋ากลับเมืองกาญจน์อีก แหะ แล้วจะเอาบรรยากาศมาฝากกันอีกค่ะ
ปีหน้าสงกรานต์ถ้าไม่อยากไปไหนก็ขอเชิญที่ศาลาว่าการกทม.นะคะ รับรองว่าสนุกไม่น้อยกว่าออกต่างจังหวัดแน่นอนค่ะ
.............................
กระแสใจ ...
................
... ห้วงอาวรณ์ร้อนเย็นหลากเป็นสาย
เมื่อนัยหมายท่วมท้นจนเกินกัก
ล่องไปตามกระแสใจพริ้วไหวนัก
แล้วตวงตักทบทวนจากส่วนลึก ...
.
.
.