Group Blog
 
<<
มีนาคม 2554
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
10 มีนาคม 2554
 
All Blogs
 
เรื่องสั้นเฉพาะกิจ เสือเข่งอาละวาด



เสือเข่งอาละวาด อิๆ






เพิ่ง กลับมาจากต่างจังหวัดค่ะ อบรมไม่สนุกเลย วันนี้มนต้นไม้เลยเอาเรื่องมาลงให้อ่านกันแก้เบื่อ เป็นเรื่องเล่าเกี่ยวกับเสือสาง แต่ไม่ใช่เรื่องน่ากลัวประเภทบู๊ ล้างผลาญหรอกนะคะ ลองอ่านกันดูคะ




เรื่องมีอยู่ว่านานมากแล้ว ในเย็นวันหนึ่งที่คณะวิดวะ(วิศวะ) มีงานเลี้ยงเกิดอยากจะกิน ขึ้นมา...สะอย่างนั้น ไม่มีสาเหตุอะไรทั้งนั้น เพราะมันเกิดจากความอยากล้วนๆ นั่นเอง (เมื่อก่อนยังไม่มีกฏหมายหมาย เรื่องการดื่มแอลกอฮอล์ ในสถานศึกษานะคะ แบบว่ามันนานมากแล้วนั่นเอง สักยี่สิบปีได้แล้วมั้งคะ)


ปกติแถวๆนี้ เป็นที่รู้จักและเรียกันจนติดปากว่า "เนินคนบาป " จะเป็นที่เฮฮาประสาพี่น้องพวกพ้องกันเป็นประจำอยู่แล้ว เมื่อพลพรรคมาพร้อมเพรียงกัน ก็เป็นอันว่าเริ่มงานกันได้ทันที ณ เวลานั้นแม่โขงมาแรงที่สุด เป็นขวัญใจคนยาก แลเป็นที่นิยมที่ซู๊ด เหตุเพียงเพราะว่ามันราคาถูกแต่คุณภาพคับขวด ประมาณว่าเมาเร็วได้ใจ เรียกว่ากลมเดียวสิบคนเมาสิบคนอ้วก เมาได้ข้ามวันข้ามคืนกันไปเลย หุ หุ


แรกๆ ตอนยังไม่เมาก็กินกับน้ำแข็งชงน้ำเปล่า แต่พอเมาได้ที่แล้วขอเป็นน้ำเปล่าอย่างเดียวไม่มีน้ำแข็งก็ได้ และถ้ายิ่งเมาได้ที่มากๆนี่ ก็คงจะเหลือแต่แม่โขงอย่างเดียวเป็นที่รู้กัน ส่วนใครจะอ้วกออกมาก่อนกันนั้น อันนี้ก็ท้องใครท้องมันไม่เกี่ยวกันอยู่แล้ว


แต่ที่ยอมให้กินแบบเพียวๆไม่ได้ ต้องทักท้วงกันหน่อย ไม่ใช่อะไรหรอกค่ะ เป็นเพราะมันเปลืองต่างหาก ไม่ได้ห่วงเพื่อนกันหรอกนะ ทีนี้หนึ่งในสมาชิกเนินคนบาปมีนามว่าเพื่อนนัท ก็ได้มาร่วมวงสุนทรีย์ที่เนินนี้ ตั้งแต่บ่ายสามหลังเลิกเรียนฟูอิด(ที่บ่นกันหนักหนา ว่า โค ตะ ระ ยาก)


บ่น ตั้งแต่มานั่งว่า มันยากเรียนไม่รู้เรื่อง (แต่ผลสอบออกมาดันได้ เอ...ซะงั้น เฮอ กรรมของเวร แท้ๆ) พอมาถึงก็กระดกน้ำสีเข้มแบบไม่บันยะบันยัง เหมือนกับจะรีบทำเวลาหรืออะไรสักอย่าง ผลออกมาคือไม่ทันชั่วโมงก็เริ่มนั่งตาลอย พูดรัวลิ้นคับปาก จากคนที่ไม่ค่อยพูดก็กลับกลายเป็นคนพูดไม่รู้เรื่อง ประมาณว่าพล่ามไปเรื่อย จนเพื่อนๆต้องขะยั้นขะยอให้ดื่มต่อ ปากจะได้ไม่ว่างจะได้ไม่ต้องพูดมาก (แบบว่าเหตุผลดีมากเลยนะเพื่อนๆ)


แต่พอเพื่อนนัทไม่ได้พูด ก็เลยนั่งซึมแทน เพราะฤทธิ์ของน้ำเมามันช่างหนักหนาสาหัสนัก ที่นี้..นั่งไม่นั่งเปล่า เวลาเห็นมดเห็นแมงอะไรวิ่งผ่านหน้าไป ก็เริ่มนับนิ้วไม่เลิก แต่เอ...นับเท่าไหร่ก็ไม่หมดสักที ทั้งที่มีแมงสาปวิ่งไปมาแค่สามตัวเท่านั้นเอง


ก็ร้อนถึง เพื่อนๆที่เมาน้อยกว่า กลัวว่าเพื่อนนัทจะเป็นโรคประสาทถามหามากกว่าแค่เมาเหล้า จึงคิดจะช่วยพาไปนอน เพราะมันเริ่มมืดแล้ว ในขณะที่คนกินก็สลับกันมากิน มาเมา มาอ้วกกันเป็นระยะๆ บางคนหมดแรง ก็นอนแผ่สองสลึงอยู่แถวๆนั่นแหละ จนกระทั่งปาเข้าไปสี่ทุ่ม เพื่อนนัท เลยชักจะโยเย.....อยากจะกลับบ้านขึ้นมา


เพื่อนๆต่างเป็นห่วงช่วย กันพูดให้นอนที่สโมฯ ก็ไม่ยอมท่าเดียว จึงต้องพากันไปส่งขึ้นรถแท็กซี่หน้าสถาบัน ก่อนจะกลับมาเมาหลับ คาเนินคนบาปกันต่อไป ส่วนไอ้ที่เมาหลับไปก่อนหน้า ก็เลยต้องเป็นภาระให้เพื่อนๆที่เมาน้อยกว่า ต้องลากกันไปหลับในสโมฯกันเป็นแถว ช่วยกันบริจาคเลือดให้ยุงกันทั่วหน้า (แม้แต่ยุงยังไม่กล้ามากัด เพราะตัวแต่ละคน มัน โค ตะ ระ แห่งความเหม็น)


เรียก กันว่าตลอดทั้งคืน ก็จะมีเสียงกรนดังสนั่นอย่างกับโรงสีข้าว สลับกับเสียงคนที่ลุกขึ้นมาอ้วก ที่ดังไม่แพ้กัน เป็นเหมือนบทเพลงบรรเลงสุดหรรษาเลยทีเดียวหุๆ แต่บางคนที่ยังมีสติดีพอที่จะกลับบ้านได้ ก็พยายามพาร่างอันไร้การทรงตัวโซเซไปมา ขึ้นรถเมล์จนกลับไปถึงบ้านได้ในที่สุด (เป็นความสามารถของคนเมา ที่น่าทึ่งมากเลยจริงๆ ไม่รู้ทำได้อย่างไรกัน เหอๆ)


เช้าวันรุ่ง ขึ้น มีวิชาแมทเมติก ทุกคนห้ามขาดเพราะมีการเช็คชื่อ เรียกว่าถึงเมาแค่ไหน แต่ถ้าได้เวลาเรียนก็ต้องมาเรียนให้ได้ อันนี้เป็นคอนเซ็บของเด็กวิดวะอยู่แล้ว (ที่ต้องมาเรียนนี่ ไม่ใช่เพราะกลัวอาจารย์หรอกนะ แต่ว่า ไอ้ที่กลัวน่ะ..คือ ..ปากของเพื่อนๆนั่นเองหุๆ)


แล้วไอ้ประเภทกินเหล้าเมาแล้วขาด เรียน ที่อื่นไม่รู้ว่าเป็นอย่างไร แต่ที่นี่ขอบอกได้เลยว่าได้ไม่คุ้มเสีย เพราะจะโดนเพื่อนรุมด่าแบบว่าไม่ได้ผุดได้เกิด เสียผู้เสียคนกันไปเลย จนถึงกับต้องยอมแพ้แล้วพูดว่า ผมจะไม่ทำอีกคร๊าบ (เพราะจะถูกเพื่อนๆไม่ให้มาร่วมวงเมาอีก ถ้ายังเมาแล้วขาดเรียน หรือมาสายอีก)


ซึ่งก็คงเป็นความรับผิดชอบที่ดีอย่างหนึ่งนะ ที่ช่วยๆกันคอยเตือนโดยการด่าๆ จนต้องกลับมาเรียน สมกะคำที่ว่า "เมาดีกีฬาเด่น เน้นเรียนให้จบ " อันเป็นคำขวัญของเนินคนบาป


ที่ นี้..ทุกคนก็มากันครบถ้วน จะขาดก็แต่เพื่อนนัท ซึ่งกว่าจะโผล่มาก็บ่ายคล้อย จนเพื่อนๆชักเริ่มเป็นห่วง เพราะเพื่อนนัทไม่เคยเกเรอย่างนี้มาก่อน แต่พอเจอหน้าเพื่อนนัทเท่านั้นเพื่อนๆก็รุมด่า.......ซ้า จนอ้ายนัทต้องรีบอธิบายแทบไม่ทัน เพราะถ้าขืนปล่อยให้เพื่อนรุมด่าอยู่อย่างนี้ รับรองได้เลยว่าสามวันก็ไม่มีจบ โดยเพื่อนนัทมีข้อแก้ตัวงามๆมาเล่าสู่เพื่อนฟังว่า


หลังจากที่ อ้ายอ๋องส่งกรู ขึ้นรถแท๊กซี่แล้ว กรูก็คิดว่าจะกลับบ้านนอน แต่นึกขึ้นมาได้ว่านัดกับน้องมะนาวเอาไว้ ก็เลยบอกให้แท๊กซี่พาไปส่งที่บ้านน้องมะนาว


พอถึงหน้า บ้าน(ซึ่งเปิดเป็นร้านขายของชำ) กรูก็ไปเคาะประตู กรูก็คิดแล้วนะว่า ตั้งใจเคาะแบบดีๆแบบสุภาพๆ แล้วกรูก็ไม่ได้ส่งเสียงดังอะไร แต่ทำไมน้องมะนาวไม่เข้าใจกรูเลยวะ สงสัยงอนที่กรูมาสาย (ก็แค่สายไป หกเจ็ดชั่วโมงเอง หุๆ)


แค่นั้นยังไม่พอ มาม้าน้องมะนาวยังสาดน้ำลงมาใส่กรู ทำยังกับกรูเป็นคนน่ารังเกียจ (ฮ่าๆ ในความเห็นของเพื่อนๆก็บอกว่าเมื่อวาน มหึง..แหม่ง โค ตะ ระ น่าเกลียดเลยหว่ะ ฮ่าๆ) กรูก็เลยน้อยใจ เดินออกมา แต่ไม่รู้ เป็นไงมาไง แหม่ง ง่วงจัด(ขออนุญาตเขียนคำไม่สุภาพนะคะ)


กรูตื่นมาอีกที ตอนที่ได้ยินเสียงพระสวด และมีคนอุตส่าห์เอาน้ำมาล้างหน้าให้(ในความเป็นจริงมันคือน้ำที่เทหลังจาก แผ่อุทิศส่วนกุศลคะ หุๆ) กรูก็เลยลืมตาขึ้นมา เห็นหลวงพ่อกำลังเปิดฝารับของใส่บาตร แล้วน้องมะนาวกำลังทำหน้าตกใจที่เห็นกรูลุกขึ้นมาจากเข่ง เลยทำท่าจะด่ากรู แต่พอดีมาม้าของน้องมะนาวหันมาทักกรูเสียก่อน ประมาณว่า


“ทำไม จู่ๆ กรูล้มใส่เข่งเสียล่ะ เหอๆ แต่ความจริงแล้ว เมื่อคืนกรูคงนอนหลับในเข่งหน้าบ้านน้องมะนาวนั่นแหละ แต่ก่อนที่มาม้าจะรู้ความจริง กรูก็เลยรีบยกมือไหว้แล้วรีบกลับบ้านอาบน้ำ แล้วออกมาหาพวก มหึง นี่แหล่ะ“


นับตั้งแต่นั้นมา เพื่อนนัทจึงได้สมญานามว่า "เสือเข่ง" (เพราะเสือจะออกหากินเวลากลางคืนแล้วหลับ ตอนเช้า อิๆ) มาจนกระทั่งทุกวันนี้ และยังกลายเป็นพี่เข่งของน้องๆ และ อ้ายเข่งของเพื่อนๆ สำหรับชื่อเพื่อนนัทนั้น ไม่มีชื่อนี้อยู่ในสาราณุกรมของรุ่นอีกต่อไป


แต่จะว่าไปยี่สิบ ปีผ่านมา ตอนนี้เสือเข่งของพี่น้อง ณ เนินคนบาปได้ทุนไปเรียนอังกกฤษ จนจบด๊อกเตอร์ทางวิศวกรรมศาสตร์กลับมา กลายเป็นรองศาสตราจารย์ รองหัวหน้าภาควิศวกรรมศาสตร์ของสถาบันชื่อดังแถวพระรามหก จนกลายเป็นที่นับหน้าถือตาของคนทั่วไปเรียบร้อยแล้ว แต่จะมีใครสักกี่คนที่จะรู้ว่าครั้งหนึ่งอาจารย์ของพวกเขาคนนี้ เคยลงไปนอนในเข่งมาแล้ว เหอๆ


Create Date : 10 มีนาคม 2554
Last Update : 10 พฤษภาคม 2554 15:29:21 น. 1 comments
Counter : 536 Pageviews.

 
จู จุ๊ฟ คนสวยค่ะ


โดย: like 2 hear from u วันที่: 10 มีนาคม 2554 เวลา:18:26:09 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Setakan
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]





อยากให้คนที่เข้ามาได้รอยยิ้ม
และความสุขกลับไปค่ะ

..................

นิยายปี 53










นิยายปี 54










งานเขียนในบล็อกนี้สงวนลิขสิทธิ์ ตาม พ.ร.บ. พ.ศ. 2537 ห้ามคัดลอก ทำซ้ำ ส่วนหนึ่งส่วนใด โดยมิได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร




TOP : Users Online hits
Friends' blogs
[Add Setakan's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.