|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | |
|
|
|
|
|
|
|
เรื่องสั้น...ตอนรถตู้ฮาเฮ ...แบบว่าขำๆ
เรื่องสั้นเฉพาะกิจ...ตอนรถตู้ฮาเฮ ...แบบว่าขำๆ
วันนี้ มนต้นไม้เอาเรื่องที่อ่านแล้วสบายๆใจ อ่านแล้วรับรองว่าต้องอมยิ้มกันบ้างแหล่ะมาฝากค่ะ เป็นเรื่องเก่าที่เคยลงเอาไว้ในบล็อคตั้งแต่ปี 51 ตอนเข้ามาพันทิปใหม่ หากใครเคยอ่านแล้ว ขออนุญาตเอามาให้ท่านที่ยังไม่ได้อ่านที่นี่นะคะ ลองอ่านกันดูค่ะ
เรื่องก็มีอยู่ว่า ตอนที่มนต้นไม้เข้าทำงานปีแรก (นานมากแล้วล่ะ) ต้องแยกจากสำนักงานใหญ่แถวๆสะพานควายเยื้องๆซอยอารี ไปทำงานที่ตึกแถวๆซอยรางน้ำตรงข้าม รพ.เดชา แทน โชคดีที่ตนเองได้ทำงานในฝ่ายที่ดีมากๆ คือฝ่ายฝึกอบรมนั่นเอง จึงมีแต่เรื่องฮาเฮ ขำกลิ้งกันเกือบทุกวัน เพราะตอนนั้นมนต้นไม้ยังไม่ได้ย้ายไปฝ่ายที่ต้องออกหน้าหาเงินเข้าองค์กร เหมือนฝ่ายอื่นๆนั่นเอง
บรรยากาศในการทำงานจึงชวนหัว และพี่ๆ(บางคนจะเกีษยน ก็ต้องเรียกพี่อ่ะ ขำๆดี )ในฝ่ายนี้ก็เก่งฉกาจ โดยเฉพาะในเรื่องฮาๆ ไม่รวมงานและกิจกรรมขององค์กรอีกด้วย เพราะเป็นฝ่ายที่ต้องฝึกอบรมให้ความรู้แก่ทุกคนนั่นเอง
ในขณะฝ่าย ที่อยู่ติดกัน เช่นฝ่ายวิชาการ ฝ่ายตรวจสอบ บรรยากาศประมาณว่า มาคุ มากเลย เสียงเข็มตกเล่มเดียว ยังได้ยินกันทั้งฝ่าย หุๆ(แบบว่าโค ตะ ระ เงียบ ไม่มีเสียงคุยเลยอ่ะ)ดูแล้ว มนต้นไม้คงทำงานที่ฝ่ายนี้ไม่ได้แน่ ๆ(แต่ตอนหลังกลับได้ทำงานที่โคตะระเครียดมากๆเลย อนิจจัง แต่ไม่เป็นไรค่ะ ยังฮาได้เหมือนเดิม มันอยู่ที่คน มันอยู่ที่ใจ เน๊อะๆ)
ทีนี้ทุกๆ วันมนต้นไม้ก็จะต้องนั่งรถตู้จากสนญ.ไปซอยรางน้ำ( ซึ่งเป็นที่ทำงานชั่วคราว ก่อนจะย้ายกลับมาพหลโยธินอีกหนึ่งปีต่อมา) รถตู้คันนี้ไม่ใช่รถสาธาณะ แต่เป็นเหมือนรถรับส่งพนักงาน เพราะฉะนั้นเรียกได้เลยว่าผู้โดยสารแต่ละคนนั้นเป็นคนกันเองทั้งนั้น
มี อยู่วันหนึ่งจำได้ว่าเช้าวันนั้นฝนตกหนัก รถติดมากๆติดตั้งแต่ออกจากสนญ. เลย(พอเลี้ยวออกมาถนนพหลโยธิน ก็ติดเลยค่ะ) ซึ่งปกติจะใช้เวลาไม่เกินยี่สิบนาทีก็จะถึงที่ทำงานซอยรางน้ำแล้ว(ซอยที่มี ดิวตี้ฟรีของคิงพาวเวอร์ในปัจจุบันนะคะ) แต่วันนี้ปาเข้าไปชั่วโมงกว่าแล้วยังไม่ถึงแยกอนุสาวรีย์ชัยเลย(โชคดีที่ สมัยก่อนมนต้นไม้รูดบัตรแล้ว อิๆ ไม่งั้นสายแน่ๆ )
เพราะว่ารถติดนาน มากก...ที่นี้คนบนก็เริ่มเบื่อกันแล้ว บางคนก็เริ่มเอาหัวพิงหน้าต่างรถ บางคนก้็นั่งมองออกไปนอกหน้าต่าง หรือไม่ก็หลับไปเลยก็มี เรียกว่า เซ็งกันเป็นแถบๆ ไม่มีใครอยากจะพูดกับใคร แบบว่าเบื่อรถติดอ่ะ(สมัยนั้นนะคะ แต่ตอนนี้สบายแล้วหุๆ)
ตลอดเวลาที่นั่งอยู่บนรถ ก็จะได้ยินเสียงปิ๊บๆ วิทยุติดตามตัว(หุๆเรียกซะหรูเลยอ่ะ จริงๆมันก็คือ แพคลิงค์ หรือเพจเจอร์..นั่นเองแหล่ะ แฮ่ะๆ ใครเกิดไม่ทัน หรือจำไม่ได้ เดี๋ยวมีรูปให้ดูตอนท้ายเรื่องค่ะ ตอนนี้ขอเล่าคร่าวๆให้ฟังก่อนนะคะ
คือ มันจะมีลักษณะใหญ่กว่ากล่องไม้ขีดไฟนิดหน่อย อ้าว..ลืมไปเผื่อบางคนเกิดไม่ทันกล่องไม้ขีดไฟอีกอ่ะ เกิดมาก็เจอแต่เตาแก๊ส เตาไฟฟ้าจิ เอาว่ามันเป็นกล่องมีลักษณะสี่เหลี่ยมกว้างสามนิ้ว ยาวเจ็ดนิ้วหนาประมาณสองนิ้วเห็นจะได้
ต้องมีคนโทรเข้าศูนย์ แล้วฝากข้อความเอาไว้ พนักงานก็จะคีย์ข้อความส่งมาให้คนรับอ่านอีกทอดหนึ่ง แต่ก่อนจะอ่านข้อความได้ก็จะต้องได้ยินเสียงเรียกปี๊บๆ ก่อน(หรือไม่ก็จะสั่นจนเจ้าของสะดุ้งเลยทีเดีย ฮ่าๆ) แล้วจึงเปิดข้อความที่หน้าจออ่านได้ คลาสิคน๊า จะบอกให้อิๆ)
คราว นี้เครื่องที่ว่ามันก็จะดังเป็นระยะ ๆตลอดทาง (ประมาณว่าสายแล้ว เจ้านายถามหา หายหัวไปไหนกันหมด หุๆ ) ไม่แน่ใจว่าหลายๆคนทันได้ผ่านตาบ้างหรือเปล่า ไอ้เครื่องนี้อ่ะ เขาฮิตใช้กันอยู่หลายปีนะ ก่อนที่มือถือจะเบียดมันหายไปจากชิวิตของเราเลย แบบว่าตายสนิททีเดียวเชียว
ส่วนมนต้นไม้(ในตอนนั้ สักสิบห้าปีสิบหกปีได้แล้วมั้ง)ไม่มีใช้เพราะไม่ได้ทำในฝ่ายเซล หรือต้องออกไปหาลูกค้า(แต่เมื่อย้ายฝ่ายอีกสองปีต่อมาก็ยังทันใช้อยู่หลายปี นะเหมือนกัน)
ทีนี้ถ้ารถวิ่งมันก็จะเพลินๆ แป๊บเดียวก็ถึง แต่พอรถไม่วิ่ง มันก็นานมาก มนต้นไม้ก็เริ่มง่วงแล้วล่ะ ฝนตกตอนเช้าๆ อากาศเย็นสบายใครบ้างไม่ง่วง มองออกไปนอกหน้าต่างก็แล้ว หันไปมองทางอื่นก็แล้ว อะไรก็ช่วยไม่ได้แล้วล่ะตอนนี้
ทำอย่างไงก็ ไม่หายง่วงสักที ที่สำคัญจะหันไปมองทางไหนมากก็ไม่ได้ เพราะเบาะรถตู้(สมัยก่อน)มันจะค่อนข้างแคบและสูง โชคดีที่ได้นั่งเบาะกลางติดหน้าต่างพอดี และขณะที่ตากำลังจะปิดอยู่แล้วนั่นเอง หูของมนต้นไม้ก็ได้ยินเสียงปี๊บๆ ดังมาจากพี่ผู้ชายที่นั่งข้างๆอีกที สักพักพี่เขาก็หยิบมือถือขึ้นมากดๆ
ฮะๆ เสียงดัง ตู๊ด ๆ จนครบเก้าครั้ง ดังสนั่นรถเลยอ่ะ (นึกแล้วขำ สมัยนั้นใครมีมือถือ แสดงว่ามีตังค์ เรียกว่าต้องรวยกันเลยล่่ะ แล้วขนาดของเครื่องมือถือ ฮ่าๆๆ มีขนาดใหญ่มากๆ ใหญ่อย่างกับกระบอกกินน้ำก็ไม่ปาน หุๆ จริงๆนะ บางรุ่นเนี่ย วิทยุโบราณเรียกแม่...เลยล่ะะ โค ตะ ระ แห่งความใหญ่)
ส่วนโทรศัพท์ ของพี่คนนั้นก็มีขนาดใหญ่ปานกลางเรียกว่าใส่กระเป๋ากางเกงก็คับหน้าขาพอดี เวลานั่งกลัวมันจะทิ่มขาแทน หุๆ และพอทางโน้นรับสายพี่เขาก็พูดตอบกลับไป
อิๆ พอนึกกันออกมั๊ยค่ะว่าต่อไปจะเป็นอย่างไร ฮ่าๆ ถ้านึกไม่ออก เดี๋ยวเล่าต่อละกัน พอเสียงกดโทรศัพท์มันดังขึ้น ความจริงเรียกว่าตั้งแต่เสียงปี๊บๆของวิทยุติดตามตัวพี่เขาดังขึ้นแล้วล่ะ เสียงมันแหลมปี๊ดมาก และน่ารำคาญที่สุดด้วย มันก็เลยปลุกคนทั้งรถให้หันมาสนใจเสียงของมันนั่นแหล่ะ
ยิ่งพอพี่เขา พูดโทรศัพท์เท่านั้นล่ะ มนต้นไม้นี้หูบาน เอ้ย ไม่ใช่...หูผึ่งเลยอ่ะ แบบว่าไม่ได้ตั้งใจจะสอดรู้ ฟังพี่เขาคุยหรอกนะ แต่มันเหมือนถูกบังคับให้ได้ยินมากกว่า ครั้นจะไม่ฟังก็ไม่รู้ว่าจะหันหน้าออกไปทางไหนดี ก็เลยแกล้งหลับตาเอาหัวพิงหน้าต่างเหมือนคนกำลังหลับอยู่เลยล่ะกัน (แต่ว่าหูเนี่ยยังกระดิกไปมา คอยฟังอยู่นะ ฮ่าๆ)
ที่นี้ภายในรถตู้จะ เงียบมากๆ เหมือนบนรถเนี่ย มีแต่พี่คนนั้นนั่งอยู่คนเดียวเลยแหล่ะ พี่เขาก็คุยโทรศัพท์ไป เสียงที่พูดก็ไม่ได้ดังอะไรมากนัก แต่เข้าใจมั๊ยอ่ะว่ามันเงียบมาก....ก แค่กระซิบยังได้ยินเลย งานนี้เรียกว่าดังได้ยินกันทั้งรถเลยล่ะ แต่โดยมารยาทอ่ะนะ ก็ไม่มีใครพูดอะไรออกมา(สงสัยกำลังลุ้นอยู่เหมือนมนต้นไม้แน่ๆเลย...ฮา)
คิด ว่าพี่เขาคงคุยกับสาวอยู่มั่ง เพราะเห็นเวลาพูด แกต้องเอามือป้องปากเอาไว้ แต่แหม...ไอ้เรารึก็ดันหูดี หุๆได้ยินตลอดเลย(คนอื่นก็คงจะหูดีไม่แพ้มนต้นไม้เลยนะ เง้อ...) ได้ความประมาณว่า อืม...รถติดมากเลย(พี่เขาทำเสียงหล่อมาก ๆ) ไม่ไกลหรอกจ่ะ แต่รถมันติด ความจริงก็เป็นแค่บทสนทนาทั่วๆไปอ่ะไม่มีอะไรพิเศษ
แค่ แปลกใจเท่านั้นเองว่าทำไม...พี่เขาต้องทำเสียงซะหล่อขนาดนั้น (ทำเสียงหล่อเหมือนรองเค้ามูลคดี ภาคเสียงให้สมบัติเมทะนีสมัยก่อนเลยอ่ะ แบบว่าทุ่มลุ่มลึก เก็กสุดๆไปเลย...ฮา) สักพักมนต้นไม้ก็หลับไปจริงๆ ก็หลับๆตื่นๆไปตอลอดทางค่ะ
แต่พอตื่นขึ้นมาทีนี้ อุแม่เจ้า...พี่เขายังเมาส์ไม่เลิก มนต้นไม้ยังได้ยินเขาทำเสียงหล่ออยู่อีกอ่ะ ฮ่าๆ แถมได้ยินแว่วๆว่า อืม... พี่ก็คิดถึงน้องอยู่เหมือนกัน แล้วน้องล่ะ คิดถึงพี่มั๊ย จ๊าก...เจี๊ยก... หวานหยด จนน้ำตาลเรียกยายเชียว
ยังมีต่ออีกนะคะ(แบบว่าไม่เกรงใจใคร เลยอ่ะ) ...เดี๋ยวเย็นนี้พี่จะรีบไปหา อืมม ..น้องอยากให้ไปหาเดี๋ยวนี้เลยหรือ ได้ซิจ๊ะ แต่ขอให้พี่เคลียงานก่อนนะครับคนดี แล้วจะรีบแวะไปทันทีเลยจ๊ะ อ๊าก....ทำเอามนต้นไม้นอนหลับตาอมยิ้มคนเดียว ฟังแล้วมันจั๊กจี้หัวใจพิกล ฮ่าๆ พี่เขายังพูดต่ออีกนะ...คร๊าบ พี่ก็เหมือนกัน ในใจพี่ก็มีแต่น้องคนเดียว
อุ อ๊าก ..ก๊าก สำนวนเน่าสุดๆ แบบว่าลิเกมากๆ เลย (มนต้นไม้ฟังแล้วรีบเอามือขยี้จมูก เพื่อไม่ให้ปล่อยก๊ากออกมาเสียก่อน กลัวเดี๋ยวพี่เขารู้ตัว แล้วไม่ได้ฟังต่ออีก ฮา ว่าแต่ฟังแล้วมันทรมานหัวใจคนฟังจริงๆเลย)
ขณะ ที่พยายามกลั้นหัวเราะเอาไว้เต็มที่ อยู่ๆมนต้นไม้ก็สะดุ้งลืมตาขึ้นมา เพราะได้ยินผู้ชายคนหนึ่งตะโกนเสียงดังมาจากเบาะหลังว่า เฮ้ย...คุณอนุชิต เมื่อไหร่คุณจะเลิกคุยโทรศัพท์สักที ผมได้ยินคุณเมาส์มาชั่วโมงกว่าแล้วมั่ง ตั้งแต่รถออกเลยนี่
(อันนี้มนต้นไม้เข้าใจว่า พี่คนที่นั่งเบาะหลังคงจะเป็นเพื่อนฝ่ายเดียวกันกะพี่ที่นั่งข้างๆมนต้นไม้ อ่ะ แล้วก็น่าจะสนิทกันมากๆด้วย เพราะฟังดูจากที่แซว ออกจะแรงๆ แต่ฮา มากๆค่ะ หุๆ)
พอพี่คนข้างๆมนต้นไม้โดนแซว แกก็เลยรีบวางโทรศัพท์เลยอ่ะ ก่อนวางยังมีทิ้งท้ายด้วยว่า คร๊าบ...รักนะคร๊าบ เดี๋ยวพี่ส่งใจไปก่อน ส่วนตัวเดี๋ยวพี่จะตามไปหาเย็นนี้.... (แบบว่า สำนวนพี่เค้า ชวนอ้วก มากๆ เลย หุๆ)
มนต้นไม้คงไม่ได้คิดไปเองคนเดียวหรอกค่ะ เพราะว่าพี่ที่นั่งอยู่เบาะหลัง แกยังคงตะโกนเผามาอย่างต่อเนื่องว่า (เล่นเอาคนทั้งรถ ฮา กันไม่่หยุด บางคนปล่อยก๊ากออกมาเสียงดังมาก บางคนพยักหน้ารับหงึกๆ แบบว่า ใช่เลย สนับสนุน อิๆ)
โอ้ย...ผมว่ารถ ติดๆอย่างนี้จะลงไปไหนก็ไม่ได้ อุตส่าห์นั่งหลับฆ่าเวลา พอตื่นขึ้นมาคุณก็ยังเน่าไม่หยุด ผมล่ะ กลุ้มใจแทนน้องเขาจริงๆ ถ้าเขารู้ว่าคุณเป็นคนแบบนี้ เป็นผมนะ... คงเลิกไปนานแล้ว พูดเสร็จแกก็แจกลูกฮาอีกยาว แถมยังหัวเราะเอิ๊ก ๆลงคอชอบใจ ให้ขำกันทั้งรถอีกต่างหาก
ก่อนที่แกจะพูดต่อไปว่า...ผมเห็นคนที่ แล้วคุณก็พูดแบบนี้ คุณเปลี่ยนมั่งสิ สำนวนแบบนี้น่ะะ มันเกร่อแล้วคุณ เค้าเลิกใช้นานแล้ว ขนาดผมเป็นผู้ชายฟังแล้วยังอยากจะอ้วก มันเลี่ยนมากนะคุณอนุชิต...ต แกลากเสียงยาวล้อเลียนมากเลยอิๆ
สิ้น เสียงแซวของพี่เบาะหลังเท่านั้นล่ะ คนทั้งรถรวมทั้งพี่คนที่นั่งข้างๆมนต้นไม้ ที่เป็นต้นเรื่องก็ฮา กลิ้ง ไปตามๆ กัน ก๊าก ๆขำอ่ะ โค ตะ ระ ขำ เลย เล่นเอาน้ำตาเล็ดเลยล่ะ อิๆ
พอ ดีรถแล่นมาถึงที่ทำงานแล้วจอดให้คนลง หลังจากที่มนต้นไม้ลงไป ก็เห็นพี่อนุชิต ยืนรอพี่ชาติชายอยู่ก่อนแล้ว พอแกลงมา พี่อนุชิติก็โป๊ะกระโหลกไปทีหนึง (คงประมาณว่าด้วยความร๊าก ที่เผาเพื่อนซะสุกเกรียมเชียว) ก่อนที่แกจะเดินกอดคอพี่ชาติชายมายืนรอลิฟท์ข้างๆมนต้นไม้
มนต้นไม้ ยังได้ยินพี่อนุชิตพูดปนขำๆว่า...คุณชาติชาย ทำไมคุณทำกับผมแบบนี้ล่ะ ทีนี้สาวๆ เขาก็รู้กันหมดสิ ว่าผมมีแฟนแล้ว พูดเสร็จแกก็ขำของแกเอง
ต่อ มาเมื่ออยู่ๆไป มนต้นไม้จึงรู้ว่าพี่ทั้งสองคนนั้นเขาเป็นเพื่อนสนิทกันตั้งแต่สมัยเรียนราม ก่อนจะมาทำงานที่นี่ และก็ดันมาอยู่ฝ่ายตรวจสอบฝ่ายเดียวกันอีก ถึงได้ดูสนิทสนมกันดี ขนาดว่าแซวกันแรงๆไปเลย เรียกว่าดวงมันเฮงจริงๆ ฮ่า
.****เล่าพอขำๆ ไม่มีสาระอะไรมากค่ะ หน้าจะได้ไม่เหี่ยวเร็ว ท่ามกลางอุณหภูมิร้อนแรงของบ้านเราเน๊อะๆ****
ปล.เรื่องบนรถตู้นี่ความจริงมีให้เล่าอีกหลายเรื่องเลยค่ะ เอาไว้จะมาเล่าให้ฟังใหม่
อ้อ...รูปเพจเจอร์ หรือแพคลิงค์ที่พูดถึงค่ะ เกือบลืมเลย..
Create Date : 17 กุมภาพันธ์ 2554 |
|
15 comments |
Last Update : 10 พฤษภาคม 2554 15:28:48 น. |
Counter : 1480 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: Setakan 17 กุมภาพันธ์ 2554 16:20:50 น. |
|
|
|
| |
โดย: Setakan 18 กุมภาพันธ์ 2554 22:06:42 น. |
|
|
|
| |
โดย: ปรานทยา 19 กุมภาพันธ์ 2554 0:08:10 น. |
|
|
|
| |
โดย: ปรานทยา 19 กุมภาพันธ์ 2554 0:10:26 น. |
|
|
|
| |
โดย: Setakan 20 กุมภาพันธ์ 2554 20:08:51 น. |
|
|
|
| |
โดย: Setakan 20 กุมภาพันธ์ 2554 20:12:29 น. |
|
|
|
| |
โดย: SassymOn 29 พฤศจิกายน 2554 22:59:58 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
อยากให้คนที่เข้ามาได้รอยยิ้ม และความสุขกลับไปค่ะ
.................. นิยายปี 53
นิยายปี 54
งานเขียนในบล็อกนี้สงวนลิขสิทธิ์ ตาม พ.ร.บ. พ.ศ. 2537 ห้ามคัดลอก ทำซ้ำ ส่วนหนึ่งส่วนใด โดยมิได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร
|
|
|
|
|
|
|