Group Blog
 
 
กุมภาพันธ์ 2554
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728 
 
5 กุมภาพันธ์ 2554
 
All Blogs
 
เรื่องสั้น...จากเบื้องลึกของหัวใจ....ที่มีให้ใครบางคน



สืบเนื่องมาจากได้เข้าไปอ่านBonus Track ประจำกระทู้ ของคนรู้จักมา เลยอยากจะเขียนเรื่องสั้นเรื่องหนึ่งขึ้นมาบ้าง ลองอ่านดูกันเล่นๆนะคะ ว่ามันพอถูๆไถ พอจะไปได้มั๊ย

ขออนุญาตเจ้าของเรื่องด้วยนะคะ

""""""""""""""""""""""""""""""""""

เพียงเพราะรอ....
โดย GTW

เขาลุกขึ้นจากเตียงกลางดึก ด้วยความรู้สึกหนักอึ้งสับสน

ทำไม นะ...แค่การจะพยายามลืมใครบางคนทำไมมันยากเย็นขนาดนี้ แค่ผิดนัดสามครั้งในเวลาหนึ่งสัปดาห์ไม่เห็นจะหนักหนาสาหัสอะไรเลย เพราะก่อนหน้านั้นโน้นเขายังผิดนัดเธอได้ตั้งสี่ครั้งติดๆกันในเวลาห้าวันก็ ไม่เห็นเป็นไร

เรา เลิกกันดีกว่า....นั่นเป็นคำพูดของเธอหลังเจอกันครั้งสุดท้ายเมื่อสามวัน ก่อน เขายิ้มเย้ยหยันให้กับคำพูดนั่น คนอย่างเขาเป็นลูกเจ้าใหญ่นายโต ได้รับการเลี้ยงดูอย่างดีโดยการถูกตามอกตามใจมาตลอดรอดฝั่ง จะ มีใครกล้ามาสั่งสอน ขนาดอาจารย์ที่เคยสอนสมัยเรียนบังอาจเขกหัวเบาๆเขายังฟ้องพ่อให้สั่งย้ายใน ยี่สิบสี่ชั่วโมงมาแล้ว นับประสาอะไรกับเธอคนนี้....ไม่นานขี้คร้านจะโทรมาง้อ ทั้งหล่อพ่อรวยแบบนี้หาได้ง่ายๆ ที่ไหน

พอสองวันผ่านๆไปเขาเริ่มหงุดหงิด...ไม่มีการติดต่อจากเธอทั้งทางตรงและทาง อ้อม แต่ไม่มีทางที่คนอย่างเขาจะเป็นฝ่ายง้อ มีแต่คนเอาใจตามใจ ชาตินี้ไม่เคยง้อใครแม้แต่พ่อแม่ นับประสาอะไรกับคนอื่น

แต่ เพราะอะไรก็ไม่รู้เหมือนกันทำให้จิตใจของเขาคอยแต่จะคิดถึงเธอคนนั้นเสมอ มันห้ามความคิดไม่ได้ทั้งที่หาเหตุผลมากมายมาอ้างกับตัวเอง แบบนี้มันบ้าชัดๆ

เมื่อ วานเขาจัดการทิ้งทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับเธอลงถังขยะ ไม่ว่าจะเป็นรูปถ่าย สิ่งของทั้งหลายที่ได้รับมาจากเธอ กระทั่งเบอร์โทรศัพท์ในเครื่องยังลบทิ้งเพราะกลัวใจอ่อนเป็นฝ่ายโทรไปหาก่อน เขาจะต้องทิ้งสื่อความทรงจำเหล่านั้นไปให้หมด เขาไม่ต้องการงอนง้อใคร

เมื่อ แน่ใจว่าเก็บกวาดทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับเธอหมดสิ้นแล้ว เขาก็เข้านอนอย่างปลอดโปร่งโล่งใจ พรุ่งนี้จะตื่นขึ้นมาเป็นคนใหม่ หัวใจใหม่ และจะหาคนรักใหม่ให้ดีกว่าเก่า ของมันง่ายอยู่แล้วกับการกำชัยชนะในครั้งนี้ แต่แล้วเขากลับผวาตื่นกลางดึกเพราะถึงจะทิ้งสิ่งของเกี่ยวข้องกับเธอจนหมด เธอยังบังอาจตามเข้ามารบกวนเขาในความฝัน !

“มันจะมากเกินไปแล้ว.....”

เขา คำรามลั่นห้อง ยกมือกุมหัวเดินพ่านไปมาเหมือนคนเสียสติ ภาพและความรู้สึกในความฝันยังกระจ่างชัด ว่ากันว่าในความฝันอารมณ์และความรู้สึกของคนเราจะบอบบางอ่อนไหวง่ายกว่าเวลา ปกติ

ใน ฝันเขากับเธอทะเลาะกันอย่างเจ็บปวดรุนแรง เขากรีดร้องคร่ำครวญโกรธแค้นอย่างไม่เคยทำมาก่อนในชีวิตจริง ทรมานใจจนน้ำตาไหลรินอย่างน่าอับอายเมื่อเธอเดินจากไปหาชายอื่นซึ่งไม่รู้ ว่าใครเหมือนกัน แต่มันทำให้เขาลิ้มรสแห่งความผิดหวังอย่างหนักหนาสาหัสจนต้องเหงื่อแตกผวา ตื่นขึ้นมากลางดึกแบบนี้ ขนาดตื่นแล้วความรู้สึกหนักอึ้งในความฝันยังปะทุต่อเนื่องอย่างขาดระยะ

ถ้า เป็นภาพถ่ายยังพอฉีกทิ้ง ถ้าเป็นสิ่งของยังพอขว้างทิ้งให้ไกลแสนไกล แต่นี่เป็นความคิดที่สลัดตัดทิ้งไม่ได้เอาเสียเลย ยิ่งคิดยิ่งทรมานอย่างบอกไท้ถูก โดยเฉพาะกับคนแบบเขาซึ่งไม่เคยเผชิญกับสภาพความเจ็บปวดทางใจแบบหนักหนาสาหัส มาก่อน

ใช่ แล้ว...แบบนี้แปลว่ายังมีอะไรบางอย่างซึ่งเกี่ยวข้องกับเธอยังหลงเหลือ เขาคิดผิดว่าทิ้งมันไปหมดแล้ว แต่ความจริงยังมีบางอย่างซึ่งมองข้ามไป แต่ท้ายที่สุดเขาจะต้องเป็นฝ่ายชนะเสมอ

“ฉันไม่ยอมให้เธอเข้ามาอยู่ในหัวของฉันหรอก....”

แสยะ ยิ้มอย่างผู้ชนะ สมองและความคิดของเขาจะให้คนอื่นเข้ามาเพ่นพ่านราวกับสวนสาธารณะโดยไม่ได้ รับอนุญาตแบบนี้มันเป็นไปไม่ได้ มันเสียชื่อ

เขาเปิดหน้าต่างห้องพักออกก่อนกระโจนออกไปในความมืดอย่างไม่รีรอ โดยมีพื้นคอนกรีตแข็งกระด้างและเย็นชืดไร้น้ำใจรอรับอยู่ลิบๆด้านล่าง


ก่อนหน้าจะมีเสียงโทรศัพท์ดังยาวนานอันเนื่องมาจากการโทรเข้าของเธอคนนั้นเพียงไม่กี่นาที


""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""



จากเบื้องลึกของหัวใจ....ที่มีให้ใครบางคน







“พฤหัสนี้พี่ไม่สะดวก ปีนี้พี่มีงานจรเข้ามาแทรกเยอะแยะ เอาไว้ศุกร์หน้าละกัน ที่ทำงานพี่มีงานเลี้ยง เดี๋ยวพี่จะพาเธอเดินควงอวดไปทั่วงานเลยดีมั๊ย”

“ก็แล้วแต่พี่ค่ะ”


เธอรับคำเสียงอ่อย แล้วจะให้เธอพูดหรือถามอะไรไปมากกว่านี้ได้อีก ในเมื่อฝ่ายตรงข้ามเขาไม่ได้ต้องการ หรือยินดียินร้ายที่จะได้เจอเธอ และนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาพูดแบบนี้กับเธอ พฤหัสที่แล้วเขาก็เพิ่งบอกเธอเองว่าเขายุ่งมาก แทบไม่มีเวลาทำอะไรเลย ตอนนั้นเธอก็ได้แต่รับฟัง แถมยังแอบสงสารที่เขาถูกใช้งานหนักอีกด้วย


แต่พอมันหลายๆครั้งเข้า เธอก็อดที่จะคิดและน้อยใจไม่ได้ว่า ความจริงแล้วไอ้ที่พูดว่าไม่ว่าง ยุ่งมากนั้น มันคืออะไรกันแน่ ในเมื่อเธอและเขาไม่ได้เจอกันมาเกือบครึ่งปีแล้ว เขาจะเคยนึกถึงบ้างหรือไม่ว่า การรอคอยคนที่เราคิดถึงและรักมากนั้น มันเป็นอย่างไร มันต้องทรมานใจมากแค่ไหน


ที่ผ่านมาเธออดทนและอยู่มาได้ ก็เพราะว่าเขายังคงโทรหาเธออย่างสม่ำเสมอ ยังคงส่งเมล์ ออนเอ็ม และคุยกันแทบทุกวัน บางวันก็หลายครั้งๆด้วยซ้ำไป แต่มาวันนี้เขาเองต่างหากที่เป็นคนทำตัวเหินห่างไป มันไม่ใช่แค่เรื่องของการผิดนัดซ้ำซาก หรือเรื่องของการไม่มีเวลาให้ แต่มันเป็นเรื่องของหัวใจ หัวใจของเขาที่กำลังจะเปลี่ยนไปจากเธอเสียมากกว่า


สำหรับผู้หญิงเรื่องแบบนี้มันเป็นสัญชาตญาณที่ติดตัวตั้งแต่กำเนิด ของอย่างนี้อธิบายไม่ได้ แต่รับรู้และรู้สึกได้ด้วยหัวใจเพียงอย่างเดียว เธอวางหูโทรศัพท์ลง อดที่จะร้องไห้ออกมาด้วยความน้อยใจไม่ได้ กี่ครั้งกี่หนแล้วที่ต้องอดทนกับความรู้สึกเสียใจน้อยใจแบบนี้ ทั้งๆที่พยายามหาเหตุผลต่างๆนานามากลบเกลื่อนความเหินห่างที่เขามีให้


แม้ว่าจะคอยเตือนใจของตัวเองอยู่เสมอๆว่า ไม่มีอะไร ทั้งๆที่รู้ว่าความจริงมันไม่ใช่อย่างนั้น จนในที่สุดเธอจึงตัดสินใจบอกเลิกกับเขา
คืนนั้นเธอนอนไม่หลับ นอกหน้าต่างดวงจันทร์ลอยเด่นเต็มดวงนวลตา พาให้เธอนึกถึงคืนวันเก่าๆที่เคยผ่านมา


“พี่ไม่ง่วงหรือ พรุ่งนี้ทำงานไม่ใช่หรือ นี่มันเกือบตีหนึ่งแล้วนะคะ”

“ไม่ง่วงหรอก พี่อยากฟังเสียงน้อง’

“แต่หนูพูดให้พี่ฟังมาสามชั่วโมงแล้วนะ น้ำลายเหนียวแล้วเนี่ย”

“ไม่เป็นไรพี่ชอบฟัง แค่ได้ยินเสียงหนูพี่ก็ดีใจแล้ว”

“เว่อร์ พูดแบบนี้กับสาวๆทุกคนละซิ ฟร์อมหมาแก่”

“ไม่เคยนะ พูดกับเราคนเดียวนั่นแหละ ก็น้องเป็นนางฟ้าของพี่คนเดียวไง’

“แหวะ”


แม้ว่าทุกถ้อยที่เขาพูดมาในตอนนั้น มันแทบจะทำให้เธอแทบคายของเก่าออกมา แต่ลึกๆแล้ว จะมีผู้หญิงสักกี่คน ที่จะไม่ชอบคำพูดที่ฟังแล้วรื่นหู ทำให้ตัวเองรู้สึกว่าเป็นคนสำคัญขึ้นมาอย่างนี้ ซึ่งเธอก็ไม่ได้แตกต่างไปเลย ในเมื่อเธอเองก็มีความรู้สึกดีๆให้เขาเช่นกัน


อาจเป็นเพราะว่าเส้นทางความรักของเขาและเธอ นั้นไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เพราะเขาไม่ใช่คนตัวเปล่า แม้ว่าจะเป็นโสดสนิทแล้วก็ตาม ส่วนเธอก็เช่นกัน ความรักที่เกิดจากความแตกต่างและความบริสุทธิ์ใจ ความรักที่ค่อยๆก่อตัวขึ้นช้าๆท่ามกลางมิตรภาพและความจริงใจ มันเริ่มต้นขึ้นเมื่อหัวใจสองดวงมันคลิ๊กตรงกัน


แต่มันน่าแปลกใจตรงที่พอเวลาผ่านไป อุปสรรคทางสังคมที่ขัดขวางความรักของเขาและเธอนั้นหมดไป แต่กลับมีอุปสรรคใหม่เข้ามาแทน และนั่นก็เป็นตัวการสำคัญที่กำลังจะทำลายความรักของเขาและเธอลงอีกด้วย


“เราเลิกกันเถอะค่ะ น้องขอใจของน้องคืน หากพี่คิดว่ามันไม่สำคัญอีกต่อไปแล้ว”


เธอตัดสินใจพูดใส่หน้าเขาในเย็นวันหนึ่ง ก่อนจะกลับมาร้องไห้เป็นเผาเต่าอยู่หลายวัน และยังจำได้ดีว่าเย็นวันนั้นทั้งวัน เธอเอาแต่นั่งร้องไห้อยู่บนเตียง ข้าวปลาไม่ยอมกิน ไม่ยอมทำอะไรทั้งนั้น แม้แต่จะขยับตัว จนกระทั่งพับหลับไปด้วยความอ่อนเพลียทั้งกายและใจ


เช้าวันรุ่งขึ้นก็ยังร้องแล้วร้องอีก แม้แต่ตอนยืนแปรงฟันน้ำตาไหลก็ยังไหลไม่หยุด ยืนล้างหน้าก็น้ำตาร่วง ทาแป้งทาปากก็มีแต่คราบน้ำตาเกรอะกรัง ไม่เป็นอันทำอะไร ก่อนจะปล่อยโฮตามมาอีกหลายรอบ สุดท้ายก็ไปทำงานไม่ได้ เพราะหน้าตาดูไม่ได้เลย ตาบวม จมูกแดง มองเห็นหน้าตัวเองก็เอาแต่สะอึกสะอื้นปางตายเลยทีเดียว


หลายต่อหลายครั้งเธออยากจะยกหูโทรหาตัวต้นเหตุ อยากจะโทรไปง้อขอคืนดีเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา เพราะเธอรู้สึกว่าตัวเองทำผิดที่ไม่เข้าใจเขา แต่พอนึกถึงว่าเขาเคยทำห่างเหินเย็นชากับเธออย่างไรบ้าง ก็เลยตัดใจวางมือถือลง ได้แต่ปรายตามองตามไปด้วยความเจ็บปวด อีกครั้งที่น้ำตาเจ้ากรรมไหลพราก ร่วงเผาะลงบนฝ่ามือ


เขาไม่ได้พูดอะไรเมื่อเธอบอกเลิกกับเขาในวันนั้น และดูเหมือนว่าจะไม่ยี่หระเสียด้วยซ้ำไป กิริยารับฟังนิ่งๆ น้ำเสียงเรียบๆ ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เหมือนกับกำลังพูดอยู่กับคนที่ไม่คุ้นเคย มันทำให้เธอรู้สึกเหมือนกับว่าเป็นคนแปลกหน้าต่อกัน มันยิ่งตอกย้ำความเหินห่างและทำให้เริ่มมั่นใจว่าสัญชาตญาณของเธอนั้นชัดเจนเสียแล้ว


พอกันทีสำหรับความเจ็บปวด พอกันทีสำหรับความน้อยใจ จะขอเก็บเพียงความรู้สึกดีๆที่เคยมีให้ใครบางคนเอาไว้ในก้นบึ้งของหัวใจ แต่จะไม่หวนกลับไปอีกอย่างแน่นอน


แม้ว่าสมองสั่งให้คิดอย่างนั้น แต่หัวใจกลับปฏิเสธที่จะทำตาม มันไม่มีเหตุมาลองรับได้เลยว่าเป็นเพราะอะไร ทำไมก้อนเนื้ออ่อนๆที่เต้นอยู่กลางระหว่างทรวงอก จึงได้แข็งขืนฝ่าฝืนคำสั่งของสมองได้


แต่ทุกคำถามต้องมีคำตอบให้เสมอ และที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะเขาได้หัวใจของเธอไปแล้วนั่นเอง เขาเอาชนะใจเธอได้ในที่สุด ท่ามกลางอุปสรรคนานา ทั้งๆที่เธอไม่เคยปล่อยให้ใครข้ามเขตกำแพงหัวใจที่ตั้งขึ้นมาได้เลย แต่เขาเป็นคนแรกและจะเป็นคนสุดท้ายสำหรับเธอ


เธอเก็บรวบรวมข้าวของทุกอย่างที่คิดว่าเป็นตัวแทนของเขาลงกล่องกระดาษ เพื่อเตรียมเอาไปบริจาค ความจริงมันก็ไม่มีอะไรมากนัก และก็ไม่ได้มีราคาค่างวดอะไร นอกจากความตั้งใจและความระลึกถึงคนที่ซื้อให้เท่านั้น


เธอหยิบผ้าคลุมไหล่สีส้มผืนแรกที่เขาให้มาด้วยความไม่ตั้งใจขึ้นดู ก่อนจะค่อยๆบรรจงพับและวางมันลงในกล่องกระดาษใบใหญ่อย่างเบามือ หันมามองนิยายเล่มโตที่เขาและเธอเคยร่วมวิจารณ์หลังจากที่ได้อ่านร่วมกัน เธอค่อยๆเปิดมันออกอ่านทีละหน้าๆ ไปจนถึงข้อความๆหนึ่งที่ขีดเส้นใต้เอาไว้ว่า


”ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ปี ความรักของพี่ก็ไม่เคยเปลี่ยนแปลง”


ข้อความบนกระดาษ ทำเอาน้ำตาคนอ่านร่วงเผาะเพราะความสะเทือนใจ เธอไม่ได้นึกไปยาวไกล ว่าเขาจะต้องมารักเธอนานถึงขนาดนั้น เพราะนี่เพียงแค่สองปี ก็รู้สึกและรับรู้ได้แล้วว่าอะไรเป็นอะไร เธอค่อยๆปิดหน้าหนังสือที่เปื้อนรอยน้ำตาดวงใหญ่ลง ราวกับว่ากำลังจะปิดฉากหัวใจรักของเธอที่มีต่อเขาลงเช่นกัน


พลางสูดลมหายใจยาวลึก ยกมือขึ้นปาดคราบน้ำตาให้เหือดแห้งไป ก่อนจะหันมาเก็บข้าวของที่เหลืออยู่อีกไม่กี่ชิ้นลงกล่อง จนกระทั่งมาถึงของชิ้นสุดท้ายที่ทำเอาคนกำลังสะเทือนใจถึงกับปล่อยโฮสะอึกสะอื้นออกมา เพราะไม่อาจสกัดกั้นน้ำตาแห่งความเสียใจเอาไว้ได้อีกต่อไป


“ผ้าถุง” สีลายพร้อยที่เขาเคยซื้อให้เธอ ตอนไปดูงานที่ลาว เธอยังจำทุกถ้อยคำที่เขาเล่าให้เธอฟังได้ดีว่า


“พี่ไม่รู้ว่าจะเลือกผืนไหนดี ไม่รู้ว่าเค้าซื้อกันยังไง โชคดีได้เพื่อนอีกคนไปซื้อเป็นเพื่อน พอดีเมียเค้าอยากได้ เราสองคนเดินหาไปเรื่อยๆ อายก็อาย ขำก็ขำ เห็นผืนไหนก็เหมือนกันไปหมด พี่เลยเลือกผืนนี้มาให้น้อง พอมาดูอีกทีมันวับแวมไปหน่อย น้องเอาไว้ใส่ออกงาน หรือไม่ก็เก็บเอาไว้เฉยๆก็ได้นะ”


เสียงคนพูดๆคล้ายๆอายบวกเขิล แต่กลับเรียกคะแนนความตั้งใจและสงสารได้กระบุงโกย ก็โถ....อุตส่าห์นึกถึงคนไกล ไปเดินหาซื้อมาให้จนได้ เพราะรู้ว่าคนที่มีใจให้กันนั้นชอบมาก งานนี้ไม่เข้าตากรรมการก็ไม่รู้ว่าจะเข้าตาใครแล้ว
นี่ยังไม่รวมถึงอาการออดอ้อน และคารมหวานหู ที่หาใครเปรียบไม่ได้อีกด้วย มีหรือคนที่อ่อนต่อโลกในเรื่องของความรักอย่างเธอจะไม่หลงรักเขาอย่างหัวปักหัวปำ


“อย่าเพิ่งวางสายนะ พี่กำลังจะเข้าเขตจำปาศักดิ์ ถ้าไม่มีสัญญาณค่อยว่ากัน พี่ไม่อยากวางหูจากน้องเลย พี่เหงา...อยากให้น้องมาด้วย อยากให้น้องมาอยู่ใกล้ๆพี่ตอนนี้ พี่คิดถึงน้องเกือบตลอดเวลาเลยนะ รู้บ้างมั๊ย”


คงไม่ต้องมาอธิบายอะไรให้มากมายไปกว่านี้แล้ว ว่าทำไมเธอถึงหลงรักเขา ไม่ว่าเขาจะไปอยู่ที่ไหน ในใจของเขาก็ดูเหมือน หรือทำเหมือนว่าจะมีแต่เธอตลอดเวลา แถมตัวเขาเองก็พยายามที่จะแสดงและบอกให้เธอได้รู้อีกด้วย


ในขณะที่เธอเอง แม้จะไม่ได้พูดหรือแสดงออกมาเท่าเขา แต่ก็ไม่ได้รู้สึกต่างไปจากเขาเลย แต่แล้วเพราะอะไร เพราะใคร ทำไมทุกสิ่งทุกอย่างมันจึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้ ใครจะเป็นคนให้คำตอบเหล่านี้กับเธอได้.....ถ้าไม่ใช่เขา


เธอยกมือที่ถือผ้าถุงสีลายพร้อยขึ้นกอดเอาไว้แนบอก ร้องไห้ออกมาเหมือนทำนบน้ำตาพัง สะอึกสะอื้นตัวสั่นสะท้าน ทั้งเจ็บปวด น้อยใจ คิดถึง สงสาร และเสียดาย ทุกความรู้สึกไหลหลากประดังประเดเข้ามาจนบรรยายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้เลย


เธอไม่รู้เลยว่านั่งจมน้ำตาอยู่นานขนาดไหน แต่พอรู้สึกตัวได้ก็รีบคว้าโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดเบอร์หาเขาในทันที


ตู๊ด... ตู๊ด... ตู๊ด... เสียงปลายสายวางเปล่า เธอยังคงรอคอยเสียงตอบรับของเขาด้วยหัวใจที่จดจ่อ เสียงสัญญาณยังคงดังต่อเนื่องยาวนาน นานจนเธอรู้สึกกลัวใจของเขา ก่อนที่มันจะถูกตัดไปในที่สุด เธอเพียรโทรหาเขาซ้ำแล้วซ้ำอีก แต่ก็ไม่มีวี่แววว่าปลายทางจะยกหูขึ้นรับสายเลย


เธอไม่มีโอกาสรู้ได้เลยว่าเป็นเพราะอะไร ทำไมเขาจึงไม่รับสายเธอ เขาอาจจะโกรธที่เธอบอกเลิก หรือเพราะเขาไม่ต้องการจะเจอเธออีก หรือว่าเขาเกลียดเธอแล้ว แต่ไม่ว่าจะเป็นเพราะสาเหตุอะไรก็ตามที เขาจะรู้และสนใจหรือไม่ว่า เขาได้ทำร้ายจิตใจเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า ด้วยวิธีการแบบนี้ และนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาทำกับเธอ


ในที่สุดเธอจึงตัดใจวางหู ก่อนจะร้องไห้ออกมาอีกครั้ง เธอใช้เวลายาวนานมากในคืนนั้นที่จะพยายามลืมความรู้สึกดีๆที่เคยมีให้เขา แต่ถ้ามันทำกันได้ง่ายๆ วันนี้เธอคงไม่รู้สึกเจ็บปวดเสียใจถึงขนาดนี้แน่


ร่วมตีสองเธอจึงได้เผลอนอนหลับไปข้างๆกองข้าวของๆเขานั่นเอง คืนนั้นเธอยังฝันอีกว่าเขาได้มาหาเธอ เขาทำหน้าเศร้าตอนเดินเข้ามากอดเธอ แล้วยังพูดเบาๆข้างหูเธออีกด้วยว่า


“พี่จะรักน้องตลอดไป”


เช้าวันต่อมา มีข่าวใหญ่พาดหัวว่า


“พบร่างลูกชายเสี่ยใหญ่เจ้าของธุรกิจร้อยล้าน นอนตายอยู่พื้นคอนโดชื่อดัง คาดว่าตั้งใจกระโดดลงมาจากห้องพักเพื่อฆ่าตัวตาย ส่วนสาเหตุนั้นยังไม่อาจรู้ได้”









Create Date : 05 กุมภาพันธ์ 2554
Last Update : 10 พฤษภาคม 2554 15:25:25 น. 3 comments
Counter : 984 Pageviews.

 
มาเยี่ยมหนูมนครับ


โดย: GTW (GTW ) วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:3:07:19 น.  

 
อากาศเริ่มร้อนแล้ว รับไอติมเย็นๆ หน่อยไหมคะ?



โดย: นุ้ย (นารีจำศีล ) วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:15:56:52 น.  

 
ขอบใจจ๊ะน้องนุ้ย น่าอร่อยมากกก


โดย: Setakan วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:10:12:20 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Setakan
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]





อยากให้คนที่เข้ามาได้รอยยิ้ม
และความสุขกลับไปค่ะ

..................

นิยายปี 53










นิยายปี 54










งานเขียนในบล็อกนี้สงวนลิขสิทธิ์ ตาม พ.ร.บ. พ.ศ. 2537 ห้ามคัดลอก ทำซ้ำ ส่วนหนึ่งส่วนใด โดยมิได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร




TOP : Users Online hits
Friends' blogs
[Add Setakan's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.