|
โอโคโนะมิยากิสำหรับลูกฤาษีอย่างสาวไหม
มาเขียนบล็อกไว้ก่อน เพราะพรุ่งนี้คิดว่าจะทำ "โอโคโนะมิยากิ" ให้สาวไหมกิน
เครื่องปรุงก็ไม่มีอะไรมากเลย
1.กะหล่ำปลีหั่นฝอย จริงๆ ก็ไม่ต้องฝอยมากหรอก เปลืองน้ำลาย ... อ้าว มะช่ายยย คนละฝอย...แต่เห็นว่าคุณหนูสาวไหมเธอเป็นลูกผู้ดีกลับชาติมาเกิด เคี้ยวอะไรมากไม่ได้จะเสียกิริยา เธอก็จะมักจะอ้าปากกว้างๆ แล้วเอามือยัดข้าวหรือขนมชิ้นใหญ่มากให้เข้าไปในปากให้ได้แล้วก็ขยับกรามสองสามที ก่อนจะคายออกมา เลยคิดว่า เพื่อไม่ให้คุณหนูสาวไหมเสียกิริยามากนัก จึงจำเป็นต้องหั่นกะหล่ำปลีให้ละเอียดที่สุดจะดีกว่า
2.แป้งเอนกประสงค์ เป็นแป้งวิเศษ ใครใช้ไปทำอะไรก็ไปได้หมด สามารถใช้งานได้หลากหลาย ยกเว้นเอาไปทาหน้า จริงๆ เขาคงใช้แป้งสาลีอ่ะนะ แต่หาซื้อไม่ได้น่ะ เลยซื้อแป้งเอนกประสงค์ดีกว่า ใครที่ไฮโซโก้เก๋จะซื้อแป้งโอโคโนะมิยากิสำเร็จรูปเลยก็ได้นะ แต่สำหรับคนโลโซอย่างเราๆ (ถ้าไม่โลก็คงไม่มาอ่านบล็อกชั้นอ่ะ ใช่ป่ะ) ต้องรู้จักดัดแปลง เพราะมันก็อร่อยเหมือนกัน ใช้แป้งนำเข้าจากญี่ปุ่นก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกว่าเหมือนกินโอโคโนะมิยากิที่โอซาก้าซะหน่อย เนาะ
3. ไหนๆ ก็โลโซและยากจน ไม่มีปัญญาซื้อแป้งโอโคโนะมิสำเร็จรูปนำเข้าแล้วอ่ะนะ ถ้าใครซื้อแป้งเอนกประสงค์กลับบ้านมาถุงเดียว ก็จงเดินกลับไปซื้อแป้งมันสำปะหลังหรือแป้งข้าวโพดมาอีกซักถุงเถิดแม่คุณ
4. ไข่ไก่ แต่ถ้าอยากจะให้ปั๋วๆ ที่แสนจะเจ้าชู้ของคุณๆ อยู่ติดบ้านจะใช้ไข่คน(ไข่ปั๋วๆ)แทน ชั้นก็ไม่รับรู้ด้วยเน้อ
5. เนื้อหมู หรือ กุ้ง ปลาหมึก ก็แล้วแต่ความชอบและตังค์ในกระเป๋า หรือใครจะใช้ล็อปสเตอร์ก็ไม่ว่ากัน
6. เกลือ นิ๊ดดดโหน่ยยย
7. งาดำ สำหรับคุณแม่ผู้วิตกว่าคุณลูกจะตัวเตี้ย ต้องโด๊ปแคลเซียมเยอะหน่อย แต่ถ้าลูกใครสูงปรี๊ด ไม่ต้องกลัวเตี้ยก็ไม่ต้องใส่ก็ได้
8. ซอสโอโคโนะมิยากิ มีขายตามมุมอาหารนำเข้า หรืออาหารญี่ปุ่น ใช้ซอสทงคัตสึก็ได้นะ แต่ถ้าไม่มีจริงๆ หาไม่ได้ ก็เอาซอสมะเขือเทศมาผสมกับซอสพริกก็คงได้มั้ง เห็นน้องๆ ญี่ปุ่นมันทำตอนเปิดร้านขายไอ้เนี่ยที่งานลูกทุ่งวิจิตรอ่ะ คิดว่าใครชอบอะไรก็หยิบๆ มาเหอะ แต่ที่ไม่แนะนำเลยคือ น้ำปลาพริกฟ่ะ คงไม่เข้ากันอย่างแรง
9. ใครมีตังค์เหลือ จะซื้อปลาเต้นระบำมาด้วยก็ได้นะ จะได้ครบเครื่อง เป็นเนื้อปลาขูดฝอยบางมั่กๆ ยังกะกระดาษ เป็นชิ้นเล็กๆ เวลาโรยหน้าบนแผ่นแป้งร้อนๆ ปลาแห้งพวกนี้ก็จะขยับไปมาเหมือนปลาเต้นระบำ
10.มายองเนสจ้า
ได้เครื่องปรุงมาครบแล้ว เริ่มต้นก็
1.เรียกปั๋วมาดูแลลูกซะ ไม่งั้นการทำโอโคโนะมิยากิครั้งนี้จะเป็นนรกย่อมๆ ในครัว
2. ตักแป้งเอนกประสงค์และแป้งมันในอัตราส่วน 80 : 20
3. เดินเข้าไปในบ้าน ไปหาแป้งบริกลี่ฮีทตรางูมาทาตัว เพราะอากาศเริ่มร้อน ในห้องครัวปั๋วไม่ยอมติดแอร์
4. เปิดตู้เย็น หยิบไข่มา 1 ฟองสำหรับบ้านคนรวยที่นิยมกินแต่ไข่เบอร์ 0 พิเศษ ส่วนบ้านไหนใช้ไข่เบอร์ 2 ขึ้นไปก็หยิบมา 2 ฟอง แต่บ้านไหนใช้ไข่นกกระทา แกก็ขนมาทั้งรังละกัน
5. ตอกไข่ใส่ในแป้งแล้วคนให้เข้ากัน
6. เติมน้ำมากจนแป้งเริ่มเหลว
7. เติมเกลือนิดโหน่ยยย
8. ชิมหน่อยสิว่ารสชาติโอเคไหม เค็มไปหรือเปล่า
.......เอ่อ แล้วมาบอกหน่อยก็ดีนะว่าแป้งดิบๆ นี่รสชาติเป็นไง คิคิ
9. เอากะหล่ำปลีลงไปคลุกเคล้ากับแป้ง ถ้าแป้งข้นไปก็เติมน้ำ
10.โรยงาดำแล้วคนให้เข้ากัน
11. หั่นหมูเป็นชิ้นบางๆ ใครชอบสามชั้นจะใช้สามชั้นก็ได้ หรือใครอยากได้ไอโอดีนจะใช้กุ้งหรือปลาหมึกก็ได้ แล้วแต่ตังค์ในกระเป๋า แต่สำหรับลูกฤาษีอย่างสาวไหม ไม่โปรดเนื้อ อะฮั้นก็จะใช้หมูสับที่สับละเอียด(คอดๆ) ปนลงไปในแป้ง+กะหล่ำปลี
11. เอากระทะตั้งไฟ อ้อ ควรใช้กระทะแบนแบบที่ใช้คั่วแพนเค้กเน้อ ถึงจะดี กระทะจีนนั่นเอาไว้ให้แม่ปั๋วผัดผักบุ้งไฟแดงกินละกัน เก็บไปๆ ....อ้าว บ้านใครไม่มีกระทะแบนก็ออกไปซื้อสิจ๊ะ เดี๋ยวจะรอนะ ปิดแก๊สก่อนก็ได้อ่ะ
12. เปิดเพลงไหนก็ได้ในชุด Be My Guest ฟังสิ เพราะคอดๆ (ไม่ได้ค่าโฆษณาซักกะบาทเลยนะ)
13. ขึ้นไปแก้ตัวเลขข้างบนด้วย ข้อ 11 ซ้ำกัน
14. อ้าว ซื้อกระทะมาแล้วเหรอ มาๆ มาทำโอโคโนะมิยากิกันต่อ เอากระทะตั้งไฟแล้วใช่ม้า ก็ใส่น้ำมันพืชลงไป ไม่ต้องมากนะ เพราะกระบะแบนๆ แบบนี้ส่วนใหญ่จะเป็นเทฟลอน ไม่ติดกระทะอยู่แล้ว ใส่น้ำมันลงไปนิดหน่อย จนเริ่มร้อนก็เอาหมู กุ้ง ปลาหมึก วางเรียงบนกระทะ
15. เทแป้งที่ผสมกับกะหล่ำปลีลงไป เกลี่ยให้แป้งและกะหล่ำปลีครอบคลุมเนื้อสัตว์อย่างทั่วถึงและเป็นธรรม
16. พอแป้งเริ่มสุกก็ค่อยๆ แซะขอบๆ แป้งจนมันร่อนออกจากกระทะได้หมด แต่อย่าเพิ่งกลับด้านนะ ให้แน่ใจว่ามันสุกดีแล้วค่อยพลิก
17. กลับด้านได้แล้ว ถึงขั้นนี้ก็แล้วแต่ฝีมือคุณๆ ละนะจ๊ะ แต่ทางที่ดีควรจะโยนให้มันพลิกตัว 360 องศาบนอากาศ เพื่อให้อากาศได้แทรกเข้าไปในเนื้อแป้งที่ยังไม่สุก แล้วพอมันกระทบกับกระทะก็จะมีเสียงฉ่าๆ ไพเราะ......เอ่อ...เทคนิกนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาชีพหลักเป็นแม่ครัวร้านอาหารนะจ๊ะ แต่ช้านน่ะ ปกติจะหากระทะอีกใบมารอน่ะ แหะๆ  แบบว่าตอนที่แป้งเริ่มสุก ก็เอากระทะอีกใบตั้งไฟ ใส่น้ำมันนิดๆ ตามเคย แล้วพอกระทะเริ่มร้อน ก็เอาแป้งจากกระทะเดิมมาโปะใส่กระทะใบใหม่ แต่ถ้าบ้านไหนใช้แก๊สหัวเดียวก็แล้วแต่จะจัดระเบียบสังคมในครัวเองนะจ๊ะ
18. จะใช้ตะหลิวกดๆ แป้งเพื่อให้แน่ใจว่าแป้งตรงกลางข้างในมันสุกชัวร์ๆ ก็ไม่ว่ากันจ้ะ
19. พอสุกดี อาจจะมีสีน้ำตาลไหม้นิดหน่อยก็ไม่เป็นไร อร่อยดี ถ้าใครใส่งาดำลงไป งาที่โดนความร้อนจะส่งกลิ่นหอมมาเลย ขอโบวกๆ
20. ใช้ซอสทาบนหน้าโอโคโนะฯ ให้ทั่ว เอาปลาเต้นระบำมาโรย บีบมายองเนสทำเป็นตาข่ายก็ได้นะ เพื่อความสวยงาม แต่ถ้าคุณหนูของใครไม่ชอบ ก็กินเปล่าๆ ไปละกัน
21. ตัดเป็นชิ้นๆ พอคำ สำหรับคุณหนูผู้ไม่อยากจะเสียกิริยา
22. ภาวนาให้คุณหนูสาวไหมมันยอมกินด้วยเถิ้ดดดดดดดดดดดด 
| Create Date : 03 กันยายน 2549 |
|
10 comments |
| Last Update : 3 กันยายน 2549 23:15:44 น. |
| Counter : 1311 Pageviews. |
|
 |
|
แบบว่าตอนที่แป้งเริ่มสุก ก็เอากระทะอีกใบตั้งไฟ ใส่น้ำมันนิดๆ ตามเคย แล้วพอกระทะเริ่มร้อน ก็เอาแป้งจากกระทะเดิมมาโปะใส่กระทะใบใหม่ แต่ถ้าบ้านไหนใช้แก๊สหัวเดียวก็แล้วแต่จะจัดระเบียบสังคมในครัวเองนะจ๊ะ
เคยดูในทีวีรายการอาหารญี่ปุ่นมันไม่ใช่แบบนี้ นี่นา แต่อยากชิมจัง
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
ที่สำคัย ลูกสาวน่ารักมากเลยค่ะ
^^'