ไหมซิลล่าขาวีน

ไม่ได้อัพบล็อกนานมาก เพราะไม่รู้จะเขียนอะไรดี ได้แต่เก็บๆๆๆ พฤติกรรมสาวไหมไว้ในหัว จนจะลืมไปเสียเยอะแล้วเนี่ย ถอดมาเก็บไว้ในบล็อกดีกว่าเนาะ เหมือนศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์ถอดความจำมาเก็บไว้ในเพนซีฟ อิอิ

เอาเรื่องไรก่อนดี ....เอาเรื่องนี้ละกันว่าทำไมถึงตั้งชื่อตอนนี้ว่า ไหมซิลล่าขาวีน ก็เพราะพ่อกับแม่บางทีก็เรียกหนูว่า "ไหมซิลล่า" ซึ่งเพี้ยนมาจาก "เหมียวซิลล่า" เจ้าแมวตัวอ้วนตุ๊ต๊ะในการ์ตูนเรื่อง "ไมเคิล" เจ้าแมวกวนประสาท

จริงๆ จะว่าสาวไหมอ้วนเหมือนเหมียวซิลล่าก็ไม่ใช่หรอก แต่เพราะเหมียวซิลล่าเป็นตัวเมียแล้วหน้าตาเฉยๆ กวนๆ ดี เหมือนสาวไหม อิอิ เลยเรียกไหมซิลล่า เหมาะกว่าจะเรียก "ไหมเคิล" เนาะ

แล้วทีนี้ในการ์ตูนเรื่องไมเคิลน่ะ จะมีตอนหนึ่งที่เจ้าของสองคนผัวเมียจะชอบเกี่ยงกัน ถ้าไมเคิลนอนพาดตักใคร คนนั้นก็จะมีสิทธิ์ไม่ต้องทำงาน ให้อีกคนไปทำแทน ทีนี้สองคนผัวเมียนี่ก็จะรีบทำยังไงก็ได้ให้ได้แตะตัวไมเคิล แม้ซักนิดก็ยังดี เพราะจะได้สิทธิ์อยู่เฉยๆ

ส่วนบ้านเราน่ะ ...เวลาที่พ่อให้แม่ไปปิดไฟหน่อย หรือไปทำโน่นหน่อยนี่หน่อย แต่แม่ขี้เกียจ แม่ก็จะรีบไปนอนสาวไหม หรือทำยังไงก็ได้ให้แตะตัวสาวไหมแล้วบอกว่า

"พ่อไปเองสิ แม่ต้องดูแลไหมซิลล่าอยู่นะ"

พอทำอย่างนี้บ่อยๆ พ่อก็รู้แกว ใช้แม่ไปชงนม ไปปิดไฟ แล้วตัวเองก็รีบไปจับขาสาวไหมมั่ง ไปอุ้มสาวไหมมั่งแล้วบอกว่า "พ่ออุ้มไหมซิลล่าอยู่ ไปไม่ได้ แม่ไปทำหน่อย"


ไหมซิลล่าของแม่นอนอืดอยู่บนตักแม่ ไม่ยอมไปโรงเรียน...แต่แม่ต้องรีบไปทำงานนะว้อยยยยย

ไหมซิลล่าของแม่เนี่ย ดังไม่ใช่เล่าน้า จะบอกให้ วันก่อนไปงานพืชสวนโลกกัน พ่อบอกว่า ลองไปจอดที่ใกล้ๆ ไนท์ซาฟารีหน่อยไหม เพราะเวลาเดินออกจะได้ไม่ต้องเดินไกลมาก แม่ก็บอกว่า งั้นไปจอดไนท์ซาฟารีเลยไม่ดีกว่าเรอะ เสียค่าจอด 50 บาทเหมือนกัน แล้วนั่งรถรางมาส่งถึงหน้างานเลย พ่อก็เลยบอกว่า เอ้า ลองดูก็ได้

เราก็ไปจอดที่ไนท์ซาฟารี ลงจากรถ แม่ก็กางรถเข็นก้านร่ม สาวไหมก็เดินดูดนมรอ แม่ก็เห็นรถอีกคันมาจากกรุงเทพ มาเป็นครอบครัวใหญ่เลย มีเด็กเล็กๆ ด้วย เขาก็มองมาที่เราแล้วยิ้มให้ แม่ก็คิดว่า เขายิ้มให้เพราะเห็นเด็กๆ เหมือนกัน แล้วแม่ก็รีบไปติดต่อถามเรื่องรถรางที่ไปงานพืชสวนโลก แม่เห็นพ่อหยุดคุยกับครอบครัวนั้นด้วย

อีกแป๊บหนึ่งพ่อก็เข็นสาวไหมมาแล้วบอกว่า กลุ่มนั้นเขารู้จักสาวไหมด้วย แม่ก็ หือ? รู้จักได้ไง พ่อก็เล่าว่า ผู้หญิงคนหนึ่งในกลุ่มเข้ามาถามพ่อว่า

"ใช่น้องสาวไหมไหมคะ"

พ่อก็บอกว่าใช่ครับ แล้วคนอื่นๆ ในครอบครัวก็ถามพี่คนนั้นว่า "พี่ตุ้มรู้จักน้องเขาได้ไง" พี่ตุ้มก็บอกว่า "รู้จักจากพันทิพ"

โอ้โห....ดังไม่ใช่เล่นแฮะ ไหมซิลล่า(ที่จำแลงกายมาจากปลาหมึกปิ้งแถวล่างเมื่อปีก่อน
) เสียดายที่แม่ไม่ได้คุยกับพี่คนนั้นเพราะรีบมาถามเรื่องรถรางเสียก่อน ถ้าคุณตุ้มมาบล็อกก็สวัสดีนะคะ และขอบคุณมากค่ะที่มาทักทายสาวหม


สาวไหมผอมไปเยอะเลย เพราะไม่ยอมกินข้าว อย่างนี้เป็นไหมซิลล่าไม่ได้สิเนี่ย

สาวไหมมีหนังสือแข็งๆ หลายเล่ม แต่เล่มที่ชอบรู้สึกจะเป็นหนังสือสองภาษา เป็นเรื่องเกี่ยวกับการสอนเด็กไม่ให้กัดคนอื่น (เหมือนหนังสือฝึกหมายังไงไม่รู้แฮะ )


กำลังแกะถุงจะเอาวิตามินซีมากิน เป็นสิ่งเดียวที่หลอกล่อให้ไหมซิลล่าสงบลงได้

ในหนังสือจะมีเนื้อหาประมาณว่า

"กรุบกรับ กรุบกรับ กรุบกรับ ฟันแข็งแรงและคม
กรุบกรับ กรุบกรับ กรุบกรับ ฟันช่วยให้หนูเคี้ยวได้
แต่ฟันไม่ได้มีไว้กัดนะ
โอ๊ย! กัดเจ็บจังเลย"

หนูก็จะเรียกว่า "จิบจับ จิบจับ" ตอนแรกแม่ไม่รู้ ก็ว่าหนูพูดอะไรของหนูหว่า จิบจับๆ แต่พอหนูหยิบ (แบก) หนังสือมาให้แล้วพูดว่า "จิบจับ จิบจับ" แม่ก็เข้าใจว่าหนูหมายถึงหนังสือ กรุบกรับๆ นี่เอง


อากาศที่เชียงใหม่เริ่มหนาวแล้ว ต้องใส่เสื้อผ้าให้มิดชิดหน่อยค่า

หนูจะมานั่งตักแม่แล้วให้แม่ชี้ตัวหนังสือพร้อมกับอ่านไปด้วย พอแม่อ่าน "กรุบกรับ กรุบกรับ กรุบกรับ" หนูก็จะอ่านตาม "จิบจับ จิบจับ จิบจับ"

แม่ : "ฟันแข็งแรงและคม"
สาวไหม : "อม"
แม่ : "กรุบกรับ กรุบกรับ กรุบกรับ"
สาวไหม : "จิบจับ จิบจับ จิบจับ"
แม่ : "ฟันช่วยให้หนูเคี้ยวได้"
สาวไหม : "ง้ามๆๆๆ" (มาจาก ง่ำๆๆๆ)
แม่ : "แต่ฟันไม่ได้มีไว้กัดนะ"
สาวไหม : โอ๊ย! (รีบแย่งอ่านเลยเชียว)
แม่ : "โอ๊ย! กัดเจ็บจังเลย"
สาวไหมก็จะยกมือขึ้นมาแล้วบอกว่า "เจ็บๆ" ให้แม่เป่าพ่วงให้



สาวไหมรักคุณตา หอมแก้มคุณตาจุ๊บๆ

แล้วในหนังสือก็จะมีเนื้อความต่อไปประมาณว่า....

"เวลาที่ฟันใหม่เริ่มงอก หนูอาจจะรู้สึกหงุดหงิด อยากกัดใครซักคนแต่อย่าเลยนะ มาทำอย่างนี้กันดีกว่า
เคี้ยวของเล่นที่เคี้ยวได้ ดื่มน้ำเย็นๆ พักผ่อนซักนิด มากอดกันหน่อย ....อื้ม....รู้สึกดีขึ้นตั้งเยอะ"

พอแม่อ่านมาถึง "มากอดกันหน่อย" สาวไหมก็จะหันมากอดแม่ เอาหน้าซุกกับอกแม่เลยนะ แล้วแม่ก็อ่านต่อว่า "อื้ม รู้สึกดีขึ้นตั้งเย้อ" หนูก็จะหัวเราะคิกๆ


สาวไหมนั่งรถเล่นกับพี่โยโย่ที่เนิส

สาวไหมเริ่มพูดได้เยอะขึ้น ออกเสียงบางคำชัดขึ้น หนังสือเล่มเล็กที่หนูชอบอีกเล่มหนึ่งคือเล่ม "อร่อยจัง" ในเล่มจะมีรูปสัตว์ต่างๆ กินสิ่งที่มันชอบ แล้วก็มีบทกลอน เช่น

หมี กินน้ำผึ้ง ก็จะมีบทกลอนว่า
"น้ำผึ้งหวานหยดเยิ้ม หมีตัวเบิ้ม อร่อยจัง"

กระต่ายกินแครอท ก็จะเขียนว่า
"แครอท หวานกรุบกรอบ กระต่ายชอบ อร่อยจัง"

อะไรประมาณนี้ .... พอแม่อ่านถึง "อร่อยจัง" หนูก็จะ "ยี่" (แปลว่า เฮ้ ตามไปอ่านความเดิมจากตอนที่แล้ว
)

แล้วพ่อนั่นแหละที่สอนหนูทำอะไรเพี้ยนๆ เวลาอ่านถึง อร่อยจัง พ่อก็จะอ้าปากพะงาบๆ กรามค้าง ทำปาก "อางๆๆๆๆๆ" สาวไหมก็ทำตาม คราวนี้ พอแม่อ่านถึง อร่อยจัง หนูก็จะอ้าปากกว้าง ทำปากพะงาบๆ ออกเสียง "งางๆๆๆๆๆ"


พี่โยโย่ อายุ 2 ขวบกว่าเกือบ 3 ขวบ แต่ตัวโตมากกกก เพราะกินข้าวเก่งมากกกกกกกกก ถ้าสาวไหมกินได้ 1/10 ของพี่โย่ สาวไหมคงตัวบิ๊กเบิ้มเป็นพี่หมีกินน้ำผึ้งไปแว้ววว

หนังสืออีกเล่มที่หนูชอบ จะเป็นหนังสือเรื่อง "ฉันตัวกลม" ในเล่มก็จะมีรูปต่างๆ ทั้งรูปสัตว์ ขนม สิ่งของที่มีลักษณะกลม เช่น

หมี ก็จะมีรูปหน้าหมีกลมๆ แล้วมีบทกลอนว่า
"ลูกหมีปุ๊กลุก ซุกซนน่ารัก เด็กๆ รู้จัก หลงรักลูกหมี"

หมู จะเป็นรูปหน้าหมู เขียนว่า
"เจ้าหมูหน้ากลม อมยิ้มแก้มตุ่ย ตัวอ้วนพุงพลุ้ย อุ้ยอ้ายน่ารัก"

แมงมุม
"แมงมุมสีดำ ทำตาวับวาว ชักใยยาวๆ เอามาทำรัง"

หนูก็จะชอบให้แม่อ่านให้ฟังมากๆ เวลาอ่านเสร็จก็จะจับนิ้วแม่ให้ไปชี้ๆ ที่รูปมั่ง ที่ตัวหนังสือมั่ง แล้วเวลาอ่านแม่ก็จะออกเสียงตัวสุดท้ายให้เป็นเสียงสูง เช่น "เอามาทำรั๊ง" หนูก็จะยกนิ้วชี้ขึ้นบนอากาศแล้วร้อง "ยี่" แสดงความพึงพอใจอย่างยิ่งยวด


ที่เนิสสาวไหมมีรถถีบเพียบบบ รถขาไถก็มี มีเด็ก 8 คน รถถีบประมาณ 20 กว่าคัน 555

เอาละ....และแล้วก็หมดเวลาเล่าเรื่องเทวดาตัวน้อย ตอนนี้ไหมซิลล่าก็แปลงกายเป็นนางมารน้อยแล้ว...ตอนนี้สาวไหมมีอายุ 1 ขวบกับอีก 9 เดือน แต่....หนูเข้าสู่วัย terrible two แล้ว ยี่!!

สาวไหมแปลงร่างจากเด็กน่ารักๆ เป็นนางร้ายในละครได้รวดเร็วจริงๆ เวลาอยู่เนิส พี่เลี้ยงบอกว่า หนูดุมาก ถ้าถือของเล่นหรือขนมอยู่แล้วใครเดินมาใกล้นี่ หนูกรี๊ดแล้วขู่ฟ่อๆ เลย "ฮื้อออออ"


เอารูปตอนเป็นนางฟ้าตัวน้อยๆ ของแม่ไปดูก่อนนะค้า

แม่เคยเห็นกับตาหนหนึ่ง เพิ่งส่งหนูเข้าไปที่เนิส หนูวิ่งไปกอดน้องนัทก่อนเลย แล้วก็มาเล่นอะไรของหนูไป ซักพัก พอน้องนัทคลานมาหา หนูก็ขู่ฟ่อเลย "ฮื้ออออออ" พอน้องนัทไม่หยุดจะมาหาอีกหนูก็กรี๊ด "อ๊ายยยยยยยยยย" เสียงสูงๆอ่ะ แล้วก็เอามือตบพื้นป้าบๆ แล้วทำหน้าดุ "หือ หือ" ประมาณว่า "น้องนัทอย่ามาใกล้นะ เดี๋ยวโดนตียังงี้นะ หือ อย่ามานะ เข้าใจไหม หือ" อะไรแบบเนี้ยะ....เฮ้อ กลุ้มใจจัง จะรับมือยังไงดีเนี่ย




ครูแอนและพี่เลี้ยงบอกว่า ตอนนี้สาวไหมกลายเป็นหัวโจกประจำเนิส ตัวเล็กสุดและเป็นผู้หญิงคนเดียว แต่เสียงดังสุด ดุที่สุด และแสบซ่าที่สุด เฮ้อออ

บางวันแม่ไปรับหนู เจอหนูกับพี่ๆ กำลังแด๊นซ์กระจายกันอยู่ เพลง "โอ้ละหนอมายเลิฟ" ของป้าเบิร์ดนั่นแหละ (ยายมวญไม่ยอมเปลี่ยนเพลงเล้ย) พี่ๆ คนอื่นก็เต้นกันแต่พองามนะ แต่สาวไหมนี่ บ้าไปเลย เต้นไปกระโดดไป วิ่งไป กรี๊ดไป เฮ้อออ....โตขึ้นนี่ แม่จะไม่พาหนูผ่านหน้าผับ หน้าเธคเลย กลัวฟ่ะ



เออ....เล่าเรื่องความน่ารักแทรกหน่อยก็ได้อ่ะ...หมู่นี้หนูพูดได้อีกคำหนึ่งคือ "ตู๊ดๆ" เลียนเสียงเวลาเปิด/ปิดรถน่ะ ขำมาก เวลาไปส่งหนูที่เนิส แล้วแม่ปิดรีโมท รถดัง "ตู๊ดๆ" หนูก็จะยกนิ้วมาจุ๊ๆ ตรงปากแล้วบอกว่า "ชู่ว์ ตุ๊ดๆ"

เวลาเดินใกล้รถนี่ก็จะพูดเรื่อยเลยว่า "ตู๊ดๆ" แหม เห่อซะไม่มีอ่ะ เจ๊



กลับมาเรื่องโหมดนางมารใส่ปราด้าของแม่ต่อ ... สองสามวันนี่ หนูตื่นกลางคืนแล้วร้องไห้หนักเลย ร้องไปกรี๊ดไป ทำอะไรไม่ได้ดั่งใจหนูซักอย่าง แม่ก็ว่าสงสัยหนูฝันร้าย แต่หนูก็เริ่มกรี๊ดบ่อยขึ้น เมื่อวานตอนเย็น หนูอาละวาดหนักเลยจนแม่งงตัวเองว่าแม่ทนได้ไงฟะ ปกติ เวลาหนูงี่เง่าๆ นี่ แม่ปรี๊ดแล้วอยากจะซัดซักเพี้ยะ แต่เมื่อวานนี่ แม่ใจเย็นคอดๆ ยี่ๆ...ปรบมือให้ตัวเองสองแปะ


สาวไหมเวอร์ชั่นนางฟ้าตัวน้อย ถ่ายกับพี่โย่ ลูกไล่ของสาวไหมที่เนิส

เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า....เมื่อวานตอนเย็น แม่ต้องไปถอยรถและตั้งลำใหม่เพื่อจอด เพราะรถกระบะมันยาว บ้านเรามีพื้นที่น้อยมาก ถ้าจอดไม่ดีก็ปิดประตูรั้วไม่ได้ แล้วเวลาจอดก็ต้องใช้ฝีมือ เพราะต้องจอดให้ป้ายทะเบียนห่างผนังประมาณ 1 นิ้ว แม่ก็ลากประตูเหล็กดัดมาให้ใกล้กัน กะว่าสาวไหมออกมาไม่ได้ แต่ที่ไหนได้ หนูพยายามเหลือเกิ๊นนนน มุดออกมาได้!! แม่ก็เลยต้องอุ้มหนูไปนั่งในรถด้วย หนูก็ ยี่ๆๆๆ คงคิดว่าจะได้ไปเที่ยวล่ะสิ!

เหอะ...เสียใจด้วยย่ะ แม่ไปถอยรถแค่นั้นเอง พอจัดการเอารถเข้าจอดเรียบร้อยแล้ว แม่ก็ไปปิดประตูบ้าน จะอุ้มหนูลงรถ หนูไม่ยอมลง แม่จะอุ้มก็ไม่ลง กรี๊ดลั่นเลย แม่เลย เอาวะ แล้วแต่ เลยปิดประตูรถ ให้หนูอยู่ในรถคนเดียว ก็ร้องไห้อีก พอไปเปิดประตูให้ อ้าแขนจะอุ้ม ก็ไม่ยอมมา แม่เลยอุ้มลงรถ หนูก็ดิ้นๆๆๆๆ พร้อมกับกรี๊ด

เสียงกรี๊ดของหนูนี่ อย่าว่าแต่แปดหลอดเลย ไปร้านเครื่องเสียง มีลำโพงกี่หลอดๆ ก็คงเท่าเสียงกรี๊ดของหนูนั่นแหละ หนูชี้มือจะออกไปข้างนอก แต่มันมืดแล้ว ไปอาบน้ำกินนมดีกว่าน่า แม่บอกยังไงหนูก็ไม่ฟัง กรี๊ดดดดดๆๆๆๆ อยู่นั่นแหละ พอแม่บอกว่า แม่จะเข้าห้องนอนแล้วนะ ไปอาบน้ำแล้วนะ หนูก็วิ่งมาหาแม่แล้วร้องไห้ พอแม่เปิดประตูห้องนอน หนูก็กรี๊ดแล้ววิ่งหนี อะไรวะ จะเอาไงกันแน่เนี่ย

แม่เลยปล่อยให้หนูร้องไห้ไปกรี๊ดไปอยู่ข้างนอก ซักพักเสียงกรี๊ดของหนูก็เคลื่อนมาใกล้ มากรี๊ดอยู่หน้าประตู พอแม่เปิดประตู หนูก็กรี๊ดแล้วเดินหนีอีก เฮ้ออ อะไรของมันวะ

พอต้อนหนูเข้าห้องน้ำได้แล้ว จะถอดเสื้อหนูก็เกิดอาการหวงเสื้อผ้าขึ้นมากระทันหัน ไม่ยอมให้แม่ถอด ดิ้นพล่านเลย จนถึงกับไปนอนกับพื้นห้องน้ำ เอ้า พอแม่หยุด ไม่ถอดเสื้อให้ หนูก็กรี๊ดทึ้งเสื้อตัวเองอีก พอแม่จะถอดให้ก็ดิ้นหนี กรี๊ดใส่หูแม่ แม่พยายามสะกดจิตสะกดใจ สะกดสติอารมณ์แม่แล้วนะ ก็หัวเราะไป ปล้ำถอดเสื้อหนูไปจนได้

พอถอดกางเกงกับผ้าอ้อมก็เอาอีก กรี๊ดจนหูแม่ชา สงสัยข้างบ้านคงคิดว่าแม่ทารุณหนูป่ะเนี่ย เข้าใจเด็กวัยใกล้ 2 ขวบหน่อยนะค้า.....มันงี่เง่ายังงี้แหละค่า...

หนูกรี๊ดยังไงแม่ก็ไม่สนใจ เปิดน้ำ อาบน้ำให้หนูไป อยากกรี๊ดก็กรี๊ดไป หนูกรี๊ดจนจะอ้วกแน่ะ แต่สุดท้ายก็คงเหนื่อย เลยสะอึกสะอื้น แม่ก็อาบน้ำให้หนูจนเสร็จแล้วเอาผ้าเช็ดตัวห่อตัวหนูออกมาข้างนอก พาไปดูที่หน้ากระจก สุดท้ายหนูก็หัวเราะออกมาได้ เฮ้อออออออ



ถ้าหนูเป็นยังงี้ทุกวันนี่ ไม่ไหวนา แม่รับไม่ได้กับพฤติกรรมงี่เง่าของเด็กวัย 2 ขวบยังงี้ ต้องไปปรึกษาหมอไหมเนี่ยว่าจะรับมือกับพฤติกรรมยังงี้ยังไงดี เพราะแม่กลัวว่าถ้ารับมือไม่ถูก มันจะมีผลกับนิสัยของหนูไปจนโตได้อ่ะ เดี๋ยวต้องอ่านหนังสือเกี่ยวกับวัยที่ลูกต่อต้านพ่อแม่เยอะๆ หน่อยละ

แต่เมื่อคืน นางมารสวมปราด้ายังไม่หมดฤทธิ์ ไปค้นลิ้นชักตู้เสื้อผ้ากุกกักๆ ซักพักก็หยิบเอาลิปสติกมายื่นให้ เป็นแบบแท่งเล็กๆ ประมาณแท่งปากกาอ่ะ เอามายื่นให้แม่แล้วบอกว่า "เกะๆ" จะให้แม่แกะให้

แม่ก็เปิดปลอกให้ เห็นว่ามันหมุนยากอยู่เหมือนกัน หนูคงหมุนไม่เป็นหรอก ก็ยื่นให้แล้วแกล้งทาปากให้หนู หนูก็ทำหน้าภาคภูมิใจว่าชั้นสวยแล้วนะ แล้วหยิบลิปไปนั่งเล่น ซักพัก หันหน้ามา เฮ้ยยยย หนูหมุนลิปไม่เป็นก็จริง แต่เอานิ้วควักลิปเป็นเฟ้ย


อุ๊ย แม่เห็นแล้วเหรอเนี่ย

หนูเอานิ้วเล็กๆ ควักลิปของแม่แล้วเอามาแต้มๆๆๆ ที่หน้าใหญ่เลย แม่ก็ปล่อยหนูเล่นไป เอาวะ ดูซิว่ามันจะเล่นนานเท่าไหร่


แฮ่ จ๋าวไหมงามก่อเจ้า


แฮ่ม...หนาวนี้ว่าจะให้แม่ส่งประกวดนางสาวเจียงหม่ายเจ้า


อ่ะ อยากได้เทคนิคแต่งหน้าแบบสาวไหมเหรอคะ เดี๋ยวสอนให้ค่ะ


สวยป่ะเคอะ

ขั้นตอนการแต่งหน้าของสาวไหม เริ่มจากควักลิปมาทาที่แก้มก่อน นัยว่าแทนครีมรองพื้น พอทาที่แก้มจนทั่ว ก็เริ่มทาที่ตา ป้ายไปที่เปลือกตา แล้วก็จิ้มที่กลางหน้าผาก สาวไหมคงอยากจะเป็นสาวแขก ต้องแต้มอุณาโลมเสียหน่อย


อืม...ลิปแท่งนี้เนื้อดีใช้ได้


อาจจะคล้ายกับการแต้มสิวไปหน่อยนะคะ แต่ถ้าทาตรงนี้แล้วมีเสน่ห์ค่ะ เชื่อสาวไหม

พอแม่ถ่ายรูปไปถ่ายรูปมา เฮ้ย...ทำไมปากมันแดงยังกะกินหมากงี้ฟะเนี่ย อ้าววว สาวไหมเล่นควักลิปแล้วเอาไปอม โห...กะย้อมฟันด้วยเหรอเนี่ย


โหะๆๆๆๆ ใครจะสวยเกินสาวไหมเป็นไม่มี


แหวะ รสชาติแปลกๆ


จะตายไหมเนี่ย เรา


สาวไหมกำลังทาสีผึ้ง เอ๊ย ทาลิปอยู่ค่า

สรุปว่า เมื่อคืน...สาวไหมต้องแก้ผ้าเพื่อไปอาบน้ำ ล้างลิปสติกออกตอน 4 ทุ่ม ก่อนที่แม่จะจับมาขูดขี้ฟันออกและกินนมตอนหลับไปตอน 4 ทุ่มกว่า

ส่วนแม่ก็ห่วงว่าวันนี้ต้องไปซื้อเคลียร์ราซิลมาแต้มสิวสาวไหมไหมเนี่ย!!

Create Date : 22 พฤศจิกายน 2549		13 comments
Last Update : 22 พฤศจิกายน 2549 12:06:36 น.
Counter : 1690 Pageviews.
Share Tweet