Group Blog
 
 
กรกฏาคม 2552
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
8 กรกฏาคม 2552
 
All Blogs
 
ตอนที่ 2

สแลงจีนวันละคำ (ภาค 2)

ต้องขอกำเสี่ยท่านผู้อ่านทั้งหลาย ที่มีปฏิกิริยาแบบเฉียบพลันต่อแสลงจีนในภาคแรก สงสัยจะชอบแสลงแปลกๆ แบบซี้ปัง ซี้ปังกัน O.K.ในเมื่อตลาดเรียกร้อง เฮียก็ไม่เกรงใจ จะเขียนต่อภาค 2 ให้อ่านกันเลยแล้วกัน นี่ก็ว่ากั๊กๆ เอาไว้หน่อยแล้วนะ เพราะกะจะวนเอามาเขียนให้อ่านกันรอบสองในยามหมดมุข แต่หลังจากปล่อยกระบวนท่าแรกออกไป ก็มีคำถามกลับมาจากท่านผู้อ่าน (ฟรี) บางท่าน ถามไถ่หาความหมายของคำจีนแต้จิ๋วแปลกๆ ก็ขอใส่เกียร์ออกตัวก่อนนะครับ ว่าผมนะเป็นแค่นักเขียนมือสมัครเล่น กำลังหัดเขียนอยู่ ป.เตรียม ถามนะถามได้นะครับ แต่อย่าตั้งความหวังมาก เพราะผมไม่ใช่ปีศาจสุรา เอื๊อก...ที่จะมั่วตอบได้ทุกเรื่อง

O.K.มาต่อกันที่คำแรก ขอเสนอคำว่า คาชึง ฮิ...ฮิ...คำนี้มันสืบเนื่องมากจากภาคแรกที่เสนอคำว่า ซี้ปังโต้ว ไปแล้ว ไอ้ของเหม็นๆ ที่อยู่ในนั้น มันออกมากจากคาชึงไง คำๆ นี้นะ ฟังดูมันสนธิมาจากคำว่า คา ซึ่งแปลว่าขา ชึง แปลว่านั่งยองๆ ก็ต้องแปลว่า ขานั่งยองๆ เป็นไงเห็นภาพไหม เวลาเรานั่งยองๆ เราจะเห็นอะไร ก็เห็นก้นไง ดังนั้นคำนี้จึงแปลว่าก้นหรือชาวบ้านเรียกว่าตูด คราวนี้ มันจะมีแสลงอะไรที่มันมาเกี่ยวข้องกับคำๆ นี้บ้าง ขอเสนอคำแรก คาชึงแปะแป๊ะ แปลตรงๆ ว่าก้นขาวๆ แปลแบบลดเลี้ยวง่ายๆ ว่าหมดตูด กางเกงยังไม่มีจะใส่เลย เหลือแต่ตูด (ว่างๆ ก็ไปถอดกางเกงดูกับกระจกว่าของตัวเองขาวรึดำ มีสิวกี่เม็ด ฮี่...ฮี่...) คำนี้นะส่วนใหญ่จะใช้กับงานเสี่ยงๆ พวกนักเล่นทั้งหลาย ทั้งหุ้น พวกหวย พวกการพนันต่างๆ นี่ก็เข้าข่ายคำนี้ทั้งนั้น นอกจากนี้ ยังมีคำว่า คาชึงผั่ว คำว่าผั่ว คำเดียวนี่แปลว่ารั่วหรือขาด ดังนั้นแปลง่ายๆ ก็ แปลว่าตูดขาด ตูดขาดนี่แปลความหมายง่ายๆ ทางการเงินก็คือ บ่จี๊ หรือไม่มีตังค์นั่นเอง ดังนั้น ถ้าเราพูดถึงกิจการห้างร้านใด ถ้าเถ้าแก่คุยกันว่าไอ้ร้านนี้คาชึงผั่ว ก็แปลว่าสภาพคล่องมีน้อย ไม่ค่อยมีเงินสดนั่นเอง

*** ว่าแล้วก็ขอแถมหน่อยนะ ประสบการณ์แค่หางอึ่งอย่างผม สอนให้รู้ว่าการหมุนเวียนเงินสดและสภาพคล่องสำคัญมาก ไม่ว่าคุณจะเก่งแค่ไหน เซียนเรียกเฮีย คารวะแล้วคารวะอีก ก็ไม่มีประโยชน์ถ้าบริหารเงินไม่เป็น ขายของเก่งเป็นโคตรเซลแต่เก็บตังค์ไม่เป็น ก็ไม่ควรเอาไว้ (ต้องสุดๆ จริงๆ นะว่ามันสอนไม่ขึ้นจริงๆ) เวลาซื้อของก็เหมือนกัน ถ้าใครหมุนเงินเก่งๆ นะ ซื้อเงินสดนี่ได้เปรียบที่สุดเลย ถ้าเล่นเป็นนะ คุณจะมีอำนาจต่อรองสูงมาก ขนาดไม่หล่อนะ มันยังชมเอา ชมเอาเลย ถามตลอดว่ามีลูกหรือยัง มีเมียหรือยัง ทำยังกะจะขายของแถมตัวหรือแถมลูกสาวยังไงยังงั้น นี่ถ้าไม่ติดว่าถอดเขี้ยวเล็บแล้วนะ พ่อจะฟาดให้เรียบ แฮ่...ฟาดสินค้าของเขานะ ซื้อให้เกลี้ยงเลย

อ้อ ก่อนจบคำว่าคาชึง ตอนแรกไม่รู้ว่าจะเขียนดีหรือเปล่า เพราะผู้อ่านเกินครึ่งในที่นี้เป็นสุภาพสตรี แต่มาคิดดูอีกที ที่เขียนนี่ไม่ได้ดูถูกหรือลามก คือ ภาษามันว่าไงก็ว่าไปตามนั้นนะ คนจีนนี่เค้าเรียกตรงนั้นของผู้หญิงว่า คาชึงเต้า สั้นๆ แล้วกัน เอาไว้เป็นความรู้ ถ้าใครมาพูดดังๆ อะไรๆ เต้าๆ เนี่ย นอกจากนมแล้วยังหมายถึงตรงนั้นด้วยนะ

คำต่อไปฮาแน่นอน เพราะขนาดเขียนไปยังอมยิ้มไป ต้องคอยกลั้นหัวเราะอยู่เรื่อย ไม่รู้เคยได้ยินคำอั่งม้อว่า Hot Air หรือเปล่า ไอ้คำๆ นี้นะ ฝรั่งมันเอาไว้ใช้ด่าคนลับหลัง ว่าไอ้นี่ซี้ซั้วพูด ขอบอกว่าคนจีนก็มีเฟ้ย แต้จิ๋วเราเรียกว่าปั๊งเช้าผุ่ย คำว่าปั๊งหรือปั่ง คือปล่อย เช้าหรือเฉ่าคือ เหม็น ผุ่ยก็คือลมร้อนที่ออกมาจากคาชึงไงหล่ะ แถวบ้านผมเรียกว่าตด ผมทำงานกับฝรั่งมาหลายปีดีดัก นานๆ ทีก็จะมีฝรั่งนี่แหละ (บางทีก็กล้วยหอม ข้างนอกเหลือง ข้างในขาว) ปล่อยไก่ออกมาให้ด่ามันลับหลังว่าไอ้นี่ Hot Air ซึ่งโดยนัยยะ มันค่อนข้างลึกซึ้งนะ เพราะเวลามีใครซักคนปล่อยมันออกมา มันจะเหม็นใช่ไหม (ถ้าไม่เชื่อนะ เย็นนี้ไปกินเลย อะไรก็ได้ที่มันเค็มๆ คาวๆ หน่อย เผ็ดๆ ก็ได้ แล้วพรุ่งนี้ลองนั่งดมของตัวเองดู) ไอ้คำๆ นี้ มันเหมือนกับคนพูดเจตนาพูดเพื่อหวังผลทางการเมือง ประมาณนั้น ไอ้หวังผลทางการเมืองนี่ไม่ได้หมายความอย่างตั้งใจถึงการเมืองเรื่องน้ำเน่าที่ทะเลาะกันใหญ่โตแบบบ้านเรานะ มันหมายถึงอะไรก็ได้ ที่มันมีการเมืองแฝงอยู่ ทำนองพูดมั่วๆ ปั้นน้ำเป็นตัว ลดเลี้ยวเคี้ยวคด ให้มันฟังดูเสียๆ เหม็นๆ เข้าไว้
***โอย กว่าจะเอาตัวรอดได้ แทบตาย เพราะนิสัยนายนรภพ เป็นคนทำอะไรจริงจัง ถ้าเอามาเล่าให้ฟังแล้ว ไม่บอกให้หมด เดี๋ยวตดเหม็น ปั๊งเช้าผุ่ย อ้อ มีอีกคำที่พวกหนังจีนช่อง 3 ชอบเอามาพูดกันคือ ผายลม ความหมายครือๆ กัน

เอ้าต่อไป เลี้ยวไปพูดถึงคำง่ายๆ บ้าง คำที่ลูกคนจีนในบ้านเรา น่าจะไม่มีใครรู้เท่าไร คุณรู้ไหมคนจีนที่มาจากซัวเถาจริงๆ เค้าอ่านตัวเลขศูนย์ว่าอะไร เค้าอ่านว่า เล้ง ครับ มันย่อมาจากคำว่า เหล่งหนึง หรือไข่มังกร ผมเคยถามบรรดาพ่อค้าแม่ค้าซัวเถาว่า ทำไมเลขศูนย์ ที่คนจีนในสยามเรียกว่า ขั่ง ถึงเรียกย่อๆ ว่า เล้ง เค้าเลยอธิบายว่าก็มันเหมือนไข่มังกรไงหล่ะ เคสนี้นะ ที่มันตลกก็เพราะผมกับแม่บ้าน เราจะมีคำเรียกกันสั้นๆ ว่าเล้ง มันคล้ายๆ กับ นี่เธอ... คราวนี้พวกเฮียๆ เจ๊ๆ เค้าก็อมยิ้มสิ เพราะเค้าเข้าใจผิดคิดว่า ไอ้พวกนี้ ชื่อเล่นชื่อเลขศูนย์หรือไข่มังกร จริงๆ มันไม่ใช่หรอก ที่พวกเราเรียกจนติดก็เพราะ เมื่อก่อนแม่บ้านผมชอบเรียกตัวเองว่า เดี๊ยน...ทำไปทำมาแผลงเป็น เล้ง... ได้ไงก็ไม่รู้ คงเป็นเพราะพวกเราดีเอ็นเอ บรรพบุรุษแรงมั๊ง เลยแผลงเป็นจีนๆ หมด
***หนังไทยก็เคยเอาคำว่า ขั่ง มาใช้นะ เคยได้ยินสายลับ คั้งคั้งฉิก ไหม แปลตรงๆ เลย สายลับศูนย์ศูนย์เจ็ดไงหล่ะ

คำต่อไป มีอยู่วันนะ ผมเดินเล่น อยู่แถวไช่น่าทาวน์ ก็อุดหนุนสินค้าไปตามเรื่องตามราวแหละ จะบอกให้ว่าในเล่งเน่ยยี่และแถบซำเผ่ง มีพ่อค้าแม่ค้าบางคน ลื้อดูหน้าไม่ได้นะ เพราะอยู่โซนที่ราบสูงหมด แต่เวลาอีพูดแต้จิ๋วออกมา อั้วอยากจะอายมุดหน้าลงแทรกแผ่นดินตรงหน้าเสียให้ได้ เพราะมันทั้งถูกต้องแม่นยำ ได้ทั้งสำเนียงและหางเสียง วันนั้น เรียกเธอว่าน้องดำ (มาจากกาฬสินธุ์) แล้วกัน ก็พูดแต้จิ๋วกับพวกที่มาจากซัวเถานั่นแหละ แล้วอีก็หลุดคำว่า....แซขี่...ออกมา ไอ้หยา...คำนี้ผมไม่ได้ยินมาเป็นสิบๆ ปีแล้ว ก็เดี๋ยวนี้มันไม่มีใครใช้ซะเท่าไรแล้ว ขนาดเตี่ยกับแม่ผมยังไม่ค่อยใช้เลย เผอิญผมความจำดี เลยจำได้ว่าคำนี้มันหมายความว่า โกรธหรือโมโห แซเนี่ยแปลว่าเกิด ขี่แปลตรงๆ ว่าลมหรืออารมณ์โกรธก็ได้ คราวนี้ แซขี่มารวมกัน มันไม่ได้แปลว่าเกิดลมปราณหรอก ก็คนธรรมดามันจะไปมีวรยุทธ์ได้ไง มันก็ต้องแปลว่า เกิดอารมณ์สว้านนะสิ แล้วน้องดำก็สาธยาย (เป็นแต้จิ๋วล้วนๆ นะ) ว่า เจ๊ตั่วมีปัญหากับเจ๊โส่ย ทั้งสองฝ่ายต่างแซขี่แล้วก็ลงไปเซียผะกันยกใหญ่ เดือดร้อนต้องไปปอหลิบล่ง เสียค่าปรับกันคนละโหง่วแปะ โฮ้ย...แซบอีหลีหลายเด้อ

เอ้า ต่อไป ไปต่อคำง่ายๆ ว่า ยัวะ กัน คำนี้ถ้าแปลตรงๆ แปลว่าร้อน ใครๆ ก็รู้ ฮี่ธ่อ แต่เวลาเอามาใช้มันมีลูกเล่นใส่ได้หลายสี เช่น เฮียฉั่งเสียค่าแปะเจี๊ยะไปหลายแสนแล้วถูกเบี้ยว เฮียยัวะมากเร้ย... แปลว่าเฮียโกรธมากที่ถูกเบี้ยว อันนี้สิขำ น้องกิมเน้ย ไปตลาดเห็นตี๋ฟีมหล่อมาก ออกอาการกระดี๊กระด๊า อ่อนระทวย อย่างออกหน้าออกตา พาลให้เจ๊หลีหมั่นไส้ เอาไปนินทาให้เจ๊ตั้งฟังว่า น้องกิมเน้ยอียัวะถูกอาตี๋ฟีม สมัยก่อนนะ การเก็บอาการของสาวๆ สำคัญมาก ไอ้เห็นหนุ่มหล่อแล้วโดดเข้าใส่แบบเดี๋ยวนี้เนี่ย ไม่มีหรอก แล้วบ้านใครมีลูกสาวนะ หอมหึ่งไปทั้งบาง รู้กันทั่วว่าบ้านนี้มีสาวแก่ จนกระทั่งเดี๋ยวนี้นะ ยังมีแนวคิดแบบนี้หลงเหลืออยู่ในสังคม เพราะเฮียเห็นออกบ่อยที่พ่อแม่หัวเก่าๆ บางคน ยังพยายามจับคู่ให้ลูกสาว และฝังใจอยู่กับค่านิยมเก่าๆ แบบเท้าฮิ้งเก็กซิมมากที่อาหมวย ยังไม่มีใครมาเอาไปทำแม่พันธ์ซะที ดังนั้น สมัยก่อนนะ ถ้าหมวยบ้านไหนไป ยัวะถูก ตี๋ข้างบ้าน ถ้ารู้ถึงหูชาวบ้านถูกหาว่า อยากมีผั...จนตัวสั่น หึ่งไปทั้งตลาดเหมือนกัน

ย้อนมาคำว่าแซหน่อย นอกจาก แซขี่ แล้ว ยังมีคำที่ขึ้นต้นเหมือนกัน คือ คำว่า แซโฉ่ว อันนี้มันจะบ้านๆ หน่อย ความหมายคล้ายๆ กับไหน้ำส้ม คล้ายๆ กับคำอีกคำว่า อั่งมัก ซึ่งแปลว่าตาแดง แซแปลว่าเกิดนะเคยบอกไปแล้ว ส่วนโฉ่วนี่แปลว่าน้ำส้มสายชู รวมความกันแซโฉ่ว ก็แปลว่ามันบูดมันเปรี้ยวจนกลายเป็นน้ำส้มแล้ว แต่ในทางความหมายเปรียบเปรยมันแปลว่าอิจฉาริษยา หรือบางทีใช้กับความหึงหวงก็ได้ แบบพวกเห็นคนอื่นดีกว่าไม่ได้ นี่ก็มีเยอะนะ บางทีก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า ไปทำอะไรให้ถึงต้องโดนมันทำตาแดงใส่ สงสัยชาติก่อนเคยติดค้างมันมั้ง (รำพึงรำพันนิดหน่อย) ยกตัวอย่างขำๆ ซักตัวอย่างแสดงไหน้ำส้มหน่อยแล้วกัน เอามาจากหนังดังช่อง 3 มังกรหยกนะ “...นางจิวจื้อเยียะ รำพึงรำพันด้วยความแค้นใจว่า เตียบ่อกี้นะ เตียบ่อกี้ ฝากรักไปทั่ว ไหนบอกว่ารักเราจะแต่งงานกับเราคนเดียว แล้วไฉนเลยจึงมานั่งหวานชื่นร่ำสุรากับนางโจวหมิ่นหล่ะ ว่าแล้วไหน้ำส้มก็แตกดังโพละ นางสะบัดหลังมือใส่ใบหน้าอันสวยสะคราญดังหยกของนางโจวหมิ่นด้วยความแค้นเคือง ...” นี่ยกตัวอย่างเรื่องนี้มันเข้าใจง่ายดี เรื่องนี้ถ้าใครไม่ได้ดูเชยสะบัด จริงๆ แล้วตอนก่อนๆ นางเอกจะชื่อเตี่ยเมี่ยง ทำไมภาคนี้เพี้ยนเป็นโจวหมิ่นไปได้ แล้วไอ้พระเอกนี่นะ เล่นได้เป็นธรรมชาติมาก เข้าถึงบุคลิกพระเอกแบบของกิมย้งเป๊ะเลย เจ้าชู้ชิบ ทั้งๆ ที่แม่เตือนเอาไว้แล้วนะ ว่าให้ระวังถูกผู้หญิงหลอก สำหรับตากิมย้งนี่ ในเรื่องท้ายๆ ของชีวิตนักเขียน พระเอกของกิมย้งจะเริ่มเป็นนักรักแล้ว ชะรอยจะเป็นความไฝ่ฝันของตัวเองที่อยากมีเมียสวยๆ พร้อมๆ กันที่เดียวหลายคน ไปอ่านอุ้ยเซี่ยวป้อสิ อีเล่นเขียนให้พระเอกมีเมียที่เดียว 6 คนเลย

เผอิญ 2 วันนี้มีข่าวความคืบหน้าเรื่องที่ตำรวจเชิญตัวผู้ต้องสงสัยจะเป็นมือระเบิดป่วนกรุงเทพฯ สิบกว่าคนมาสอบสวน ก็ขอแถมคำว่า จ๊าทั้ง แล้วกัน คำนี้แปลว่าระเบิด (จ๊าแปลว่ากระจาย ทั้งแปลว่าหนอน แต่เวลาเอามารวมกันแปลว่าระเบิด) จะจบแล้วไม่ซีเรียสนะ แค่อยากให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ให้ทำงานหาคนบงการกับคนลงมือมาให้ได้ ไอ้คนทำนี่มันไม่ใช่คนแล้ว มันเป็น ขิ่มสิ่ว (อมนุษย์) ถึงทำเรื่องพรรค์นี้ได้ เอาหล่ะ หาที่ลงที่มันเบาๆ ไม่ซีเรียสจนเกินไปจนได้ ก็จบตอนได้แล้ว

แล้วรออ่านภาค 3 แล้วกัน ไม่รู้เมื่อไร ว่างแล้วจะเขียนให้อ่านนะ

เจ้าเหลี่ยว
เฮียนรภพ
24/1/50



Create Date : 08 กรกฎาคม 2552
Last Update : 8 กรกฎาคม 2552 15:58:37 น. 0 comments
Counter : 661 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

norapob
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




เกิด กทม.ใช้ชีวิตเสี้ยวหนึ่งในวัยเด็กอยู่กับอาม่าในตลาดหัวรอ จ.อยุธยา เรียนในกทม.ตลอด มีชีวิตที่ค่อนข่างเรียบง่าย ค่อนข้าง progressed conservative ออกกลางๆ แต่มองโลกเป็นสีเทาและไม่นิยมความรุนแรง ชอบเขียนหนังสือ

ตอนนี้รู้แล้วว่าเกิดมาก็เพื่อเรียนรู้กายใจของตัวเองและยอมรับแล้วว่าชีวิตนี้ไม่มีอะไรแน่นอน
Friends' blogs
[Add norapob's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.