สงสัยกันมั๊ย ทำไมAndroidเสปคเครื่องต้องแรง และทำไมเครื่องสเปคเท่าๆกันไม่ลื่นปิ๊ดป๊าดอย่าง iOS
ผู้ที่ยังสงสัยในOS Android จุดเด่นของOSคืออะไร และทำไมจุดด้อยที่เขาว่า เครื่องสเปคเท่าๆกัน ไม่ลื่นไม่ไหลเท่าเครื่องจากiOS
ได้ยินพูดถึงกันแต่จุดด้อยจนหูชา ก็เลยจะออกมาบอกถึงจุดเด่นในฐานะตัวแทนทีมชาติ เอ้ยไม่ช่าย!! ^^ ในฐานะผู้ใช้Android Deviceคนหนึ่ง
ที่อยากจะให้ทุกคนรู้เหลือเกิน และ จะขอร้องว่า โปรดอย่ามองiOS และAndroid OS ว่าทั้งสองOS เป็นOSที่การทำงานมันเหมือนกัน
วันนี้ก็จะยกตัวอย่างเล็กน้อยและคลิปวีดีโอการใช้งานตัวOS Android บนเจ้าGalaxyS2
อาจจะทำมาสำหรับคนที่ยังไม่เคยเห็นว่าAndroid os ทำอะไรได้มั่งครับ
โดยการใช้งานที่ว่า ก็คือหน้า"โฮมสกรีน"นั้นเอง ที่เถียงกันนักต่อนัก ลื่นไม่ลื่น ก็ไอ้หน้าเนี่ยแหละ
จริงๆต้องบอกว่า iOS ไม่มีหน้า"โฮมสกรีน"นะครับ ถ้ามองในดานรูปแบบของชาวแอนดรอยด์ iOS ก็จะมีแต่หน้าที่ชาวAndroidเรียกว่า "Appdrawer" คือหน้าที่มีไอคอนวางเรียงๆกันเป็นแถวๆซึงAndroidเองก็มี แต่วางไว้ข้างหลังหน้า"โฮมสกรีน"อีกที จริงๆต้องบอกว่า ชาวAndroidไม่ค่อยได้ใช้หน้า "Appdrawer" ที่ว่าหลอกครับ เพราะอะไรหลักๆเรียกใช้บ่อยๆ ก็เอามาวางหน้า"โฮมสกรีน" หมดแล้ว
แต่ความลื่นไหลที่เขาเทียบๆกันส่วนใหญ่เขาก็มักเอาหน้า"Appdrawer"ของiOS มาเทียบกับหน้า"โฮมสกรีน"ของandroid ซึ่งไม่ค่อยเหมือนกันเท่าไหร่ ทั้งหน้าตาและหน้าที่
แต่ไม่เป็นไร ก็ถือว่าเป็นหน้าหลักในการใช้งานทั้งคู่ครับ
ทีนี้มาดูหน้าโฮมสกรีนของAndroid ครับ ยกตัวอย่างจากเครื่อง Galaxy SII ใช้แอพทั่วไปที่ไม่ต้องดัดแปลงเครื่องกันใดๆครับ มาดูว่าAndroidเดิมๆที่ติดเครื่องมา ทำอะไรได้บ้าง
ปกติ หน้ามันตกแต่งก็ประมาณนี้ครับ ลากเอาที่ใช้กันบ่อยๆมาวางกันที่โฮมสกรีนข้างนอก ที่เห็นว่าไม่ใช่เป็นiconเรียงๆกันแบบiOS นี่คือ "Widget" ครับ และนี่คือจุดเด่นแรกของAndroid ความสวยงามที่สร้างสรรค์เองได้โดยไม่ต้องดัดแปลงเครื่องใดๆ
ทีนี้มาดูกัน ไอ้หน้า"โฮมสกรีน"Androidเนี้ย มันทำไมเอาไปเทียบกับ iOS เสปคเท่าๆกัน ไหงมันไม่ลื่นไม่ไหล ไม่ปรู๊ดปร๊าดเหมือนของ iOS ละ ทำไมต้องเครื่องแรงๆเท่านั้นมันถึงใช้ได้ iphone4 CPU 800 ลื่นหัวแตก ทำไมAndroidต้องล่อเข้าไป1.2Ghz แถมยังCPUสองหัว
เหตุผลมันคือ ไอ้หน้าที่เราเห็นๆกันบน"โฮมสกรีน"ของAndroidเนี่ย มันซับซ้อนกว่าหน้า "Appdrawer"มากนักครับ Widget ที่วางหน้าจอแต่ละตัว ไม่ใช่แต่จะสวยงาม เป็นiconตัวโตที่ดีแต่รูปจูบไม่หอม จริงๆแล้วมันคือโปรแกรมที่กำลังทำงานอยู่บนหน้า"โฮมสกรีน"ของเราครับผม ไม่ใช่เป็นแต่ไอคอน
นอกจากwidgetที่เรา(อยาก)นำมาวางเองแล้ว ตัวหน้าโฮมสกรีนของAndroid ก็มีสิ่งที่เป็นลักษณะพิเศษอย่าง Live wallpaer หรือภาพพื้นหลังเคลื่อนไหว แน่นอนมันย่อมต้องการการประมวลผลที่มากขึ้นตามไปด้วย
OS Android รองรับการตกแต่ง การเปลี่ยนแปลง และการตั่งค่า เพื่อความสวยงามและสะดวกสบายได้หลายจุดมากๆครับ อยู่ที่เราเลือกใช้เลยว่า จะใช้งานAndroid ภายใต้ UI ของโปรแกรมอะไร Android ตามใจผู้ใช้ครับ ^^
ตัวอย่างนี่คือการใช้ UI Go launcher Ex บนเจ้าGalaxy SII ก็เป็นlauncher ที่ปรับได้หลากหลายจุดพอสมควรครับ พร้อม widget จากโปรแกรมใช้งานหลักของเครื่อง บนหน้าจอนี่นับคร่าวๆ ล่อไปประมาณ 30กว่าแอพครับ รันทำงานแบบเบื้องหลังอยู่
มองภาพอาจจะไม่ค่อยเข้าใจ ยิ่งผู้ที่ไม่เคยสัมพัส Android อาจไม่ซึ้งว่ามันเป็นอย่างไร อาจจะคิด "มันจะแตกต่างอะไรกับiOS สักเท่าไหร่ฟะ" อ้างหรือเปล่า
ก็เลยทำคลิปนิดหน่อยๆมาให้ดูครับ ว่าอะไรเป็นยังไง Android สมัยนี้อืด แลค ค้างช้า ไม่ทันใจมั๊ย Widget เยอะแยะ แล้วเครื่องจะไหวหรือเปล่า พิจารณาเองครับ อาจจะไม่ได้ลองกับเครื่องใหม่ล้ำยุคของ Android แต่เลือกใช้ S2 เพราะเป็นตลาดระดับกลางๆในปัจจุปัน รุ่นใหญ่กว่าย่อมทำได้ดีกว่านี้ครับ
ให้ดูว่า การเลือกใช้ส่วนผสมที่ลงตัวบนแอนดรอยด์จะให้ประสิทธผลได้มากกว่าเดิมแค่ไหน
พออ้างอิงความเป็นปัจจุปันของสมาร์ทโฟนAndroidได้ว่า ตอบสนองผู้ใช้พอหรือไม่
"ทำไม Android ถึงต้องใช้ทรัพยากรเครื่องสูงกว่าiOS ในการทำให้หน้าโฮมสกรีนให้สามารถตอบสนองทันใจผู้ใช้"
เพราะการทำOSที่มีการรองรับยิ่งหลายด้าน ยิ่งทำได้ยากครับ แต่ถ้าทำได้มันก็จะเป็น OS ที่ความสามารถน่าสนใจเลยทีเดียว
และเมื่อวันนี้ สมาร์ทโฟน Android ใหม่ๆมีศักยภาพพอที่รองรับโจทย์ยากๆเหล่านั้นได้แล้ว มันก็เป็นยุคที่ลงตัวดีนะครับที่จะลองมองดูจุดเด่นของทางAndroid
เมื่อโปรแกรมเล่นเพลงไม่ใช่แต่จะเล่นเพลง แต่มีเนื้อkaraokeมาให้
เมื่อการอ่านเมล์ ข้อความ facebook twitter แค่เพียงเปิดจอก็สามารถอ่านได้
เมื่อเปิดสมาร์ทโฟน และได้พบสมาร์ทโฟนที่เป็นแบบตัวเรา หน้าตาการใช้งานบนจอที่ไม่ต้องไปเหมือนใคร
ผมว่า เป็นสิ่งที่น่าภูมิใจในข้อเด่นเฉพาะของAndroidที่มองข้ามกันนะครับ
อย่ามองกันอยู่แต่ "รูดแล้วลื่น" ^^
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [