..·ஐ.¸¸·´¯`·.¸¸.ஐ แวะมาคุยด้วยกัน...มาเป็นเพื่อนกันนะจ๊ะ ..·ஐ.¸¸·´¯`·.¸¸.ஐ
Group Blog
 
 
กุมภาพันธ์ 2553
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28 
 
21 กุมภาพันธ์ 2553
 
All Blogs
 

ตอนที่ ๓ ความเป็นอยู่และการปกครอง



ตำนานพญานาคสองฝั่งโขง
ตอนที่ ๓ ความเป็นอยู่และการปกครอง


“ พวกกำเนิดแบบโอปปะติกะนั้น เป็นพญานาคชั้นปกครอง ปกครองประชากรนาคด้วยระบอบบุญญาธิปไตย โดยถือหลักผู้มีบุญมาก ปกครองผู้มีบุญน้อย ”


ความเป็นอยู่และการปกครองของนาคราชในอาณาจักรต่างๆ ของภพบาดาลใต้แม่น้ำโขง ครอบคลุมมาถึงใต้แผ่นดินที่เป็นปริมณฑลกว้างใหญ่ ทั้งฝั่งไทยและลาว ยาวตลอดลำน้ำโขง บริเวณสะดือแม่น้ำโขงซึ่งอยู่ตรงกับอำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย ถือว่าเป็นศูนย์กลางการปกครองของภพบาดาล ทั้งใต้น้ำและใต้ดิน

การปกครองของพญานาค
พญานาคมีการปกครองด้วยระบอบบุญญาธิปไตย คือ ผู้มีบุญมากปกครองผู้มีบุญน้อย ลำดับชั้นปกครอง ได้แก่
พวกกำเนิดแบบโอปปาติกะ ปกครองพวกกำเนิดแบบสังเสทชะ
พวกกำเนิดแบบสังเสทชะ ปกครองพวกกำเนิดแบบชลาพุชะ
พวกกำเนิดแบบชลาพุชะ ปกครองพวกกำเนิดแบบอัณฑชะ เป็นไปตามลำดับ

ลักษณะของพญานาคแต่ละกำเนิด
*พวกกำเนิดแบบอัณฑชะ คือ เกิดในฟองไข่ ส่วนใหญ่เป็นงูชั้นล่าง เช่น งูเหลือม งูเห่า งูจงอาง เป็นต้น
*พวกกำเนิดแบบชลาพุชะ ดีขึ้นมาหน่อย คือ เกิดในครรภ์ เป็นงูขนาดใหญ่มาก ขนาดท่อนซุงหลายสิบต้นต่อกันยาวเป็นร้อยเมตร อยู่ใต้น้ำลึก คนมักจะเรียกว่า งูเทพเจ้า
*พวกกำเนิดแบบสังเสทชะ ก็ดีขึ้นมาอีก พวกนี้จะเป็นกึ่งสัตว์เดรัจฉาน และกึ่งทิพย์ เมื่ออยู่ในเมืองบาดาลสามารถแปลงกายเป็นมนุษย์ได้โดยจะทำหน้าที่เป็นบริวารรับใช้อยู่ในวิมานที่ภพบาดาลของพวกโอปปาติกะ
*ส่วนพวกกำเนิดแบบโอปปาติกะ นั้นเป็นพญานาคชั้นปกครอง ปกครองประชากรนาคด้วยระบอบบุญญาธิปไตย โดยถือหลักผู้มีบุญมาก ปกครองผู้มีบุญน้อย

อายุขัยของพญานาค
พญานาคใต้แม่น้ำโขง เป็นพญานาคระดับภุมเทวาประเภทหนึ่ง ซึ่งมีอายุแตกต่างกันตามกำลังบุญ พวกกำเนิดแบบโอปปาติกะ จะมีอายุประมาณ ๕,๐๐๐ – ๑๐,๐๐๐ ปี
พวกกำเนิดแบบสังเสทชะ เกิดจากเหงื่อไคล ในน้ำที่หมักหมม จะมีอายุประมาณ ๑,๐๐๐ – ๕,๐๐๐ ปี
พวกกำเนิดแบบชลาพุชะ เกิดในครรภ์ หรือประเภทงูเทพเจ้า จะมีอายุประมาณ ๑๐๐ – ๕๐๐ ปี
พวกกำเนิดแบบอัณฑชะ เกิดในไข่ เป็นงูสามัญ จะมีอายุ ๑๐ ปี บ้าง ๒๐ ปีบ้าง ๓๐ ปีบ้าง

การแปลงกายเป็นมนุษย์
พวกกำเนิดแบบโอปปาติกะ สามารถแปลงกายได้ทั้งขณะอยู่บนบกและอยู่ในน้ำ
พวกกำเนิดแบบสังเสทชะ ซึ่งเกิดในเมืองบาดาล แปลงกายได้เฉพาะขณะอยู่ในเมืองบาดาล ถ้าหากออกพ้นเมืองบาดาลก็จะกลายร่างเป็นนาคเหมือนเดิม
พวกกำเนิดแบบชลาพุชะ และอัณฑชะ ล้วนแปลงกายไม่ได้ เพราะบุญน้อย ฤทธิ์ก็น้อยตาม จึงอยู่ในสภาวะของงูตลอดไป

อาหารของพญานาค
พวกกำเนิดแบบอัณฑชะ หรืองูทั่วๆไป จะกินพวกกบเขียดปลาเล็กๆ เป็นอาหาร
พวกกำเนิดแบบชลาพุชะ หรืองูเทพเจ้า จะกินปลาใหญ่เป็นอาหาร
พวกกำเนิดแบบสังเสทชะ และโอปปาติกะ จะกินอาหารทิพย์ที่เกิดจากบุญภายในวิมานตนเองใต้ภพบาดาล

วิมานในภพบาดาล
เป็นทองคำ พื้นรอบนอกวิมานจะเป็นทรายเงิน ทรายทอง ทรายแก้ว ตามกำลังบุญของเจ้าของวิมาน ภายในวิมานจะมีคลังเก็บสมบัติ ทั้งที่เป็นหีบแก้วแหวนเงินทอง และรัตนชาติ บางส่วนก็เป็นสมบัติโบราณ ที่ตนเองมีหน้าที่เก็บรักษา เช่น พระพุทธรูปโบราณที่จมลงไปในดิน หรือสิ่งก่อสร้างสำคัญของวัดวาอารามที่ปรักหักพัง หรือเทวรูปต่างๆ

มีเรื่องเล่าในพระไตรปิฎก เกี่ยวกับอดีตชาติของพระรัฐปาล ซึ่งคัดย่อเฉพาะเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับพญานาคว่า มีพระดาบสองค์หนึ่งได้เห็นสมบัติอันอลังการของพญานาค ก็กลับไปเล่าให้โยมอุปัฎฐากฟัง โยมอุปัฎฐากก็เชื่อพระดาบสนั้น จึงปรารถนาสมบัติพญานาค เมื่อทำบุญก็จะอธิษฐานให้ไปเกิดในภพพญานาค เมื่อตายแล้วก็ได้ไปเกิดเป็นพญานาคสมดังใจที่ได้อธิษฐานไว้

หน้าที่ของพญานาค
นาคพวกกำเนิดแบบอัณฑชะ มีความเป็นอยู่เหมือนงูทั่วไป
* พวกกำเนิดแบบชลาพุชะ เป็นงูเทพเจ้ามีหน้าที่เฝ้าสถานที่สำคัญ เช่น วัดวาอารามเก่าๆ หรือเฝ้าสมบัติโบราณ นักขุดสมบัติมักจะเจองูใหญ่ประเภทนี้ไล่ขบกัด ต้องวิ่งเผ่นหนีกันกระเจิดกระเจิง บางทีก็มาเข้าฝันเจ้าของสมบัติว่า อยากจะไปเกิดแล้ว ให้มาขุดเอาสมบัติไปก็มี เช่นสั่งว่า ให้ไปคนเดียว ห้ามชวนคนอื่นไปด้วย เพราะไม่ใช่เจ้าของ ตอนตี ๒ ก็ไปขุดตามที่ฝัน แล้วเจอไหสมบัติพร้อมกับงูตัวโตมหึมา แต่งูก็ไม่ทำร้าย ยินดียกสมบัติให้
* พวกกำเนิดแบบสังเสทชะและโอปปาติกะ มีชีวิตประจำวันเสวยสุขอยู่ในวิมานใต้ภพบาดาล รายล้อมไปด้วยนางนาคมาณวิกา สาวสวยวัยกำดัดคอยฟ้อนรำปรนเปรอไม่ห่างกาย
* พวกกำเนิดแบบโอปปาติกะ เป็นนาคชั้นผู้ปกครอง มีหน้าที่เป็นผู้พิพากษา คอยตัดสินคดีความต่างๆ ในสายการปกครองของตนไปด้วยในตัว ดังเช่น คดีตัวอย่างต่อไปนี้

ครั้งหนึ่งมีนาคบริวารออกไปว่ายน้ำที่ลำน้ำโขง ได้พบหญิงสาวผู้หนึ่งกำลังว่ายน้ำเล่นอยู่ ก็เกิดหลงรัก แต่เธอเป็นมนุษย์อยู่ร่วมกันไม่ได้ จึงเข้ารัดร่างแล้วดึงลงไปใต้น้ำ ทำให้เธอจมน้ำตาย แล้วร่ายมนต์บังคับ ฉุดเอาวิญญาณมาโดยเจ้าของร่างไม่ยินยอมพร้อมใจ เพราะอยู่ๆ ก็จะเอาไปเป็นเจ้าสาว อย่างนี้ยอมรับไม่ได้ แต่กายละเอียดของเธอถูกมนต์บังคับไว้ ไม่สามารถดิ้นหนีไปไหน
ฝ่ายญาติของหญิงสาวที่อยู่เมืองมนุษย์ก็ทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ บุญนั้นมากพอที่จะส่งผลให้วิญญาณของหญิงสาวผู้นั้นให้ได้ไปเกิดในภพภูมิที่ดีกว่านาค แต่นาคหนุ่มไม่ยอม ได้ดึงรั้งวิญญาณของเธอไว้ ทำให้เธอไปไม่ได้
การที่นาคหนุ่มดึงรั้งเธอเอาไว้ ถือว่าเป็นความผิดขั้นร้ายแรงของนาคหนุ่ม เหตุการณ์นี้ร้อนถึงเจ้าหน้าที่เขตที่เป็นกุมภัณฑ์ (ยักษ์ประเภทหนึ่ง) ต้องลงมาร้องเรียนพญานาคผู้ปกครอง
พญานาคผู้ปกครองจึงต้องตัดสินให้นาคหนุ่มปล่อยวิญญาณหญิงผู้นั้นไป และทำโทษด้วยการกักบริเวณ โดยให้นาคหนุ่มไปอารักขาพระพุทธรูปโบราณ หรือเจดีย์โบราณที่จมอยู่ใต้ดินเป็นเวลาร้อยๆ ปี การลงโทษทำนองนี้ก็แล้วแต่ว่าจะไปอยู่นานแค่ไหน พิจารณาตามความหนักเบาของพฤติกรรมในแต่ละรายๆ ไป

อีกคดีหนึ่ง พญานาคหนุ่มบริวารของเมืองหนึ่ง ไปหลงรักนางนาคมาณวิกาซึ่งเป็นบริวารของพญานาคอีกเมืองหนึ่ง เหตุเกิดขณะที่นางนาคออกจากเมืองบาดาลของตนมาว่ายน้ำเล่น นาคหนุ่มบังเอิญออกมาว่ายน้ำเล่นอยู่ตรงนั้นพอดี เมื่อพบนาคสาวเข้าก็เกิดความรักขึ้นมาท่วมท้นหัวใจใคร่จะร่วมอภิรมย์สมสู่กับนางขึ้นมาทันที จึงจู่โจมเข้ารัดร่างนาคสาวที่กำลังเล่นน้ำเพลินอยู่ไม่ทันระวังตัว นางนาคตกใจดิ้นสุดแรง สะบัดตัวเพื่อให้หลุดจากการรัดนั้น ในที่สุดก็หลุดรอดออกมาได้ พุ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว แต่นาคหนุ่มไม่ยอมเลิกรา ไล่กวดตามไปไม่ลดละ พยายามตีคู่ และเบียดตัวเข้าชิดร่างของนาคสาว จนผิวเนื้อสัมผัสกัน เธอเบี่ยงตัวหลบหลีก แต่ไม่พ้นหนุ่มนาคจอมเจ้าชู้ แล้วนาคหนุ่มก็ใช้คำหวานป้อยอจนเธอใจอ่อน ว่าพลางเจ้านาคหนุ่มก็ว่ายคลอเคลียไม่ยอมห่าง ออดอ้อนจนสาวนาคยอมตกลงปลงใจรับรักเจ้านาคหนุ่ม แล้วก็แอบมาพลอดรักกันนอกเมืองบาดาลบ่อยๆ อยู่มาวันหนึ่งมีนางนาคบริวารตนหนึ่งมาเจอเข้าความลับก็แตก รู้ไปถึงสามีของนางนาค จึงมีการไปร้องเรียนกับหัวหน้าของตน แต่หัวหน้าเขตไม่สามารถตัดสินลงโทษได้ เพราะคู่กรณีเป็นพลเมืองของอีกเมืองหนึ่ง ต้องไปร้องเรียนกับผู้ปกครองใหญ่ คือ สุวรรณมธุรนาคราช

สุวรรณมธุรนาคราช จึงสั่งให้นาคทั้งสองซึ่งกระทำผิดศีลข้อ ๓ คือ กาเมฯ ให้เลิกกัน อย่าได้ประพฤติผิดเยี่ยงนี้อีก แต่ทั้งสองไม่อาจทำใจให้เลิกรากันได้ เพราะเกิดรักฝังใจเสียแล้ว สุวรรณมธุรนาคราชจึงต้องสั่งลงโทษทั้งสอง โดยให้แยกกันกักบริเวณ ตนหนึ่งให้ไปเฝ้าพระพุทธรูปโบราณอยู่ใต้ดิน อีกตนหนึ่งเฝ้าสถูปโบราณที่ปรักหักพัง ห้ามฝ่าฝืน หรือหนีมาพบกันเด็ดขาด หากฝ่าฝืนจะมีบทลงโทษอย่างหนัก โดยจะให้หัวหน้าเขตที่เป็นกุมภัณฑ์ควบคุมไปรับโทษที่ยมโลก บังคับให้ปีนต้นงิ้วได้รับทุกข์ทรมานอย่างยิ่ง



อ่านตอนต่อไปคลิกที่ all blog ซ้ายมือค่ะ










 

Create Date : 21 กุมภาพันธ์ 2553
11 comments
Last Update : 21 กุมภาพันธ์ 2553 21:46:10 น.
Counter : 482 Pageviews.

 

 

โดย: นาฬิกาสีชมพู 21 กุมภาพันธ์ 2553 21:39:47 น.  

 

สวัสดีครับ

เป็นเรื่องที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งเลยครับ...ชอบสุดๆ ไง...จะขออนุญาต copy เก็บไว้อ่านนะครับ....

 

โดย: เพลงดาบกระบี่เดียวดาย 21 กุมภาพันธ์ 2553 23:24:47 น.  

 

เข้ามาทักทาย(รอบดึกๆค่ะ)
อ่านแล้วน่าสนใจมากค่ะ

 

โดย: ก้อนหิน (cator ) 22 กุมภาพันธ์ 2553 1:10:26 น.  

 

สวัสดียามเช้าครับคุณติ๊ก

ธงนี่เค้าติดประดับประดาเพื่อเป็นพุทธบูชาน่ะครับ
คล้ายๆตุงทางภาคเหนือครับ

ผมอยู่แถวๆสันกำแพงครับ

แม่เมาะนี่น่าจะอยู่ลำปางนะคัรบ







 

โดย: กะว่าก๋า 22 กุมภาพันธ์ 2553 6:38:44 น.  

 

สวัสดีครับ

หนองคายเคยไปอยู่ 2-3 ครั้งครับ แต่ไม่เคยไปดูบั้งไฟพญานาคเลยสักครั้งครับ ไปหนองคาย หรือทางอิสาน หรือลาว ทีไรขนลุกซู่ๆ ทุกทีเลยครับ

ตอนนั้นเคยไปล่องเรือในลำน้ำโขง ไก๊ด์บอกว่าห้ามใส่เสื้อสีแดง เพราะว่าแสงเสื้อสีแดงจะไปกระทบตาของพญานาคที่อยู่ก้นแม่น้ำได้ อาจจะทำให้เกิดอันตรายแก่ผู้สวมใส่อะไรประมาณเนี้ยครับ อย่างป่าคำชะโนด เค้าก็ว่า ด้านล่างเป็นวังบาดาลนะครับ เวลาไปทางอิสาน ทางลาว ผมก็ชอบที่จะรับฟังเรื่องราวเหล่านี้เสมอๆ ครับ....

ขอให้มีความสุขกับวันแรกของสัปดาห์การทำงานนะครับ

 

โดย: เพลงดาบกระบี่เดียวดาย 22 กุมภาพันธ์ 2553 8:19:24 น.  

 




♥...สวัสดีวันจันทร์จ้ะ...♥


♥...ขอให้มีความสุขกับงานที่ทำนะจ๊ะ...♥

 

โดย: หนุ่มน้อยแห่งลุ่มแม่น้ำบางปะกง 22 กุมภาพันธ์ 2553 8:54:15 น.  

 

สาวชอบเรื่องแนวนี้มากๆเลยค่ะ จำได้ว่าเคยอ่านเรื่องตำนานครุฑกับนาค พี่สบายดีนะค่ะ คิดถึงค่ะ
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

 

โดย: sawkitty 22 กุมภาพันธ์ 2553 13:09:04 น.  

 

ขอบคุณที่แวะมาน่ะค่ะ
อ่านแล้วได้ความรู้อีกเยอะ

 

โดย: TREE AND LOVE 22 กุมภาพันธ์ 2553 14:30:22 น.  

 

สวัสดียามบ่ายจ้าพี่^___^

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

 

โดย: โซดาบ๊วย 22 กุมภาพันธ์ 2553 14:42:30 น.  

 

ขยันอัพบล๊อกเจรง เจรง เืพื่อนเรา.... ว่างๆ ไปช่วยทำที่บล๊อกหน่อยเด่ะ ขี้เกียจชมัด

 

โดย: nutangmo 22 กุมภาพันธ์ 2553 20:12:46 น.  

 

สวัสดียามดึกครับ คุณติ๊ก

ขอเข้ามาอ่าน ตอนที่ 3 ด้วยคนนะครับ
ตอนนี้สนุกจังเลยนะครับ

สมัยตอนที่เด็กๆ เวลาผมป่วยเป็นไข้
ผมก็มักจะฝันถึงงูสีขาว ตัวใหญ่ๆ ทุกครั้งครับ
พอฝันเห็น เช้ามาก็มักจะหายจากการเจ็บป่วย
ทุกคราไป ครับ

หลับฝันดี นะครับ

ราตรีสวัสดิ์ครับ

 

โดย: หมึกสีดำ 22 กุมภาพันธ์ 2553 21:45:18 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


nootikky
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




lozocat♥ ยินดีต้อนรับค่ะ ♥ ขอบคุณที่แวะมาค่ะ ♥ แล้วแวะมาใหม่นะคะ ♥

ขอขอบคุณ
ของแต่งบล็อกสวยๆ
จากความเอื้อเฟื้อของ
พี่ๆ เพื่อนๆ และน้องๆ
ใน bloggang นี้ค่ะ

lozocat
User Online...
Google

clock counter
อีโมดุ๊กดิ๊ก
หมีน้อยแพนด้า
กระต่ายแสนซน
X
X
X
COLORS COD E
Friends' blogs
[Add nootikky's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.