ถ่อมตัวคนรัก อวดนักคนชัง
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2552
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
 
8 กุมภาพันธ์ 2552
 
All Blogs
 
เหตุผลว่าทำไมชาวเอเซีย และมุสลิม เป็นแฟนหงส์

คอลัมน์ รับเชิญ
โดย โมฮัมเหม็ด บาน่า
แปล+เรียบเรียง มารฟ้าพญาหงส์
//www.HONGMARNZ.COM

ผมกำลังนั่งอยู่ในห้องอินเตอร์แนชนั่ลสูทที่แอนฟิลด์ร่วมกับนักข่าวและตัวแทนของเอฟเอพรีเมียร์ลีค และฟุตบอลลีค เมื่อมีชายผู้หนึ่งนามว่าเปโดรหันมาแล้วถามผมว่า “ทำไมชาวเอเซียและชาวมุสลิมมากมายถึงได้เชียร์หงส์ละนั่น?”

ตามความเป็นจริงแล้วผมไม่สามารถพูดแทนคนเอเซียทั้งหมดหรือชาวมุสลิมทั้งหมดว่าทำไมถึงเชียร์หงส์ได้ แต่ผมพูดได้ในเฉพาะส่วนของผม ว่าเพราะอะไร และความเป็นมาอย่างไร ผมเกิดที่ เพรสตั้น และเติบโตที่ ยอร์กไชร์ แล้วทำไมผมถึงกลายมาเป็นแฟนบอลหงส์แดงได้หล่ะ?

จริงๆแล้วมันมีเรื่องเกี่ยวกับประวัติศาสตร์เข้ามาเกี่ยวข้องตรงนี้เหมือนกัน ว่าทำไมผมถึงมาอยู่บนผืนแผ่นดินนี้ แต่ ที่สำคัญคือ ผมยังไม่ได้เป็นแฟนหงส์แดงจนถึงเมื่อผมได้รับผ้าพันคอเดอะค๊อปที่พ่อผมซื้อมาให้เมื่อหลายต่อหลายปีมาแล้ว ผมแปลกใจนะว่าพ่อผมซื้อผ้าพันคอหงส์แดงมาให้ผมทำไม ในขณะที่พ่อผมเองเป็นแฟนบอลของเพรสตั้น น๊อร์ธ เอนด์ ผมได้คำตอบมาว่า พ่อผมชื่นชม ลิเวอร์พูลมานานแล้ว ได้ดูเกมหลายๆครั้งที่แอนฟิลด์ช่วงปี 60/70

หนุ่มน้อยชาวเอเซียที่ดูบอลในช่วงปีนั้นเป็นอะไรที่ไม่ค่อยได้ยินกันเท่าไหร่ แต่ในสมัยที่พ่อผมย้ายถิ่นฐานมาจากอินเดีย เค้าได้พัฒนาความรักในเกมฟุตบอลทั้งๆที่มันตรงกันข้ามกับเกมคริกเก็ตไปคนละเรื่องเลย เขาได้สิทธิ์ครอบครองตั๋วปีของทางเพรสตั้นมายานนาน แต่ความชื่นชอบในการดูเกมการเล่นของ ลิเวอร์พูล ลีดส์ และแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นอะไรที่พ่อผมมีอยู่ตลอด และต้องการจะได้เห็นเกมในสนามจริงซักครั้ง
ถึงอย่างไรก็ตามผมจำได้ว่าเคยได้สนทนากับพ่อผมเกี่ยวกับ ยอดปรามาจารย์ บิลล์ แชงคลีย์ ได้มีการเอ่ยถึงสมัย เควิน คีแกน ที่เล่นอยู่กับ สกันทอร์ป ยูไนเต็ด หลายต่อหลายปี ก่อนที่ เพรสตั้น และลิเวอร์พูลจะตามล่าลายเซ็นของเขาในยุคนั้น แต่กลายเป็นว่า เพรสตั้นไม่สามารถแข่งขันด้านกำลังเงินกับทางแชงคลีย์ได้ และที่เหลือคุณก็คงจะรู้แล้วว่า คีแกนประสบความสำเร็จกับหงส์แดงแค่ไหน

พ่อผมยังจำได้ดีกับการได้ชมการเล่นของ มาร์ค ลอว์เรนสัน ในวัยละอ่อน ที่ยิงประตูให้เพรสตั้น ในนัดที่เจอกับ เชฟฯ เวนฯ และเกมในศึกเอฟเอคัพ ระหว่าง ครูว์ฯและเพรสตั้น ที่แอนฟิลด์ ปี 77 โดยในนัดนั้น เพสตั้นคว้าชัยชนะไป 3-0
เขาได้ดูเกมที่หงส์แดงเสมอท๊อฟฟี่ 0-0 ที่ กูดิสันปาร์ค ในช่วงกลางยุค 70 ..ได้ดูลีลา จอร์จ เบสต์ ที่เล่นให้กับผีแดงในนัดที่พวกเขาต้องแข่งกับ เพรสตั้น ที่ ดี๊พเดล ปี 72 ซึ่งนัดนั้น อลัน กาวลิ่ง และ เดนิส ลอว์ ซัดประตูให้ผีแดงชนะไป 2-0
ในยุคนั้นพ่อของผมมีรายได้เพียงแค่ 20 ปอนด์ และเขาก็ได้ใช้เงินถึง 15 ปอนด์ ครั้งนึง ในการซื้อรองเท้าสตั๊ดที่มีลายเซ็น จอร์จ เบสต์ ..พ่อเปรียบได้กับสถาบันนึงของฟุตบอล เขาชื่นชอบในการไปดูบอลที่สนาม เขามีความสุขที่ได้ดู ดัลกลิช แฟร์คลัฟ เอียน กัลลาแกน ไบรอัน ฮอล อลันเคเนดี้ และผู้เล่นทรงคุณค่าทั้งหลาย อย่าง ปีเตอร์ ออสกู๊ด อลันบอลล์ มัลค่อม แม็คโดนัลด์ บ๊อบบี้ ชาร์ลตั้น และ มาร์ติน ปีเตอร์ส์
มันเป็นความน่าแปลกที่ว่า เขาไม่เคยมีประสบการณ์ถูกเหยียดผิวเลย เขายังเคยเดินทางไปดี๊พเดลด้วยตัวคนเดียว เมื่อเพื่อนๆไม่ว่าง แต่ ณ ตอนนี้เขาคงเป็นแฟนบอลในแบบอาร์มแชร์แล้วหล่ะ แก่แล้วนี่



กลับมาที่ผมบ้าง ..ผมยังจำได้เมื่อผมอายุได้ 7 ขวบ คงประมาณช่วงพฤษภาคมปี 86 ในวันที่เราย้ายบ้านไปอยู่ที่บ้านหลังใหม่ และวันนั้นเป็นวันที่มีการแข่งขันชิงชนะเลิศบอลถ้วย ระหว่าง ลิเวอร์พูลและเอฟเวอร์ตั้น
ผมยังจำได้ดี ที่ผมนั่งดูทีวี นัดที่หงส์ต้องช้ำชอกเพราะประตูที่ แกรี่ ลินิเกอร์ ยิง...ผมยังจำได้ดีว่าพ่อผมโม้ไปเยอะว่าหงส์แดงนั้นเก่งโคตรๆ ผมเลยซึมซับเอาความชอบของพ่อผมไว้ ด้วยการติดตามผลงานของ เกร็ก จอหน์สตั้น และเอียนรัช ที่ฤดูกาลนั้นนำทีมหงส์แดงคว้าดับเบิ้ลแชมป์..และต่อมาผมได้นั่งดูเกมหงส์แดงเป็นครั้งแรกในชีวิตที่สนาม ในแมตช์ที่ พวกเขาอัด เจ้าป่า นอร์ติ้งแฮม ฟอเรสต์ เสียสิ้นชื่อ ไป 5-0 ในช่วงปี 80..มันเป็นค่ำคืนที่แสนวิเศษสำหรับคนดูบอล แฟนบอลต่างมีอารมณ์ขันที่น่าทึ่งกันมากๆ

นับตั้งแต่นัดนั้นเป็นต้นมา มันเหมือนสิ่งเสพติด..ผมกลายเป็นแฟบบอลหงส์แดงไปซะงั้น แต่นั้นไม่ใช่เพราะว่าพวกเขาคว้าถ้วยมามากมายหรอกนะ...หลังจากความพ่ายแพ้ในปี 88 ของหงส์แดงต่อจอมโหดวิมเบิลดั้น ที่ จอห์น อัลดริดจ์ ยิงจุดโทษพลาด ถูกเซฟ โดย เดฟ บีเซ้นต์ ..ผมร้องไห้เป็นอาทิตย์เลย..ผมยังจำได้เลยที่กล่าวหา เจ้าฟ้าหญิง ไดอานา ที่ดันเป็นแฟนบอลเครซี่แก็งก์ ในตอนที่พระองค์ยกถ้วยเอฟเอคัพมาให้ เดนิส ไวส์...พ่อกับแม่ผมด่าผมเปิงเลย บอกว่าไม่เกี่ยว มันคนละเรื่อง....หลังจากเกมวันนั้นผมยึดติดกับ อัลดริดจ์ เฮาจ์ตั้น เบียสลีย์ แม็คมาน จิเลสพี แอบเบร็ต น้าบาร์นส์ และที่เหลือในทีมว่า พวกเขาคือยอดคนไร้เทียมทาน ไม่มีใครเก่งกว่านี้แล้ว และสำหรับเด็กที่อายุเพียง 9 ขวบ พวกเขาเป็นยิ่งกว่าแรงบันดาลใจหรือสัญลักษณ์อะไรซักอย่าง..ผมพูดถึงพวกเขาตลอด ไม่ว่าที่บ้าน หรือ ที่โรงเรียน


สิ่งที่ตราตรึงใจที่สุด คือเหตุการณ์ โศกนาฎกรรม ที่ ฮิลลส์โบโร..ผมยังจำได้ดี ที่เกร็ก จอห์นสตั้น ถึงกับบินมาจากออสเตเรีย และก้มลงไว้อาลัยให้กับแฟนบอล ต่อหน้าเดอะค๊อปทั้งมวล ซึ่งมันกลายเป็นอะไรที่บ่งบอกถึงความสัมพันธ์ของนักเตะ สโมสร และความรักสามัคคี ที่ไม่อาจแยกออกจากกันได้ ปีนั้นเราสามารถคว่ำเอฟเวอร์ตั้นในรอบชิงเอฟเอคัพได้ในที่สุด

ผมไม่อยากจะพูดถึงความพ่ายแพ้ในเกมสุดท้ายของลีค ปี 89 ต่อปืนโต..ผมยังจำได้ดีเลยว่าญาติผมที่สมควรจะต้องออกไปทำงานต่อในค่ำคืนนั้น พวกเขาไม่มีกะใจทำอะไรแล้ว โดดงานซะงั้นเพราะผิดหวัง

พ่อผมได้ทำก๊อปปี้ม้วนเทปเกี่ยวกับ หงส์แดงในเวทียุโรป เป็นวีดีโอของทางบีบีซี ถึงความยิ่งใหญ่ในอดีตของหงส์แดง ผมรักวีดีโอม้วนนี้มากๆ ผมพกมันไปกับผมตลอดเวลา แม้แต่ตอนอยู่ สุเหล่า..

หากพูดถึงความยิ่งใหญ่ในเกมยุโรป ผมคงจะต้องพูดไปถึงนัดที่อิสตันบูลเลยหล่ะ โดยเฉพาะตอนช่วงพักครึ่งเวลา..ผมผิดหวังและโกรธเกรี้ยวมากๆ น้องชายผมกะจะกวนตีนผม แต่ คิดว่าเงียบคงจะดีกว่า ปล่อยให้ผมเครียดไป ผมยังจำได้ดี ว่าตอนนั้นผมคิดว่า เรามาไกลกันถึงขนาดนี้แล้ว เราจะทิ้งไปมันไปอย่างนี้เหรอ? ไม่ได้เด็ดขาด ถ้าแชงคลีย์ยังอยู่ เขาจะพูดว่าอย่างไร แล้วความยิ่งใหญ่ในเกมยุโรปที่ผ่านๆมาหล่ะ กับ แซงต์ เอเตียน? กับโรม่า? ณ ช่วงเวลานั้นผมรำลึกถึงคำบอกเล่าของพ่อผมได้ว่า “ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ในเกมฟุตบอล”

ผมเตือนตัวเองแล้วพอดีกับถึงช่วงเวลาปฎิบัติธรรม ละหมาดของผม ผมอธิฐานให้หงส์แดง เมื่อผมเสร็จกิจแล้ว ผมกลับไปนั่งที่หน้าจอทีวีอีกครั้งร่วมกับทุกๆคนอีกครั้ง ผมยังจำได้ว่าผู้คนรอบกายผมต่างพูดขอพร ขอให้เกิดปาฎิหารย์ เรามีความเชื่อมั่นว่าหงส์แดงจะกลับมาได้อีกครั้ง แต่ความผิดหวังของปี 88 และหยาดน้ำตาของผม ทำให้ผมเงียบไปพอควร ผมต้องการกำลังใจจากใครซักคน ที่ไหนก็ได้...เดชะบุญจริงๆ ที่ผู้เล่นคนที่ 12 ของเราทำผลงานได้เยี่ยมมาก นั่นคือแฟนบอลในอิสตันบูล

ทันทีทันใด เสียงร้องเพลง ยู วิลล์ เนเวอร์ วอร์ค อโลน ก็กระหึ่มสนาม ผมรู้ว่าประเพณี และประวัติศาสตร์ในอดีต กำลังจะก่อกำเนิดพลังและแรงผลักดันไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่งในนัดนี้ แล้วทันใดนั้น เจอร์ราร์ดก็โขกประตูแรกได้...ผมตะโกนสุดเสียง ว่า ทอมมี่ สมิธ..ครับไม่ต้องงง ประตูนี้มันช่างเหมือนภาพรีเพลย์ประตูที่กัปตันทีมหงส์ในอดีตทำได้ในปี 77..ความคล้ายคลึงของบรรยากาศ ลักษณะการทำประตู มันเป็นการโขกที่ยอดเยี่ยมแบบเดียวกับที่เกิดที่โรม ทันทีทันใด ต่อม อดรีนาลีนของผมทำงานอย่างหนัก ความคึกทุกๆอย่างก่อกำเนิดขึ้น ผมรับรู้จากช่วงเวลานั้นว่า เรากำลังจะกลับมา ...เมื่อประตูที่สองและสามตามมา มันจุกขึ้นมาในคอ มันเป็นอะไรที่อธิบายความรู้สึกไม่ได้ และเมื่อดูเด็กเลียนแบบกร๊อบเบลาร์ ผมไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือว่ากัดเล็บตัวเองดี น้องผมตะโกนด่าดูเด็กว่า “เมิงทำอะไรฟร่ะ บ้าไปแล้วเหรอไง?” แต่ผมแย้งทันที ว่าดูเด็กรู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ และเหตุการณ์ต่อมาเราทุกคนก็รู้แล้วว่ามันเกิดอะไรขึ้น และเมื่อผมได้ยิน ราฟากล่าวประโยคอมตะว่า “คุณคือสโมสรหงส์แดง ออกมากันได้แล้วเพื่อนพ้องทั้งหลาย” ผมรู้ทันทีว่า เพสลีย์และแชงคลีย์ จะต้องภูมิใจในพวกเขา มันเป็เกมอะไรกันนี่ มันเป็นค่ำคืนอะไรกันนี่ ผมพูดไม่ถูกขนลุกไปหมดแล้ว

เมื่อมองไปถึงฤดูกาลนี้ ผมคิดว่า ราฟากำลังทำงานที่น่าสนใจและมีประสิทธิผลมากๆ แต่แฟนบอลต้องมีความอดทนหน่อย ..แชงคลีย์ไม่ได้สร้างให้หงส์แดงดีขึ้นในเวลาแค่ ไม่กี่วัน หรือไม่กี่เดือน เค้าใช้เวลาเป็นปี ก่อนจะหว่านเมล็ดแห่งความสำเร็จให้กับรากฐานของทีมแล้วส่งงานต่อให้เพสลีย์ ซึ่งทำให้หงส์แดงเป็นทีมที่ไม่ว่าใครหน้าไหนก็ต้องขาสั่นเวลาพบเจอ

ผมว่ามันเป็นการไม่ยุติธรรมเลย หากนำ ราฟาไปเปรียบเทียบกับ แชงคลีย์และเพสลีย์..มันไม่ได้ช่วยอะไรเลย ..ราฟาได้ทำการค้นคว้าเกี่ยวกับสโมสรแห่งนี้ เขาได้วิเคราะห์การทำงานของ แชงคลีย์และเพสลีย์ และนำเอานโยบาย ปลุกปั้นเด็กๆ เข้ามาปรับและใช้ให้เข้ากับสถานการณ์ฟุตบอลสมัยใหม่ ..การเฟ้นหานักเตะหนุ่มๆจากทั่วทุกทิศและสร้างสรรค์ เจียรไน ให้พวกเขาเหล่านั้นกลายเป็นนักเตะระดับโลกในภายภาคหน้า นี่คือหนทางแห่งหงส์แดง อย่างที่มันเคยเป็น
มันเป็นเรื่องชัดเจนว่า ฟุตบอลสมัยนี้ สโมสรชอบที่จะซื้อนักเตะต่างชาติมากมาย แต่ผมกลับมีความรู้สึกว่าราฟา กำลังวางฐานและกำลังสำรองไว้ที่ เด็กรุ่นใหม่ อย่าง แจ๊ก ฮอบบส์ และ กอดวิน แอนต์วี่ ..การประสานงานร่วมกับ สตี๊ฟ ไฮเวย์ ในระดับอะคาเดมี่ ซึ่งทำให้ผมมีความเชื่อมั่นว่าอนาคตสดใสอนาคตหงส์แดงรอเราอยู่กับเด็กพวกนี้


พูดถึงในกรณีที่ชาวเอเซียสนับสนุนและเชียร์หงส์แดงกันบ้าง ผมว่ามันค่อนข้างจะชัดเจน ผมยังจำได้ดีเมื่อครั้งที่ผมสัมภาษณ์ โรบิน คุ๊ก ในช่วงเลือกตั้งปีที่แล้ว เขาบอกผมว่า ปราชากรเอเซียในสหราชอนาจักร มีส่วนสำคัญกับเศรษฐกิจของประเทศโดยรวม นำมาซึ่งสินค้าจำพวกอาหารที่ครองเจ้ายุโรป การเพิ่มพูลของจำนวนผู้ประกอบการณ์ ไม่รวมไปถึงสื่อต่างๆและสินค้าอุปโภคบริโภคอื่นๆ

ผมรู้ว่าบางสโมสรที่มีแฟนบอลเป็นชาวเอเซียซะเยอะ พยายามอย่างมากที่จะดึงดูดการลงทุนจากผู้ประกอบการณ์ชาวเอเซีย ซึ่งมันก็ไม่ได้ผลก็เยอะ ผมเชื่อว่าหากหงส์แดงโดดลงมาร่วมวงไพบูลย์กะเค้าด้วย มันคงจะเป็นประวัติการณ์เลยหล่ะ
ผมขอยกตัวอย่าง ทีมแชมป์รักบี้โลก ทีม เดอะ แบรดฟอร์ด บูลลส์..พวกเขามีแฟนบอลชาวเอเซียจำนวนมากมายจริงๆ แต่ไม่ว่าจะมีทฤษฎีทางการตลาดแค่ไหน พวกเขากลับสามารถเพิ่มพูลแฟนบอลชาวเอเซียได้นิดเดียวเท่านั้น ..พูดง่ายๆว่าพวกเขาไม่สามารถเจาะเข้าไปถึงแก่นแท้ของตลาดนี้ได้ นั่นก็เพราะในความเป็นจริง มีชาวเอเซียไม่เท่าไหร่จริงๆที่ชอบดูรักบี้อย่างจริงๆจังๆ เพราะงันการลงทุนของชาวเอเซียในทีมจึงน้อย หรือไม่น่าสนใจ
ถึงอย่างไรก็ตาม หากคุณลองมองมาที่ ลิเวอร์พูล ผมว่า ความรู้สึกเปลี่ยนแล้วหล่ะ จำนวนแฟนบอลหงส์แดงของ บริติช มุสลิม และ ชุมชนชาวเอเซียนั้น มีมากมายเหลือคณานับ ตั้งแต่ เมืองทางเหนือไปจนถึง แบตลีย์ใน ตะวันตกของยอร์คไชร์ มีเยอะมากที่ลอนดอนชนิดที่เรียกได้ว่า แทบจะหายใจรดต้นคอกัน

นอกเหนือจากนั้น นี่ยังไม่รวมไปถึง กลุ่มแฟนบอลรุ่นใหม่ชาวเอเซีย และตะวันออกกลาง ที่มีต่อสโมสรแห่งนี้ ทุกวันนี้ประเทศเหล่านี้ คนในประเทศเขาสวมใส่ชุดหงส์แดงเดินกันให้ควัก เราไม่เห็นอะไรอย่างนี้นานแล้ว โดยเฉพาะในอินเดีย ซึ่งถือได้ว่า อำนาจทางด้านเศรษฐกิจดูมีอนาคตและรวมไปถึงประเทศจับจ่ายน้ำมันอย่าง ตะวันออกกลาง..ผมมองว่า หงส์แดงจะสามารถเจาะตลาดและได้รับการสนับสนุนการลงทุนจากประเทศที่ว่านี้มากมายแน่นอน

ชาวบรีติช มุสลิม เป็นชุมชน ที่พิเศษในเมือ ลิเวอร์พูล น้อยคนนักที่จะรู้ว่า ในปี 1889 มีชาวมุสลิม นาม วิลเลี่ยม อับดุลล่าห์ (อับดุลเลาะห์) กิลเลี่ยม เป็นผู้จัดตั้ง สุเหล่าหรือ มัสยิต แห่งแรกในอังกฤษ ที่เมืองลิเวอร์พูล และเขาผู้นั้นคือแฟนบอลหงส์แดง

อย่ามองข้าม พวกลาติน อเมริกา ผมยังจำได้ดีตอนที่ผมไปเยี่ยม ลุงและป้าของผม ที่ปานามา..ผมได้มอบของที่ระลึกเกี่ยวกับหงส์แดงให้พวกเขา..ตอนนี้ไม่ว่าพวกเขาไปที่ไหน มีแต่คนถามว่าได้มาจากไหนกัน...รวมไปถึงลูกพี่ลูกน้องของผม ที่ของให้ผมซื้อเสื้อหงส์แดงมาฝากตอนที่กลับไปที่นู่น ผมส่งเสื้อกลับมาให้พวกเขากว่าโหลแล้ว จนเล่นเอาหมดตัวเลย เหอๆๆ ประเทศอย่าง เม็กซิโก ชิลี ต่างก็มีแฟนบอลหงส์แดงจำนวนมากเช่นกัน และนั่นทำให้เราสามารถเจาะเข้าตลาดนักเตะได้เช่นกัน ประเทศอย่างปานามา สร้างสรรค์นักเตะเก่งๆรุ่นเยาว์ได้เยอะ และที่สำคัญ พวกเขาเป็นแฟนบอลหงส์แดงด้วยนี่สิเจ๋ง ขอยกตัวอย่าง นักเตะทีมชาติ เยอรมัน เควิน คูรานยี่ นักเตะคนนี้เกิดที่ปานามา โดยได้สองสัญชาติ คือ เยอรมันและปานามา...เขาเป็นตัวแทนจัดทัวร์นาเม้นท์เพื่อสนับสนุนให้เด็กๆเล่นฟุตบอล ไม่นานเท่าไหร่ ทีมปานามา มีโค๊ชชาวอังกฤษ คือ แกรี่ สแตมเปล เขาคือผู้หว่านเมล็ดแห่งความหวังให้กับวงกาลฟุตบอลปานามา
อะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้สโมสร ลิเวอร์พูลมีแฟนบอลชาวเอเซียและลาติน อเมริกา มากขนาดนี้? ผมมองว่า อาจเพราะพวกเขา ถูกเปรียบเทียบให้เป็น มูฮัมหมัด อาลี แห่ง โลกฟุตบอลก็ว่าได้..มูฮัมหมัดเป็นฮีโร่ เป็นตัวอย่างที่มีชีวิตของพวกเรา เขาได้แสดงบทบาทที่เด่นชัดมาช่วงเวลาหลายทศวรรษแล้ว เขาเป็นยอดนักสู้ที่เก่งกาจที่สุดในช่วงปี 60 ผู้มีบุคลิกภาพที่โดดเด่นเป็นเฉพาะ เขาโน้มน้าวผู้คนให้เฝ้าติดตาม อย่างเดียวกับที่ บิลล์ แชงคลีย์และบ๊อบ เพสลีย์ เป็นที่ ลิเวอร์พูล

ความสำเร็จในเกมค่ำคื่นบอลยุโรป ทั้งที่แอนฟิลด์หรือสนามอื่น ทำให้ผู้คนได้คิดว่า “คนเราสามารถยิ่งใหญ่ได้ คนเราสามารถบรรลุเป้าหมาย ที่คนอื่นปรามาสว่าเป็นไปไม่ได้” สิ่งเหล่านี้มอบกำลังใจและพลังในการต่อสู้ และเมื่อคุณรวมเอา บทเพลง ยูลล์ เนเวอร์ วอร์ค อโลน เข้าไปในสมการด้วย มันสร้างพลังงานให้คุณสามารถฟันฝ่าอุปสรรค์ได้ทั้งมวล ด้วยแรงกายแรงใจ

ผมสงสัยเสมอว่า ใครกันนะที่เริ่มต้นร้องเพลงนี้ออกในในเกมเป็นคนแรก และใครกันที่ได้ไอเดียที่จะโบกผ้าพันคอร้องเพลงไปมา ผมไม่คิดว่าคนที่ริเริ่มนี้จะได้คิดว่า ปีต่อๆมาในภายหลัง แฟนบอลทั่วทั้งโลกต่างร้องเพลงนี้กัน ผมเคยได้ยินเพลงนี้ในสำเนียงอังกฤษทุกสำเนียงมาแล้ว จนไปถึงต่างภาษา เช่น เออร์ดู กูจาราติ ฮินดี้ ไปจนถึง สเปน อิตาเลี่ยน และฝรั่งเศส มันเหลือเชื่อมากๆ

บอกตามตรง แมนฯยู ใครเหรอ? ริล มาดริด ใครเหรอ? หรือแม้กระทั่ง อบราโมวิช เงินถุงเงินถังของเชลซี แล้วยังไง? เรามีราฟา เจอร์ราร์ด อลอนโซ่ รวมไปถึง ริก แพร์รี่ ที่จะไม่มีวันทำให้ชื่อของสโมสรนี้จางหายไป พวกเขายังคงขายได้เสมอ

ผมมั่นใจอย่างมากว่าความสำเร็จรอหงส์แดงอยู่ในภายภาคหน้า ทั้งในและนอกสนาม และ สเก๊าเซอร์(ทางใจ) อย่างผมต้องการเป็นส่วนหนึ่งในความสำเร็จนั้น

จากใจ โมฮัมเหม็ด บาน่า...บรรณาธิการข่าวกิฬา ของ นิตยสาร อีเมล แม็คกาซีน
//www.emelmagazine.com



Create Date : 08 กุมภาพันธ์ 2552
Last Update : 8 กุมภาพันธ์ 2552 10:54:39 น. 4 comments
Counter : 821 Pageviews.

 
เพื่อนผม เชียร์แมนยู ก็เยอะนะครับ สัดส่วนพอๆกัน่ละครับ แล้วแต่ความชอบมากว่า ไม่เกีี่ยวกับมุสลิมมั้ง

(ผมเรียนโรงเรียนศาสนาอิสลามควบคู่สามัญ)


โดย: Don IP: 203.155.234.143 วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:20:11:54 น.  

 
ป.ล. ผมก็เชียร์หงษ์นะ


โดย: Don IP: 203.155.234.143 วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:20:12:49 น.  

 
ครับผมก็ว่าพอๆกันนะครับ ตามที่ทราบมา


โดย: เหยี่ยวดำ วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:2:37:49 น.  

 
หยีๆๆๆๆๆ


โดย: ยะยุ้ย IP: 124.122.133.122 วันที่: 10 สิงหาคม 2553 เวลา:17:29:16 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เหยี่ยวดำ
Location :
สงขลา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




รักหงส์แดง แช่งเด็กผี(เปรต)
หยุด ร่างพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
Friends' blogs
[Add เหยี่ยวดำ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.