เก็บ "ขำขำ" มาฝากเรื่องที่ 3*
ตอนเรียนที่กรุงเทพฯ.. ต้องหอบหนังสือ ถือถุง สะพายกระเป๋าพะรุงพะรังขึ้นรถเมล์ สมัยนั้นค่าโดยสารรถเมล์คนละ 50 สตางค์เท่านั้น......ใครเกิดทันบ้าง ?.. ทุกวันนี้...นานๆจะได้เข้ากรุงเทพฯและมีโอกาสได้นั่งรถเมล์.. ภาพวันนั้นและวันนี้ยังอยู่ในความทรงจำ.... พอได้อ่านหนังสือ หัสดีคำกลอน ของ สามารถ ศักดิ์เจริญ เรื่องกระเป๋าเล็กกระเป๋าใหญ่...อ่านแล้วพยายามนึกว่า...เราเคยทำพฤติกรรมที่น่าขำเช่นนี้บ้างหรือเปล่านะ...
ท่านล่ะ..นึกดูซิ...เคยทำแบบนี้บ้างไหม....
เกิดคดีความฟ้องร้องต่อศาล ชายเหี้ยมหาญฮึกสยบตบผู้หญิง สอบปากคำจำเลยเผยความจริง เหตุผลติงสำนวนต่อน่าพอใจ
พิจารณาสรุปความ ..คำถามสุดท้าย จำเลยชายต้องตอบคำถามใหม่ "คุณเป็นชายแล้วไปตบหล่อนทำไม เหตุผลใดให้การมาอย่าโมเม"
ชายเหลือบดูคู่กรณีเห็นทีหยิ่ง แล้วให้การตามจริงไม่หันเห "ผมเจอหล่อนที่ป้ายจอดรถเมล์ ยืนหน้าเบ้บุญไม่รับอัประมาณ
ขึ้นรถเมล์คันเดียวกันมันงี่เง่า พอกระเป๋าเข้ามาเก็บค่าโดยสาร เธอสำแดงเดชบอกออกอาการ สุดทนทานนั่งข้างเธอ..ผมเผลอไป
เธอเปิดกระเป๋าใหญ่แล้วหยิบกระเป๋าเล็ก เปิดกระเป๋าเล็กแล้วปิดกระเป๋าใหญ่ หยิบแบงก์จากกระเป๋าเล็กในทันใด แล้วเปิดกระเป๋าใหญ่ในทันที
เธอปิดกระเป๋าเล็กแล้วใส่ลงกระเป๋าใหญ่ ส่งเงินให้เด็กกระเป๋าขมันขมี พลางปิดกระเป๋าใหญ่ไม่รอรี ครั้นรับตั๋วทันทีเธอฉับไว
เธอเปิดกระเป๋าใหญ่แล้วหยิบกระเป๋าเล็ก เปิดกระเป๋าเล็กแล้วปิดกระเป๋าใหญ่ เอาตั๋วใส่กระเป๋าเล็กอย่างเร็วไว แล้วเธอเปิดกระเป๋าใหญ่ไม่รอช้า
ปิดกระเป๋าเล็กแล้วใส่ลงกระเป๋าใหญ่ แล้วก็ปิดกระเป๋าใหญ่อย่างแน่นหนา รับตังค์ทอนจากกระเป๋าแล้วกานดา เปิดกระเป๋าใหญ่แล้วหยิบหากระเป๋าเล็ก
เปิดกระเป๋าเล็กแล้วปิดกระเป๋าใหญ่ ตังค์ทอนใส่กระเป๋าเล็กแล้วปิดเหง็ก หยิบกระเป๋าใหญ่แล้วเปิดใส่กระเป๋าเล็ก ปิดกระเป๋าใหญ่แล้วตรวจเช็คเหมือนเช่นเคย ครั้นนายตรวจขึ้นมาหาช้าไม่ เธอเปิดกระเป๋าใหญ่หยิบกระเป๋าเล็กหน้าตาเฉย ปิดกระเป๋าใหญ่เปิดกระเป๋าเล็กไม่ช้าเลย หยิบตั๋วเผยให้นายตรวจได้ตรวจตรา
แล้วปิดกระเป๋าเล็กก่อนเปิดกระเป๋าใหญ่ ใส่กระเป๋าเล็กลงไปไม่กังขา แล้วเธอปิดกระเป๋าใหญ่ไม่รอรา พอรับตั๋วกลับมามิช้าใย
เปิดกระเป๋าใหญ่แล้วหยิบกระเป๋าเล็ก เปิดกระเป๋าเล็กแล้วปิดกระเป๋าใหญ่ เอาตั๋วใส่กระเป๋าเล็กแล้วปิดไว เปิดกระเป๋าใหญ่ใบเล็กใส่จนเนียนัว
ตุลาการนั่งฟังความตามคดี บอก...."หยุดทีฟังแล้วน่าเวียนหัว กระเป๋าเล็กกระเป๋าใหญ่ดูพันพัว น่าเวียนหัวพัลวันพอกันที
จำเลยชายได้จัวหวะจึงฉะฉาน ข้าแต่ศาลที่เคารพคิดดูถี่ ท่านเพียงฟังยังเวียนหัวถึงเพียงนี้ แล้วผมนี่นั่งข้างหล่อนจะทนไย
ตุลาการพินิจผลถึงต้นเหตุ พิจารณาเห็นสมควรจะตบได้ จึงยกฟ้องปลดปล่อยจำเลยไป กระเป๋าเล็กกระเป๋าใหญ่พอกันที
Create Date : 15 กันยายน 2549 |
|
92 comments |
Last Update : 15 กันยายน 2549 17:40:04 น. |
Counter : 3013 Pageviews. |
|
|
|
ป.ล. เกิดไม่ทันค่ะ ยุคเราค่ารถเมล์ถูกสุดที่จำได้คือสองบาทห้าสิบ อิอิ
แล้วอย่าลืมแวะไปอ่านนิยายต่อนะคะคุณครู เรื่องงานก็สู้ๆ นะค้า อย่าหักโหม