เที่ยวอยุธยาแบบทรหด ไม่มีรถเป็นของตัวเอง

รีวิวครั้งแรกไม่รู้จะเกิดหรือจะดับ กับรีวิวเที่ยวอยุธยา แบบทรหด ไม่มีรถเป็นของตัวเอง

ขอบคุณทุกท่านที่หลงเข้ามา มือใหม่หัดรีวิว รูปไม่สวย บรรยายไม่เก่งต้องขออภัยนะคะ

มีคำแนะนำเพิ่มเติม ก็ยินดีมากๆเลยนะคะ ทริปนี้เราไปเมื่อวันอาทิตย์ที่ 4 ต.ค. 52 คะ


จุดเริ่มต้นของเราในวันนี้ "สถานีรถไฟดอนเมือง"

(นานมากแล้วที่ไม่ได้เดินทางโดยรถไฟ หลังจากเรียนจบจาก มอ.)

เราซื้อตั๋วรถขบวน 111 ราคาคนละ 20 บาท ออกจากสถานีตอน 7.52 น.

ธรรมดาของรถไฟไทยต้องช้าสักหน่อย วันนี้ออกช้าไป 3 นาที ซึ่งถือว่าโอเคคะ

พอขึ้นไปบนรถไฟคนเยอะมากมาย ไม่มีที่นั่งเลย

ก็เลยแอบเนียนไปนั่งที่ที่เจ้าของเค้ายังไม่ขึ้น นั่งไปได้ไม่เท่าไหร่เจ้าของที่เค้าก็มา

เลยถูกเนรเทศไปนั่งตู้สำรองพระภิกษุ ซึ่งทั้งตู้มีพระแค่รูปเดียว

ที่เหลือก็เป็นญาติ โยมเต็มคันรถเลยคะ

แม่ค้าบนรถก็เดินขายของวนไป ก็วนมา ดูวุ่นวายดี 555+






นั่งรถไฟปูนๆ ฉึก...กะ...ฉัก ถึงก็ชั่ง...ไม่ถึงก็ชั่ง...

มาได้ประมาณ 30 นาที เราก็ถึงที่หมาย "สถานีรถไฟบางปะอิน"






เป้าหมายแรกของทริปนี้ "พระราชวังบางปะอิน"

เราเดินออกมาหน้าสถานีก็จะพบกับรถสองแถวสีขาว

ข้างรถเขียนว่า " สถานีรถไฟ พระราชวังฯ บ.ข.ส"

เราก็กระโดดขึ้นไปเลยคะ 2 คน 30 บาท ส่งถึงหน้าพระราชวังบางปะอินเลย






ใช้เวลาประมาณ 10 นาที ถึงแล้วคะ พระราชวังบางปะอิน






ถึงปุ๊บก็เดินตรงไปที่ช่องขายตั๋วเลยคะ ช่องขายตั๋วจะมี 2 ช่องนะคะ

แบ่งเป็นคนไทย กับชาวต่างชาติ ระวังอย่าเข้าช่องผิดนะคะ เดี๋ยวจ่ายแพงไม่รู้ด้วย

ราคาก็ดูจากในรูปได้เลยคะ






ทางเข้าจะวนเข้าไปในอาคารคะพอเดินเข้าไปเราก็ตรงไปซื้อโปสการ์ดเป็นอย่างแรกเลย

กลัวจะไม่ได้เขียนคะ อิอิ ส่วนแสตมป์เรามีพกติดกระเป๋าไว้เสมอคะ

โปสการ์ดราคาใบละ 5 บาท พอออกจากอาคารเราก็จะเจอกับรถให้เช่าคะ

คิดราคายังงัยไม่ได้ถาม เพราะวันนี้เราจะเดินคะ

รูปแรก "พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์"






ต่อคะ...






พระที่นั่งอุทยานภูมิเสถียร






พระที่นั่งเวหาศจำรูญ






ภาพมุมกว้างๆ บ้างคะ






หอวิฑูรทัศนา






เดินชมความงามเป็นที่พอใจแล้ว ก่อนออกอย่าลืมส่งโปสการ์ดด้วยนะคะ

ตู้ไปรษณีย์จะอยู่ตรงทางออกเลยคะ ถามประชาสัมพันธ์แล้วรับรองมีคนมาเก็บแน่นอนคะ

เป้าหมายต่อไป "วัดนิเวศธรรมประวัติ" ทางไปวัดจะอยู่บริเวณลานจอดรถของ

พระราชวังบางปะอินคะ ไม่ต้องกลัวว่าจะหาไม่เจอ กระเช้าสูงโดดเด่นมากคะ

เราต้องนั่งกระเช้าข้ามไปอีกฝั่ง ซึ่งกระเช้านี้มีผู้ควบคุมคือเณรของวัดคะ

จะหวาดเสียวก็ตอนเรือหางยาวแล่นผ่าน เพราะกระเช้าห่างจากน้ำไม่สูงมากคะ

เสียวจะถูกเรือหางยาวเกี่ยวไปจัง ส่วนค่าบริการก็แล้วแต่จะบริจาคคะ

จะมีตู้รับบริจาคอยู่ฝั่งวัด






ช่วงที่เราไปทางวัดกำลังมีการบูรณะใหม่พอดี สิ่งก่อสร้างภายในวัดนี้ จะไม่เหมือนกับวัดอื่น

เพราะจะออกแนวฝรั่ง ทั้งโบสถ์ ทั้งกุฏิ นี้เป็นภายในโบสถ์คะ






ส่วนรูปนี้เป็นด้านนอกโบสถ์






หลังจากไหว้พระเรียบร้อยแล้ว เราก็ต้องเสี่ยงชีวิตนั่งกระเช้ากลับมา

ที่ฝั่งลานจอดรถพระราชวังฯอีกครั้ง เพื่อเดินทางต่อไปยัง"วัดพนัญเชิงวรวิหาร"

ต่อไปนี้จะเป็นการเดินทางที่ทรหดของจริงคะ

พอเราเดินออกมาถนนด้านหน้าลานจอดรถ ให้สังเกตมองไปทางขวามือ

เราจะเห็นป้ายร้าน 7-11 อยู่ไม่ไกลคะ เราต้องเดินไปที่นั้น

เพื่อไปขึ้นรถสองแถว "อยุธยา เกาะเรียน บางปะอิน" สัก 200 เมตรได้

แต่เนื่องจากวันที่เราไปเป็นวันอาทิตย์ รถสองแถวจึงไม่ค่อยมี

เราขี้เกียจรอคะ เลยนั่งสามล้อเครื่องจากหน้า 7-11 ไปขึ้นรถที่ท่ารถเกาะเรียนแทน

ราคาสามล้อ 2 คน 20 บาทคะ ไม่ถึง 10 นาที เราก็ซิ่งมาถึงท่ารถเกาะเรียน

เราจะนั่งรถคันนี้เพื่อไปลงที่วัดพนัญเชิงฯคะ ค่ารถคนละ 18 บาท

รถคันที่เรานั่งนี้ จะผ่านสถานีรถไฟบางปะอิน, ตลาดโก้งโค้ง, หมู่บ้านญี่ปุ่น,

วัดพนัญเชิงฯ, วัดใหญ่ชัยมงคล, ตลาดเจ้าพรหม แล้วก็ไปไหนต่อไม่รู้แล้วอ่ะคะ

เพราะใช้บริการแค่นี้






จากท่ารถเกาะเรียน ก็นั่งรอกว่ารถจะออกก็เกือบครึ่งชม.

กว่าจะมาถึงวัดพนัญเชิงฯ ก็เดินทางอีกประมาณ 30 นาที

เสียเวลาไปกับการเดินทางค่อนข้างเยอะเลย






แถมมาถึงวัด ก็ต้องพบกับคลื่นมหาชนชาวพุทธอย่างมหาศาล

ต้องเบียดเสียดเข้าไปเหมือนปลากระป๋อง

เพื่อท่องคาถาชินบัญชร สักการะหลวงพ่อโต ซึ่งองค์ใหญ่ และงดงามมากๆ






เมื่อทำบุญเรียบร้อยแล้ว ที่หมายสุดท้ายของเราในวันนี้ "ตลาดน้ำคลองสระบัว"

ที่นี้คือเป้าหมายหลักของทริปนี้เลย เพราะเห็นจากรีวิวเพื่อนๆ ของกินเยอะมากๆ

วิธีไป เราก็ต้องเดินออกมาด้านหน้าวัดพนัญเชิงฯ เพื่อนรอขึ้นรถสีฟ้า(สายที่เรานั่งมาลงที่วัดนั้นแหละ)

เพื่อไปต่อรถที่ตลาดเจ้าพรหม แดดก็ร้อน รอรถก็นาน หิวก็หิว T^T

จนคุณแฟนทนไม่ไหวจะไปเหมาตุ๊กตุ๊ก ยังเดินไปได้ไม่ไกลรถสีฟ้าก็มาทันที

เลยใช้บริการไปลงที่ตลาดเจ้าพรหม เสียคนละ 8 บาท ใช้เวลาประมาณ 15 นาที

พอถึงตลาดเจ้าพรหม เราก็ต้องหารถไปตลาดคลองสระบัว

ถามจากพี่วินฯ ด้านหน้าตลาด เค้าว่าต้องไปขึ้นรถที่ท่ารถหลังตลาด นั่งรถอยุธยา-ลพบุรี(สีเขียว)

ทางไปท่ารถหลังตลาดก็สังเกตร้าน CAT WALK จะเป็นทางเดินเข้าไปที่ท่ารถ

ระยะทางประมาณ 200 เมตร






ที่ท่ารถจะมีรถจอดอยู่มากมาย ไปได้ทั้งสุพรรณ ลพบุรี อ่างทอง สระบุรี รถสองแถวไปที่ต่างๆ

ดังนั้นไม่ต้องกลัวว่าจะหาไม่เจอนะคะ

หลังจากที่เราใช้บริการรถแอร์ธรรมชาติมาตลอด เราก็คิดว่ารถอยุธยา-ลพบุรีที่ว่า

ต้องเป็นรถเมล์แอร์แน่เลย 555+

ทีไหนได้ แม่จ้าว...มันก็คือรถที่มีลัษณะคล้ายกับรถร่วมสีเขียวใน กทม. เนี้ยแหละ

เพียงแต่เก่ากว่ามากๆ โชคดีที่ตอนเราไปรถกำลังจะออกพอดี เลยไม่ต้องรอนาน

ไม่ยังงั้นวันนี้จะถึงตลาดคองสระบัวรึป่าวก็ไม่รู้

รถสีเขียวนี้ขับช้ามากๆ ถึงมากที่สุด จนคิดว่าถ้าขี้จักรยานมาก็คงแซงไปแล้วหละ

ทำให้กว่าจะถึงทางเข้าตลาดก็ปาไปเกือบครึ่งชม.

ตอนขึ้นรถเราบอกให้พี่กระเป๋าเค้าช่วยบอกถ้าถึงตลาดแล้ว

เราลงรถที่หน้าทางเข้าวัดศรีโพธิ์






เห็นวัดแล้วก็คิดว่าตลาดมันต้องอยู่หลังวัดแน่เลย ใกล้จะได้กินแล้วเย้ๆ เดินตามป้ายไปเลย

รถเข้ามาในนี้เยอะมากๆ ถนนก็แคบ แค่รถสวนกันก็เต็มถนนแล้ว

คนเดินนี้ต้องลงไปอยู่ข้างทางกันเลยทีเดียว เดินมาไม่เจอตลาดสักที






เจอคุณยายท่านนึงเลยถามว่าตลาดไปทางไหน คุณยายถึงกะอึ้ง...

ถามเรากลับมาว่า หนูเดินมาจากไหนเนี้ย ทำมัยไม่เอารถไปจอดข้างในมันไกลนะเนี้ย

หนูไม่อยากจะบอกคะคุณยาย หนูไม่มีรถคะ ดิ้นร้นมาด้วยความอยากกิน

แต่บัดนี้หนูเหนื่อย...จนหายหิวไปแล้วคะ...สรุปเดินจากหน้าวัดเข้าไปเกือบ 500 เมตร

กว่าจะถึงตลาดน้ำคลองสระบัว เรามาดูผู้มาต้อนรับกันคะ






พอเข้ามาถึงตลาดถึงกับตะลึง น้ำตาแถบไหล คนเยอะมาก

เอาว่ะ...มาถึงแล้วนี้ เดินหน้าแล้วอย่าถอยหลัง

มาแลกคูปองกันเลย ว่าแต่คนเยอะแบบนี้จะเหลืออะไรให้เรากินมัยเนี้ย






กว่าจะได้ที่นั่ง เหอะๆ ก็พอดีการแสดงรอบบ่าย 2 โมงเริ่มพอดี

การแสดงวันนี้ก็ ไกรทองปราบชาลาวัน คะ อยากดูตอนที่ใช้เทียนระเบิดน้ำ

นึกว่าจะมี effect ระเบิดน้ำ... ปรากฎว่าไม่มีคะ เสียดายจัง...






มาดูฝูงมหาชนกัน เยอะมากๆ กลัวโป๊ะล้มจัง...






เราดูการแสดง กินข้าวเสร็จก็ประมาณบ่าย 3 โมงครึ่งคะ

จะบอกว่าอาหารราคาค่อนข้างแพงคะ เมื่อเทียบกับปริมาณ

รสชาติสำหรับเราคิดว่าธรรมดาคะ ตอนนี้ได้เวลากลับแล้ว ว่าแต่จะกลับยังงัยละเรา

ก็ต้องเดินออกไปขึ้นรถเขียวหน้าวัดอีกเช่นเคย ร้อนมากๆ

เดินออกมารอได้สักพักไม่มีวี่แววของรถเขียวที่รอคอย

เราสองคนเลยเดินสวีทกันกลางวันแสกๆ ถามกลางแสงแดดอันร้อนระอุ

เพื่อเดินไปเรื่อยๆ เผื่อฟลุคเจอตุ๊กตุ๊ก จะได้เหมาไปท่ารถตู้กลับกทม.

เดินมาได้ไม่ไกลมาก เราก็เจอรถตุ๊กตุ๊กคะ ดีใจมากมาย

ไม่ต้องกลายเป็นหนูถูกแดดเผาแล้ว เราเหมาตุ๊กตุ๊กในราคา 100 บาท

เพื่อให้มาส่งที่คิวรถตู้ 91 ซึ่งวิ่ง อยุธยา - อนุสาวรีย์ ใช้เวลาไม่ถึง 10 นาทีคะ

รู้อย่างนี้น่าจะต่อค่าตุ๊กตุ๊ก ใกล้นิดเดียวเองอ่ะ แต่ก็เหอะ ร้อนมากมาย 100 ก็โอเคน่า

จากนั้นเราก็นั่งรถตู้กลับกทม. ในราคาคนละ 60 บาท

พระจ้าว...ถูกกว่าตุ๊กตุ๊กอีกอ่ะ ใช้เวลาประมาณ 1 ชม.ก็ถึงกทม.โดยปลอดภัย



***รีวิวนี้อาจจะนานไปหน่อย...แต่ก็อยากเอามาเก็บไว้ใน blog เพราะเป็นความทรงจำที่ประทับใจค่ะ***

Create Date : 08 ตุลาคม 2553 Last Update : 3 เมษายน 2555 8:19:55 น. Counter : 14645 Pageviews.		10 comments
Share Tweet