"เอกชัย" ประกาศตัดขาด "นาธาน" ฉุนทำชื่อเสียงพังยับ
เมื่อวันที่ 17 พ.ย. เวลาประมาณ 13.30 น. เอกชัย ศรีวิชัย ซึ่งเพิ่งจะบินกลับจากประเทศนอร์เวย์มาถึงเมืองไทย ได้เปิดบ้านที่หมู่บ้านวราบดินทร์ ลำลูกกา คลอง 5 เพื่อแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับกระแสข่าวที่ระบุว่าตนเป็นผู้ให้ความช่วยเหลือนาธานด้วยการพาออกนอกประเทศ โดย เอกชัย ระบุว่า...เหตุเกิดจากทีวีช่องหนึ่ง ปูดข่าวขึ้นมาแล้วไม่รับผิดชอบต่อคำพูด

"ที่ว่าพี่พานาธานหนีออกไปนอกประเทศ คือนอร์เวย์ เจออย่างนี้แล้วใครจะรับผิดชอบพี่บ้างไหม พี่เดินทางไปจริงเมื่อวันที่ 13 พ.ย. ที่ผ่านมา เที่ยวบิน ทีจี954 นักข่าวสามารถเช็คได้ว่านาธานเดินทางไปกับพี่จริงหรือเปล่า ข่าวนี้ทำให้แฟนคลับพี่เสียใจมาก เลยคิดว่าถึงเวลาแล้วที่ต้องออกมาแถลงข่าว ปกติพี่จะไปนอร์เวย์ทุกปี ปีละ15 วัน นี่แค่ไปวันเดียว ก็มีโทรศัพท์จากเมืองไทยว่างานเข้าแล้ว เดือดร้อนกันไปหมด"

เอกชัย กล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างตนและนาธานว่า ยืนยันว่าไม่ได้มีความสนิทสนมอะไรเป็นพิเศษ และไม่เคยแม้แต่จะคุยโทรศัพท์หรือคุยกันเกิน 10 ประโยค ที่ผ่านมาตนก็ไม่เคยออกมาปกป้องนาธานว่า สิ่งที่นาธานทำนั้นถูก เพราะตนไม่เคยรู้หรือถามเรื่องส่วนตัวไม่ว่าจะเป็นเรื่องของใคร เพียงแต่ตนเป็นคนภาคนิยม และนาธานก็เป็นคนภาคเดียวกับตน ซึ่งรู้จากการที่เขาพูดภาษาใต้ด้วย จึงไม่อยากเห็นคนภาคเดียวกันเดือดร้อนเท่านั้น และที่เคยบอกว่าเคลียร์เรื่องหนี้สินให้นั้น ก็เฉพาะคดีที่ดีเจเจเจ -จามจุรี แคสเชอร์ แจ้งความว่านาธานเบี้ยวค่าเช่าร้านกาแฟเท่านั้น

"ไม่เคยปกป้องเขา ไม่ว่าเขาจะทำผิดจริงหรือไม่จริง เขาย่อมได้รับผลในสิ่งที่ทำ ผมดูแลเขาในฐานะคนใต้ด้วยกัน หิวข้าวมาผมก็มีข้าวให้กินเท่านั้น ขอประกาศเลยว่า นับแต่วันนี้เป็นต้นไปผมและนาธานอยู่กันคนละโลก ไม่เกี่ยวอะไรกันทั้งสิ้น ขี้เกียจรำคาญ ถ้ามีการนำเสนอข่าวว่าผมเกี่ยวข้องอะไรกับนาธานอีก คงต้องไปคุยกันที่ศาล ส่วนเรื่องนาธานนั้นผมว่าเหตุการณ์มาถึงตรงนี้แล้วก็น่าจะพอกันได้แล้วล่ะ เพราะตอนนี้เขาก็เหมือนไม่มีแผ่นดินจะอยู่จากคำพิพากษาของสังคมไปแล้ว"

ทั้งนี้ เอกชัยมองว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเพราะมีผู้จัดการส่วนตัว (นายอนุชา ลังประเสริฐ ) คนเดียวกัน ตนจึงตัดสินใจยุติปัญหาด้วยการให้นายอนุชาเลือกว่าจะเป็นผู้จัดการส่วนตัวให้ใคร หากจะเป็นให้ตนก็ต้องไม่เป็นให้นาธานอีกต่อไป

"เรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น เพราะพี่กับนาธานมีผู้จัดการคนเดียวกัน คือ คุณชิ นาทีนี้คุณชิต้องเลือกแล้ว ว่าจะอยู่กับนาธานหรืออยู่กับพี่ ถ้ายังดูแลนาธานอยู่ ก็ให้ออกจากวงของพี่ไปได้เลย" เอกชัย กล่าวทิ้งท้าย

ด้าน นายอนุชา ซึ่งยืนอยู่ใกล้ ๆ ได้ยินก็เดินมานั่งบริเวณที่แถลงข่าว ก่อนยืนยันว่าตนเลือกที่จะเป็นผู้จัดการส่วนตัวให้เอกชัยแน่นอน และต่อไปนี้ขอความกรุณาทุกคนอย่ามาถามความคืบหน้าเรื่องของนาธานที่ตนอีก เพราะคงตอบไม่ได้จริง ๆ แต่ยืนยันว่าขณะนี้นาธานอยู่ในกรุงเทพฯแน่นอน ส่วนเรื่องจะเป็นยังไงต่อไปนั้น คงต้องไปติดตามที่เจ้าตัวกันเอง


อย่างไรก็ดี เมื่อวันที่ 16 พ.ย.ที่ผ่านมา ''นาธาน โอมาน'' มีโจทก์ทวงเงินเพิ่มขึ้นอีกราย เมื่อ ''ปุ๊กกี้'' ปริศนา พรายแสง อดีตนักร้องชื่อดังค่ายอาร์เอส โฟนอินในรายการวิทยุ ''แฉแต่เช้า'' คลื่น 94.0 EFM ว่า น้าสาวแท้ ๆ ของตนก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ตกเป็นเหยื่อของนาธาน โดยอดีตนักร้องสาวเล่าว่า ก่อนหน้านี้น้าของตนได้มีโอกาสรู้จักกับ ''นาธาน'' ที่ประเทศออสเตรเลีย ผ่านการแนะนำของ ''ชิ'' อนุชา ลังประเสริฐ ซึ่งขณะนั้นเป็นผู้จัดการส่วนตัวของตนด้วยเช่นกัน

"ด้วยความที่อดีตนักร้องหนุ่มเป็นคนพูดจาเก่ง เอาใจเข้าหาผู้ใหญ่เก่ง ประกอบกับไปเล่าว่าตัวเองกำลังจะโกอินเตอร์เล่นหนังฮอลลีวู้ด จึงทำให้น้าของตน รวมทั้งเพื่อนๆ ของน้าตกเป็นเหยื่อหลงเชื่อ ''นาธาน'' โดยนาธานยังบอกกับน้าของตนอีกว่า หากได้เงินค่าตัวแล้วจะเอามาดูแลเลี้ยงดู น้าสาว น้าจึงยอมจ่ายเงินดาวน์ซื้อรถเชฟโรเลตราคา 1 แสน 2 หมื่น พร้อมเซ็นค้ำประกันให้ แม้ภายหลัง ''นาธาน'' จะไม่จ่ายค่าผ่อนส่งต่อ แต่น้าสาวก็ยังใจดีจ่ายค่าผ่อนรถให้อีก" ปุ๊กกี้ เล่า

อดีตนักร้องสาว เล่าต่ออีกว่า ตลอดเวลาที่อยู่ออสเตรเลีย เพื่อน ๆ น้ายังให้เงิน ''นาธาน'' ใช้วันละ 100 เหรียญ และซื้อกล้องถ่ายรูปและโน้ตบุ๊กให้ใช้ หลังจากกลับมาเมืองไทย ''นาธาน'' ก็ยังโทร.มาขอยืมเงินน้าของตนอีกเพื่อจ่ายค่าน้ำค่าไฟ แถมยังรูดบัตรเสริมที่น้าเอาไว้ให้ใช้ทุกเดือนเพื่อจ่ายค่าคอนโด ตนต้องการทำให้น้าสาวตาสว่าง จึงออกมาแฉในครั้งนี้ นอกจากนี้ ''ปุ๊กกี้'' ยังได้แฉซ้ำว่า ''นาธาน'' ไม่ใช่ผู้ชายแท้ โดยเธอเรียก ''นาธาน'' ว่า ''กะเทยเนปาล'' ผ่านการโพสต์ข้อความแฉวีรกรรม 18 มงกุฎของอีกฝ่ายผ่านทางเว็บไซต์ชื่อดังอีกด้วย

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อ ''ปุ๊กกี้'' เพื่อสอบถามถึงเรื่องดังกล่าวแล้วแต่ไม่สามารถติดต่อได้ โดยเจ้าตัวไม่รับสายตลอดเวลาที่ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไป

ขณะที่ ''นางฉลอง จันทร์นาค'' ยายของ ''น้องอ้อม'' เสาวนีย์ ฤทธิโชติ ก็ออกมาแสดงอาการถอดใจในเชิงท้อแท้กับเรื่องที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะหลังจากที่ทั้งนักร้องหนุ่ม นาธาน ออกมาปฏิเสธ และทางฝ่ายแม่น้องอ้อม และ ''น้องแอ้ม'' ออกมาให้ข่าวในทำนองที่ว่า ได้เคลียร์เรื่องเงินกับนักร้องหนุ่มจบแล้วเกี่ยวกับเรื่องนี้ยายฉลอง กล่าวในเชิงน้อยใจว่า ตนได้เห็นข่าวที่นาธานออกมาปฏิเสธแล้ว โดยบอกว่าจากนี้ไปตนจะไม่ออกมาตอบโต้อะไรให้เป็นข่าวอีกแล้ว พร้อมกับเปรยในทำนองน้อยใจว่า ตนเป็นแค่คนบ้านนอกใครจะว่าอย่างไรก็ช่าง ปล่อยให้เป็นเรื่องของพวกเขา ตนแก่แล้วไม่อยากจะพูดอะไรอีก ตนได้ปรึกษาญาติ ๆ ทุกคนแล้วว่าขอยุติทุกอย่างเพียงเท่านี้ ถ้าไม่ได้เงินคืนก็ไม่เป็นไร ถือว่าทำบุญให้น้องอ้อมก็แล้วกันยายฉลองกล่าว


ด้าน พิธีกรหนุ่ม ''วู้ดดี้ มิลินทจินดา'' ที่มีข่าวว่าเคยสนิทสนมกันถึงขั้นปาร์ตี้ด้วยกันบ่อย ๆ ก็เลยอดถามไม่ได้ว่า ''นาธาน'' เคยหยิบยืมเงินเหมือนคนอื่น ๆ บ้างหรือเปล่า ซึ่ง ''วู้ดดี้'' ยอมรับว่าเคยรู้จักกันจริง ๆ แต่ว่ารู้จักในแบบฉบับที่นาธานเป็นนักร้อง และเป็นลูกครึ่งเนปาลเหมือนคนอื่น ๆ พอข่าวของอดีตนักร้องหนุ่มกลายเป็นประเด็นคาใจของประชาชน ก็เลยต้องการพูดคุยกับพระเอกหนุ่มในรายการ ''วู้ดดี้เกิดมาคุย'' ซักครั้ง แต่ตอนนี้ยังลังเลใจ เพราะเกรงว่านาธานจะไม่พร้อม แล้วประชาชนจะไม่ได้คำตอบที่อยากรู้นั่นเอง

''คือนาธานรู้จักครั้งแรกประมาณ 4-5 ปี เพราะเค้าเป็นเพื่อนกับเจเจ แล้วผมกับเจเจก็ซี้กันอ่ะครับ ก็ไปเจอกันที่บ้านของเจเจ ตอนนั้นเค้าออกอัลบั้มแล้ว ก็รู้จักกันพอสมควร ถามว่าสนิทกันมั้ย คือมันไม่ได้เจอกันทุกวัน แต่นาน ๆ เจอกันที ตามร้านอาหารตามปาร์ตี้บ้านเพื่อน เจอก็คุยกันครับ''

แล้วเคยเจอขอยืมเงินบ้างมั้ย

''สำหรับวู้ดดี้เนี่ย ตอนที่เจอกันครั้งแรกที่บ้านของเจเจเนี่ยเค้าให้ของผมเลยนะ เป็นสร้อยจากเนปาล คือจริง ๆ วู้ดดี้เป็นคนที่ไม่ค่อยอ่านหนังสือก็เลยไม่รู้ว่าเค้ามายังไง ก็รู้จักเค้าแบบที่หลายคนรู้จัก เค้ามายังไงก็รู้จักอย่างนั้น ผมก็คบคนที่หน้าหนัง ตอนนั้นเค้าเป็นนักร้องเป็นลูกครึ่ง ผมยังเคยถามเค้าเรื่องเนปาลเลย เพราะตอนนั้นจะไปเที่ยว แต่ว่าเค้าก็ไม่ได้ให้รายละเอียดอะไรเลย ตอนนั้นทริปก็เลยล่มไป แล้วก็ไม่เคยปรึกษาเรื่องชีวิต ไม่เคยปรึกษาเรื่องหัวใจ แต่ก็เค้าเคยมาเล่าให้ฟังว่าจะไปถ่ายหนังฮอลลีวู้ด ซึ่งนาธานเองก็เป็นคนที่น่าแปลกมากไง เค้าบอกว่าต้องไปหลายปี จนมารู้อีกทีก็ตอนเป็นข่าวนี่แหละ ตอนนั้นผมดีใจกับเค้ามาก ใช้คำว่าหนังมหากาพย์เลย ก็ได้ร้อยกว่าล้าน ตอนนั้นอยากสัมภาษณ์มาก แต่หาตัวไม่เจอ ตามหาก็ไม่รู้ว่าอยู่ไหน ก็ยังไม่ได้สัมภาษณ์จนกระทั่งเป็นข่าวออกมาอย่างที่เห็นทุกวันนี้แหละครับ''

พอเห็นข่าวออกมาแบบนี้แล้วรู้สึกอย่างไรบ้างที่เคยสนิทกับนาธาน

''ผมแค่ตั้งคำถามเค้าคำถามเดียวให้กับวงการบันเทิงกับนาธานเลยแล้วกันว่าตอนนี้คุณกำลังทำอะไรอยู่ ในใจคุณคิดอะไรอยู่ ผมพูดตรงๆ อยากนั่งคุยกับเค้า ไม่ได้อยากถามว่าหนังจะฉายเมื่อไหร่ หรือเล่นกับ บรูซ วิลลิส จริงหรือเปล่า แต่อยากจะถามว่าในหัวคุณคิดอะไรอยู่ มีปัญหาอะไรหรือเปล่า เค้าบอกว่าเดี๋ยวเราจะรู้เอง แต่ตอนนี้ผมรู้สึกว่าทั้งประเทศต้องการคำตอบ ไม่ว่าจะเป็นช่องไหน สื่อไหน ยังไม่มีใครได้รับคำตอบ ในฐานะที่ผมเป็นเพื่อนในวงการแล้วกัน ผมอยากให้เค้าได้มีโอกาสตอบคำถามตรงนี้ซักที ไม่งั้นมันเสียเวลาทุกคนอ่ะครับ เสียเวลาพวกนักข่าว เสียเวลาทุกช่องที่ต้องมาวิ่งตามชาวบ้านก็จะงงว่ามันเกิดอะไรขึ้น ผมแนะนำให้เค้าออกมาพูดความในใจว่าเค้ามีอะไรอยู่ในใจ เพราะผมว่ามันต้องมีปมที่ยังไม่มีใครรู้''

มีติดต่อนาธานเพื่อให้มาออกรายการบ้างหรือยัง

''ผมยังไม่เชิญอย่างเป็นทางการ โปรดิวเซอร์ผมมีโอกาสได้คุย แต่ผมคิดว่าเค้ายังไม่พร้อม ผมว่าภาพที่แขกคนหนึ่งจะมาออกรายการเราจะต้องพูดความจริงทั้งหมด แต่การที่เค้ายังไม่ออกมาพูดอะไรเลย ผมว่าเค้ายังไม่พร้อม วู้ดดี้พูดง่ายๆ แค่นี้แล้ว ผมว่าวันไหนที่เค้าพร้อมจะมาคุยกับวู้ดดี้ ต้องเป็นวันที่เค้ามีหลักฐาน สามารถพูดได้เต็มปากว่าเค้ากำลังทำอะไรอยู่ แต่ในเมื่อยังวิ่งไล่จับกันอยู่อย่างนี้คงยากที่จะมีโอกาสได้เห็นเค้าร่วมรายการ แต่ก็ไม่แน่''

''วันก่อนเค้าบอกว่าจะโฟนอินเข้ามา 1 ชั่วโมง ในรายการ แต่ผมคิดว่ามันไม่เห็นหน้า แล้วเราก็ไม่รู้ว่าเค้าจะวางสายไปกลางคันหรือเปล่า ผมคิด ๆ แล้ว ก็เลยแคนเซิลไป ถ้าจะเคลียร์มานั่งคุยในรายการดีกว่า เค้าบอกว่าเค้ามีเรื่องจะเคลียร์กับประชาชน คิดว่าอีกไม่นานคงได้รู้กัน''

แล้วเอกชัยล่ะคิดจะเชิญมาออกรายการหรือเปล่า

''ผมเชิญแล้ว แต่ต้องรอเค้ากลับจากนอร์เวย์ก่อน คิดว่าหลังจากเค้ากลับมาคงได้มีโอกาสคุยกันบ้าง เพราะเคยคุยกันก่อนหน้านี้แล้ว แต่ตอนนี้เรื่องมันใหญ่ขนาดนี้แล้วผมคงต้องโทร.ไปคุยก่อนในฐานะน้อง เพราะว่าเรื่องนี้มันกระทบกับพี่เค้าพอสมควร ซึ่งพี่เอกเป็นคนดีมากๆ รักน้องมาก ๆ พี่เอกรักน้องทุกคน ผมว่าพี่เอกชัยไม่มีเจตนาที่จะปกปิดอะไร เค้าเองก็ไม่ทราบว่ามันคืออะไร วู้ดดี้ขอถามกลับแล้วกันที่วู้ดดี้เข้าใจคือนาธานไปส่งพี่เอกที่สนามบินไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมข่าวมันถึงออกมาว่าเค้าบินไปแล้ว ตอนนี้ประเด็นที่ใหญ่ที่สุดคือวู้ดดี้ไม่รู้ว่าใครหลอกใครกันแน่ หรือใครปล่อยข่าวอะไรออกมาเพื่ออะไร คือสับหลอกกันเยอะมาก แต่ผมอยากจะให้กำลังใจพี่ๆ นักข่าวว่าช่วงนี้คงจะเหนื่อยหน่อยนะ เพราะว่ามันมีข่าวออกมาเยอะมาก ในฐานะคนในวงการบันเทิงเราก็ต้องช่วยกันนำเสนอความจริงออกมาให้ได้ อยากให้นำเสนอความจริงกันมากกว่า เพราะว่าวิ่งตามกัน สับหลอกกัน มันไม่ทำให้อะไรดีขึ้นมาได้เลย''

''วู้ดดี้กดดันมาก มีคนโทร.มาที่ออฟฟิศเป็นร้อย ๆ สายว่าทำไมไม่เอานาธานมาออก เฮ้ย!! ไม่แน่จริงนี่หว่า แต่คุณต้องเข้าใจว่าผมเชิญคนคนหนึ่งมาแล้วยังไม่ได้คำตอบ ผมเชื่อว่าคนดูก็ผิดหวัง แล้วอีกอย่างผมก็ไม่ได้ของอ่ะ แล้วจะเอามาทำไม แล้วถ้าเวลาถามไปแล้วเนี่ยสมมุติถามเรื่องหนึ่งแล้วคุยมั่วตอบไปเรื่องอื่นคนดูก็ไม่ได้อะไร ผมคิดว่าเค้ายังไม่พร้อม ถ้าเค้าจะมานั่งในรายการผมต้องการให้เค้าพร้อมสุด ๆ ร้อยเปอร์เซ็นต์ ไม่ใช่มานั่งในรายการบ่ายเบี่ยง ซึ่งมันไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย การพูดคุยกันผมอยากให้มีคำตอบ''

ส่วนคำถามที่สื่อถามพิธีกรชื่อดังว่าเคยถูกนาธานยืมเงินหรือไม่นั้น ''วู้ดดี้'' กล่าวอย่างสุภาพว่าไม่ขอตอบคำถามนี้ แต่ก่อนจากไปก็บอกว่า ''ผมขอตอบคำถามนี้แล้วกัน เอาเป็นว่าผมไม่เคยให้ใครยืมเงินครับ ผมก็เลยสบาย...(หัวเราะ)''






ข้อมูลจาก //www.kapook.com



Create Date : 17 พฤศจิกายน 2552
Last Update : 17 พฤศจิกายน 2552 20:50:12 น.
Counter : 1084 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Caffein Dog
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]



Group Blog
พฤศจิกายน 2552

1
2
6
12
13
14
15
16
20
22
23
24
25
26
28
 
 
All Blog