อีกมุมของ "ชลบุรี"
Photobucket


Photobucket

เมื่อพูดถึง "จังหวัดชลบุรี" ดินแดนที่โด่งดังไปทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ "พัทยา" ที่แทบจะไม่มีชาวต่างชาติคนใดที่มาเยือนประเทศไทยจะไม่รู้จักสถานที่แห่งนี้เลย เพียงแต่สิ่งที่พวกเขานึกถึงอาจเป็นเพียงแค่ภาพของทะเล สายลม แสงแดด และสถานบันเทิงให้ได้ออกไปเฮฮาลั้นลากันยามราตรีเท่านั้น

ถ้าถามคนไทยเองก็คงไม่ต่างกันมากเท่าไรนัก เราก็เช่นเดียวกัน เมื่อไหร่ที่ได้ยินว่าจะไปเที่ยว พัทยา ชลบุรี คงส่ายหน้า มองข้ามสถานที่เหล่านี้ไป แล้วให้เหตุผลว่าไปจนเบื่อแล้ว ถึงไปก็ไม่มีอะไรน่าสนใจแน่ หากแท้จริงพัทยาและเมืองชลบุรีนั้น ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่ยังคงความน่าสนใจไว้อีกมากมายหลายแห่ง ที่เราจะไปสัมผัสกันใน การออกท่องเที่ยวทริปนี้ ซึ่งเป็นการเดินทางร่วมกับทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ในโครงการ "เที่ยวทั่วไทย สุขใจเสริมมงคล" โดยมี อ.คฑา ชินบัญชร เป็นผู้อาสาแนะนำเส้นทางทั้งหมดให้แก่พวกเรา พาไปท่องเที่ยวยังเกาะสีชัง พัทยา ชลบุรี ตลอด 3 วัน 2 คืน ในสถานที่ที่มีความน่าสนใจ แต่อาจไม่ได้เป็นที่พูดถึงมากนัก

เริ่มการเดินทางเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากคณะของเรานั่งรถออกจากกรุงเทพฯ มายังจังหวัดชลบุรี ก็ได้มุ่งตรงไปไหว้พระเอาฤกษ์เอาชัยกับจุดหมายแรกที่ วัดเซียนฮุดยี่ วัดจีนที่ดูผิวเผินแล้วอาจเหมือนกับวัดเล่งเน่ยยี่ แต่วัดแห่งนี้กลับให้ ความรู้สึกที่สงบร่มเย็นกว่ามาก เพราะหันซ้ายแลขวาแล้วไม่มีคนพลุกพล่าน บรรยากาศโดยรอบก็โอเค ไม่ตลบอบอวลไปด้วยกลิ่นธูปให้แสบตาแสบจมูกกันอีกด้วย


หลังจากอิ่มเอมใจกับการสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์กันที่ วัดเซียนฮุดยี่ แล้ว พวกเราก็ได้ตรงดิ่งต่อไปลงเรือที่ท่าเรือเทววงศ์ของอำเภอศรีราชา เพื่อที่จะเดินทางไป เกาะสีชัง เกาะเล็กที่สุดของเมืองชล แต่เต็มไปด้วยความสงบเงียบอีกแห่งหนึ่งของสยามประเทศ ซึ่งทันทีที่เรือเทียบท่าที่ เกาะสีชัง สิ่งแรกที่ออกมารอต้อนรับพวกเราคือ เจ้าสกายแล็บ หรือรถสามล้อเครื่องนั่นเอง ที่ต่างมาจอดเรียงรายคอยผู้คนมาเรียกใช้บริการกันอยู่เป็นตับ เนื่องจากชาวบ้านที่นี่จะใช้เจ้าสกายแล็บเหล่านี้แหละ เป็นพาหนะสาธารณะหลักในการเดินทางทั่วเกาะ


เมื่อมาถึง เกาะสีชัง สิ่งที่จะพลาดไม่ได้เลยสำหรับการมายังเกาะคือ แวะไปสักการะ เจ้าพ่อเขาใหญ่ ที่บนยอดเขาคยาศิระ ที่แม้จะเหนื่อยกระหืดกระหอบกับบันไดสูงชันและอากาศที่ร้อนตับแลบ แต่พอขึ้นไปถึงบนยอดเขาแล้วมองกลับลงมา ก็จะได้ชมทิวทัศน์ของเมืองที่ตั้งอยู่บน เกาะสีชัง แห่งนี้ตัดกับสีฟ้าของน้ำ ทะเลลากยาวสุดลูกหูลูกตาไปยังท้องฟ้าสีครามที่อยู่เบื้องบน หนึ่งวันใน เกาะสีชัง นอกจากไหว้ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่แล้ว พวกเราก็ยังได้มีโอกาสแวะไปเที่ยวที่ วัดถ้ำยายปริก และ หอพระจุฑาธุชราชฐาน อีกด้วย แถมขากลับระหว่างนั่งเรือออกจากเกาะยังได้ชมความงามของพระอาทิตย์ตกดินกันกลางทะเล ให้เคลิบเคลิ้มกับความงามไปตาม ๆ กัน

เช้าวันรุ่งขึ้นจากโรงแรมที่พัก พวกเราก็ขึ้นรถเดินทางกันต่อไปยัง เขาชีจรรย์ สถานที่ที่เป็นหน้าผาสูงขนาดใหญ่ซึ่งได้ถูกแกะสลักเป็นพระพุทธฉายที่ใหญ่ ที่สุดในโลก โดยการแกะสลักนี้ได้แกะสลักด้วยการใช้เทคโนโลยีการยิงแสงเลเซอร์ ภาพที่ออกมาจึงประดุจดั่งภาพที่เราเห็นกันชินตาในหนังจีนกำลังภายใน

ในบริเวณใกล้เคียงกันกับ เขาชีจรรย์ นี้เองยังมีทัศนียภาพอันน่าสะดุดตาของ ไร่องุ่นซิลเวอร์เลค ที่เห็นมาแต่ไกล โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเจ้าบ้านกังหันลม ที่ดูจะโดดเด่นเป็นพิเศษท่ามกลางทุ่งดอกไม้นานาสายพันธุ์ ที่ถูกขนาบไปด้วยไร่องุ่นกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา โดยไม่เพียงแต่ไร่องุ่น บ้านกังหันลม และส่วนที่ตกแต่งไว้ให้เป็นจุดบันทึกความทรงจำของนักท่องเที่ยวเท่านั้น ยังมีแปลงเกษตรสาธิตผักปลอดสารพิษให้ได้เรียนรู้ความเป็นมา จนถึงวิธีการดูแลรักษาจะแปลงสาธิตแห่งนี้อีกด้วย


ที่ ไร่องุ่นซิลเวอร์เลค นี้เอง ยังมีร้านขายของฝากที่ได้จากผลิตภัณฑ์ทีทำจากองุ่น ซึ่งในร้านที่ให้ซื้อหาของฝากแห่งนี้เองได้ถูกตกแต่งให้เต็มไปด้วยของเล่น รวมไปถึงนางกวักของร้านเองยังไม่ใช่ภาพของผู้หญิงใส่ชุดไทยนั่งพับเพียบ กวักมือที่เราเคยเห็นกันชินตา หากแต่เป็นซูเปอร์ฮีโร่ขวัญใจเด็ก ๆ อย่าง ไอ้มดแดง ทำท่าทางเต๊ะท่าเท้าสะเอวโบกมือ ยืนยันได้ถึงความแปลกแตกต่างได้เป็นอย่างดี

ตกช่วงบ่ายของวันได้ไปต่อกันที่ อาณาฟาร์มปลาการ์ตูน ก่อนจะมุ่งหน้าเดินทางไปยัง เกาะแสมสาร เพื่อไปดำน้ำ กอดน้ำ กอดทะเล กอดทราย กอดหอย กอดปู กอดปลา กอดปะการัง กอดร่มชูชีพ กอดตู้คอนเทนเนอร์กันที่ช่องแสมสาร สถานที่ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นข่าวโด่งดังไปทั่วประเทศ หลังจากมีชาวบ้านไปค้นพบตู้คอนเทนเนอร์ปริศนาใต้ทะเล ครั้งนี้เราจึงหวังลึก ๆ ว่าอยากจะลองที่จะดำน้ำลงไปชมความแปลกที่อยู่ผิดที่ผิดทางของเจ้าตู้คอนเท นเนอร์นี้ด้วยตาของตัวเอง



เมื่อเดินทางมาถึง เกาะแสมสาร บริเวณที่ชายหาดเทียนของเกาะ ก็ได้มีพี่มนุษย์กบหรือหน่วยซีล ซึ่งเป็นหน่วยรบที่มีการฝึกฝนความสามารถ ตลอดจนสมรรถภาพทางร่างกายหนักที่สุดในประเทศไทย คอยต้อนรับและดูแลอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยว และผู้คนที่ได้มาเยี่ยมเยือนยัง เกาะแสมสาร โดยพี่ ๆ เจ้าหน้าที่จากหน่วยซีลยังได้บรรยายแนะนำถึงวิธีการดำน้ำตื้น หรือ "สนอร์เกิล" ในสถานที่ต่าง ๆ ที่มีความน่าสนใจของเกาะ และความรู้เรื่องปรากฏการณ์ปะการังฟอกขาวอันเกิดจากปัญหาโลกร้อน ที่ทำให้อุณหภูมิของน้ำทะเลเปลี่ยนแปลงไป

เพียงไม่นานหลังจากฟังบรรยายความรู้เบื่องต้นเกี่ยวกับเกาะ และการดำน้ำจากเจ้าหน้าหน่วยซีล พี่ ๆ เจ้าหน้าที่ก็ได้พาขึ้นเรือต่อไปจุดดำน้ำตื้นที่สวยที่สุดของของ แสมสาร ดำน้ำชมความสวยงามที่เปรียบเสมือนอีกโลกหนึ่งภายใต้เส้นแบ่งของผืนน้ำ ในโลกท้องทะเลนี้เต็มไปด้วยหมู่ปลาหลายหลากสายพันธุ์ที่ว่ายเวียนวนกันไปมา รวมไปถึงปะการังต่าง ๆ ที่ในบางช่วงจะสังเกตได้อย่างชัดเจนถึงสีที่เปลี่ยนเป็นสีขาวของพวกมัน

แม้จะสวยงามเพียงใด แต่การที่จะได้เห็นภาพของความสวยงามเป็นสัญญาณบ่งบอก ได้ว่าสิ่งเหล่านี้คงมีไม่ให้เราได้ดูได้เห็นอีกไม่นาน ก่อนที่พวกมันจะตายจากท้องทะเล อย่างไรก็ตาม ก่อนกลับยังเสียดายอยู่บ้างตรงจุดที่เจ้าหน้าที่ได้พาเราไปดำน้ำ ไม่ใช่จุดเดียวกันกับจุดตกของตู้คอนเทนเนอร์ก็ตาม แต่เพียงแค่นี้ก็ทำให้มีความสุขสนุกจนล้นปรี่แล้ว


เวลาแห่งความสุขของการออกท่องเที่ยวดำเนินมาถึงวันสุดท้าย ก่อนที่จะกลับกรุงเทพฯ พวกเราก็ได้มีโอกาสไปแวะเที่ยวกันที่ ปราสาทสัจธรรม ปราสาทไม้ที่เกิดขึ้นจากการแกะสลักและใช้วัสดุที่ทำจากไม้ทั้งหมด ที่ตั้งตระหง่านโดดเด่นอยู่ริมทะเล บริเวณแหลมราชเวช ในอำเภอบางละมุง โดยปราสาทแห่งนี้จากการมองด้วยตาเปล่าจะสังเกตได้อย่างชัดเจนถึงความยิ่งใหญ่อลังการของสถานที่แห่งนี้ อย่างไรก็ตาม การก่อสร้างปราสาทแห่งนี้ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ดีนัก เพราะจะเห็นว่าตามแต่ละซอกมุมของตัวปราสาท จะมีช่างแกะสลักคอยแต่งแต้มแกะ สลักไม้ให้กับปราสาทแห่งนี้อย่างวิจิตรงดงาม และเพื่อเป็นการป้องกันอุบัติเหตุ การเข้าชมภายในปราสาทสมาชิกทุกคนจึงต้องสวมหมวกนิรภัยป้องกันตลอดเวลา

แม้ภายนอกปราสาทจะมีอากาศร้อนถึงร้อนมากที่สุด แต่พอได้สวมหมวกเดินขึ้นบันไดเข้าไปในปราสาทแล้วกลับไม่รู้สึกถึงความร้อนแรงของอากาศ หากแต่เป็นความรู้สึกสดชื่นร่มเย็นเข้ามาแทนที่ โดยภายในของ ปราสาทสัจธรรม อ.คฑา และวิทยากรประจำสถานที่ก็ได้มาร่วมกันบรรยายให้ฟังถึงความสำคัญ ความหมายของสถาปัตยกรรมในจุดต่าง ๆ ตามทิศทั้งสี่ ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของฟ้า ดิน พ่อ แม่ พระอาทิตย์ พระจันทร์ และดวงดาว

ก่อนสั่งลาทริปท่องเที่ยวในครั้งนี้ ก็ยังได้มีโอกาสแวะไปช็อปปิ้งซื้อของ ฝากขึ้นชื่อประจำเมืองชลที่ ตลาดหนองมน อีกด้วย สำหรับเราแล้วเป็นการเดินทางที่จดจำมิรู้ลืม ทำให้ได้มองเห็น พัทยา ชลบุรี และ เกาะสีชัง สถานที่ที่เราเห็นกันชินตาในอีกแง่มุมหนึ่ง ซึ่งต่างไปจากภาพที่เราเคยจินตนาการขึ้นมาได้เป็นอย่างดี



ข้อมูลจากkapook.com



Create Date : 20 สิงหาคม 2553
Last Update : 20 สิงหาคม 2553 20:30:33 น.
Counter : 920 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Caffein Dog
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]



Group Blog
สิงหาคม 2553

1
2
3
4
6
9
10
13
14
17
18
19
21
22
23
24
25
26
27
28
31
 
 
20 สิงหาคม 2553
All Blog