พระที่นั่งอนันตสมาคม "กรุงเทพฯ"
พระที่นั่งอนันตสมาคม เป็นสถาปัตยกรรมแบบนีโอเรอเนสซองส์ (Neo Renaissance) และนีโอคลาสสิก (Neo classic) เริ่มก่อสร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 เมื่อปี พ.ศ. 2450 แล้วเสร็จในสมัยรัชกาลที่ 6 เมื่อปี พ.ศ. 2458 องค์พระที่นั่งตกแต่งด้วยหินอ่อนซึ่งสั่งมาจากเมืองคารารา ประเทศอิตาลี มีจุดเด่นคือหลังคาโดมคลาสสิกตรงกลางและมีโดมเล็กๆโดยรอบอีก 6 โดม

ความวิจิตรงดงามนอกจากจะปรากฏอยู่ในทุกรายละเอียดของตัวอาคารแล้ว ยังอวดโฉมอยู่บนเพดานโดมของพระที่นั่งซึ่งมีภาพเขียนสีปูนเปียกขนาดใหญ่ (หรือเฟรสโก) จำนวน 6 ภาพ แสดงเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของพระบรมราชจักรีวงศ์ ตั้งแต่รัชกาลที่ 1 ถึง รัชกาลที่ 6 ภาพเหล่านี้เป็นฝีมือการเขียนภาพของ ศาสตราจารย์แกลิเลโอ คินี และนาย ซี.ริกุลี จิตรกรเอกที่เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมาจากอิตาลีเลยทีเดียว



ปัจจุบันภายในพระที่นั่งฯ มีการจัดนิทรรศการถาวร "ศิลป์แผ่นดิน" หัตถกรรมฝีมือประณีตของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เปิดให้เข้าชมทุกวันเว้นวันจันทร์ ตั้งแต่เวลา 10.00-18.00 น. อัตราค่าเข้าชม 150 บาท นักเรียนนักศึกษาในเครื่องแบบ 75 บาท วันแม่เข้าชมฟรี มีกติกามารยาทคือ กรุณาแต่งกายสุภาพ (ผู้ชายห้ามกางเกงขาสั้น เสื้อไม่มีแขน, ผู้หญิง มีผ้าถุงให้ กรณีที่ไม่ได้ใส่กระโปรงมา) ห้ามถ่ายภาพด้านในองค์พระที่นั่ง แต่สามารถเก็บภาพด้านนอกไว้เป็นที่ระลึกได้ สอบถามรายละเอียดที่ โทร.0-2283-9411

สำหรับคนที่ขับรถไปเอง ทางเข้าจะอยู่ด้านถนนอู่ทองใน ตรงข้ามเขาดิน แต่หากมีเวลามากหน่อยแนะนำให้ไปทางถนนราชวิถี เยี่ยมชมพระที่นั่งวิมานเมฆก่อน แล้วค่อยเดินต่อมายังพระที่นั่งอนันตสมาคม ก็จะได้บรรยากาศการชมวังฉบับสมบูรณ์

พระที่นั่งวิมานเมฆ เป็นอาคารไม้สักทองที่ใหญ่ที่สุดในโลก สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2443 เป็นพระที่นั่งถาวรองค์แรกที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นภายในสวนดุสิต หลังจากพระองค์เสด็จพระราชดำเนินกลับจากประพาสทวีปยุโรปในปี พ.ศ. 2440

สถาปัตยกรรมได้รับอิทธิพลการก่อสร้างแบบตะวันตก องค์พระที่นั่งเป็นรูปอักษรตัวแอลในภาษาอังกฤษ แต่ละด้านยาว 60 เมตร สูง 20 เมตร เป็นอาคาร 3 ชั้นเฉพาะที่ประทับซึ่งเรียกว่า "แปดเหลี่ยม" มี 4 ชั้น ชั้นล่างสุดก่ออิฐถือปูน ชั้นถัดขึ้นไปสร้างด้วยไม้สักทองทั้งหมด มีห้องจัดแสดงรวมทั้งสิ้น 31 ห้อง การจัดแสดงบางห้องยังคงลักษณะบรรยากาศในอดีตไว้ เช่น หมู่ห้องพระบรรทม ท้องพระโรงและห้องสรง เป็นต้น

นอกจากนี้ภายในเขตพระราชวังดุสิตยังมีอาคารที่จัดทำเป็นพิพิธภัณฑ์ต่างๆ ได้แก่ พิพิธภัณฑ์ภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ พิพิธภัณฑ์นาฬิกาโบราณ พิพิธภัณฑ์ผ้าโบราณ พิพิธภัณฑ์เครื่องราชูปโภค และพระสาทิสลักษณ์ เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.30-15.30 น. อัตราค่าเข้าชมผู้ใหญ่ 75 บาท เด็ก 20 บาท ชาวต่างประเทศ 100 บาท สอบถามโทร. 0-2281-6880, 0-2281-5454






ข้อมูลจาก //www.kapook.com



Create Date : 10 สิงหาคม 2552
Last Update : 10 สิงหาคม 2552 15:13:43 น.
Counter : 1091 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Caffein Dog
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]



Group Blog
สิงหาคม 2552

 
 
 
 
 
 
1
2
3
7
8
12
13
14
15
16
17
18
19
20
22
24
25
26
28
29
30
 
 
All Blog