"อาหาร" สำหรับ "ผิว"
ความงามมาจากภายใน
การกินอาหารที่มีประโยชน์ก็สามารถช่วยให้ผิวมีสุขภาพดีและอ่อนเยาว์หากมีการอักเสบเพียงเล้กน้อยในร่างกายก็ทำให้ผิวแก่ก่อนวัยได้ ดังนั้น เราจึงควรกินไขมันชนิดดีและกินน้ำตาลให้น้อยลง นอกจากนี้ก็ยังขึ้นอยู่กับลักษณะส่วนตัวของแต่ละบุคคลด้วยนั่นคือ ผิวคุณไหม้แดดเร็วมั้ย ผิวคุณแห้งหรือเป็นสิวง่ายมั้ย หรือคุณเป็นดรคผิวหนังเรื้อรัง ดรคเรื้อกวาง ผิวอักเสบ หรือเริม


อาหาร...หยุดสิว
คนที่มักเป้นสิว ไม่ควรกินอาหารที่มีไขมันมากเกินไปเพราะมันจะทำให้ไปกระตุ้นต่อมไขมัน โดยเฉพาะไขมันจากสัตว์จะไปทำให้กระบวนการอักเสบของผิวเป็นมากขึ้น และจากการศึกษาของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดพบว่า การดื่มนมสามารถทำให้สิวโผล่ขึ้นมาได้ เพราะจากการทดลองกับอาสาสมัครโดยการให้กินผลิตภัณฑ์นมทุกวัน ปรากฏว่าเพิ่มความเสี่ยงของสิว 22 ℅ นักวิจัยเชื่อว่าฮอร์โมนในนมเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดสิว นอกจากนี้ ช็อตโกแลต ขนมหวานๆ มัฝรั่งทอด หรือพิซซ่าที่คาดว่าจะเป็นตัวการทำลายผิวนั้นก็ยังดต้แย้งกันอยู่ แต่ที่ดีที่สุดคือการกินอาหารที่มีประโยชน์ อาหารที่สำคัญสำหรับผิวที่เป็นสิวก็คือ วิตามินอี (เช่นข้าวกล้อง ถั่ว พริกหวาน) สังกะสี (ข้าวโอ๊ต โกโก้) และซีลีเนียม (เช่น ปลา ไข่)



โรคผิวหนัง (Rosacea)
เป็นโรคผิวหนังชนิดหนึ่งมีอาการเป็นผื่นแดงบริเวณส่วนกลางใบหน้าเส้นเลือดจะ ขายใหญ่ และอาจเกิดผื่นนูนแดงได้หากเป็นนานๆ ที่บริเวณจมูกจะทำให้จมูกโต ไม่พบมากนักในคนไทย รักษาด้วยการกินยาปฏิชีวนะหรือถ้าเส้นเลือกขยายมากอาจทำการรักษาด้วยเลเซอร์ คนที่เป็นโรคนี้ควรหลีกเลี่ยงทุกอย่างที่จะทำให้ผิวเกิดปัญหา เช่น แสงแดด ความร้อน แอลกอฮอล์ เครื่องดื่มร้อนๆ อาหารรสเผ็ด เพราะมันจะไปกระตุ้นให้เกิดผื่นแดงขึ้น คุณควรพยายามสังเกตตัวเองว่าอะไรที่เป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวหนังเป็นผื่นแดง ข้อแนะนำก็คือ ลองเข้าคอร์สไดเอต อาจช่วยให้โรคนี้ดีขึ้นได้


โรค สะเก็ดเงิน
ชาวเอสกิโมรู้จักโรคนี้เพราะมีอาการคันหรือพุพอง เป็นตุ่มใส มักเป็นบริเวณข้อศอก หลัง เข่า มือ โรคนี้จะไม่เกิดเมื่อชาวเอสกิโมกินอาหารพื้นเมืองเช่น กินปลาซึ่งมีกรดโอเมก้า 3 และจากการศึกษาของนักวิชาการได้ยืนยันแล้วว่า การกินกรด Alpha Linolenic (เช่นน้ำมันฝ้าย) จะช่วยบรรเทาโรคนี้ได้ เช่น ในวันหนึ่งๆควรกินกรด Linolenic 1 กรัม น้ำมันปลา 1.5 กรัม เป็นประจำสม่ำเสมอ อาหารที่ต้องระวัง คือ เนื้อหมู ไส้กรอก อาหารรสเผ็ด และแอลกอฮอล์ เพราะอาหารเหล่านี้จะกระตุ้นให้โรคกำเริบได้


โรคผิว หนัง Neurodermitis
โรคนี้จะมีผิวแห้งมาก อักเสบบ่อย และคัน ผู้ที่เป็นโรคนี้ต้องกินอาหารที่ช่วยบรรเทาอาการของโรค อาหารที่เหมาะก็คือ น้ำมันปอ (วันละ 1-2 ช้อนโต๊ะ) เมื่ออาการดีขึ้นก็หยุดกินได้ 2-3 เดือน หรือกินแบบสำเร็จรูป ผู้ที่เป็นโรคผิวหนัง Neurodermitis ต้องกินกรด Linolenic วันละ 1,000 กรัม จะดีที่สุดต้องกินร่วมกับกรด Alpha Linolenic เพื่อรักษาความสมดุลของกรดไขมันและที่พบบ่อยคือโรคผิวหนังมักเกิดจากการแพ้ อาหารให้ปรึกษาแพทย์ผิวหนัง และหลังจากกินแล้วเกิดแพ้ ให้ลองไม่กินอาหารดังกล่าวแล้วดูสิว่าอาการจะดีขึ้นไหม?


เริม
แสงแดด ความเครียด หวัด ทำให้เกิดเริมที่ริมฝีปากได้ เพราะเกือบ 90 ℅ ของผู้ใหญ่มีไวรัสเริมหากภุมิคุ้มกันอ่อนแอ ไวรัสก็จะแสดงอาการขึ้นมาผู้ที่เป็นเริมควรกินอาหารที่มีวิตามินซีให้มากๆ เช่นผัก ผลไม้ ก็จะป้องกันโรคเริมได้ เพราะวิตามินซีช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรง จากการศึกษาพบว่าการกินวิตามมินซีวันละ 3 ครั้ง ครั้งละ 600 มิลลิกรัม ก็จะทำให้เริมที่เริ่มก่อตัวหายเร็วขึ้น แต่การกินโปรตีน Arginine จะทำให้ไวรัสเพิ่มเร็วขึ้น โปรตีน Arginine มีอยู่ในถั่ว ช็อคโกแลต วุ้น และลูกเกด จึงควรหลีกเลี่ยงอาหารดังกล่าว ส่วนอาหารที่ทำให้ไวรัสอ่อนแอลงก็คือ ปลา ไข่ ผลิภัณฑ์นม สัตว์ปีก มันฝรั่ง และผลไม้เปลือกแข็ง


ผิวแห้ง
คนที่มีผิวแห้งและอยากถนอมผิวให้นุ่มนวลควรดูแลเซลล์จากภายในและควรกินไขมันเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ควรใส่ใจกับการกินกรดไขมันโอเมก้า 3 และ 6 หากมีผิวแห้งมากควรกินกรด Linolenicซึ่งมีความสำคัญกับผิว และอย่าลืมรักษาความชุ่มชื่นของผิว เช่น กรดอะมิโน Arginine ซึ่งมีมากในถั่วลิสง รำข้าวสาลี และผลิตภัณฑ์ถั่วเหลือง


ผิวสุขภาพดี
จากการศึกษาของมหาวิทยาลัย Monash ในเมลเบิร์น ประเทสออสเตรเลียพบว่า คนที่กินปลาบ่อย กินน้ำมมันพืช และกินผักอย่างพอเพียง มีริ้วรอยน้อยกว่าคนในวัยเดียวกันซึ่งชอบกินเนื้อสัตว์ กินน้ำตาล และเนยมากกว่า นอกจากนี้การกินผลิตภัณฑ์ถั่วเหลืองซึ่งมีไฟโตรเอสโตเจนก้จะช่วยยับยั้งไม่ให้ผิวแก่เร็ว เพราะจากการศึกษาทางการแพทย์พบว่าเกือบทุกกระบวนการความชราในร่างกายรวมทั้งผิวหนัง มีผลมาจากการอักเสบเล็กๆน้อยๆ ซึ่งส่งผลให้เส้นเลือดตีบตัน ทำให้สารอาหารไปหล่อเลี้ยงส่วนต่างๆได้ไม่ดีและทำให้ผิวอ่อนล้า


กันแดดจากธรรมชาติ
ในฤดูร้อน ผิวต้องการการปกป้องเป็นพิเศษ และเราหาได้จากอาหารการกิน ซึ่งสามารถปกป้องผิวได้ส่วนหนึ่งพร้อมกับการใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดควบคู่กัน อาหารที่มีสารปกป้องผิวคือ ไลโคปีนจากน้ำมะเขือเทศวะนลั 20 กรัม ไลโคปีนจากแตงโม หรือเบต้าแคโรทีน วันละ 20 กรัม จากแครอทและผักโขม ส่วนผุ้ที่มีผิวค่อนข้างขาวก็ควรกินผลไม่รสเปรี้ยวๆด้วย แต่ไม่ควรกินรสหวานๆเพราะมันจะทำให้ผิวไวต่อแสงแดดมากยิ่งขึ้น ส่วนที่เป็นจุดกระ ด่างดำได้ง่าย ควรกินวิตามินซี ให้มากเช่น ส้ม กีวี เพราะมันจะช่วยให้การผลิตเม็ดสีเมลานินเป็นไปอย่งสม่ำเสมอ ซึ่งจะทำให้เกิดกระ จุดด่างดำได้น้อยลง


อาหารที่ช่วยดักจับอนุมูลอิสระ
ผักและผลไม้ 10 อย่างต่อไปนี้เป็นอาหารโปรดของผิว เช่นผักโขม พริกหวานสีแดง พริกชี้ฟ้า หัวหอมใหญ่ เกรฟฟรุต เห็ด มะเขือม่วง แอปเปิ้ล ส้มและหน่อไม้ฝรั่ง


อาหารที่ทำร้ายผิว
อาหารทีมีกรด Arachidonic จะทำให้ผิวอักเสบ เช่นตับหมู น้ำมันหมู ตับลูกวัว ไข่แดง หมูแฮม ตับวัว ตับบด ยอดน้ำมันพืช น้ำมันฝ้ายมีกรดไขมันโอเมก้า 3 มากที่สุด รองลงมาก็คือ น้ำมันวอลนัต น้ำมันปอ น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันรำข้าวสาลี น้ำมันมะกอก น้ำมันถั่วลิสง น้ำมันข้าวโพด และน้ำมันงา




ข้อมูลจากLisa



Create Date : 23 พฤษภาคม 2553
Last Update : 23 พฤษภาคม 2553 21:58:05 น.
Counter : 745 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Caffein Dog
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]



Group Blog
พฤษภาคม 2553

 
 
 
 
 
 
2
3
9
12
15
17
21
24
27
29
30
 
 
All Blog