Apple has lost a visionary and creative genius, and the world has lost an amazing human being.

But his spirit will forever be the foundation of Apple. 6 October 2011

 
กันยายน 2563
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
28 กันยายน 2563

‘เศียรใหญ่’ ไม่ใช่พระศรีสรรเพชญ์

 

 

วันที่ 25 กันยายน 2563 ที่มติชนอคาเดมีได้จัดเสวนาโดย รศ.พิชญา สุ่มจินดา
อาจารย์ภาควิชาศิลปะไทย คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในประเด็น
 “ไขปริศนา เศียรใหญ่” ศิลปะหลังรัฐประหารสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง
และ อ.ปริญญา สัญญะเดช ผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธไทยโบราณ 
 
ผมไม่ได้ไปงานนี้หรอก เพราะตามข่าวไม่ทัน น่าเสียดายเพราะจัดไม่ไกลเท่าไหร่
แต่ก่อนหน้านี้ มีการพาดหัวเรื่องดังกล่าวแล้วใน facebook ของศิลปวัฒนธรรม
วันหนึ่งที่ไปเดินห้างสรรพสินค้า ก็เลยช่วยอุดหนุนมาหนึ่งเล่ม
ด้วยเป็นผู้เขียนคนเดียวกัน ตัวเนื้อหาจึงไม่มีความแตกต่าง
 
ทำไมแค่บทความเดียวจึงยอมทำให้ผมควักกระเป๋าซื้อนิตยสารเล่มนี้
นั่นเพราะเมื่อสองปีก่อนมีอาจารย์อีกท่านหนึ่งคือ รุ่งโรจน์ ภิรมย์อนุกูล
ได้เขียนบทความเรื่องเศียรใหญ่ ที่นำมาจัดแสดงในพระที่นั่งศิวโมกขพิมาน
จนนำไปสู่การจัดบรรยายทางวิชาการว่า หรืออาจเป็นเศียรของพระศรีสรรเพชญ์
 

 

คำถามคือ พระศรีสรรเพชญ์มีความสำคัญอย่างไร
 
พระศรีสรรเพชญ์คือพระพุทธรูปยืนปางประทานอภัยที่เป็นพระประธาน
ของวัดพระศรีสรรเพชญ์ในพระราชวังกรุงศรีอยุธยา ความสำคัญนั้น
เปรียบเทียบอย่างง่ายว่า ไม่ต่างจากพระแก้วมรกตในสมัยรัตนโกสินทร์
ที่ขุนนางนั้นต้องมาถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยาต่อหน้าปีละ 2 ครั้ง
 
ในพงศาวดารกล่าวว่า รัชกาลที่ 1 รับสั่งให้อัญเชิญพระพุทธรูปองค์นี้ลงมาจากกรุงศรีอยุธยา
แต่พบว่าเสียหายหนัก ดังมีคำปุจฉาในสมัยรัชกาลที่ 3 กล่าวย้อนถึงเหตุการณ์นั้นว่า
รัชกาลที่ 1 ทรงตัดสินพระทัยที่จะหลอมพระพุทธรูปองค์นี้เพื่อสร้างขึ้นมาใหม่
แต่ถูกทัดทานไว้จากเหล่าพระสงฆ์ว่า การหลอมองค์พระพุทธรูปด้วยเปลวไฟนั้นไม่ควร
 
รัชกาลที่ 1 จึงโปรดให้สร้างเจดีย์ขึ้นที่วัดโพธิ์ เพื่อนำพระพุทธรูปยืนองค์นี้บรรจุไว้
แล้วพระราชทานนามว่า เจดีย์สรรเพชญดาญาณ ดังที่เราเห็นอยู่ในปัจจุบัน
แต่ด้วยข้อมูลที่ไม่ได้บันทึกถึงพระเศียรว่า ได้มาพร้อมกันในคราวนั้นหรือไม่
จึงเป็นที่มาของข้อสันนิษฐานโดย อ. รุ่งโรจน์ ว่าอาจเป็นเศียรของพระศรีสรรเพชญ์



อ.พิชญา สุ่มจินดา ได้นำเสนอข้อสันนิษฐานหักล้างเป็นบทความ
ถึงที่มาของเศียรพระพุทธรูปว่าไม่ใช่เศียรพระศรีสรรเพชญ์ใน 4 ประเด็น
 
1. เศียรใหญ่ เคยประดิษฐานที่วัดพระศรีสรรเพชญ์หรือไม่
2.เศียรใหญ่ เคยเป็นพระพุทธรูปยืนหรือประทับและมีขนาดเท่าใด
3. เศียรใหญ่ มีพระพักตร์สอดคล้องกับพระพุทธรูปในช่วงที่สร้างพระศรีสรรเพชญหรือไม่
4. เศียรใหญ่ มีพระพักตร์สอดคล้องกับพระพุทธรูปในช่วงเวลาใด
 
ซึ่งในบทความในนิตยสารศิลปวัฒนธรรม จบลงตรงข้อสรุปว่า ไม่เห็นด้วย
ว่าเศียรใหญ่จะเป็นเศียรของพระศรีสรรเพชญ์ได้ด้วยเหตุผลที่กล่าวมา
แต่ในการบรรยายทางวิชาการที่มติชน อ. พิชญา ยังเพิ่มเติมข้อมูลว่า
ในความเห็นของท่านนั้น ควรเป็นเศียรของพระพุทธรูปองค์ใดในวัดพระศรีสรรเพชญ์
 
สำหรับผมผู้เสพผลงานก็ได้แต่ฟังไว้ เพราะตัวเองก็ไม่ได้มีความรู้อะไร
แต่อยากจะให้มุมมองว่า อ. รุ่งโรจน์ ก็จะสายประวัติศาสตร์กระแสหลัก
หมายความว่า ยึดตามองค์ความรู้ที่สะสมกันมาตามวิชาประวัติศาสตร์
แต่ อ. พิชญา ก็จะเป็นอีกสายที่คิดใหม่มองใหม่ตามท่าน อ. พิริยะ ไกรฤกษ์
 
แต่อย่างที่ผมพูดไว้ ไม่มีอะไรถูกหรือผิด ถ้าเรายังไม่พบหลักฐานอะไรที่น่าเชื่อถือพอ
การถกเถียงทางความคิดเป็นสิ่งที่น่านับถือ และเป็นสิ่งที่ทำให้เรามีความรู้ใหม่เพิ่มขึ้น
  
เศียรพระใหญ่ในพระที่นั่งศิวโมกพิมาน (1)




 

Create Date : 28 กันยายน 2563
2 comments
Last Update : 29 กันยายน 2563 14:31:56 น.
Counter : 2559 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณtuk-tuk@korat, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณkatoy

 

เราชอบ อ.กระติกค่ะ ฟังคลิบที่ท่านสอนประวัติศาสตร์ศิลป์มา
ทำให้มองประวัติศาสตร์เปลี่ยนไป

 

โดย: tuk-tuk@korat 28 กันยายน 2563 16:48:39 น.  

 

 

โดย: katoy 29 กันยายน 2563 7:39:54 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


ผู้ชายในสายลมหนาว
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 21 คน [?]




New Comments
[Add ผู้ชายในสายลมหนาว's blog to your web]