Apple has lost a visionary and creative genius, and the world has lost an amazing human being.

But his spirit will forever be the foundation of Apple. 6 October 2011

<<
สิงหาคม 2564
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
27 สิงหาคม 2564

The great Reset : Bitcoin VS Ethereum


Wikipedia

ด้วยกระแส cryptocurrency ที่โด่งดัง  เราคงได้ยินว่าเด็กรุ่นใหม่บางคน
ซื้อบ้านเป็นของขวัญให้ตนเองตอนเรียนจบจากกำไรที่ได้จากเทรดคริปโต
เป็นสิ่งที่น่าตื่นตะลึงสำหรับคน Gen X ที่กว่าจะมีบ้านเป็นของตนเอง
ก็ต้องรอจนฐานะมั่นคง และต้องผ่อนยาวไปจนถึงวันที่เกษียณพอดี
 
เกิดอะไรขึ้นกับโลกใบนี้ ในวันที่สิ่งที่เราเรียนมาอาจจะใช้ไม่ได้อีกต่อไป
คนที่เห็นว่านั่งเล่นเกมส์ไปวันๆ อาจจะอยู่ได้โดยไม่ต้องทำงานประจำ
 
ตอนที่อินเตอร์เนทเข้ามาใหม่ๆ เรายังคงได้ยินเสียง modem เสียงกรี๊ดๆ
ในตอนที่ต่อไปหา ISP ตอนนั้นสิ่งทีใหม่มาก หลังจากการฝากไฟล์ผ่าน BBS
ก็คือโปรแกรม P2P แทนที่เราต้องรอให้คนที่มีไฟล์ที่เราต้องการส่งไฟล์นั้น
ขึ้นไปบนอินเตอร์เนทเสียก่อน แล้วเราจึงไปดึงไฟล์นั้นลงมา
 
กลายเป็นว่า เราสามารถค้นหาไฟล์ที่เรากำหนด เช่นเพลงจากคอมพิวเตอร์
ของคนที่ลงโปรแกรมเดียวกับเราไว้ได้ และนั่นก็เป็นครั้งแรกที่มีการกล่าวหา
ว่าสิ่งนี้จะทำลายอุตสาหกรรมเพลง ที่เคยขายแบบเดิมกันมาอย่างยาวนาน
ให้ล่มสลายไปในที่สุด ปัจจุบันเด็กรุ่นใหม่ที่เพิ่งเกิดมาก็ไม่เคยเห็นมันอีกเลย
 
แล้วเราจะเอาสิ่งนี้มาส่งเงินกันทางอินเตอร์เนทได้หรือไม่ คำตอบคือไม่
เพราะหลักการของคอมพิวเตอร์มันได้ทำการ copy โดยที่ต้นฉบับยังอยู่ที่เดิม
ไม่เหมือนกันใช้ในชีวิตจริงที่เมื่อเราหยิบเงินจ่ายแม่ค้าเงินจะออกจากกระเป๋าเราไป
ซึ่งไฟล์คอมพิวเตอร์ทำแบบนั้นไม่ได้
 

Wikipedia
 
จนกระทั่งมีคนๆ หนึ่งได้แก้ปัญหานี้ โดยสิ่งที่เรียกว่า blockchain
โดยการทำการบรรจุข้อมูลว่า นาย A ได้ส่งเงินไปให้นาย B แล้วส่งออกไป
คนที่ยอมเอาคอมพิวเตอร์มาเชื่อมกับระบบเพื่อช่วยทำการยืนยัน transaction
ที่เกิดขึ้นนี้โดยการถอดสมการ และทำการปิดผนึกรายการตามจำนวนที่กำหนดไว้
หรือ 1 บล็อกจะได้รับ token ที่เรียกว่า Bitcoin เป็นค่าตอบแทน
 
เพื่อทำการเริ่มต้นบล็อกใหม่ โดยทุกเครื่องในระบบจะรับรู้ข้อมูลนี้ต่อกันเป็นสาย
โดยไม่มีการลบข้อมูลเก่าทิ้ง จึงเป็นที่มาของสิ่งที่เรียกว่าระบบ blockchain
Blockchain มันเป็นวิวัฒนาการที่เกิดขึ้นมาตลอดทางของระบบคอมพิวเตอร์
แต่สิ่งเดียวที่คนก่อนหน้าไม่สามารถข้ามกำแพง ที่จะนำ blockchain มาใช้
ในการส่งต่อเงินตราดิจิตอลได้ ก็คือ The Byzantine generals problem 
 
สมมุติว่า มีกองทัพที่นำโดยแม่ทัพต่างๆ มาล้อมเมืองข้าศึกที่แข็งแรง
เป็นไปไม่ได้ที่จะใช้แม่ทัพคนใดคนหนึ่งฝ่าข้ามกำแพงเมืองนี้ไปได้
จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือในการบุกของแม่ทัพทุกคนพร้อมกัน
แต่ปัญหาคือ แม่ทัพแต่ละคนก็อยู่ในค่ายที่ล้อมเมืองตามทิศต่างๆ
 
วิธีเดียวที่จะสื่อสารถึงกันได้ก็คือ พลเดินสาร เมื่อแม่ทัพคนหนึ่งตัดสินใจว่า
เค้าจะบุกเข้าไปในเมืองพรุ่งนี้ในเวลาย่ำรุ่ง เค้าจะต้องส่งสารนัดนี้ออกไป
แต่จะแน่ใจได้อย่างไรว่าทุกคนจะได้ทำตามสารนั้นโดยพร้อมเพรียงกันเพื่อให้การบุกนั้นสำเร็จ
 
เพราะแม่ทัพคนอื่นอาจจะตอบว่าได้ บางคนอาจจะตอบว่ายังไม่พร้อมขอเป็นช่วงกลางคืน
ซึ่งแม่ทัพคนที่ 1 ก็ต้องส่งสารไปหาแม่ทัพที่ตอบว่าได้ เพื่อเปลี่ยนแปลงเวลา
และต้องส่งไปยืนยันกับแม่ทัพที่ขอเปลี่ยนเวลาเป็นตอนเย็นว่าได้ตามนั้น
และมีความเป็นได้ที่พลเดินสารจะถูกข้าศึกในเมืองลอบจับ
และแปลงสารนั้นเป็นอย่างอื่น ทำให้การบุกโดยพร้อมเพรียงเกิดขึ้นไม่ได้
 
ปัญหาความเชื่อใจว่า ข้อมูลที่ทุกคนได้รับนั้นมีความถูกต้องในเวลาเดียวกัน
 


Wikipedia
 
ผู้ที่แก้ไขปัญหานี้ในเชิงคอมพิวเตอร์ เราก็ยังรู้จักเค้าเพียงแค่นามแฝงเค้าว่า
Satoshi Nakamoto เป็นผู้ที่เริ่มสิ่งข้อมูลและทำการปิดผนึกบล็อก
และรับ 50 bitcoin แรกไป โปรแกรมนี้จะสิ้นสุดเมื่อมีการขุดพบทั้ง 21 ล้านเหรียญ
Bitcoin จึงมีคุณค่า เพราะว่ามันเป็นของที่มีจำนวนจำกัดโดยความตั้งใจแรก  
 
และเพื่อป้องกันปัญหาเหรียญเฟ้อ เนื่องจากความสามารถของคอมพิวเตอร์สูงขึ้นทุกปี
ความยากของสมการในการปิดบล็อกนั้นจะมีความซับซ้อนมากขึ้น
ตามจำนวนครั้งที่คอมพิวเตอร์พยายามเข้ามาแก้สมการต่อวินาที เรียกว่ากำลังขุด
เครื่อง miner ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ จึงมีค่า Hash ที่สูงมาก
 
นอกจากนี้ทุกๆ 4 ปี จะมีสิ่งที่เรียกว่า halving ที่ทุกครั้งที่มีการปิดผลึกบล็อกได้
จำนวนเหรียญที่ได้รับต่อครั้งจะลดลงครึ่งหนึ่งจากช่วงแรก 50, 25, 12.5, 6.25, 3.125
ไปจนค่าใกล้อนันต์ ทำให้อาจจะใช้เวลาเป็นร้อยปี กว่าที่เหรียญสุดท้ายจะถูกขุดขึ้นมา
และนั่นก็คือความเป็นมาของเหรียญดิจิตอลที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก
 
การที่ bitcoin นั้นหายาก มีจำนวนจำกัด แก้ไขเปลี่ยนแปลงไม่ได้
และการส่งต่อกันที่ช้าลงเรื่อยๆ จากสมการที่ซับซ้อนขึ้นตลอดเวลา
ทำให้นักพัฒนาบางคนเห็นว่า มันอาจจะเป็นสินทรัพย์ที่ไม่ดีพอต่อการใช้งาน
เค้าได้นำเสนอการปรับปรุงโดยผ่านคณะทำงาน แต่คนส่วนใหญ่ไม่เห็นความเร่งด่วนนี้
 
Vitarik Buterin จึงได้แยกตัวไปทำเหรียญแบบใหม่ ที่ยังอาศัยหลักการเดียวกัน
ที่สร้างความเชื่อใจจากคนจำนวนมากที่เข้ามารับรองธุรกรรม หรือ proof of work
แต่ได้แก้ไขปัญหา 2 ประการ คือ ทำให้เหรียญนั้นเพียงพอต่อการใช้งานโดยผลิตได้ไม่จำกัด
และทำให้มันเป็นมากกว่าเหรียญที่แค่ใช้ส่งต่อกันธรรมดาด้วยสิ่งที่เรียกว่า smart contact
 
ซึ่งจะเพิ่มศักยภาพของการใช้งานเงินแบบดิจิตอลออกไปอย่างไม่มีขีดจำกัด
ตามความสามารถของนักพัฒนา ที่จะจินตนาการว่าจะให้เหรียญนั้นใช้ทำอะไร
ไม่ว่าจะเป็นการฝากกินดอกเบี้ย การกู้ยืม และสิ่งที่ยังเป็นจินตนาการในอนาคต
ซึ่งในยุคที่ Satoshi Nakamoto ได้คิดค้น bitcoin นั้นไม่ได้ออกแบบจุดหมายนี้ไว้
 
 

Investopedia

ethereum หรือเรียกสั้นๆ ว่า ether คือเหรียญที่มีความสามารถนั้น
ช่วงปี 2008 โดยอาศัยโครงสร้างที่อยู่บนระบบของ ethereum
บริษัทหรือกลุ่มคนจำนวนมากทั่วโลกใช้มันสร้างเหรียญของตนเองเพื่อใช้หาเงิน
เรียกอย่างเป็นทางการว่า การระดมทุนผ่าน Initial coin offering (ICO)
 
บริษัทจะได้เงินจากการเสกเหรียญขึ้นมาขายให้กับประชาชนทั่วไป
คนทีซื้อเหรียญไปก็คาดหวังว่า บริษัทจะทำให้เกิดการใช้จ่ายผ่านเหรียญโดยลูกค้า
ผ่านระบบร้านค้าและบริการของตน เมื่อเหรียญนั้นเกิดความนิยม
ก็จะต้องมาหาซื้อเหรียญไปใช้ พวกเค้าก็จะสามารถทำกำไรได้จากจุดนี้
 
แต่เรืองนี้ก็เป็นเพียงทฤษฎี ที่พบว่าเหรียญที่สร้างขึ้นมาไม่มี ecosystem
เหรียญ Ether ที่เคยวางความฝันว่า จะถูกใช้อย่างแพร่หลาย
เพราะการสร้างเหรียญจำเป็นต้องใช้ Ether ไปเผาเป็นค่าธรรมเนียม
จะสร้างความต้องการจนมีราคาแซงหน้า bitcoin ไปได้ ก็ไม่เคยเกิดขึ้น
 
มันคือวิกฤติการณ์ Cryptocurrency ยุคที่หนึ่ง สำหรับคนที่ใช้เงินไปซื้อเหรียญ
 
ปี 2020 เกิดเหตุการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้รัฐบาลทุกประเทศต้อง
แจกเงินเพื่อให้กับประชาชนไปใช้ในการดำรงชีวิตประจำวัน เงินบางส่วนนั้นไม่มีที่ไป
และถูกนำไปเก็งกำไรในเหรียญดิจิตอล เหรียญทุกเหรียญต่างมีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล
พัฒนาไปเป็นระบบแลกเปลี่ยนเงินตราหรือ Defi และทรัพย์สินที่จับต้องไม่ได้หรือ NFT
 
นี่คือฟองสบู่สินทรัพย์ดิจิตอลครั้งที่สอง หรือจะเป็นของจริงที่โลกแบบเดิมจะไม่มีหวนกลับ
เวลาเท่านั้นที่จะตอบคำถามนี้ได้ คนรุ่นเก่าอย่างผมคงไม่อยากที่จะคาดเดา 
ว่าสุดท้ายแล้ว เงินนั้นมันจะหาได้ง่ายแบบที่เราเห็นในข่าวหรือเปล่า
จะมานั่งหลังขดหลังแข็งทำงานกันทำไม แค่มีโทรศัพท์เครื่องเดียวก็หาเงินได้แล้ว




 

Create Date : 27 สิงหาคม 2564
2 comments
Last Update : 31 สิงหาคม 2564 11:28:26 น.
Counter : 948 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณทนายอ้วน, คุณhaiku, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณหอมกร, คุณnewyorknurse, คุณ**mp5**

 

อ่านแล้วก็ยังงงๆ เลยจ้า

 

โดย: หอมกร 28 สิงหาคม 2564 19:38:04 น.  

 

แวะมาเยี่ยมและส่งกำลังใจครับ

 

โดย: **mp5** 3 กันยายน 2564 9:49:28 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


ผู้ชายในสายลมหนาว
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 21 คน [?]




New Comments
[Add ผู้ชายในสายลมหนาว's blog to your web]