Apple has lost a visionary and creative genius, and the world has lost an amazing human being.

But his spirit will forever be the foundation of Apple. 6 October 2011

<<
พฤษภาคม 2551
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
20 พฤษภาคม 2551

กว่าจะเป็นซับไทย by someone(s)





ดูซีรี่ย์เรื่องล่าสุด Love & Farm ไป ช่วงแรกสับสนว่า พระเอกชื่ออะไร
ทาคาชิ ทาเคชิ ทาคานิ taka-ni taka-shi ปนกันกันไปหมด
จนต้องหยุด ไปเปิด wiki ว่าชื่ออะไรกันแน่
หลายคนอาจจะงงว่าทำไม มันถึงแปลได้หลายชื่อขนาดนั้น เพราะอะไร
ก็เพราะคนแปลเรื่องนี้มีหลายคนนะซิ

การที่เราได้ดูตามหลังญี่ปุ่น แบบอาทิตย์ต่ออาทิตย์เกิดขึ้นได้
เบื้องหลัง ต้องขอบคุณคนมากมาย ที่เค้าเอื้อเฟื้อสิ่งเหล่านี้
ตัวไฟล์ที่เค้าอัดมาให้ และที่สำคัญกับคนที่ฟังภาษาญี่ปุ่นไม่ออก
ก็คือ subtitle

ขั้นแรก เราคงต้องขอบคุณคนที่อุตส่าห์นั่งฟังภาษาญี่ปุ่นแปลเป็นภาษาอังกฤษ
ซึ่งนั่นก็หายากแล้ว แต่ที่ยากยิ่งกว่าก็คือ
หาคนมานั่งทำให้ประโยคเหล่านั้น ตรงกับช่วงเหตุการณ์ที่อยู่ในเรื่อง
ไม่ง่ายนะ ที่ต้องมาตัดไปตัดมา เพื่อตัดต่อ timeline ตัวอักษรให้ตรงกับเนื้อเรื่อง

ขั้นที่สอง เราคงต้องขอบคุณเจ้าของเวป ที่เป็นสื่อกลาง
ให้คนนำคนซับภาษาอังกฤษ เหล่านี้มาอัพโหลดขึ้นไป
แล้วทำให้ซับเหล่านั้นอยู่ในรูป text editer ในเวป
เพื่อที่จะให้ทุกคนมาช่วยกันแปล ประโยคเหล่านั้น

ขั้นสุดท้าย เราคงต้องขอบคุณคนมากมายที่เสียสละเวลามานั่ง
แปลประโยคเหล่านั้น เป็นภาษาไทย โดยที่ไม่ได้รับผลตอบแทนใดๆเลย
ซึ่งคนแปลต้องมานั่งดูหนังให้จบกับซับภาษาอังกฤษก่อน
ไม่งั้นเค้าจะจับตัวละคร กับเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้ แปลไปก็ออกทะเล
ถามว่าทำไมคนที่ดูจบไปแล้ว รู้เรื่องแล้ว
ต้องมานั่งหลังขดหลังแข็ง แปลให้คนอื่นเข้าใจด้วย

ซีรี่ย์ความยาว 40 นาที จะมีประมาณ 400-500 ประโยค
ถ้าแปลแบบลื่นไหล ก็น่าใช้เวลา ประโยคละหนึ่งนาที
ถ้าแปลคนเดียวก็ใช้เวลาเกือบทั้งวันแล้ว
ไม่นับเวลาที่ต้องย้อนกลับไปดูให้แน่ใจอีก ว่าประโยคนี้ใครเป็นคนพูด
อารมณ์ประมาณไหน

ความยากของภาษาอังกฤษคือมันใช้คำแทนตัวที่แคบมาก
I , you, he, she มันไม่สามารถแปลว่า ฉัน คุณ เขา เธอ แค่นั้นหรอก
เช่น เราคงไม่เรียกพ่อว่าคุณหรอกจริงไหม และไม่เรียกตัวเองว่าฉันกับอาจารย์
หรือคำว่า yes สั้นๆ บางทีก็แปลได้หลายแบบมาก ถ้าแปลว่า ใช่ คำเดียว มันก็ไร้ความหมายกับเรื่อง

การแปลก็ไม่ใช่ว่าอาศัยภาษาอังกฤษ อย่างเดียว
เพราะบางทีก็โดนทับศัพท์ญี่ปุ่นเป็นภาษาอังกฤษดื้อๆ
เนื่องจากคำบางคำเป็นคำเฉพาะ ไม่มีคำแปล จะทำยังไงให้คนอื่นเข้าใจอีก
เช่น เรื่อง Shimokita Glory day พระเอกชื่อ ยูตะเป็น ronin student
ก็พอจะเข้าใจความหมาย จากเนื้อเรื่องนะ แต่จะแปลว่าอะไรล่ะ
นักเรียนโรนิน ก็ดูเหมือนนักเรียนนินจาไปซะอีก

สำนวนการแปล ก็ต้องไม่ใช่ประโยคต่อประโยค
มันต้องแปลตามเนื้อเรื่องที่ผ่านไปด้วย ไม่งั้นมันจะไม่ลื่นไหล
ประมาณว่าขณะที่คุณแปลประโยคนั้น คุณต้องจำเนื้อเรื่องตอนนั้นได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น
ถ้าเป็นการสนทนาของคนสองคน จะง่าย
แต่พอเป็นสามคนขึ้นไปจะยากมาก เพราะเราจะไม่รู้ว่าประโยคไหน ใครพูดกับใครกันแน่

การแปลก็ต้องสะกดให้ถูก เราคงไม่อยากให้คนดูหัวเราะเยาะว่า เราสะกดคำนี้ไม่ถูก
ฉนั้นนอกจากเปิด dict ภาษาอังกฤษ ยังต้องเปิดพจนานุกรมด้วย เพราะบางคำก็ยาก
เนื่องจากเราไม่ค่อยได้ใช้ คำบางคำก็ง่ายจนเราผิดบ่อยๆ
เวลาพิมพ์ เราก็ต้องเช็คประโยคให้ถูกต้องด้วย
ไม่ใช่นึกว่าว่าพิมพ์ถูกแล้ว แต่จริงๆ พิมพ์ซ้อนกันจนอ่านไม่ออก

ข้อยกเว้น ของการช่วยกันแปลแบบนี้ก็คือ จะไม่แปลหนังที่มีเจ้าของลิขสิทธิ์ในเมืองไทย
ฉนั้นห้ามเข้ามาว่ากันนะ ผมเพียงต้องการบอกให้คนบางคนที่ดูซีรี่ย์หรือการ์ตูน
หลายๆเรื่อง ที่ไม่มีลิขสิทธิ์ว่า
ความสนุก เสียงหัวเราะ ที่คุณได้จากหนังความยาว 30-40 นาทีนั้น
เบื้องหลังซับไตเติ้ลที่ทำให้คุณเข้าใจเรื่องราวนั้น
มีคนหลายคนที่เสียสละ เวลา และแรงกาย มาทำให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น

ผมไม่เคยใส่ชื่อลงไป เพื่อขอเครดิต แต่เวลาที่เราเช็คงานว่าโอเคไหม
แล้วเห็นระบบมัน generate ลงไปในซับด้วยชื่อ login ว่าเราเป็นคนแปล
ตอนจบเรื่อง มันก็รู้สึกหายเหนื่อยแล้วล่ะ
ความจริง บทสนทนา มันก็แปลไม่ยากหรอก
ลองดูตัวอย่าง


And that the Sun will reappear after being blocked by the Moon

แล้วดวงตะวันก็จะฉายแสงอีกครั้ง หลังพ้นเงามืดแห่งจันทร์

อาจจะเกิดอาการคลื่นใส้เล็กน้อย
เพราะตอนเด็กๆ เผอิญบ้านอยู่ติดกับโรงลิเก 555



Create Date : 20 พฤษภาคม 2551
Last Update : 18 มิถุนายน 2553 9:32:43 น. 2 comments
Counter : 1487 Pageviews.  

 
ขอบคุณค่ะ ได้ความรู้อีกเยอะในเรื่องนี้
คุณพูดถูกค่ะ เป็นนักแปลอยู่ แต่มาเจอทำซับนี่ถึงตายได้เลย มันเป็นเรื่องทั้งศาสตร์ ศิลป์ และอารมณ์ร่วมนะคะว่าอย่างนั้น (ไม่ลิเกไปนะ)


โดย: จันทร์หลงเงา วันที่: 20 พฤษภาคม 2551 เวลา:23:09:04 น.  

 
ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมค่ะ เข้าใจถูกแล้วล่ะค่ะไดอะรี่ของอายะที่เราแปลไปเป็นต้นกำเนิดของซีรีย์+หนังเรื่อง 1 Litre of Tears ค่ะ แต่ไดอะรี่นี้เป็นเรื่องจริงที่อายะเขียนช่วงที่เธอยังมีชีวิตอยู่ค่ะ ว่างๆแวะเข้าไปอ่านได้นะคะ จะพยายามแปลให้จบถ้าเป็นไปได้ อย่าพลาดซีรีย์เรื่องนี้เชียวนะคะ ถึงจะเศร้าร้องไห้ทุกตอน แต่คุณจะได้อะไรไปมากกว่าการนั่งร้องไห้แน่นอนค่ะ

อ่านเรื่องข้างบนแล้วเข้าใจเลยค่ะ การแปลมันเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง บางทีนั่งแปลไปแม้แต่ศัพท์ง่ายๆที่รู้ความหมายดีอยู่แล้วยังต้องเปิดดิกเลย เพื่อให้ได้คำที่สละสลวย คนอ่านเข้าใจ บางทีดูดิกอังกฤษ-ไทย แล้ว ยังต้องเช็คความหมายอีกทีจากดิก อังกฤษ-อังกฤษเลยค่ะ

เป็นคนหนึ่งที่ชอบดูหนังซับอ่ะ นับถือคนทำซับจริงๆค่ะ นอกจากจะแปลให้สละสลวยแล้วยังต้องดูเรื่อง timing อีกอ่ะ ไม่งั้นซับไม่ทันคำพูดอีก เหนื่อยเนอะ แต่สู้ๆนะคะนักแปลซับทั้งหลาย งานของคุณมีคุณค่ายิ่งค่ะ (ลิเกไปมั้ยคะ)

ป.ล. เห็น title บล็อกแล้วพาลคิดถึงเพลงนี้เลย เคยถามตัวเองแบบนี้อยู่บ่อยๆ


โดย: xinru (Twin dolphin ) วันที่: 21 พฤษภาคม 2551 เวลา:9:47:24 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ผู้ชายในสายลมหนาว
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 21 คน [?]




New Comments
[Add ผู้ชายในสายลมหนาว's blog to your web]