นั่งรถไฟไปดูดอกกระเจียว (9)
จากนั้นรถไฟก็วิ่งเข้าสู่สถานีโคกสลุง ถิ่นฐานของชุมชนไทยเบิ้ง ซึ่งพัฒนาหมู่บ้านให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงศิลปวัฒนธรรมแบบโฮมสเตย์ โดยผู้มาเยือนจะได้สัมผัสกับวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวไทยเบิ้ง ที่ยังคงรักษาวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณีที่สืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน เช่น ภาษาพูด ศิลปะพื้นบ้าน เข่น การรำโทน การเล่นเพลงพื้นบ้าน และย่ามไทยเบิ้งที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนที่อื่น
เมื่อมีการสร้างเขื่อนส่งผลให้กระแสวัตถุนิยมหลั่งไหลเข้าสู่หมู่บ้าน ผู้เฒ่าผู้แก่ในหมู่บ้านจึงร่วมกันหาแนวทางในการฟื้นประเพณี และวัฒนธรรมของชาวไทยเบิ้งขึ้นมาใหม่ หนึ่งในนั้นคือการจัดตั้ง พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านไทยเบิ้ง เพื่อให้ผู้สนใจได้เข้าเยี่ยมชม
รถไฟวิ่งผ่านสถานีมะนาวหวาน เข้าสู่สะพานที่พาดผ่านเขื่อนดินขนาดใหญ่ นั่นก็คือเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ที่สร้างขึ้นตามแนวพระราชดำริของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเพื่อป้องกันปัญหาน้ำท่วม เริ่มดำเนินการก่อสร้างในวันที่ 2 ธ.ค. 2537 ใช้เวลาดำเนินการก่อสร้าง 5 ปี
วันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2541 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานนาม เขื่อนแห่งนี้ว่าเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ อันหมายถึงเขื่อนแม่น้ำป่าสักที่เก็บกักน้ำ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระนาง เจ้าสิริกิติ์ และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ทรงทำพิธีเปิดเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ในวันที่ 25 พ.ย. 2542
ตะวันชิงพลบ ผมสะดุ้งตื่นจากความฝัน เพราะในความเป็นจริงนั้น เป็นไปไม่ได้ที่เราจะลงจากรถไฟเพื่อเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ เนื่องจากรถไฟบ้านเราไม่ได้มีมาทุกครึ่งหรือหนึ่งชั่วโมง เหมือนดั่งเช่นในต่างประเทศ สิ่งที่เขียนล้วนมาจากจินตนาการทั้งหมด
แต่สักวันหนึ่งคงจะมีวันที่เราจะได้นั่งรถยนต์ไปตามสถานที่ต่างๆ เหล่านี้ เพื่อเติมเต็มบรรยากาศและประวัติศาสตร์ของเส้นทางรถไฟสายหนึ่ง ที่จะพาคุณเดินทางจากที่ราบสูงภาคอีสานลงสู่พื้นที่ราบภาคกลาง พาขบวนทะลุผ่านอุโมงค์ เลียบเชิงผา มุ่งหน้าผ่านสันเขื่อนขนาดใหญ่
แล้วจะมีเหตุผลอันใดที่จะรั้งไม่ให้คุณคิดจะเดินทางไปบนเส้นทางรถไฟสายนี้
เพราะนี่เป็นทางรถไฟสายพิเศษ เพียงหนึ่งเดียวของเมืองไทย ก็เป็นไปได้
Create Date : 17 สิงหาคม 2553 |
|
8 comments |
Last Update : 6 มีนาคม 2555 10:39:15 น. |
Counter : 1101 Pageviews. |
|
|