Apple has lost a visionary and creative genius, and the world has lost an amazing human being.

But his spirit will forever be the foundation of Apple. 6 October 2011

<<
กรกฏาคม 2553
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
28 กรกฏาคม 2553

นั่งรถไฟไปดูดอกกระเจียว (1)




ช่วงนี้ไม่มีอะไรที่โดดเด่นไปกว่าการไปดูดอกกระเจียวหรอกจริงไหม?
และก็คงไม่มีใครเถียงว่า วิธีการเดินทางที่คลาสสิคที่สุดก็คือ การนั่งรถไฟ
หากคุณคิดเช่นนี้ได้ก่อนปี 2549 ก็นับว่าโชคดีมาก เพราะในยามนั้น
การรถไฟได้เปิดรถไฟสายพิเศษ หัวลำโพง-วะตะแบก ในฤดูกาลการท่องเที่ยว

น่าเสียดายที่ผมมานึกได้หลังจากนั้นหลายปี ในวันนี้จึงมีเพียงการเดินรถไฟสายชานเมือง
จากแก่งคอยสู่บัวใหญ่ ขึ้นล่อง วันละสองขบวน โดยเที่ยวแรกนั้นออกจากแก่งคอย
ในเวลา 5.30 น.และขบวนต่อไปจะออกเดินทางในเวลา 11.30 น.
นั่นหมายความว่า หากคุณต้องการไปขึ้นรถไฟขบวนแรก

คุณต้องจับรถไฟที่ออกจากกรุงเทพเที่ยวที่ช้าที่สุด ในเวลาราวเที่ยงคืน
เพื่อไปถึงที่สถานีแก่งคอยในเวลาราวตีสอง แล้วหาที่เงียบสงบนอนรอข 433
ซึ่งเป็นไปได้สำหรับเด็กวัยรุ่นที่ยังมีพลังอย่างล้นเหลือ
แต่สำหรับคนแก่ๆ เช่นผมนั้น คงเป็นไปไม่ได้

นั่นจึงเป็นที่มาของการไปเที่ยว Primo Posto น้ำตกเจ็ดสาวน้อย หรืออุโมงค์ต้นไม้
จะได้กลับมาพักที่อำเภอแก่งคอย เพื่อจับรถไฟสายทุ่งดอกกระเจียวนี้ให้ทัน



4.30 น. เช้าวันที่ 6 มิถุนายน 2553 ผมตื่นนอนเช้าผิดปกติในโรงแรมแห่งหนึ่ง
หลังจากนั้นก็เดินทางไปยังสถานีรถไฟ ในเวลารุ่งสางที่อากาศยังคงเป็นม่านหมอกสีดำ
ขึ้นไปยังสถานีเพื่อขอตั๋วรถไฟฟรีเพื่อประชาชน ปลายนั้นคือสถานีวะตะแบก
หลังจากถ่ายรูปสถานีและเจ้าพาหนะจนพอใจ ก็กระโดดขึ้นไปจับจองที่นั่งที่มีอย่างเหลือเฟือ

อากาศยามเช้าของต่างจังหวัดที่ผมไม่เคยสัมผัสมานานแสนนาน ไหลพัดผ่านหน้าต่างเข้ามา
แต่ความเร็วรถไฟที่วิ่งกระโดกกระเดกไปมานั้นดูจะช้ามาก ผมว่าซัก 20 ก.ม./ช.ม.
ผมเริ่มกังวลใจ จะไปถึงกี่โมงกันเนี่ย และแล้วรถไฟสายเงียบเหงาก็มาจอดสถานีแรก
บนเส้นทาง นั่นก็คือที่สถานีเขาคอก มีคนบางตาเพียง 2-3 คนที่ก้าวขึ้นมาบนรถ

หลังจากนั้นรถก็หยุดที่ที่หยุดรถเขาหินดาด สถานีถัดไปคือสถานีหินซ้อนคนก็ยังบางตา
หลังจากวิ่งอย่างเชื่องช้ามาราวหนึ่งชั่วโมง แสงแดดเริ่มสาดส่องให้เห็นวิวสองข้างทาง
ผ่านสถานีแก่งเสือเต้น ที่หยุดรถเขาสูง รถก็มาจอดรับคนที่สถานีเล็กแต่มีชื่อเสียงโด่งดัง
นั่นก็คือที่หยุดรถเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ อันเป็นสถานีปลายทางในเส้นทางสายดอกทานตะวัน

จากที่นี่ รถไฟเริ่มทำความเร็วได้เหมือนเส้นทางปกติ และราบเรียบมากกว่าที่ผ่านมา
ทำให้เห็นความงามของเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ที่คงงดงามมากในยามน้ำหลาก
แต่วันนี้รถไฟวิ่งผ่านสันเขื่อนอันแห้งแล้ง เบื้องล่างมีแต่ภาพฝูงวัวที่ลงไปกินหญ้า
รถไฟวิ่งผ่านสะพานแล้วสะพานเล่า ที่ตัดผ่านทุ่งน้ำของตัวเขื่อน

ซึ่งหากเลือกได้ควรจะนั่งฝั่งขวาเพราะจะถ่ายภาพได้สวยงามกว่า
เนื่องจากไม่ติดภาพเสาไฟที่วิ่งคู่ขนานทางไปตลอดเส้นทาง





 

Create Date : 28 กรกฎาคม 2553
7 comments
Last Update : 6 มีนาคม 2555 10:34:05 น.
Counter : 1405 Pageviews.

 

ถ้าไปทางชัยภูมิก็จะได้ชมวิว เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์

ถ้ามาทางโคราชก็ได้วิว เขื่อนลำตะคองค่ะ

 

โดย: tuk-tuk@korat 28 กรกฎาคม 2553 15:49:04 น.  

 

เคยมาชมดอกกระเจียว 3-4 ปีติดๆ กันเลยค่ะ
ในช่วงที่การรถไฟ ฯ ยังมีการจัดท่องเที่ยวชมที่นี่
ปัจจุบันไม่มีแล้ว ไม่ทราบสาเหตุ อาจจะเป็นเพราะไม่มีรถวิ่งหรืออย่างไรนี่แหละค่ะ เสียดายจัง

2 ปีแรก ยังได้ขึ้นไปชมทั่วทั้งดอกกระเจียวและทุ่งหินงามต่างๆ
3 ปีหลังนี่ไปเพื่อซื้อผ้าอย่างเดียวเลยค่ะ
ผ้าทอของชัยภูมิมีลวดลายสวยไม่เหมือนที่ไหนนะคะ
ป้าแอดไปซื้อมาครั้งละหลายพันบาท ซึ่งก็ได้ไม่กี่ชิ้น
ถ้าเป็นผ้าฝ้ายมัดหมี่ จะอยู่ที่ถุงละ 300-350 บาท ตัดเสื้อได้ 1 ตัว
ถ้าเป็นผ้าไหม ถุงละพันกว่าบาท แล้วแต่ลวดลาย

นี่ไม่ได้ไปมา 5 ปีแล้วมังคะ เพราะถ้าไปเองต้องไปต่อรถสองแถวที่สถานีวะตะแบกนั่นแหละ

ถ้ารถไฟฯ จัด จะมีรถมารับถึงหน้าสถานีเลย สะดวกมาก

 

โดย: addsiripun 28 กรกฎาคม 2553 16:42:25 น.  

 

ดีจังครับไปรถไฟ ได้ชมวิวไปด้วย ปีนี้พลาดซะแระ เจอกันปีหน้านะกระเจียว

ชอบใจ ถูกใจ blog นายหัว ก็อย่าลืมไปให้กำลังใจกันนะครับ

 

โดย: นายหัวเด่น 28 กรกฎาคม 2553 17:51:06 น.  

 

เท่าที่ไปเที่ยวมาทั้งสองทริป การจัดการจะแตกต่างกัน คือ

1.รถไปเที่ยวทุ่งทานตะวัน การจัดการมีไม่มาก แค่หยุดข้างทางให้ชมทุ่งทานตะวัน แล้วเลยไปเที่ยวสะพานรถไฟเหนือเขื่อนป่าสักเท่านั้น

2.รถที่พาไปเที่ยวดูดอกกระเจียว เท่าที่เคยไป จะเลี้ยงอาหารเที่ยงด้วยการพาไปที่ร้านจองกันไว้ก่อน
แล้วพาไปที่ทำการอุทยาน จากนั้นใครมีตั๋วก็จะได้นั่งรถสองแถวขึ้นไปดูดอกกระเจียว
และกลับลงมาดูและซื้อของ แล้วกลับไปสถานีเพื่อกลับกรุงเทพฯ

จริงๆ แล้วทั้งสองทริปนี้การรถไฟฯ ไม่ได้ทำเอง แต่มีเอกชนกับเจ้าหน้าที่การรถไฟฯ รับที่จะจัดทำขึ้นมาเอง
ภายหลังการจัดการไม่ดีถูกสอบสวนเรื่องการทุจริตก็เลยยกเลิกไป

 

โดย: addsiripun 28 กรกฎาคม 2553 19:05:57 น.  

 

ตู้เย็นถ้าจะให้แนะนำ ขนาดก็แล้วแต่ว่าไปตลาดกี่วันครั้งค่ะ

ตอนนี้หากจะแนะนำต่อ ให้เล็งความขนานของบานตู้กับตัวตู้ค่ะ

พอดีตู้นี้ซื้อเพราะ อยากได้มาก และตอนนั้นเปิดร้านขายกาแฟ เลยทำพายสต็อคไว้ขาย เลยอ้อน เพื่อจะได้ตู้เย็นขนาดแบบนี้

แต่ ... ได้ใช้ก็มีความสุขมากค่ะ ชอบซะอย่าง

 

โดย: tuk-tuk@korat 28 กรกฎาคม 2553 22:16:48 น.  

 

พอจะมีตารางเวลาไหมครับ อยากไปบ้าง
คิดในใจว่าขับรถออกจากบ้านสักตีสอง ไปดักขึ้นที่สถานีแก่งคอยจะได้ไหม

แล้วขากลับก็นั่งรถไฟกลับมาที่แก่งคอยเหมือนเดิม

 

โดย: NATSKI13 29 กรกฎาคม 2553 15:26:08 น.  

 

น่าสนใจจังเลยอ่า

 

โดย: pukboong 29 กรกฎาคม 2553 22:18:20 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


ผู้ชายในสายลมหนาว
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 21 คน [?]




New Comments
[Add ผู้ชายในสายลมหนาว's blog to your web]