Diary : Snapdragon(s) travel in Canada
 
มิถุนายน 2557
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
19 มิถุนายน 2557
 
 

สวยเหมือนภาพวาด ...อุทยานแห่งชาติ Banff (ตอนที่ 3 Icefield Parkway)

 
ตอนที่ 3 Icefield Parkway
 
ออกจากชุมชน 2 แห่งของอุทยานแห่งชาติ Banff ไปแล้ว แต่ highlight ของอุทยานฯ Banff ยังมีต่อค่ะ ไม่ใช่ชุมชนที่มีผู้อยู่อาศัยแต่เป็นเส้นทางขับรถที่สวยที่สุดติดอันดับโลก (กล่าวกันว่า)สวยที่สุดในแคนาดา นั่นคือ Icefield Parkway ค่ะ
 
 
Icefield Parkway หรือ Highway 93 นี้อยู่บนอุทยานแห่งชาติ 2 แห่งคือ Banff National Park ซึ่งไปสุดที่บริเวณ Columbia Icefield แล้วจะเข้าเขต Jasper National Park ค่ะ
เป็นเส้นทางเชื่อมระหว่าง Lake Louise และ Jasper ระยะทาง 232 กม. ไม่มีผู้คนอาศัย ตลอดเส้นทางจำเป็นต้องมีใบอนุญาต (Park pass) ค่ะ
 
 
 
ช่วงที่ 1 จุดท่องเที่ยวบนถนน Icefield Parkway
 
Crowfoot Glacier เป็นจุดแรกที่จะได้ลงไปเดินกันค่ะ ห่างจาก Lake Louise 32 กม. Crowfoot แปลตรงตัวคือตีนกา เมื่อก่อนจะมองเห็นเป็น 3 ขาชัดเจน แต่เนื่องจากโลกร้อนขึ้น ทำให้ปัจจุบันขาของกาจะละลายหายไปขาหนึ่ง 
และ glacier นี้จะมองเห็นก็เฉพาะฤดูร้อนเพราะหิมะที่ตกใหม่ๆจะปิดบังน้ำแข็งเหล่านี้ จนเราดูไม่ออก ต้องรอจนกว่าหิมะใหม่จะละลาย ทั้ง Glacier และหิมะที่ละลายจะไหลลงแม่น้ำ Bow ที่อยู่เบื้องล่าง
 
 
 
หิมะตกปิดป้ายหมดเลยค่ะ ไปปัดๆออกจะได้อ่านรายละเอียด
 
ภาพตีนกาถ่ายเมื่อปี 1918 และปัจจุบัน crowfoot glacier ก็ยังคงมีขนาดใหญ่ หนาประมาณ 50 เมตร ภาพที่สองคือประมาณขนาดให้ดูเมื่อเทียบกับตีก 11 ชั้นของโรงแรม Banff Spring Hotel หากมาสร้างบน glacier นี้
 
เมื่อออกจาก Crowfoot Glacier ให้เตรียมตัวชมวิวติดๆกันเลยค่ะ เพราะจุดถัดไปคือ Bow Lake รองรับน้ำมาจาก glacier บริเวณนี้ค่ะ
 
แถบนี้เป็นที่สูงเกือบ 7 พันฟุต ทะเลสาบจะกลายเป็นน้ำแข็งในฤดูหนาวและละลายช้าค่ะ รูปนี้วันที่ 28 เมษายน ทะเลสาบยังขาวสนิทเลยค่ะ
 
ปลายเดือนตุลาคมเข้าสู่ต้นฤดูหนาวของแถบนี้ ทะเลสาบบางแห่งงดให้เข้าชมแล้วค่ะ หิมะตกแล้วแต่น้ำในทะเลสาบยังต้องใช้เวลากว่าจะเป็นน้ำแข็ง ภาพทะเลสาบสีเขียวตัดกับหิมะในฤดูนี้สวยมากค่ะ
 
 
ปลายๆทะเลสาบจะมองเห็นอาคารสีแดงคือ Num-Ti-Jah Lodge มีของขายจิปาถะค่ะ เปิดเฉพาะฤดูร้อน แวะเข้าไปชมวิวอีกด้านหนึ่งของ Bow Lake พร้อมกับมีทางเดินไปชมน้ำตก (Bow Glacier Falls Trails) 3.2 กม. ความสูง 150 เมตรค่ะ จุดนี้เป็นต้นน้ำของแม่น้ำ Bow ที่ไหลผ่าน Banff ลงไป Calgary ค่ะ
 
Bow Glacier ค่ะ
 
 
 
แผนที่ไปชมต้นน้ำค่ะ
 
 
 
 
ชมวิวที่ Bow Lake จนจุใจแล้วไปต่อค่ะ ประมาณ 2 กิโลเมตรก็จะถึง Bow Summit [altitude 2,088 เมตร (6,850 ฟุต)] ซึ่งเป็นจุดที่สูงสุดของ Icefield Parkway เป็นจุดพบกันของ Bow River และ Mistaya River และเป็นมุมที่มองเห็น Peyto Lake ได้สวยที่สุด
จุดชมวิวนี้ต้องเดินขึ้นไปค่ะ มีทางถนนที่เดินใกล้หน่อยแต่ก็ห้ามรถส่วนตัวจอดค่ะ หากเราจอดที่จุดจอดรถเล็ก เดินป่าผสมขึ้นเนินประมาณ 400 เมตร กว่าจะถึง Postcard view point ของแคนาดา คือ Peyto Lake ประมาณครึ่งชั่วโมงค่ะ ไปถึงแล้ววิวคุ้มค่าเหนื่อยค่ะ หากไปในช่วงฤดูท่องเที่ยวคือมิถุนายน-กลางเดือนตุลาคมจะต้องแวะให้ได้นะคะ
 
ทางเดินไปจุดชมวิวก็มีของสวยๆให้ชมบ้างพอสมควรค่ะ
 
 
 
 
 
ลักษณะการเกิดของทะเลสาบนี้ เช่นเดียวกับที่ Lake Louise มองเห็นธารน้ำของ Rock Flour ไหลลงมาเป็นสีขาวขุ่น แล้วมาตกตะกอนในทะเลสาบ มองเห็นเป็นสี turquoise
 
 
 
ออกจาก Bow Summit มาจะเห็น Glacier อีกตัวหนึ่ง เขามีป้ายบอกว่าเป็นรูปนกอินทรีย์ ได้เห็นอยู่ครั้งเดียวค่ะ หลังจากปีนั้นก็ไม่เห็นเอาป้ายมาติดอีก อาจจะเพราะน้ำแข็งละลายจนเกือบไม่เป็นรูปนกกางปีกอีกแล้วค่ะ
 
 
Payto Lake จะมีทางน้ำออกไหลไปทางเหนือสู่แม่น้ำ Mistaya แล้วกลายเป็นทะเลสาบ Mistaya ก่อนจะถูกบีบให้ไหลผ่านช่องแคบๆซึ่งเกิดการการที่น้ำได้กัดเซาะหินปูนจนกลายเป็นร่องลึก เรียกว่า Mistaya Canyon ผนังที่ถูกกัดเซาะเรียบเป็นมันเลยค่ะ จุดนี้เป็นจุดยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวเข้ามาถ่ายรูปและชมกระแสน้ำเชี่ยวกันค่ะ
 
 
 
 
 
 
Waterfowl Lake เป็นอีกจุดหนึ่งที่อยู่ริมถนน ที่ให้สีของน้ำเป็นสีฟ้าสวยงามไม่แพ้ทะเลสาบที่อื่น จอดรถปุ๊บก็มีนกน้อยกรูออกมาเป็นฝูงรอรับอาหาร ยิ่งโปรยไปก็ยิ่งบินออกมา พออาหารหมดก็หายไปจนหมดค่ะ
 
 
คาดเดาไม่ได้ว่าวันที่เราไปชมจะได้เห็นทะเลสาบสีอะไรค่ะ แต่สวยทุกวันค่ะ
 
 
Waterfowl Lake ฤดูใบไม้ร่วงค่ะ
 
หันทิศใต้
 
ปลายเดือนเมษายน ทะเลสาบก็ยังเป็นน้ำแข็งเหมือนที่อื่นค่ะ
 
ออกจากทะเลสาบมาสักครู่จะเจอภูเขา Cirrus Mountain รูปร่างเป็นกำแพงขนาดยักษ์ ข้างบนมีน้ำตกเล็กๆจำนวนมาก และหากเล็งๆดีๆจะมองเห็นจุดสีขาวเคลื่อนไปมานั่นคือแพะภูเขา โดยมากจะไม่ลงมาให้เห็นตามที่ราบค่ะ กล้องต้องซูมได้มากๆหน่อยค่ะ เพราะถ่ายภาพมาเห็นเป็นแพะเครายาวแต่จะไม่ค่อยชัดค่ะ
 
Mountain Goat ใหญ่เท่าจริงพร้อมลูกค่ะ เห็นชัดๆแบบนี้เองค่ะ สตาฟไว้นิ่งเลย Smiley
 
พยายามซูมเต็มที่ได้เท่านี้ค่ะ หากจะมาชมสัตว์ป่ากัน เตรียมอุปกรณ์มาพร้อมจะได้ภาพสวยๆกว่านี้ค่ะ หันมาสบตาด้วย Smiley
 
 
น้ำตกจากหน้าผาค่ะ
 
เลยฤดูร้อนไปน้ำตกก็ไม่ตกแล้วค่ะ ค้างบนผนังกันเห็นๆ
 
หากดูแผนที่บน GPS ตามไปด้วย เมื่อเจอลักษณะถนนที่โค้งมากๆแบบในภาพ คือ Big bend แสดงว่าเรากำลังจะเตรียมตัวไต่ระดับเขาสูงชันทันทีค่ะ ต้องไปตั้งหลักไกลๆ จะได้มีแรงส่งแบบรถไฟเหาะได้ค่ะ พอขึ้นไปปุ๊บจะเจอจุดจอดรถทันทีขวามือค่ะ เห็นรถหลายคันวิ่งเลยจุดนี้ไป แล้วเบรคฝุ่นตลบเพื่อมาจอดชมวิว อันตรายค่ะ ฉะนั้นเตรียมตัวจอดดีๆนะคะเป็นหน้าผาค่ะ ที่จอดกว้างแต่ก็เห็นรถเลยไปหลายคัน ไปกลับรถมาก็มีค่ะ
 
ทางที่เราขึ้นมาเป็นสะพานข้ามระหว่างช่องเขา หากไม่มีสะพานเราคงต้องไต่ขึ้นลงหลายรอบหลายรอบเลยค่ะ
 
ที่จอดชมวิวและวิวที่เห็นค่ะ
 
 
ทางที่เราเพิ่งขึ้นมาเมื่อกี้ รวดเดียวสูงเท่านี้เลยค่ะ อากาศดีลมเย็นสบายไม่แรงมากเท่าช่องเขาหลายๆแห่ง
 
ข้างๆจุดนี้จะมีน้ำตก Bridal Veil Falls แต่ไกลหน่อยค่ะ ต้อง zoom มาใกล้ๆ
 
เข้าเขตอุทยานแห่งชาติ Jasper เห็นป้ายแต่ไกลค่ะ บริเวณ Parker Ridge ซึ่งเป็นจุดท่องเที่ยวที่นิยมเดินไปชม Glacier ในมุมสูง มีจุดรถจอดริมทางซึ่งมีรถหลายคันจอดอยู่ แต่ไม่เห็นเจ้าของเลยค่ะ ขึ้นเขากันหมดค่ะ หากเตรียมเวลาและร่างกายมาอย่างดี ก็ตามเขาไปชมกันค่ะ แต่ก็เดินไกลมากพอสมควรคือ 5.9 กม. ผ่านบริเวณนี้ไปก็จะเข้าเขต Columbia Icefield ซึ่งอยู่ในเขตอุทยานฯ Jasper แล้วค่ะ
 
 
Amazing วิวบน Parker Ridge Trails (roadtrip-planner.com)
 
กำลังเข้าเขต Jasper National Park ค่ะ
 
 
เริ่มเห็นป้าย Icefield Center
 
Columbia Icefield (Athabasca Glacier)
นักท่องเที่ยวที่มาเส้นทางนี้ต้องหยุดที่นี่ทุกคนเพื่อมาชม Columbia Icefields ซึ่งเป็นทุ่งน้ำแข็งขนาดใหญ่และเข้าไปชมได้ง่ายที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง  โดยมี Athabasca Glacier เป็นแผงอยู่ด้านหน้า เข้าไปสัมผัสได้โดยการเดินเท้าไปจากถนน หรือหากต้องการขึ้นไปชมทุ่งน้ำแข็งอย่างใกล้ชิด สามารถซื้อทัวร์ 90 minute glacier experience ซึ่งจะพาเราขึ้นรถ Ice Explorer 6 ล้อไต่น้ำแข็งขึ้นไปชมข้างบนค่ะ หากเราไม่ได้ซื้อตั๋วมาล่วงหน้า จะมีขายที่ Columbia Icefield Visitor Center มีรถออกเป็นรอบโดยไม่ต้องจองมาล่วงหน้าค่ะ นอกจากนั้นยังมีโรงแรม ภัตตาคาร กิ๊ฟชอป และนิทรรศการเกี่ยวกับ Glacier ภายใน Icefield Center ให้ชมฟรีค่ะ
 
รถไต่น้ำแข็งมีขนาดล้อสูงเกือบเท่าตัวเราค่ะ แต่จอดรอแบบนี้เทียบกับภูเขากลายเป็นรถเล็กไปเลยค่ะ
 
เห็นจุดเล็กๆ 2 จุดข้างซ้าย รถไต่น้ำแข็งกำลังไต่ช้าๆ พานักท่องเที่ยวขึ้นไปค่ะ
 
น้ำแข็งเหล่านี้มีการละลายตลอดเวลาในอัตราที่เร็วค่ะ แต่ละปีน้ำแข็งก็หดตัวสั้นขึ้นทุกที เฉลี่ยประมาณปีละ 5 เมตรค่ะ ระหว่างทางที่เราเดินขึ้นเขานี้ จะเห็นหมุดปักบอกระยะทางที่ glacier เคยคงอยู่ไม่ละลายไปในฤดูร้อน จนถึงปีปัจจุบันจะพบว่าหมุดที่ไม่ได้อยู่บนน้ำแข็งยาวเป็นกิโลเมตรเลยค่ะ เราไปชมรอยแตกของ glacier ซึ่งเขาจะมีป้ายเตือนว่าห้ามกระโดดข้ามหรือเข้าใกล้ อันตรายมากหากตกลงไป เพราะจะช่วยขึ้นมาได้ยาก หากมีเด็กต้องควบคุมตลอดเวลาค่ะ หากดูที่ขอบของทุ่งน้ำแข็งนี้จะเห็นรอยแตกและมี glacial milk ไหลเป็นทางเหมือนน้ำตกย่อมๆเลยค่ะ น้ำไหลเร็วเห็นเป็นสีขาวขุ่นๆ
 
 
ขึ้นไปปลายของ Glacier เหลือคนตัวเท่านี้เองค่ะ
 
เส้นทางขึ้นชม Glacier ค่ะ มีป้ายข้อมูลอธิบายเกี่ยวกับ Glacier บนเส้นทาง จะค่อยๆชันมากขึ้น พร้อมป้ายเตือนตรงจุดสุดวิบากว่า หากคุณมีโรคประจำตัว โรคหัวใจ หรือมีครรภ์ ถ้ารู้สึกอาการไม่ดีอย่าไปต่อจากจุดนี้ แต่พวกเรายังสู้ค่ะ ได้กันมาหลายหอบ ข้างล่างไกลๆนั้นคือทะเลสาบที่ glacier ที่ละลายแล้วเพิ่งไหลลงไปค่ะ เวลาแดดออกได้สีฟ้าทันทีเหมือนที่อื่นๆค่ะ
 
รูปคณะเราเองค่ะ กำลังเดินขึ้นไปชม glacier เหลือตัวเท่านี้ :)
 
นอกจากชม Athabasca Glacier ซึ่งเป็นรูปที่มักจะถูกนำมาใช้เป็นตัวแทนแสดงภาวะโลกร้อน ยังมี Glacier ขนาดใหญ่ขนาบอยู่ข้างๆค่ะ มองเห็นเป็นเนื้อสีฟ้าใสตั้งแต่อยู่บนเขาค่ะ หากไม่เห็นสีฟ้าชัดเจนให้ใช้แว่นกันแดดตัดแสง จะมองเห็นภูเขามียอดสีฟ้าเต็มไปหมดเลยค่ะ
 
ที่ Icefield Center มีโรงแรมบริการ หากมีโปรแกรมไปชม Abraham Lake ในฤดูร้อน พักที่บริเวณนี้จะสะดวกและไม่ไกลมากเกินไปค่ะ เพราะเราจะต้องออกนอกเส้นทาง Icefield ไป-กลับอีกร้อยกิโลเมตร จะทำให้ไม่มีเวลาชม Icefield หรือจะทำให้ต้องรีบเดินทางไปที่ Jasper ทำให้พลาดจุดชมวิวระหว่างจุดนี้ไปจนถึง Jasper ไปอย่างน่าเสียดายค่ะ หากเลือกพักที่นี่และจองล่วงหน้าอย่างน้อยสองเดือน เคยเห็นราคาต่างจากจองใกล้วันเดินทางเป็นเท่าตัวเลยค่ะ
 
ออกจาก Columbia Icefield Center ประมาณ 5 กม.จะมีจุดชมวิว มองเห็นน้ำตก และหน้าผาด้านหลังของ Glacier แต่ก่อนฟรีค่ะ ปีนี้ (2014) เริ่มเปิดบริการ Glacier Skywalk ให้ออกไปชมง่ายๆ แต่น่าหวาดเสียวเพราะพื้นเป็นกระจก และเก็บค่าบริการค่ะ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ที่มีชื่อเสียงในเวลาอันรวดเร็ว จุดชมฟรีก็ยังอยู่แต่ย้ายไปข้างๆแทนค่ะ
 
 
ผ่านไปตอนกำลังสร้างค่ะ เขาให้ชะลอและรถเหลือเลนเดียว ต้องหยุดรอผลัดกันไปกับรถฝั่งตรงข้าม เลยถือโอกาสเก็บภาพมาค่ะ
 
 
ปกติหากมากับทัวร์จะจบทริปที่นี่แล้วก็พากลับไปที่ Banff หรือ Calgary ส่งขึ้นเครื่องบินกลับบ้านค่ะ จบช่วงที่หนึ่ง จุดท่องเที่ยวเด่นๆบน Icefield Parkway ค่ะ
 
ช่วงที่ 2 ชมวิวภูเขาบนถนนสาย Icefield Parkway
 
มาถึงเส้นทางชมภูเขาที่สวยที่สุดของแคนาดา นอกจากจุดที่เขาจอดลงไปเดินชม เรายังได้ชมภูเขาสวยๆตลอดทาง ขอลงภาพบรรยากาศบนเส้นทางตั้งแต่เริ่มเข้า Icefield Parkway จนถึง Columbia Icefield Center ค่ะ ถ่ายผ่านกระจกหน้ารถชมวิวไปเรื่อยๆค่ะ ภาพเหล่านี้ทำให้รู้สึกว่าตัวเราหดเหลือนิดเดียวจริงๆ
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
เลือกมาลงบางส่วนค่ะ ภูเขาตลอดทาง ต้องถ่ายวีดีโอจึงจะเก็บหมดค่ะ Smiley บนยอดเขาบริเวณนี้ จะมีหิมะและ Glacier ปกคลุมตลอดปี ไปสุดเขคอุทยานแห่งชาติ Banff ยังเหลืออีก ร้อยกิโลเมตรจะถึง Jasper พอจะมีภูเขาสวยๆให้ชมเป็นระยะ แต่เริ่มห่างจากกันค่ะ หากต้องการเน้นชมวิวภูเขาบนถนนนี้ แต่มีเวลาไม่เพียงพอที่จะเที่ยวจนทั่ว การมาเที่ยวสุดทางที่ Columbia Icefield นั้นเพียงพอที่จะได้เห็นความสวยงามที่เป็นที่ร่ำลือของแคนาดาแล้วค่ะ เพราะเมื่อออกจากบริเวณนี้ไปแล้วจำนวนภูเขาก็จะลดลงค่ะ ดังนั้น การนำเที่ยวจากบริษัททัวร์จึงมักจะพามาสุดที่ Columbia Icefield แล้วก็พากลับค่ะ ยกเว้นกลุ่มที่จะไปท่องเที่ยวที่อุทยานฯ Jasper วิ่งยาวไปถึงเมืองเลยค่ะ
 
ช่วงที่ 3 จาก Columbia Icefield ไปเมือง Jasper
 
หากไปต่อบนถนน Icefield Parkway ไปเมือง Jasper ระหว่างทาง จะผ่านน้ำตกที่น้ำแรงมากเพราะเกิดจากแม่น้ำทั้งสายไหลผ่านช่องแคบๆ จากระดับพื้นถนนลงไปจุดต่างระดับเบื้องล่าง เช่นเดียวกับ Niagara ค่ะ ชื่อว่า Athabasca Falls ซึ่งเป็นน้ำตกที่มีปริมาณน้ำมากที่สุดในเขตเทือกเขา rocky ด้วยความสูง 23 เมตร นักท่องเที่ยวนิยมมาชมความแรงของน้ำตกนี้กัน โดยเฉพาะน้ำตกจะแรงที่สุดช่วงฤดูใบไม้ผลิ เพราะปริมาณน้ำมหาศาลจากหิมะที่สะสมมาตลอดฤดูหนาวจะละลายอย่างรวดเร็วในช่วงนี้ค่ะ อีกน้ำตกใกล้ๆกันคือ Sunwapta Falls ถ้าเราไม่เข้าไปชมจะไม่ทราบเลยค่ะว่ากำลังขับรถอยู่ข้างๆน้ำตก เพราะสายน้ำจะหายไปด้านหลังซึ่งเป็นหน้าผาแคบๆเช่นกัน น้ำตกทั้งสองแห่งนี้มีข้อมูลและทางเดินที่เป็นสะพานแข็งแรง ไว้ให้นักท่องเที่ยวเดินชมได้อย่างสะดวกค่ะ 
 
Sanwapta Falls
 
 
 
 
Athabasca Falls ฤดูร้อน ปริมาณน้ำลดลงแล้วค่ะ แต่ยังแรงมาก
 
 
 
 
เริ่มเข้าใกล้เมือง Jasper จะไปมีภูเขาให้ชมมากขึ้นค่ะ หากเราแวะชมภูเขาตลอดทางตั้งแต่ต้นทาง แวะออกไป Kootenay Plain และ Abraham Lake มาถึงแถวนี้จะรู้สึกว่าเหนื่อยล้าแล้วค่ะ เที่ยวตลอดทางจนไม่อยากลงเดิน หากเลือกพักบริเวณ Icefield ก่อนซักวัน จะมีแรงชมภูเขาต่อค่ะ นอกจากพักโรงแรมที่ Icefield Center แล้ว บริเวณนี้จะมี Wilderness Hostel หลายแห่ง ชมธรรมชาติกันเต็มอิ่ม แต่จะเป็นที่พักแบบ dorm และมีห้องน้ำ มีครัว แต่ไม่มีห้องอาบน้ำค่ะ 
 
 
 
จะจบเส้นทาง Icefield Parkway เท่านี้ค่ะ แวะชมตัวเมือง Jasper ไปพลางๆแล้วค่อยไปเที่ยวรอบๆเมือง Jasper ตอนต่อไปค่ะ
 
 
 
 
 
ระหว่างทางจาก Lake Louise ไป Jasper จะมีทางแยกบริเวณ Saskatchewan River Crossing (77 กม.จาก Lake Louise) รถเลี้ยวไปไม่มากเพราะ highlight จะอยู่ที่ Columbia Icefield กันค่ะ หากสามารถจัดเวลาได้ ให้ออกนอกเส้นทางไปเพียง 45 กม. บนถนน นี้จะมีภูเขาบนเส้นทางที่ยิ่งใหญ่อลังการไม่แพ้เส้นทาง Icefield Parkway ค่ะ ไปสุดทางที่ Abraham Lake แล้วกลับทางเดิม ชมวิวกันจุใจค่ะ หากสนใจเดินทางบนเส้นทางนอกอุทยานฯ ตามไปอ่านเรืื่องรีวิวการเดินทางบนเส้นทาง Hwy11 (David-Thomson Hwy) ที่ https://bit.ly/2Abraham ค่ะ
 
 
 




 

Create Date : 19 มิถุนายน 2557
1 comments
Last Update : 15 กุมภาพันธ์ 2567 3:05:14 น.
Counter : 2975 Pageviews.

 

Comment อยู่ที่หน้าสมุดเยี่ยมค่ะ
//bit.ly/WHATsUP

 

โดย: snapdragon 26 มิถุนายน 2557 4:19:59 น.  

 

snapdragon
Location :
Alberta & British Columbia Canada

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




ข้อความและรูปภาพทั้งหมดเรียบเรียงและถ่ายภาพเอง
สงวนลิขสิทธิ์ ห้ามนำไปใช้ทางการค้าค่ะ

About Me
อ่านเรื่องราวที่มาที่ไป และการเดินทางของเราได้ที่นี่ค่ะ
https://bit.ly/SnapDiary

สภาพอากาศเวลานี้

My Time

[Add snapdragon's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com