ไปเยี่ยมภูกระดึง วันที่ไฟมีป่าเผาโดยรอบเดินทางวันที่ 27 มีนาคม ประมาณบ่ายโมงใช้เส้นทาง 201จ.ชัยภูมิ ไปออกสาย 12 อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่นเส้นทางอันตราย โดยเฉพาะมีรถบรรทุกอ้อย ตอนค่ำ..เจออุบัติเหตุรถมอเตอร์ไซค์ชนท้ายรถบรรทุกอ้อย เสียชีวิตคาที่ กินข้าวค่ำ ที่ อ.ภูกระดึง ก่อนไปกางเต๊นท์นอนในอุทยานฯ อากาศร้อนแต่ก็ยังมีลมพัดบ้างปฐมนิเทศก่อนเดินทางขึ้นเขา(เป็นนิสัยของครู)ถ่ายรูปหมู่ที่ป้ายก่อนขึ้นเขาสาวสวยหน้าใสหนูมาด้วยความสมัครใจค่ะเป็นคนรักภูกระดึงด้วยผู้หนึ่งนี่แหละด่านแรก....ผ่านอากาศร้อนมากเห็นร่องรอยของไฟไหม้ป่าโดยรอบผ่านไปอีกซำ ที่แย่มากก็คือห้องน้ำไม่มีน้ำเลยไฟไหม้สายยางไปหมดแล้วซำนี้จะคึกคักมาก เมื่อถึงฤดูท่องเที่ยวถึงหลังแปแล้ว รวมระยะทาง 5.4 ก.ม.ภาพครอบครัวกระเจียว เอ็นอ้าขน หรือจุกนารีเดินทางเรียบอีก 4 ก.ม. ก็ถึงที่ทำการ วังกวางเจอช้างป่าเดินข้ามถนน 1 ตัว ทุกคนยืนกันเงียบเลย เตรียมวิ่งแล้วบ้านพักเทียนน้ำ(ห้องแถว) มี 5 ห้องนอน หนึ่งห้อง พักได้ 6 คน ราคา 900 บาท/คืนเข้าพักวันธรรมดา จ.-พฤ. ลด 20%เป็นเวลาของการพักผ่อนซื้อไปฝากเพื่อนน้องวิว โตขึ้นกว่าปีก่อนมาก รสชาติกาแฟพิลึกอยู่ น่าจะเป็นเพราะน้ำที่ใช้ต้มหน้าที่พัก ไม่มีทากให้เห็นเลยสักตัวเตรียมไปเดินเที่ยวผาหล่มสักมาขอขนมกินครับสนุกไหมครับทุกคนกินข้าวกลางวันที่น้ำตกถ้ำสอเหนือร้านกาแฟชมพู่มะเหมี่ยวสอนทำขนมบราวน์นี่สนสองใบ สัญลักษณ์คู่กับผาหล่มสักเกือบถูกไฟป่าเผาวอดขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่คอยปกป้องไว้ทั้งวันทั้งคืนเหตุเกิดเมื่อวันที่ 26 มีนาคมครับกลับมานั่งกินขนมที่ทำเสร็จแล้วเตรียมร่ำลา ผาหล่มสักเส้นทางผ่านหน้าผา ระหว่างเดินกลับที่พักฟังตำนานของภูกระดึงที่ร้านเจ๊กิมอุณหภูมิของคืนนี้ต่ำสุดที่ 18 องศาเซลเซียสอากาศเย็นและลมแรงที่ผานกแอ่นเครื่องดื่มของเจ้าหน้าที่ ถ้วยละ 25 บาทออกเดินทางกลับเวลา 08.50 น.บอม หมาพันธุ์ไทยที่เดินมาด้วยกันลูกหาบเดินแซงไปอีกแล้วนักท่องเที่ยวที่เลือกจะให้ลูกหาบ หามขึ่นไปเราไม่ต้องการกระเช้าครับดื่มน้ำมากขึ้นได้ของฝากกลับมาด้วยเก็บขยะลงมาเพื่อขอใบประกาศอาสาสมัครผู้พิทักษ์ภูกระดึงไฟยังคุอยู่เป็นบางจุดเริ่มออกอาการเหนื่อย มีลื่นล้มบ้างแล้วถึงด้านล่างแล้ว เย้!!! ใช้เวลา 5 ชั่วโมงอาบน้ำ กินข้าวกลางวัน แล้วเดินทางกลับถ่ายรูปที่บริเวณทางเข้าอุทยาน ก่อนกลับใช้เส้นทางสาย 21 เข้า อ.หล่มสัก จ. เพชรบูรณ์ถึงบ้านเกือบเที่ยงคืน