+++เที่ยวอังกฤษตอนที่4 - -พาตะลอนเที่ยวในLondon ++
ตามไปเที่ยว ตอนที่1 -ขับรถไปดูบอลที่ Liverpool ได้ที่นี่จ้า ... (คลิกที่นี่)
ตามไปเที่ยว ตอนที่2 ขับรถเที่ยวในอังกฤษ ไป Cotswolds ดูหมู่บ้านเล็กๆที่แสนจะน่ารักได้ที่นี่จ้า ... (คลิกที่นี่)
ตามไปเที่ยว ตอนที่3 ชวนไป Castle combe แวะ Bath ในวันที่ฝนตก ได้ที่นี่จ้า ... (คลิกที่นี่)
สวัสดีค่ะ เขียน blog uk มาถึงตอนที่ 4 แล้ววว ยิ่งเห็นรูป ยิ่งอยากกลับไปอีก วันนี้ เราจะเข้าลอนดอนแล้ว หลังจากที่เที่ยวอยู่รอบนอกมา 4 วัน วันนี้จะเอารถไปคืนแล้วต่อจากนี้อีก 3 วัน เราจะใช้บริการ Tube หรือ underground กันละ วันแรกที่เราไปถึง london เราไป Tower bridge ก่อนเลย สะพานแห่งนี้มักจะอยู่บนปกหนังสือท่องเที่ยวของอังกฤษ เป็น landmark ที่เราต้องมาปักหมุดกัน เดี๋ยวจะเหมือนมาไม่ถึง London อิอิ รููปใน blog นี้ ส่วนใหญ่ใช้ไอโฟนนะคะ รูปไม่สวยแต่อยากแบ่งปัน
วันนี้เราออกจากรร Travelodge Bicester Cherwell Valley M40 แล้วจะเข้าไป Bicester outlet กันอีกรอบ เพราะมีออเดอร์ เป๋า cath เพียบเลย ขอบอกว่าใครชอบกระเป๋า cath kidston ควรซื้อที่นี่เพราะพอเข้าไปลอนดอนแล้ว มันจะแพงขึ้นเยอะเลย แต่รุ่นใหม่ๆ ก็มักจะอยู่ใน shop London แหละ ที่เราเลือกพัก รร นี้ เพราะ มันอยู่ใกล้ outlet ตามชื่อ รร นั่นเลย ที่จอดรถ โรงแรมนี้ เหมือนจะเยอะนะ แต่จริงๆ แล้ว มีป้ายบอกไว้ว่า จอดได้ไม่เกิน 2 ชม นะ เราก็เกือบจะโดนแล้วล่ะ เพราะมาถึงโรงแรมก็สองทุ่มกว่า มืด มองไม่เห็นป้าย เช้าลงมาถึงเห็นว่า มีป้ายจอดไม่เกิน 2 ชม ก็เลยเข้าไปแจ้งพนักงานโรงแรม บอกทะเบียนรถเค้าไป เค้าก็บอกว่า เดี๋ยวจัดการให้
ออกจาก Bicester village แล้ว ก็ขับรถมุ่งหน้าสู่ Heathrow Airport เพื่อไปคืนรถที่นั่น ใช้เวลาประมาณ 1 ชม ก็ถึงสนามบิน การคืนรถ ก็ไม่มีอะไรยุ่งยากเลย มาจอดรถปุ๊ป พนักงานก็เดินมาดูรถ ดูรอบๆ รถแล้วก็ เป็นอันจบ คืนกุญแจ พนักงานที่รับรถ คุยกับสามีถามว่ามาจากไหน พอบอกว่าประเทศไทย เค้ายิ้มเลยบอกว่า เพราะเค้าก็เพิ่งกลับมาจากไทย แล้วปลายปีนี้ก็จะกลับไปเที่ยวไทยอีก เค้าชอบมาก "nice place" ฟังออกแค่นี้ อิอิ คืนรถเสร็จ เราก็นั่งรถโค้ชไปลง Terminal 4 เพื่อจะขึ้นรถไฟต่อไปโรงแรม
ก่อนอื่น ต้องมาซื้อ oyster card กันก่อน ซื้อได้ตามตู้แบบนี้เลยค่ะ ก็งง อยู่กับการซื้อสักพัก จนสามีต้องไปถามเจ้าหน้าที่ เค้าอธิบายดีมาก และที่สำคัญ เค้าบอกว่า เด็ก ต่ำกว่า 11 ขวบ ฟรี!!!! ประหยัดไปได้ 1 คน oyster card เป็นบัตรโดยสารที่สามารถใช้กับรถไฟบนดิน ใต้ดิน รถบัส ได้หมด มีค่าธรรมเนียมบัตร 5 ปอนด์ แล้วก็เติมงินใส่บัตรไว้ บ้านเราซื้อ2 ใบ เติมไปใบละ 20 ปอนด์ ถ้าเราจะกลับ ไม่ใช้แล้ว ในบัตรมีเงินเหลือ ก็คืนเป็นตังค์ได้นะ พร้อมค่าธรรมเนียมบัตร 5 ปอนด์ก็ได้คืน บัตรนี้ ถือว่าเดินทางใน London คุ้มเลยแหละ
จาก สนามบิน เราขึ้น Tube สายสีน้ำเงิน หรือ Piccadilly line แล้วมาลงสถานี Earl's court เพื่อมาเปลี่ยนสถานีที่นี่ แล้วต่อไปลงสถานี west brompton
หน้าสถานี west brompton ออกจากสถานีเลี้ยวซ้าย เดินไปอีก 400 เมตร ก็จะถึง โรงแรม Ibis earls court
เดินมาไม่ไกลเลยค่ะ ถึง โรงแรมแล้ว รู้จักโรงแรมนี้ เพราะไปค้นรีวิวเก่าๆ เจอ ของคุณมาเรีย ณ ไกลบ้าน รีวิวไว้นานมากแล้ว จะบอกว่ามันมีประโยชน์ กับคนที่ต้องการข้อมูลมากๆ โรงแรมนี้ ถือว่า ถูกใจเราเลยแหละ เพราะนอกจากเดินไม่ไกลจากสถานี แล้ว ก็สามารถเดินทางไปที่ต่างๆ ในลอนดอนได้สะดวกมากๆ ราคา คืนละ สามพันกว่าบาท เราพักที่นี่ 3 คืนเลย
ห้องก็ไม่ได้กว้างขวางอะไร แต่ก็ไม่ได้รู้สึกอึดอัด นะ ก็ อยู่ได้สบายๆ เพราะเช้ามาก็ออกไปเที่ยว กว่าจะกลับห้องก็ สาม สี่ ทุ่ม
วิวจากห้องนอน ที่นี่มีแอร์นะ แต่ไม่ได้เปิดเลย อากาศมันหนาวมากๆ แค่แง้มกระจกนิดนึง ก็นอนสบายแล้ว
เก็บของเรียบร้อย เราก็พากันออกไป เที่ยวในลอนดอนกันซะหน่อย เริ่มจากขึ้น tube มาเดินเที่ยวห้างหรู Harrods กันซะหน่อย ลงสถานี knightsbridge ออกมาก็จะเจอห้างหรูเลย ตัวอาคารหรูหราอลังการมากๆ ช่วงนี้จะเป็นรูปจากไอโฟน
ร้องเพลงเพราะ ลูกชายเลยไป ให้กำลังใจพี่เค้าหน่อย
เดินเล่นในห้างนี้ ละลานตาไปหมด สวยและแพงไปหมด 555 แต่ที่เข้ามาเพราะมีออเดอร์ฝากซื้อของในนี้ มีแต่ของน่ารักๆ ทั้งนั้นเลย เจริญหูเจรญตา จริงๆ ล้วงมือถือมาถ่ายรูปเป็นว่าเล่น ล้วงเข้าล้วงออก เป็นเหตุให้ บัตร oyster หาย!!!! เซ็งเลย เหมือนเงินหายไปเกือบพัน รู้สึกโมโหตัวเอง ว่าของแค่นี้รักษาไม่ได้ ออกอาการเซ็งจนลูกต้องเข้ามาปลอบว่า "ไม่เป็นไรหรอกแม่ เงินในบัตรมันเหลือไม่เยอะหรอก แม่ก็ใช้ไปเยอะแล้ว อย่าคิดมากเดี๋ยวเที่ยวไม่สนุกนะ" อืมม .. รู้สึกดีขึ้นมาเลยแฮะ รู้สึกลูกมีวุฒิภาวะมากกว่าเราอีก 555
ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกันหน่อย ว่าแม่ลูกคู่นี้ มาถึง harrods แล้ว 55
ออกจาก harrods แล้ว ข้ามถนนมานั่งกินกาแฟ นั่งพัก แก้เมื่อยกันหน่อย starbucks ที่นี่ราคาไม่ต่างกับบ้านเราเท่าไหร่ แพงกว่ากันนิดหน่อย นั่งมองรถรา บ้านช่องเค้า สักพัก ก็พาลูกชายไปหา burger กิน สาวก burger ตัวจริง อิแม่มันเบื่อมากกกก แต่ก็เบื่อรบกับเด็ก ก็ต้องกินๆไป
ถึงแม้จะไม่มีที่นั่งให้กิน ต้องยืนกินแบบนี้ ลูกก็ช่างมีความสุขกับ burger ได้ตลอดเวลาาาาา
จะดีอยู่หน่อยที่Mc มีป้ายขึ้นว่ามีเบอร์เกอร์แบบ thai style ก็เลยได้กินเบอร์เกอร์แบบรสไทยๆนิดนึง
หลังจากอิ่มแล้ว เราก็ไป Tower bridge กัน ณ ตอนนี้ ขึ้นลงสถานีไหน จำไม่ได้ละ แต่ไปไม่ยากหรอก มันไม่ไกลกันมาก รู้อย่างเดียวว่าจากสถานี แล้วเดินต่อไป ไกลอยู่เหมือนกัน
เราจะผ่าน Hay's Galleria
แล้วก็เดินเลียบริมฝั่งแม่น้ำเทมส์ไปเรื่อยๆ เราก็จะเจอ Tower bridge ถ่ายรูปเล่นกันไป อากาศที่ลอนดอนวันนีเย็นสบายๆ ที่ 12-13 องศา
การเดินไกลๆ เด็กก็มักมีอาการแบบนี้
นอยด์กระจาย ใช้โหมดออโต้ของ nex5 ยืมกล้องพี่ชายมา ใช้อะไรไม่เป็นเลย ออโต้ลูกเดียว
เดินขึ้นมาบนสะพาน กะว่าจะถ่ายรูปสวยๆๆ ซักหน่อย ปิดซ่อมขึงตาข่ายซะงั้น
ทุกรูปนี้ ไม่นอยด์กระจาย ก็เบลอซะหมด ไม่เบลอพอดูได้ก็มีอยู่ รูป สองรูป ต้องกลับไปแก้มือ อิอิ
ทางกลับ จะเดินผ่าน Hay's Galleria ทางเดิม เพิ่มเติมคือ เปิดไฟสวยเชียว
วันแรกที่ london เรามาได้เท่านี้ แล้วก็ขึ้นรถไฟกลับโรงแรม พักผ่อนกันตามอัธยาศัย
เช้าวันที่2 ในลอนดอน เราจะไปเที่ยว museum กัน ในลอนดอน มี museum เยอะมากกกก แต่ที่เราจะไปกันวันนี้คือ Natural History Museum (เข้าชมฟรี)
นั่ง tube ไปลง สถานี South kensinton เดินตามป้ายออกไปก็จะถึง museum ไม่ไกลเท่าไหร่
เรามากันแต่เช้า 9 โมง เปิด 10 โมง ดูคิวสิ ขนาดวันนี้ไม่ใช่วันเสาร์ อาทิตย์นะ คนเยอะมาก ต่อคิวเข้าอยู่นานเลย
พอหลุดจากคิวเข้ามาได้ ก็มาเจอมุมนี้ใน museum นั่ง กินขนมกับกาแฟ กันก่อนเลย รูปในบล็อคนี้สีจะผิดเพี้ยนไปตามกล้องบ้างนะคะ ผสมๆกันไปหมด ไอโฟน กล้องเล็ก กล้องใหญ่
ภายใน museum จะแบ่งเป็นโซนต่างๆ ใหญ่โตมโหฬาร อลังการมาก อยู่ได้เป็นวันเลยแหละ
ข้างในก็มีขนม ของกิน ขายเรื่อยๆ
คนเยอะมากจริงๆ ถ่ายกะโครงกระดูกไดโนเสาร์ Diplodocus ตัวใหญ่ ยาวกว่า 26 เมตร ซะหน่อย
เราเดินได้ แค่โซนไดโนเสาร์ กะพวกแมลงต่างๆ เอง ไม่ไหวคนเยอะจนหายใจแทบไม่ออก อึดอัด มีอยู่ช่วงนึงเค้ากั้นทางเดินให้เป็นทางแคบๆ เราอึดอัดมาก
ต้องรีบออกมาจากตรงนั้น แล้วมานั่งพักหายใจหายคออยู่ตรงนี้ แต่ที่นี่เหมาะกับการพาเด็กๆมาเที่ยวนะคะ ลูกชายได้ของเล่นจากที่นี่ไปเป็นที่ระลึก เป็นจิกซอร์ไดโนสะท้อนแสง
ตัวตึก อลังการมาก ระหว่างทางเดินไปหาไรกินกัน ลูกชายก็ยังรักเบอร์เกอร์เหมือนเดิม ส่วนแม่กะพ่อส่งลูกกิน burger king เสร็จ ข้างๆกันมี KFC ก็เลยไปกินไก่ๆๆๆ กัน เบื่อ burger มากกกก ละ ณ จุดนี้ คิดถึงข้าวมาก 555 อิ่มแล้ว เราก็นั่ง Tube ไปลง Arsenal station ระหว่างรอรถไฟ ถ้าไม่พลุกพล่านก็สามารถหยิบกล้องใหญ่มาถ่ายได้บ้าง ก็ไม่เคยจะชัดเหมือนเดิม อิอิ นั่งรถไฟมาหลายสถานี ก็ถึง Arsenal station มีคนฝากซื้อเสื้อที่นี่ ออกมาจากสถานี เดินตามป้ายไม่ไกลก็ถึงสโมสรแล้ว
นั่งมาไกลเหมือนกัน ไกลจนลูกหลับเลย
ภายใน Arsenal Station
เสื้อตัวนี้แหละค่ะ ที่เรานั่งรถมาซื้อ รวมค่าสกีนด้วย ตัวนี้ สนน ราคา ตัวละ 3500 บาท นี่ต้องรักจริงนะเนี่ย ราคาแรงมาก เดินเข้าไปดูสนามเค้าซะหน่อย
ถ่ายอะไรครับลูก
ดูสิ นี่แค่มาซื้อเสื้อให้เค้านะ โพสท่ายังกะเป็นแฟนทีมนี้กันเลยทีเดียว 555
ออกจาก Arsenal เราก็ขึ้น Tube กลับมาเดินเที่ยวต่อ ที่ Piccadilly circus เป็นแหล่งที่คึกคักและจอแจที่สุดในลอนดอนกันเลย เป็นจุดนัดพบของผู้คน และเป็นเหมือนศูนย์กลางการเดินทางในลอนดอน พื้นที่เปียกนี่ไม่ใช่ฝนตกนะคะ เค้าล้างทำความสะอาดวงเวียน
วงเวียน Piccadilly Circus ที่กำลังทำความสะอาด
บริเวณรอบๆ
ชอบรถแท็กซี่ที่นี่ อีกเอกลักษณ์นึงของลอนดอน แต่ไม่ได้ใช้บริการนะ ราคาไม่น่าคบ
ถนนสายนี้น่าเดินมากๆ Regent Street
พากันเดินมาเรื่อยๆ ตาม google map เพราะอยากไปห้าง Liberty ระหว่างทางเจอสาวคนนี้ นึกว่าหุ่น นิ่งมาก ลูกชายยิ้มเขินเลย
Liberty ห้างนี้เก่าแก่มาก สร้างมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1925 เป็นอาคารไม้สักที่สวยงามสไตล์ Tudor สวยงามมากกก
อยากเดินเข้าไปดูของในห้าง แต่ห้าโมงกว่าแล้ว หิวมากกก มื้อนี้ตั้งใจจะกินข้าวๆๆๆ เลยได้แต่ถ่ายรูปกับห้างสวยๆแห่งนี้แค่ด้านนอก จากตรงนี้ เราก็เดินไปหาข้าวๆๆๆ กินกัน ที่ไชน่าทาวน์ ระหว่างทางเดินไป ก็จัดสตอเบอรี่มา1 กล่อง ถูกดีจัง และนี่คือ ไชน่าทาวน์ ทาวน์ ทาวน์ จะได้กินข้าวแล้ววว
และ ข้าวมื้อแรกของเราตั้งแต่มาถึงอังกฤษ ก็อยู่ตรงหน้าเราแล้ว มาถึงลอนดอนแล้วเราต้องมาลองเป็ดย่างโฟซีซั่น อันเลื่องลือ ยืนดูเมนูหน้าร้านอยู่นาน สั่งไม่ถูก 555 แล้วก็ได้มาแบบนี้ รสชาติเหรอ ก็ธรรมดานะ สามีบอกว่าที่เมกะบางนายังอร่อยกว่าอีก แต่ก็นะเราก็อยากมาลองสาขาแรกของโลก กันหน่อย
หน้าตาอาหารมื้อนี้ เท่านี้ เบร็ดเสร็จ 2500 บาท
รถสามล้อให้บริการแถวนี้ แนวดีจัง
อิ่มแล้วก็พากันเดินย่อยอาหาร เดินเล่น แวะซื้อของฝาก แล้วก็กลับไปสลบที่ห้อง คืนนี้กลับเข้าห้อง สามทุ่ม ถือว่าลูกชาย เดินได้เก่งทีเดียว เพราะเดินตั้งแต่เช้า ปกติจะบ่นๆๆๆ แต่มาเที่ยวครั้งนี้ ไม่มีบ่น มาถามทีหลังว่าทำไมเดินเก่งจัง เค้าบอกก็อากาศดี ไม่ร้อน
บล็อคนี้เราพาเที่ยวในลอนดอนแค่นี้ก่อนดีกว่า รูปชักเยอะ เดี๋ยว บล็อคหน้าเราจะพาไป ตะลอนๆๆ ในลอนดอนกันต่อจ้า
ขอบคุณที่แวะเข้ามาในบล็อคน้อยๆ แห่งนี้นะคะ
Create Date : 25 พฤศจิกายน 2559 |
|
11 comments |
Last Update : 3 ธันวาคม 2559 11:30:47 น. |
Counter : 3164 Pageviews. |
|
|
|