Group Blog
 
 
ธันวาคม 2556
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
7 ธันวาคม 2556
 
All Blogs
 
ครั้งแรกกับการทำ เบเกิ้ล Bagles

ครั้งแรกกับการทำ เบเกิ้ล Bagles

20131205 December 05, 2013

เป็นการทำเบเกิ้ลครั้งแรกค่ะ อุตส่าห์เจาะรูซะใหญ่เบิ้ม พออบแล้วรูก้อหุบเหมือนเดิม ไม่เข็ดเด้อค่ะ เดี๋ยวลองใหม่จนกว่าจะสวย......5555

เครื่องปรุง(สูตรนี้จะตัดแบ่งทำได้4ก้อนค่ะ)

ส่วนผสมแป้งโดว์
- 250g แป้งขนมปัง หรือ แป้งสาลีอเนกประสงค์(วันนี้ใช้แป้งสาลีค่ะ)
- 1ช้อนชา หรือ 5g ยีสต์แห้ง
- 2/3ถ้วยตวง หรือ 150ml น้ำอุ่น อุณหภูมิที่100F-110F
- 3ช้อนชา หรือ 15g น้ำตาลทราย
- 1ช้อนโต๊ะ น้ำผึ้ง หรือ Molasses(น้ำตาลอ้อยเคี่ยวให้เหนียว)
- 1/2ช้อนชา เกลือป่น
- 1/2ช้อนโต๊ะ น้ำมันพืช

ส่วนผสมน้ำต้มโดว์
- 6ถ้วยตวง น้ำเปล่า
- 1ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย

ส่วนผสมไข่ทาหน้าก่อนอบ ตีให้เข้ากันเอาไว้ทาหน้าโดว์ก่อนนำเข้าอบ
- 1ฟองไข่ไก่
- 2ช้อนโต๊ะ นมสด




วิธีทำ

1. เอาน้ำอุ่น + Molasses หรือ น้ำผึ้ง ผสมกันคนให้เข้ากันแล้วใส่ยีสต์ลงไป พักให้ยีสต์ขึ้นประมาณ5นาที





2. นำแป้งใส่อ่างผสม เอาส่วนผสมทั้งหมดใส่ลงไป เทส่วนผสมในข้อ1ใส่ลงไปแล้วใช้ไม้พายคนให้แป้งกับของเหลวผสมกันจนจับตัวแบบในภาพ






3. นำแป้งในอ่างใส่เครื่องนวดใช้หัวตะขอ นวดไปประมาณ15นาทีก้อพอนะคะ อย่านวดนานจนเกินไป เพราะหากนวดนานแป้งจะเหนียวไม่อร่อยค่ะ แป้งที่นวดได้ก้อจะไม่เนียนนุ่มเหมือนแป้งที่ใช้ทำขนมปังนะคะ จะออกลักษณะสากนิดๆค่ะ




4. น้ำแป้งออกจากอ่างผสม รวบแป้งให้เป็นก้อนกลม ใส่ในอ่างที่ทาไขมัน/เนย/หรือน้ำมันเอาไว้แล้ว ปิดทับด้วยพลาสติกใส พักไว้ในที่อุณหภูมิอุ่นๆประมาณ20นาทีให้แป้งพักตัวและขึ้นเล็กน้อย


*** เคล็ดการดูแป้งตรงนี้น้องได้มาจากครัวแม่ปู " ปูขาเก เซมารู " นะคะ
แป้งได้ที่หรือยังทดสอบโดยการเอานิ้วมือกดลงไป หากแป้งบุ๋มไม่เด้งกลับคืนตัว(หากแป้งคืนตัวแสดงว่ายังพักไม่ได้ที่ต้องเพิ่มเวลาพัก)และไม่แฟบยุบตัวลงไป(พักแป้งไว้นานเกินไปต้องทำการรวบแป้งนวดและพักใหม่อีกรอบ)ก้อถือว่าใช้ได้แล้วค่ะ


5. ชกไล่ลมแล้วตั้ดแบ่งแป้งเป็น4ก้อนเท่าๆกัน คลึงให้เป็นก้อนกลมๆ ใส่อ่างใช้ผ้าปิดคลุมพักไว้ในขณะที่เราเริ่มทำแป้งแต่ละก้อนเพื่อกันหน้าแป้งแห้งค่ะ จากนั้นใช้นิ้มชี้จุ่มลงในแป้งสาลีหรือแป้งขนมปังจิ้มนิ้วลงไปตรงกลางก้อนแป้งเพื่อทำรู แล้วควงนิ้วให้รูขนายใหญ่ขึ้นจนมีลักษณะคล้ายโดนัท ทำวงตรงกลางใหญ่ๆไว้ก้อดีนะคะ เพราะพออบแล้วเนี่ยแป้งจะพองตัวปิดรูที่อุตส่าห์ทำไว้เกือบหมดเลย....5555   ทำจนครบ4ลูก







6. พักแป้งอีกรอบ20นาทีค่ะ ในระหว่างที่รอนี้ก้อเอาน้ำเปล่าผสมน้ำตาลทรายต้มให้เดือดค่ะ พร้อมกับวอร์มเตาอบไว้ที่ 375F นำแป้งลงไปต้มข้างละ10วินาทีค่ะ(นับ1-10ในใจ) แล้วตักแป้งออกมาวางบนผ้าหรือกระดาษซับน้ำ พักไว้5นาทีก่อนเอาเข้าอบ





7. ก่อนอบนี้หากใครชอบให้เบเกิ้ลมันเงาก้อเอาไข่ผสมนมสดทาหน้าและอาจจะโรยงาหรือป๊อบปี้ซี๊หรือหน้าต่างๆตามชอบด้วยค่ะ แล้วนำเข้าอบด้วยไป 375Fนาน15นาทีค่ะ





20131206 December 06, 2013

อันนี้เป็นรูปการทำเบเกิ้ลรอบ2นะคะ เมื่อคืนคุณสามีกินหมดแล้ว4ชิ้นคนเดียวเลย....อิอิอิ

เปลี่ยนจากแป้งสาลีมาใช้แป้งขนมปัง และจาก Molasses มาใช้น้ำผึ้งค่ะ ส่วนผสมอื่นๆปริมาณเท่าเดิม จะเห็นได้ว่าสีของแป้งจะเปลี่ยนไปเป็นสีขาวกว่าเดิมเยอะเลยค่ะ

สิ่งที่เปลี่ยนไปนะคะ
1. เปลี่ยนแป้งจากแป้งสาลีมาใช้แป้งขนมปัง
2. เปลี่ยนจาก Molasses มาใช้น้ำผึ้ง
3. ทาหน้าด้วยไข่ผสมนมสด
4. เพิ่มเวลาอบขึ้นอีก5นาที (จริงๆน้องคิดว่าหากเพิ่มอีกแค่2-3นาทีสีจะอ่อนสวยกว่านี้นะคะ)
5. ลดระยะเวลาการต้ม เหลือแค่ข้างละ5วินาทีพอให้หน้าขนมเหี่ยวก้อพอค่ะ








ทำเอง...ชงเอง...กินเอง...แซบแท้ๆค่ะ...





Create Date : 07 ธันวาคม 2556
Last Update : 7 ธันวาคม 2556 5:33:51 น. 0 comments
Counter : 1944 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

NongParichat
Location :
New York United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 19 คน [?]




ขอบคุณเพื่อนๆทุกคนที่แวะเข้ามาเยี่ยมชมนะคะ น้องยินดีรับฟังทั้งคำติและคำชมค่ะและจะยินดีมากๆหากจะได้เพื่อนเพิ่มขึ้นมาเยอะๆ

ก่อนอื่นต้องขอออกตัวก่อนนะคะ ว่า เรื่องราวใดๆก้อตามแต่ที่น้องเขียนขึ้นมาเป็นประสบการณ์จริงของน้องเอง และของบุคคลไกล้ตัวที่น้องชอบพอและสนิทสนมด้วย เลยอยากเอาเรื่องราวสนุกๆและประสบการณ์แปลกๆ (หรืออาจไม่แปลกแต่อยากเล่า) มาแบ่งปันกับเพื่อนๆพี่ๆน้องๆทุกคน ไม่ได้มีเจตนาต่อว่า ส่อเสียด หรือว่าร้ายใคร หากข้อความใดๆที่น้องเขียนไปมีผลกระทบในด้านร้ายกับบุคคลผู้ใด เขียนเข้ามาคุยกันได้ค่ะ หากเป็นการเข้าใจผิดน้องพร้อมจะแก้ไขค่ะ
Friends' blogs
[Add NongParichat's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.