เชื่อว่าสมาร์ทโฟนได้กลายมาเป็นสิ่งสำคัญของใครหลาย ๆ คน จนอาจถือได้ว่าเป็นปัจจัยที่ 6 ก็ไม่ผิดนัก นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้โทรศัพท์มือถือในปัจจุบันถูกเรียกว่า สมาร์ทโฟน เนื่องจากมีความสามารถและความซับซ้อนมากขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก เทคโนโลยีในปัจจุบันพัฒนาก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็วมาก จนบางทีเราตามแทบไม่ทัน สมาร์ทโฟนถือว่าเป็นสินค้าที่มีราคาค่อนข้างสูง และไม่ได้ซื้อกันบ่อย ๆ หลายคนอาจจะสับสน ลังเล เมื่อต้องเลือกซื้อสมาร์ทโฟนเครื่องใหม่ ดังนั้นทางแอดไวซ์จึงจะมาแนะนำวิธีเลือกซื้อสมาร์ทโฟนให้ถูกใจ ตรงกับความต้องการของผู้อ่านทุกท่าน เพื่อจะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจกันภายหลัง ราคา (Price) เนื่องจากสมาร์ทโฟนในตลาดมีหลากหลายราคาตั้งแต่ ต่ำกว่า 1000 บาท ไปจนถึงมากกว่า 30,000 บาท จึงควรเลือกช่วงราคาที่เหมาะสมกับงบประมาณของเรา เพื่อจำกัดขอบเขตตัวเลือกให้น้อยลง ระบบปฏิบัติการ (OS) เป็นตัวกลางในการสื่อสารระหว่าง Hardware กับ Software ในปัจจุบันมี 3 ระบบปฏิบัติการหลัก ๆ ก็คือ iOS, Android และ Windows Phone แต่ละระบบก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป ที่สำคัญแอปพลิเคชันบางตัวจะมีแค่เฉพาะบนบางระบบเท่านั้น แบรนด์ (Brand) การเลือกแบรนด์เป็นหลัก จะส่งผลต่อปัจจัยอื่น ๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็น คุณภาพในการผลิต วัสดุที่นำมาประกอบ บริการหลังการขาย การรับประกัน โปรโมชั่น รวมไปถึงระบบปฏิบัติการ และ หน้าตา User Interface ของแต่ละแบรนด์ด้วย การรับประกัน / บริการหลังการขาย (Warranty & Services) ถึงแม้ว่าจะเป็นแบรนด์เดียวกัน แต่ผู้ขายต่างกัน การรับประกันและบริการหลังการขายก็จะแตกต่างกันไปด้วย ดังนั้นจึงควรเลือกซื้อจากร้านค้าหรือผู้ขายที่น่าเชื่อถือ และไว้วางใจได้เท่านั้น ดีไซน์ / คุณภาพการประกอบเครื่อง (Design & Build Quality) ในเรื่องดีไซน์เป็นความชอบเฉพาะบุคคล ถ้าใครเน้นดีไซน์ของตัวเครื่องเป็นหลัง ก็ควรเลือกแบบที่เราชอบและเหมาะกับเรามากที่สุด อีกทั้งยังต้องนึกถึงความสะดวกในการใช้งาน และถือได้ถนัดด้วย นอกจากนี้คุณภาพการประกอบเครื่องก็สำคัญไม่แพ้กัน ตัวเครื่องต้องมีการประกอบที่แข็งแรง ดูแน่นหนา และทนทาน หน้าจอ (Screen) เนื่องจากหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นจะทำให้ตัวเครื่องมีขนาดใหญ่ขึ้นตามไปด้วย ส่งผลถึงการใช้งาน ความถนัดในการถือ การพกพา และการใช้งานมือเดียว ทั้งนี้จะเลือกซื้อจอเล็กหรือจอใหญ่ก็ควรเลือกให้เข้ากับการใช้งานของเรามากที่สุด นอกจากขนาดของหน้าจอแล้ว คุณภาพของหน้าจอก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะหน้าจอมีหลายรูปแบบ TFT, IPS, AMOLED, Super AMOLEDและหลากหลายความละเอียด <720p, HD 720p (1280 x 720), Full HD 1080p (1920 x 1080), 2K (2560 x 1440), 4K (3840 x 2160) ซึ่งความละเอียดของหน้าจอส่งผลต่อความคมชัดในการแสดงผล นอกจากนี้ยังส่งผลต่อการใช้ RAM ของเครื่องด้วย หน้าจอยิ่งละเอียดมากก็ยิ่งใช้ RAM มาก หน่วยความจำภายใน (Internal Storage) หน่วยความจำภายใน มีหน่วยเป็น กิกกะไบต์ (Gigabyte / GB) ใช้เก็บข้อมูลทั้งหมดของสมาร์ทโฟน ตั้งแต่ระบบปฏิบัติการ แอปพลิเคชัน รูปภาพ คลิปวิดีโอ เกมส์ เพลง รวมไปถึงไฟล์เอกสารต่าง ๆ โดยทั่วไปมีตั้งแต่ 8GB 128GB เนื่องด้วยหน่วยความจำที่เราใช้ได้จะไม่ได้เต็มความจุ เพราะต้องเสียไปให้กับระบบปฏิบัติการ รวมไปถึงแอปพลิเคชันเฉพาะของแต่ละแบรนด์ ดังนั้นเราจึงควรเลือกสมาร์ทโฟนที่มีความจุของหน่วยความจำภายในเหมาะสม ตรงกับการใช้งานจริงของเราด้วย CPU: หน่วยประมวลผล & GPU: หน่วยประมวลผลกราฟฟิค CPU และ GPU ถือว่าส่วนที่สำคัญมากส่วนหนึ่งของสมาร์ทโฟน เนื่องจากเป็นศูนย์กลางการประมวลผลต่าง ๆ ถ้าเป็นคนก็เปรียบเหมือนสมองนั่นเอง โดยทั่วไปแล้ว CPU กับ GPU ของสมาร์ทโฟนจะจับคู่กันมาอยู่แล้ว ถ้า CPU แรงก็จะได้ GPU ที่แรงไปด้วย ดังนั้นจึงควรมองที่ตัว CPU เป็นหลัก เนื่องจากในตลาดมี CPU มากมายหลากหลายรุ่นและแบรนด์ วิธีที่จะใช้เปรียบเทียบประสิทธิภาพอย่างง่าย ๆ ก็คือ แบ่ง CPU ออกเป็น 3 ระดับ (สูง, กลาง, ล่าง) ยกตัวอย่างเช่น CPU แบรนด์ Qualcomm แบ่งออกได้ดังนี้ (ประสิทธิภาพอาจมีการคาบเกี่ยวกันอยู่บ้าง) -
Snapdragon 800 Series: CPU ระดับบน -
Snapdragon 600 Series: CPU ระดับกลาง -
Snapdragon 400 Series: CPU ระดับล่าง สมาร์ทโฟนที่มีราคาใกล้เคียงกัน แต่ใช้ CPU คนละระดับ เครื่องที่ใช้ระดับสูงกว่าย่อมมีความคุ้มค่า และน่าซื้อมากกว่า อย่างไรก็ดี ควรใช้หลาย ๆ ปัจจัยประกอบการพิจารณาด้วย นอกจากนี้ ยังสามารถพิจารณาอย่างคร่าว ๆ ได้จากคะแนน Benchmark ด้วยเช่นกันอย่างแอปพลิเคชัน AnTuTu Benchmark (สามารถดาวน์โหลดได้ที่นี่ สำหรับ Android และ iOS) แต่อย่างไรก็ตาม Benchmark ไม่ได้บ่งบอกทุกอย่าง เพราะมีหลายปัจจัยเข้ามาเกี่ยวข้อง อย่างเรื่องความสามารถของระบบปฏิบัติการในการรีดประสิทธิภาพของ CPU ได้อย่างเต็มที่ เป็นต้น RAM: หน่วยความจำชั่วคราว RAM เป็นส่วนสำคัญในการทำงานแบบ Multitasking หรือ การทำงานหลาย ๆ อย่างพร้อมกันของสมาร์ทโฟน มาตรฐานการใช้งานในปัจจุบัน สมาร์ทโฟนควรจะมี RAM 2GB ขึ้นไป เพื่อให้ทำงานได้อย่างไหลลื่น ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของตัวซอฟ์ตแวร์ด้วย อย่างที่ได้กล่าวไปในหัวข้อ ความละเอียดของหน้าจอ ว่าส่งผลต่อการใช้ RAM ตัวอย่างเช่น ถ้าสมาร์ทโฟน 2 เครื่อง มี RAM เท่ากัน เครื่องที่มีความละเอียดหน้าจอสูงกว่า จะใช้ RAM มากกว่าด้วย เพราะฉะนั้น ถ้าเลือกสมาร์ทโฟนที่มีความละเอียดของหน้าจอสูง อย่าง Full HD, 2K, 4K ก็ควรเลือกเครื่องที่มี RAM ที่สูงด้วยเช่นกัน กล้อง (Camera) ในปัจจุบัน สำหรับหลาย ๆ คนแล้วให้ความสำคัญกับกล้องมาเป็นอันดับแรกเลยทีเดียว ทั้งนี้ประสิทธิภาพของกล้องดูได้จากหลายอย่าง บางคนอาจจะดูจากจำนวน Pixel ที่ว่ายิ่งมากยิ่งดี แต่ไม่ได้เป็นเช่นนั้นเสมอไป ควรให้ความสำคัญกับ -
คุณภาพของรูปที่ถ่ายออกมา: ให้สีสันเสมือนจริง รายละเอียดของภาพ -
รูรับแสง (f/ตัวเลขยิ่งน้อยยิ่งดี): ส่งผลต่อการถ่ายภาพในที่แสงน้อย -
ขนาดของ Pixel -
เมนูใช้งานง่าย -
ความเร็วในการประมวลผลและจัดเก็บรูปภาพ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน ต้องลองจับเครื่องจริงถ่ายดู หรืออาจจะดูภาพที่มีคนนำมารีวิวก็ได้ เพื่อเปรียบเทียบรูปถ่ายจากเครื่องที่เราชอบมากที่สุด แบตเตอรี่ (Battery Life) แน่นอนว่าแบตเตอรี่ที่ให้มา เยอะกว่าย่อมดีกว่า แต่ก็มีหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อการใช้แบตเตอรี่ อย่างเครื่องที่มีสเปคแรงกว่าย่อมใช้พลังงานแบตเตอรี่สูงกว่าตามไปด้วย โดยเฉพาะถ้าสมาร์ทโฟนเครื่องนั้นมีขนาดหน้าจอที่ใหญ่กว่า หน้าจอมีความละเอียดมากกว่า ก็จะยิ่งใช้แบตเตอรี่มากขึ้นกว่าปกติ นอกจากนี้พฤติกรรมการใช้งาน อย่างการเล่นเกม ดูคลิปวิดีโอ และใช้งานอินเตอร์เน็ต 3G หรือ 4G ก็ใช้พลังงานแบตเตอรี่ค่อนข้างสูงด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้นเราจึงควรเลือกเครื่องที่มีขนาดความจุของแบตเตอรี่เหมาะสมกับการใช้งานของเรามากที่สุด จำนวนซิมที่รองรับ (SIM Card Slot) ในตลาดปัจจุบัน มีสมาร์ทโฟนมากมายหลายรุ่นที่รองรับการใช้งานแบบ 2 ซิมด้วย สำหรับใครที่มีหลายเบอร์การใช้งานโทรศัพท์เครื่องที่สามารถรองรับได้ 2 ซิม ทำให้ไม่ต้องพกพาหลายเครื่อง สะดวกสบายยิ่งขึ้น หรืออาจจะใช้งาน 2 เบอร์ เพื่อให้ได้รับประโยชน์สูงสุดจากโปรโมชั่นของทางผู้ให้บริการ เช่น ซิมแรกไว้ใช้โทรอย่างเดียว แต่ใช้งานอินเตอร์เน็ต 4G จากผู้ให้บริการอื่น เนื่องจากมีค่าบริการที่ถูกกว่า เป็นต้น การรองรับ 3G / 4G โดยทั่วไปมาตรฐานสมาร์ทโฟนในปัจจุบันจะรองรับการใช้งาน 3G ทั้งหมดอยู่แล้ว ส่วนรุ่นที่สามารถรองรับ 4G ก็จะแตกต่างกันออกไป เนื่องจาก 4G มีหลายช่วงคลื่นความถี่ ซึ่งก็แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการ สมาร์ทโฟนบางรุ่นที่ต้องนำเข้ามาจากต่างประเทศก็ควรตรวจสอบให้แน่ใจก่อนว่า รองรับ 4G ของบ้านเรา และตรงกับคลื่นความถี่ของผู้ให้บริการที่เราใช้อยู่หรือไม่ ฟีเจอร์พิเศษ (Special Features) สมาร์ทโฟนของแต่ละแบรนด์ หรือแต่ละรุ่นก็จะมีฟีเจอร์พิเศษที่แตกต่างกันออกไป อย่างเช่น การเคาะเพื่อเปิดหน้าจอ, การสแกนลายนิ้วมือ, การรองรับเทคโนโลยี NFC, การแบ่งการใช้งานหน้าจอ เป็นต้น เราก็ควรเลือกเครื่องที่มีฟีเจอร์ที่เหมาะกับการใช้งานของเรา แม้ว่าบางฟีเจอร์จะสามารถหาติดตั้งเพิ่มเติมได้เอง แต่ก็อาจจะทำงานได้ไม่เต็มที่เท่ากับเครื่องที่มีฟีเจอร์นั้นมาจากโรงงาน
Create Date : 19 พฤษภาคม 2559 |
Last Update : 19 พฤษภาคม 2559 11:26:04 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1622 Pageviews. |
|
|