เนื่องจากเวลาเราไม่มีแถมเช้าจัด จึงฝากท้องไว้ที่ร้านนี้ตรงสถานีรถไฟนั้นแหละ






เรานั่งรถไฟขบวนนี้






ภายในขบวนรถไฟ






ระหว่างทางจะมีเจ้าหน้าที่ถือป้ายมาให้เราถ่ายรูปคู่กับป้ายด้วยครับ






แล้วก็มาถึง สถานี Aso

มีเวลาแค่ 2 ชั่วโมงที่เมือง Aso เพื่อรอนั่งรถไฟ 1 ใน 9 รถไฟสายท่องเที่ยว

เราอยากไปเที่ยวปล่องภูเขาไฟ Aso คลิ๊กเลย ขอถามข้อมูลเที่ยวเมืองนี้ที่ประชาสัมพันธ์ก่อน


ใครจะไปไหนก็มาซื้อตั๋วในสถานีตรงนี้เลย จะอยู่ด้านซ้ายตรงข้ามกับประชาสัมพันธ์

ถามเสร็จสรุปมีเวลาแค่ 2 ชั่วโมงไม่สามารถไปเที่ยวไหนได้เพราะเวลากลับมาสถานีไม่ทัน เจ้าหน้าที่แนะนำให้เที่ยวบริเวณใกล้ๆ พร้อมแผนที่ เราก็เดินเล่นชมเมืองไปเรื่อยๆ รอเวลา 12.28 น.ขึ้นรถไฟ ASO BOY

บรรยากาศแถวสถานี ASO

เราไปเดินเรื่อยๆชมตัวเมืองได้นิดหน่อยก็กลับมาแถวสถานี จะมีตลาดขายพวกเกษตรกรรมและของกินเยอะเลย 

มื้อเที่ยงเราฝากท้องไว้ที่ตรงนี้ ด้านในจะเป็นพวกของกิน มีเลือกให้กินเยอะเลย ใครอยากกินอะไรก็หยิบไปจ่ายตังค์ที่เค้าเตอร์

น่าหม่ำทั้งนั้น

เราเลือกของกินเสร็จก็เอาอาหารเข้าไปนั่งกินข้างในได้ครับ จะมีโต๊ะญี่ปุ่นไว้ให้นั่งทานอาหารกัน

ส่วนด้านนอกก็จะขายพวกผักต่างๆ

อิ่มเสร็จก็ได้เวลานั่งรถไฟ ASO BOY แล้วครับ

เราจองที่นั่งไว้ตรงนี้





ขึ้นมาได้ก็เดินถ่ายรูปตั้งแต่หัวขบวนถึงท้ายขบวนเลยครับ

ท้ายขบวนนะครับ




ยอมรับเลยครับ ตะลึงกับขบวนรถไฟมาก ไม่อธิบายนะครับ ยิงรูปยาว

ส่วนโบกี้พิเศษที่ได้รับการกล่าวขวัญมากที่สุด ต้องยกให้ “โบกี้ครอบครัว” มีเก้าอี้บุหนังสีขาว ออกแบบพิเศษให้เด็กและผู้ปกครองได้นั่งคู่กัน โดยที่นั่งเด็กอยู่ติดริมหน้าต่าง ให้คุณหนูๆ ได้ชมวิวสองข้างทางอย่างสะดวก

ประมาณชั่วโมงครึ่งสำหรับนั่งรถไฟมันช่างเร็วมาก เดินถ่ายรูปเพลินเลยไม่ได้ดูวิวสองข้างทางเลย 

ใกล้จะถึงสถานี kumamoto จะมีเจ้าหน้าที่ถือป้ายบอกวันเวลามาถ่ายรูปให้

ถึง kumamoto ขอถ่ายรูปรถไฟหน่อย






หลังจากนั้นเราก็นั่งรถไฟ A-Train ต่อ





รถไฟ A-Train เป็นอีกขบวนที่ตกแต่งสวยงามไว้ให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปเที่ยว จะเปิดเพลงแจ๊สคลอเบาๆตลอดสาย















นั่งประมาณ 45 นาทีก็มาถึงสถานี Misumi

ถ่ายรูปกับหัวรถไฟหน่อย







สำหรับเมืองนี้เราไม่ได้มีจุดหมายเที่ยว เราแค่อยากนั่งรถไฟ A-Train เท่านั้น เรารอรถไฟประมาณครึ่งชั่วโมงก็นั่งรถไฟกลับมาที่เมือง kumamoto เราเอากระเป๋าฝากไว้ที่ล็อกเกอร์ แล้วเดินเล่นในเมืองนี้ครับ

มาถึงถิ่นเนื้อม้า เราเดินหาร้านดังจนเจอ Suganoya แต่เราไม่ได้จองไว้ เต็มอดไป ได้แต่ถ่ายรูปหน้าร้านไว้




ถ่ายฝาท่อแก้เซ็งไป

เราเดินหาร้านอื่นต่อ ฝนก็ตก มาเจออีกร้านเต็มเหมือนกัน สมาชิกเริ่มหิวกันแล้วเลยเอากินทงคัสสึ ร้านๆตรงข้ามเนื้อม้านั้นแหละครับ

ดูเมนูกันก่อน





ได้เวลาสั่งอาหาร

หน้าตาเป็นแบบนี้ ถ่ายรูปเสร็จก็ลุยเลย รอดตายไปอีกหนึ่งมื้อ





อิ่มก็เดินทางกลับเข้าเมือง HAKATA ฝนก็ตกดีที่เรากลับมานอนที่เดิมไม่ต้องเดินหา เรานอนที่ Kashima Honkan อยู่ชั้นบนแต่คนละห้อง

คืนนี้สลบยาว พรุ่งนี้เก็บแรงไว้ SHOPPING อย่างเดียวเลย ลาด้วยห้องนอนภาพนี้แหละครับ




สำหรับทริปนี้ นั่งรถไฟเที่ยวอย่างเดียวก็คุ้มแล้วครับสำหรับการเดินทาง ลองค้นดูคุณ archruin ได้รีวิวในพันทิปอย่างละเอียดเลยครับ ขออนุญาตเอามาแชร์ข้อมูลในบล็อกผมด้วยครับ คลิ๊กเลย