การเดินทางไป Furano คลิ๊กเลย
1.นั่งรนด่วนสาย SUPER KAMUI จนถึงสถานี JR Takikawa แล้วเปลี่ยนมานั่งรถไฟ JR มาถึงสถานี JR Furano ใช้เวลา 2 ชั่วโมง
2.นั่งรถด่วนสาย SUPER KAMUI มาลงที่สถานี JR ASAHIKAWA แล้วต่อรถไฟ JR มาถึงสถานี JR Furano ใช้เวลา 3 ชั่วโมงเศษ

เราเลือกเดินทางมาลงที่ ASAHIKAWA เพื่อมารับรถที่เราจองไว้จากเมืองไทย วันนี้เราจะขับรถเที่ยวกันครับ

จากสถานเราออกมาทางประตูทางเหนือหรือใต้หว่าไม่แน่ใจ 555 รู้แต่ว่าออกจากรถไฟได้เดินตรงออกประตูไปเลยครับ แล้วเลี้ยวซ้ายเดินตรงไป แถวนั้นจะมีรถเช่าหลายเจ้าเลย แต่เราเลือกค่ายรถนิสสัน เราจองรุ่น CUBE ไว้ครับ





ไปถึงศูนย์เช่ารถก็ยื่นใบจองทาง internet ให้พร้อมใบขับขี่สากล พร้อมจ่ายตังค์ ทางศูนย์จะรูดบัตรเครดิตเราไว้เป็นค่ามัดจำ เผื่อเราโดนค่าปรับที่เราทำผิดกฏจราจร ค่าอุบัติเหตุนอกเหนือประกัน ฯลฯ ไว้ก่อน ถ้าขับปลอดภัย คืนรถไม่มีปัญหาก็ยกเลิกบัตรไปครับ

การทำใบขับชี่สากล ทำได้ที่กรมการขนส่งทั่วประเทศ คลิ๊กเลย ผมทำที่จังหวัดนนทบุรี ใช้แค่สำเนาไม่เห็นดูตัวจริงเลยครับ ใช้เวลารอคิวไม่เกินชั่วโมงก็เสร็จแล้วครับ ขั้นตอนการทำไม่ยุ่งยากเลย

หลักฐานประกอบคำขอ

1) สำเนาหนังสือเดินทาง เล่มที่ใช้ในการเดินทาง ประวัติหน้าที่แก้ไข ( พร้อมฉบับจริง )
2) สำเนาประจำตัวประชาชน ( พร้อมฉบับจริง )
3) สำเนาใบขับขี่รถส่วนบุคคล หรือ ตลอดชีพ ( พร้อมฉบับจริง )
ใบอนุญาตเป็นผู้ประจำรถตามกฎหมายว่าด้วยกรมการขนส่งทางบกซึ่งยังไม่หมดอายุ ***( พร้อมฉบับจริง )***
4) รูปถ่าย ขนาด 2 นิ้ว 2 รูป ******( รูปถ่ายไม่เกิน 6 เดือน ) ถ่ายรูปหน้าตรง ไม่สวมหมวกหรือสวมแว่นตาสีเข้ม, ไม่มีภาพวิวหลังรูป
5) สำเนาหลักฐานการแก้ไขชื่อ- สกุล, ทะเบียนสมรสหรือใบหย่า
6) ค่าธรรมเนียม 505 บาท

หน้าตาใบขับขี่สากลจะเป็นอย่างนี้ครับ มีอายุ 1 ปี





ติดต่อเรื่องเช่ารถได้เรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่ก็มาแนะนำการใช้รถ ในรถจะมี GPS ให้ด้วย ใช้ง่ายสะดวกมาก แค่กดเบอร์โทรสถานที่เราจะไปมันก็จะขึ้นแผนที่หน้าจอให้เลย (เราจะไปไหนบ้างก็บอกทางศูนย์นิสัน เค้าจะให้เบอร์สถานที่ที่เราไปพร้อมตั่งค่าให้) เราจองของเจ้านี้ครับ คลิ๊กเลย

ผมได้รับหน้าที่เป็นโชเฟอร์ สาวๆพร้อม รถพร้อม โชเฟอร์ไม่ค่อยพร้อม 555 ได้เวลาลุย ออกมาได้หน่อยก็เจอร้าน 7/11 แวะซื้ออาหารตุนเสบียงไว้ไปกินในรถตอนเช้ากับมื้อเที่ยงกัน หลังจากนั้นก็ลุยโลด

ขับตอนแรกก็เกร็งๆอยู่เหมือนกัน ก่อนไปศึกษาข้อมูลมานิดหน่อย เห็นบอกว่าใช้ความเร็วไม่เกิน 60 ก.ม./ ช,ม. ผมก็ขับเฉิ่มๆไป ผ่านฟาร์มอะไรก็ไม่รู้ มีดอกไม้ 5 สีเหมือนกัน แต่ยังไม่ค่อยใหญ่ สาวๆตื่นเต้นตอนแรกจะขอแวะก่อน แต่อดใจกะไปดูของจริงที่ฟาร์มโทมิตะทีเดียวดีกว่า

ตัดฉับประมาณ 45 นาทีก็มาถึงฟาร์ม โทมิตะ แล้วครับ ใครสนใจโทมิตะ ฟาร์ม ลองเข้าไปดูในเวปเค้าได้เลย คลิ๊กเลย

สำหรับข้อมูลเที่ยวสวนลาเวนเดอร์ ที่ Furano ไปจนถึง Biei ของคุณbe lonely มาลงไว้ในห้องบลู พันทิป คลิ๊กเลย









หาที่จอดได้ก็เข้าไปลุยถ่ายรูปกันเลยครับ

ฟาร์มโทมิตะปลูกดอกไม้หลายแปลงมาก ดูตามแผนที่เลย

แค่ทางเข้าก็ตืนตาตื่นใจแล้วครับ

ถ่ายรูปด้านหน้าได้นิดหน่อยก็รีบเดินไปยังจุดไฮไลท์ กะถ่ายรูปดอกไม้ 7 สีเต็มที่ แอบผิดหวัง ลาเวนเดอร์ โรยไปเยอะพอสมควร เสียดายไฮไลท์ เลยนะเนี้ย

กลับไปถ่ายฟาร์มด้านหน้าเหมือนเดิม

เดินไปดูอีกแปลง ดอกไม้สวยสุดเลยแปลงนี้ อยู่ใกล้ที่จอดรถที่สุด

เดินกลับไปด้านหน้า ถ่ายกับมุมเดิมๆ 


























มาถึงทุ่งลาเวนเดอร์แล้ว ไม่ชิมไอติมรสลาเวนเดอร์ก็จะดูกระไรอยู่ หอมลาเวนเดอร์มาก











เรามาช้าไปหนึ่งอาทิตย์ เสียดายๆ เลยช่วง Full Bloom มาอาทิตย์เดียวเอง แต่แค่นี้ก็โอเคแล้วครับ ยังไม่เลวร้ายมาก ถ้ามาอาทิตย์หน้าคิดว่าคงโรงเกือบหมดแน่

เราอยู่ที่ฟาร์มโทมิตะได้ประมาณชั่วโมงกว่าๆ ก็ออกจากฟาร์ม อยากบอกว่าอากาศร้อนมาก ร้อนกว่าเมืองไทยอีกครับ ลาด้วยภาพสมาชิกแล้วกัน





จุดหมายต่อไปคือ Blue Pond ลองดูทริปนี้คล้ายๆกันเลยครับ คลิ๊กเลย

เราใช้เวลาเดินทางจากฟาร์มโทมิตะไปยัง Blue Pond ประมาณ 30 นาที ก็มาถึงแล้วครับ แอบงงทางเข้านิดหน่อย แต่เข้ามาถึงแล้วตะลึงกับความงดงามของสีน้ำมาก





ทางเข้าจะมีลานจอดรถบัสอยู่ เราขับเลยไปอีกนิดจะมีลานจอดรถเล็ก แล้วเดินต่อไปประมาณ 100 ม.ก็จะมาถึง Blue Pond แล้วครับ ตอนเราลงก็หอบขนม นม เนย ข้าวหน้าต่างๆที่ซื้อจาก 7/11 ไปด้วย นึกว่าเหมือน อช.เมืองไทย ที่จะมีลานหรือโต๊ะไว้ให้นั่งพักผ่อนหรือปิคนิค เดินไปถึงเป็นธรรมชาติจริงๆ ไม่มีอะไรเลย ตอนนั้นนึกถึงเสื่อมาก อยากปูเสื่อปิดนิคนั่งชมสระน้ำจัง

สรุปต้องหอบ อาหาร รวมทั้งขนม นม เนย กลับมากินที่รถ

น้ำใสเป็นสีฟ้าเทอควอยซ์เลย สวยมากกกก

เดินมาถึงตรงนี้ก็เดินกลับไปที่รถ

ได้เวลาร่ำลา Blue Pond 













บ่ายๆเราก็ออกจาก Blue Pond ขับเลยขึ้นไปหน่อยก็จะมาถึง น้ำตก Shirahige

หาที่จอดรถได้ก็ขอถ่ายรูปกับรถตรงลานจอดรถที่น้ำตก Shirahige หน่อย





เดินข้ามถนนไปหน่อยก็จะเจอสะพาน กระโดดสิครับ รออะไร





มองลงไปข้างล่างก็จะเจอน้ำตก Shirahige สวยมากๆเลย เสียดายสะพานอยู่สูงเกิน















เรานั่งชมน้ำตกประมาณ 45 นาทีก็กลับมาทางเดิม GPS ก็บอกทางไป ใช้ง่ายมากเพียงแค่มีเบอร์สถานที่กดเสร็จมันก็จะคำนวนทาง เวลา และแผนการเดินทางให้เราเอง ส่วนเบอร์แต่ละสถานที่ขอที่ศูนย์เช่ารถนิสสันได้เลยครับ เค้าจะแจกให้ แล้วเราจะไปที่ไหน เค้าก็จะวงกลมเบอร์โทรให้เรากดเอง ง่ายมากครับ (GPS เป็นภาษาญี่ปุ่น ทางศูนย์เช่าเค้าจะสอนเราก่อน แล้วจำเอา ถ้างงก็ให้ถ่ายคลิปไว้ดูเป็นตัวอย่าง ไม่อยากครับ)







ทริปต่อไปคือ Panorama road ขับผ่านทางเจอทุ่งข้าวบาร์เล่ต์สุดลูกหูลูกตา แวะถ่ายรูปข้างทางก่อนเลยครับ

























หลังจากนั้นไปซ่อมดอกไม้สายรุ้งที่ ฟาร์ม Zerubu Hill ต่อ ขามาแอบเห็นดอกไม้สายรุ้งอยู่เหมือนกัน






ฟาร์มนี้ไม่ค่อยใหญ่ เล็กว่าโทมิตะ แต่เรื่องดอกไม้ไม่ผิดหวังเลยครับ สวยมากกกก 

ทางฟาร์มให้เข้าชมฟรี แต่จะมีกิจกรรมขับรถ ATV ให้ขับชมรอบสวน รอบละกี่เยนจำไม่ได้แล้ว ส่วนด้านบนก็จะมีผลิตภัณฑ์พวกขนม นม เนย แล้วก็ดอกไม้รวมพันธุ์ไม้ต่างๆจำหน่ายให้นักท่องเที่ยว เราขึ้นไปอุดหนุนนิดหน่อยก็กลับมานั่งเล่น ชมสวนต่อ



































เราอยู่ที่นี้จนฟาร์มปิด (ประมาณหกโมงเย็น) เราก็เดินทางกลับที่ ASAHIKAWA เพื่อจะคืนรถ หลังจากนั้นก็นั่งรถกลับมาที่ Sapporo กว่าจะมาถึงก็เกือบสามทุ่ม ตอนแรกว่าจะเดินหาอะไรกินที่ Sapporo ก่อนแต่หนักสัมภาระเลยขอเอาของไปเก็บที่ห้องก่อน พอถึงห้องผมขอต้มมาม่ากิน อาบน้ำนอนที่ห้องดีกว่า ส่วนสมาชิกเค้าขอไปช้อปที่ซัปโปโร

ถึงซับโปโรสมาชิกส่ง อาหารมายั่ว เห้อๆ ผมอิ่มมาม่าแล้ว เสียใจด้วยนะ









วันนี้เที่ยวคุ้มมาก ฟินสุดๆๆๆๆ พรุ่งนี้เข้าเตรียมตัวเดินทางไป Aomori //www.bloggang.com/mainblog.php?id=nongmalakor&month=16-08-2014&group=12&gblog=34 คืนนี้ฝันดีครับ