ชมวิวระหว่างทาง

















ในรถมีป้ายบอกความลึกของอุโมงค์ให้ดู 






เวลา 12.22 น.ก็มาถึงสถานี Hakodate หน้าตารถ super hakucho ที่เรานั่งมา สีเขียวนั้นแหละครับ หน้าตาน่าเอ็นดูเชียว







เข้ามาในสถานีก็เจอป้ายต้อนรับสู่เมือง Hakodate 

แผนที่ท่องเที่ยวในเมืองฮาโกดาเดะ เป็นแผ่นพับไว้บริการนักท่องเที่ยว


ออกมาข้างนอกสถานี หน้าตาสถานี เจอาร์ ฮาโกดาเตะ จะเป็นแบบนี้ ลงจากรถให้เลี้ยวซ้ายแล้วตรงไปก็ออกสถานี







คืนนี้เรานอนที่ pension poppy tail เมือง Hakodate ออกจากสถานีให้เดินตรงไปสุดสถานีรถบัสแล้วเลี้ยวซ้ายตรงไปประมาณ 500 ม. ก็จะถึงโรงแรม เราฝากกระเป๋าไว้ที่พักแล้วไปเที่ยวกันก่อน

มาดูกันว่าเรามีเวลาเที่ยวครึ่งวันสามารถไปไหนบ้างในเมือง Hakodate จากที่พักเราเดินย้อนกลับไปที่สถานี Hakodate กันก่อน จะเห็นโรงแรมตั้งอยู่ใกล้สถานีเยอะมาก ข้างหน้าจะมีแผนที่ให้ดูอย่างชัดเจน







เราจะไปตลาดปลา จากป้ายหน้าสถานีบอกว่า 160 ม.เอง ไม่ไกลครับ แค่เดินข้ามถนนก็ถึงแล้ว

ออกจากสถานีให้เลี้ยวขวา จะเป็นตลาดปลาตอนเช้าครับ เรามาตอนบ่าย แต่อยากไปดูตลาดปลาตอนเช้า แล้วเค้าจะขายให้เราไหมเนี้ย







ส่วนมากร้านจะปิดเกือบหมด แต่ยังพอเปิดขายอยู่บ้างเป็นบางร้าน 







บรรยากาศข้างนอกตลาดปลาตอนเช้า ตลาดไม่ค่อยใหญ่มาก แต่ก็เดินเพลินดีเหมือนกัน



















ชอบกระบะใส่ปูอ่ะ





เข้าไปดูตลาดปลาตอนเช้ากันบ้าง ข้างในจะแบ่งเป็นล็อกๆ จัดของสะอาด พื้นแห้งสนิทไม่มีน้ำเลอะเทอะเลย







ได้ชิมไข่หอยเม่นสดๆ แล้วก็แตงเมลลอน หอมหวานชื่นใจ







หลังจากเดินสำรวจได้สองรอบ สมาชิกก็ตกลงเลือกกินร้านป้าเจ้านี้ครับ (มาบ่ายตัวเลือกน้อย)





ร้านจะกางเต้นท์ 2 เต้นท์ติดกัน มีโต๊ะอยู่พอสมควร แต่ลูกค้ามีเราเป็นวีไอพี อยู่โต๊ะเดียวครับ





เมนูมีรูปให้ดูพร้อมบอกราคา จะติดอยู่รอบร้าน มีให้เลือกหลายเมนูมาก

ด้วยความหิว ก็จิ้มๆตามรูปไป ไม่ได้คิดอะไรมาก ก็ได้อาหารออกมาอย่างที่เห็น











รสชาติอร่อยเกินความคาดหวังไว้มาก ปกติผมไม่ค่อยชอบอาหารญี่ปุ่นเท่าไหร แต่ร้านนี้โดน

อิ่มเสร็จก็เดินกลับไปที่สถานีเพื่อไปซื้อบัตรรถราง เราซื้อแบบเหมาวันราคา 600 เยน

หน้าตาจะเป็นแบบนี้ ข้างในสามารถกางออกมาเป็นแผนที่ได้ ใช้เสร็จผมเก็บมาเป็นที่ระลึกไว้ที่เมืองไทย







ได้ตั๋วก็เดินออกจากสถานีให้ตรงไป จะเจอสี่แยก ให้เลี้ยวขวา เดินไปไม่ถึง 10 เมตรก็จะเห็นสถานีรถราง

ดูนาฬิกาที่สถานีรถรางเพิ่งบ่ายสามเอง





รถรางที่ฮาโกดาเตะมีแค่ 2 สายครับ สาย 2 กับสาย 5 แต่ใช้รางเดียวกัน สำหรับเรานั่งสาย 2  เพื่อจะไปเที่ยวยังโกดังอิฐแดง ( Red Brick warehouse )












บนรถรางคนใช้กันเยอะเหมือนกัน






นั่งรถไปแค่ 4 ป้ายก็ลง แล้วเดินย้อนมาหน่อยก็เลี้ยวซ้ายเดินไปจะเป็นโกดังอิฐแดง ถ้าเดินตรงไปเรื่อยๆก็จะถึงท่าเรือ









เดินมาสุดถนน ติดอ่าว จะเจอมุมนี้ สวยครับ




ผมเดินเลาะอ่าวมาเรื่อยๆก็เจอรูปปั้นนี้ เขาคือ Takeda Ayasaburō ผู้ที่เป็นนักปราชญ์ และสถาปนิก แห่งเมืองฮาโกะดาเตะ หนึ่งในผลงานที่น่าจดจำของเขาคือ การสร้างป้องปราการ โกเรียวคักคุ ซึ่งเป็นป้อมปราการรูปดาว แห่งเดียว เท่าที่เคยมีบันทึกมา ส่วนสมาชิกช้อปกับกินอยู่แถวโกดังนั้นแหละ





เดินเก็บบรรยากาศแถวริมอ่าวในเมืองฮาโกดาเตะ





























ใกล้เวลาก็มารอกับสมาชิกตรงบริเวณนี้













สมาชิกพร้อมเดินไปเที่ยวเนินถนนของย่านโมโตมาชิ

จากโกดังอิฐแดง ให้เดินเลียบไปทางซ้ายตรงไปจะเจอสี่แยกไฟแดง จะเห็นตึกหมีอยู่ข้างหน้า




ข้ามทางม้าลายตรงสี่แยกให้ตรงขึ้นไปก็จะเป็นถนนย่านโมโตมาชิ เย็นๆจะมีนักท่องเที่ยวมาเก็บภาพถนนสายนี้กันเยอะ





ยิ่งขึ้นสูงวิวยิ่งสวย









เดินขึ้นสุดถนนจะเป็นสามแยกตัวที เลี้ยวซ้ายตรงไปเรื่อย เพื่อจะไปขึ้นกระเช้าไปบนเขาฮาโกตาเตะ Hakodateyama Tenbodai (yakei) แวะถ่ายรูประหว่างทางไปเรื่อย















ใกล้ถึงแล้ว อีก 350 ม.เอง





เดินไปเรื่อยๆ ก็มาถึง Mt.Hakodate Ropeway 

ค่าขึ้นไปชมคนละ 1,200 เยน





กระเช้าค่อนข้างใหญ่ รับคนได้ประมาณเกือบร้อยมั่ง ขากลับเห็นนับคราวๆได้ประมาณนี้

ได้บัตรก็ขึ้นกระเช้าสิครับ 









ขึ้นไปก็เจอ Mascot แต่ผมไม่รู้ว่าเป็นตัวอะไรนะครับ ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวพอสมควร



ถึงจุดชมวิวเมือง Hakodate แล้ว

จุดชมวิวสวยๆข้างบน โดนจองหมดแล้ว ขึ้เกียจเบียดต้องหามุมถ่ายเอาเอง เมืองนี้เวลาเปิดไฟยิ่งมืดยิ่งสวย  อยากบอกว่าไปดูของจริงด้วยตาตัวเองจะสวยกว่าในรูปเป็นร้อยเท่า

ใกล้สามทุ่มพวกเราก็นั่งกระเช้าลงมาตีนเขาแล้วครับ









ลงมาได้ก็เดินลงเนินไปเรื่อยๆ เจอทางแยกก็เลี้ยวซ้ายจะเจอสถานีรถราง อยู่ทางขวามือพอดี เรานั่งรถรางมาลงที่เดิม ถึงสี่แยกเราเลี้ยวขวาเดินไปหาของกิน 




เดินเข้าไปในโซนนี้ จะแบ่งเป็นล็อกๆ มีร้านอาหารให้เลือกแต่ละร้านมีโต๊ะนั่งประมาณ 6-10 ตัวเป็นร้านเล็กๆ

เดินวนสองรอบ สมาชิกเลือกร้านราเมงร้านนี้ เห็นโต๊ะว่าง 5 คนพอดี เลยเลือกร้านนี้แหละ 555





นั่งได้ก็หยิบเมนูมาดู ป้าเค้าแนะนำเมนูนี้ว่าเป็นราเมงต้นตำหรับ น้ำซุปของตระกูลประมาณ 40 กว่าปี เพื่อไม่เสียเวลา บอกป้าไปเอาน้ำซุปต้นตระกูล 40 ปี มาเหมือนกัน 5 ชาม







อิ่มเสร็จก็เดินกลับเข้าที่พักประมาณ 2 ก.ม.ได้ แค่นี้ชิวๆ

ระหว่างทางก็เดินดูบ้านเมือง ที่ฮาโกดาเตะ เป็นเมืองเงียบดีจัง ชอบอ่ะ เดินกลางคืนทำไมไม่รู้สึกถึงอันตรายก็ไม่รู้ เดินที่ญี่ปุ่นแล้วสบายใจจังเลย







เดินเพลินก็มาถึงที่พัก คืนนี้หลับยาว เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยมารีวิวที่พักให้นะครับ คืนนี้ขอลาด้วยฝาท่อประจำเมืองฮาโกดาเตะแล้วกัน









พรุ่งนี้จัดกระเป๋าเตรียมไปลุยซับโปโร 3 วัน  //www.bloggang.com/mainblog.php?id=nongmalakor&month=11-08-2014&group=12&gblog=31

สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเมือง ฮาโกดาเตะ คลิ๊กเลย

**** วันนี้ตื่นตีห้าเตรียมตัวเดินทางจากอูเอโนะมาฮาโกดาเตะ อาศัยนอนหลับในรถไฟเอา หลับบ้างตื่นบ้าง กว่าจะมาถึงก็เที่ยงครึ่ง กว่าจะลากกระเป๋าไปเก็บที่พัก กว่าจะออกเที่ยวก็บ่ายโมงกว่าๆ มีเวลาแค่ครึ่งวันในฮาโกดาเตะ ตอนแรกกะเดินแถวอ่าวชิวๆแล้วกลับเข้านอนพัก เพื่อไปลุยเที่ยวเมืองซัปโปโร แต่พอมาสัมผัส ไม่อยากเชื่อว่าเมืองเล็กๆ เงียบๆอย่างนี้กลับมีเสน่ห์มากจนไม่อยากจะเสียโอกาส จึงลุยเที่ยวกันจนลืมเหนื่อย 

Hakodate เป็นเมืองที่ประทับใจอีกเมือง ถ้ามีโอกาสเราจะกลับมาเที่ยวแบบเต็มๆสองวัน ไม่ใช่เมืองทางผ่านอีกต่อไป คุณอยู่ในใจเราแล้วครับ