ล่อง ใต้ ไปตามอำเภอใจ (วันที่ 6 เกาะสมุย-ตัวเมืองภูเก็ต)
ย้อนดูวันที่ 5 chill chill @ เกาะสมุย คลิกเลย
วันพฤหัสที่ 8 เม.ย.64
วันนี้เราต้องเดินทางไปภูเก็ตแล้ว หลังจากเก็บของเสร็จ มากินอาหารเช้าที่รีสอร์ท
ของผมสั่งเหมือนเดิม แต่ไม่เอาขนมปังกับข้าวต้ม ส่วนของแฟนก็ข้าวต้มหมู เวลา 08.15 น.ไมล์ 880 กม.เดินทางไปยังท่าเรือหน้าทอน
ไว้มีโอกาสจะกลับมาเยี่ยมใหม่ครับ เวลา 08.34 น.ระยะทาง 846 กม.มาถึงท่าเรือหน้าทอน Seatran Ferry
วันนี้เราจองเรือเที่ยว 09.00 น.ขับเข้าช่องทางด่วนรอบ 09.00 น.ได้เลย ขาออกจากเกาะสมุย ผู้โดยสารไม่ต้องลงจากรถ ให้นั่งรถไปลงในเรือได้เลย แค่ยื่นบัตรประชาชนให้เจ้าหน้าที่เช็คข้อมูลเป็นอันเสร็จพิธี ขากลับได้ลงเรือคนละลำกับขามา เรือเก่าไปหน่อยไม่ใหม่เหมือนขามา แต่ออกตรงเวลาเหมือนเดิม
ชั้น 2 ภายในห้องติดแอร์เย็นสบาย แต่ไม่เปิดทีวีให้ชม
ภายในสะอาด แอร์เย็นสบายเหมือนขามาลำแรก
มีห้องขายอาหาร+ขนมเหมือนกัน ทางเดินด้านข้าง มีทั้ง 2 ข้างพร้อมบันไดขึ้นไปชั้น 3ชั้นบนไม่มีห้องปรับอากาศ สวยสู้เรือขามาไม่ได้แต่มีเก้าอี้ไว้ให้นั่งรับลมเย็นๆ
เวลา 09.00 น.ออกเวลาตรงเป๊ะทั้งขามาและขากลับ เวลา 10.31 น. ถึงท่าเรือดอนสัก ขากลับเร็วกว่าขามา 10 นาทีออกจากท่าเรือดอนสัก เป้าหมาย ภูเก็ต ระหว่างทางแวะเติมพลังที่ปั๊ม ปตท.บ้านนาเดิม จ.สุราษฎร์ธานี
ใช้เส้นทางเข้าตัวเมืองสุราษฎร์ถึงวิทยาลัยเทคนิคกาญจนดิษฐ์ มีป้ายบอกเลี้ยวซ้ายไปภูเก็ต เลี้ยวซ้ายไปเลยครับ เข้าเส้น 44 ถนนเส้นนี้ดีมากวิ่ง 3 เลนไม่มีสวน ถนนเส้นตรงอย่างเดียว ขับเพลินมาก
ถึงปั๊ม ปตท.เวลา 11.30 น.ระยะทาง 981 กม.ด้านหลังมีศูนย์อาหารประมาณ 5-6 ร้าน ผมชิมข้าวแกงทั้ง 2 ร้าน กระจายรายได้ ร้านขวามือ ครัวลูกป้าคลาย จัดคั่วกลิ้งเนื้อ ไข่พะโล้ ทอดมัน พอกินได้ไม่เลวร้ายปะทะร้านซ้ายมือ เซาร์เทิร์น 88 ส่งหมูหวาน ไข่ดาว เข้าประกวด หมูหวานสมชื่อเชียวตามด้วยแกงเหลือง ตัดเลี่ยนหวานได้ดีผัก น้ำพริก ตักได้ฟรีทั้ง 2 ร้าน น้ำพริกร้านแรก ทำไมของฟรีถึงอร่อยๆ ตบท้ายด้วยขนมข้าวเหนียวสังขยา อร่อยดีข้าวคลุกปลาทู ใส่น้ำพะโล้นิดหน่อย ให้น้องหมา ตอนนั่งกินข้าวมานั่งเฝ้า น่ารักดีจัดไป 1 กล่อง อิ่มแล้วได้เวลาเดินทางไปภูเก็ต เวลาเหลือแวะ บ้านน้ำราด ทางผ่าน วิ่งตามกูเกิ้ล แมพ คลิกเลย ครั้งที่แล้วเคยแวะ ครั้งนี้ติดใจขอแวะอีกรอบ ชอบเป็นการส่วนตัว สนใจดูบล็อกเก่าผมได้ครับ คลิกเลย มาถึงบ้านน้ำราดเวลา 12.45 น.ระยะทาง 1,019 กม. เสียค่าจอดรถ 20 บาท จะมีเจ้าหน้าทีคอยอำนวยความสะดวกให้ ที่จอดร่มเย็น ธรรมชาติดี
ทางเข้ากูเกิ้ลจะให้วิ่งผ่านสวนปาล์ม เส้นทางจะงงๆหน่อย แต่ก็ไปถึง ถ้าไม่มั่นใจถามชาวบ้านได้เลยครับ ผมก็ถามตลอด ครั้งนี้กูเกิ้ลพาไปคนละทางกับครั้งที่แล้ว เลยไม่ค่อยมั่นใจ ก่อนเข้าไปข้างในบ้านน้ำราด มีร้านกาแฟไว้บริการ เดี๋ยวนี้มีโฮมสเตย์แล้ว เมื่อก่อนยังไม่เห็นมี หรือผมไม่รู้ อ่านกฎระเบียบก่อนเข้านะครับ ที่นี่เข้มจริงๆ ชอบมากๆดูเป็นระเบียบดี ก่อนเข้าจะมีจุดคัดกรองก่อน ผ่านจุดคัดกรองเดินตรงไปจะถึงจุดจำหน่ายบัตรเข้าชม
ราคาบัตรเข้าชม ผู้ใหญ่ 25 บาท ถ้านั่งเรือพายด้วย 65 บาท เด็ก 15 บาท ถ้านั่งเรือพายด้วย 45 บาท คนในพื้นที่ 10 บาท (แสดงบัตรประชาชน) ชาวต่างชาติ 95 บาท
ส่วนระเบียบการเข้ายังเหมือนเดิม ของทุกอย่างนำติดตัวไปได้แค่กล้องถ่ายรูปกับกระเป๋ามือถือ ถ้ากระเป๋าใบใหญ่ให้ฝากไว้ที่ล็อกเกอร์ก่อนทางเข้า ไม่เสียค่าฝาก มาครั้งที่แล้วคิดค่าฝากล็อกเกอร์ละ 20 บาทบัตรพร้อมเดินเข้าไปได้เลยครับ ก่อนทางเข้าด้านซ้ายมือจะมีห้องน้ำไว้ให้อาบน้ำเปลี่ยนชุดสำหรับคนที่จะมาเล่นน้ำ
หน้าตาบัตรจะเป็นแบบนี้ รูปนี้ยืมมาจากทริปที่แล้ว ทริปนี้ไม่ได้ถ่ายรูปมาให้ดูทางเข้า-ทางออกจะเป็นทางเดียวกันแต่จะมีเชือกกั้นไว้ให้เดินทางแนวเชือกไว้เข้ามาตรึมเลย เด็กๆเพียบ เล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน วันนี้น้ำเลยไม่ค่อยใสเท่าครั้งที่แล้ว ถ้าไม่เคยมาครั้งแรกก็ถือว่ายังใสอยู่นะครับเราเดินไปยังจุดพายเรือก่อนครับเดินมาถึงตรงนี้ จนท.จะเก็บบัตรเราแล้วเดินเข้าไปพายเรือได้เลย ถ่ายจากจุดท่าเรือ เหมือนเดิม จ้างน้องพายเรือ 50 บาท เป็นเด็กท้องถิ่นใช้เวลาว่างหรือปิดเทอมมารับจ้างพายเรือและเป็นไกด์ไปด้วย ถือว่ากระจายรายได้ให้กับน้องๆ ใครอยากจะมีประสบการพายเรือเองก็ได้นะครับ ไม่จำกัดเวลา หรือใครไม่อยากพาย อยากนั่งถ่ายรูป ชมน้ำใสๆกับธรรมชาติสวยๆ ไม่ต้องห่วงเรื่องพายเรือก็จ้างน้องเค้าได้ แล้วแต่ไม่บังคับ นั่งเรือเพลินๆ ถ้าไม่เคยมาครั้งแรกถือว่าน้ำใสนั่งเพลินประมาณ 40 นาทีก็กลับเข้าท่าเรือเดินกลับไปเล่นน้ำตรงจุดแรก น้ำเย็นชื่นใจมาก เล่นได้ซักพักเดินกลับ ครั้งนี้น้ำขุ่นกว่าครั้งแรก
ทางเดินเป็นวงกลมจะกลับไปยังจุดที่เราเข้ามาก่อนทางเข้าตอนนี้มีร้านอาหาร ร้านขายอุปกรณ์การเล่นน้ำ จัดเป็นระเบียบดีมาก ส่วนทางด้านซ้ายมือมีห้องน้ำไว้ให้อาบน้ำเปลี่ยนชุดหลังจากเล่นน้ำในสระ บริการฟรี เวลา 14.12 น.ระยะทาง 1,019 กม.ได้เวลาเดินทางไปภูเก็ต
ถึง จ.พังงา ผ่านเสม็ดนาชี ตอนแรกลังเลว่าจะแวะดีไหม ทริปแรกดูในเวปรู้สึกเฉยๆเลยขับผ่าน แต่ครั้งนี้ไหนๆก็ผ่านแล้วลองแวะเข้าไปชมให้หายข้องใจ วิ่งตามกูเกิ้ลได้เลยครับ คลิกเลย
มาถึงเสม็ดนางชี 16.12 น.ระยะทาง 1,150 กม. (จากปากทางหลัก ถ.เพชรเกษม เข้าไปจุดชมวิวเสม็ดนางชีประมาณ 14 กม. ถนนลาดยาง 2 เลนกว้าง วิ่งสวนกันสบายๆ ทางดี ไม่มีโค้งหักศอก ขึ้นเขาอะไรทั้งนั้น ขับได้ชิลๆแต่อย่าประมาท บางจุดผ่านหมู่บ้าน ระวังด้วยครับ)เสม็ดนางชีมีที่ชมหลายจุด แต่ละรีสอร์ทก็มีจุดเด่นแตกต่างกันไปแต่วิวน่าจะเหมือนกัน ส่วนผมมาจุดชมวิวเสม็ดนางชีมีลานจอดรถ เสร็จแล้วให้ไปซื้อบัตรเพื่อนั่งรถขึ้นไปชมวิว เค้าไม่ให้เราขับรถขึ้นไปเองต้องนั่งรถท้องถิ่นขึ้นไปเท่านั้น คนละ 90 บาท ไป-กลับ นั่งรถกระบะ 4X4 ใช้เวลาประมาณ 10 นาที ตอนแรกนึกในใจแค่ 10 นาทีทำไมราคาสูงจังพอเห็นทางขึ้นแล้ว 90 บาทให้เค้าไปเถอะ ให้ผมขับขึ้นไปเองก็ไม่เอา สงสารรถ หลายๆท่านคงเคยขึ้นไปแล้วหรือเคยดูรูปตามเนท อยากบอกว่าของจริงสวยกว่าในรูปที่เห็นอีกครับ ข้างบนมีจุดถ่ายรูปเก๋ๆหลายจุดอยู่เหมือนกัน ด้านหลังมีร้านขายของฝากนิดหน่อยลาเสม็ดนางชีด้วยภาพนี้เวลา 17.05 น.ได้เวลาไปภูเก็ตแล้ว คืนนี้เรานอน Blu Monkey Boutique Phuket Town ตัวเมืองภูเก็ต คลิกเลย
ขับเฉิ่มๆไม่รีบ มาถึงด่านตรวจเมืองภูเก็ต เวลา 17.36 น. ระยะทาง 1,179 กม.จะมีตรวจวัดอุณหภูมินิดหน่อย ผ่านด่านมาได้ ขับมาถึง Blu Monkey Boutique Phuket Town เวลา 18.30 น.ระยะทาง 1,219 กม.ทริปนี้ ซื้อ Voucher ของเจ้านี้ในงานไทยเที่ยวไทยมา 3 จังหวัดมาถึงโทรติดต่อพนักงาน จะเอากุญแจห้องมาให้ พนักงานจะให้ทัก line ของที่พัก อยากรู้อะไรกดเข้าไปดูใน line ได้เลย จะบอกรหัสประตูเข้าที่พัก บอกระเบียบและของชั้นต่างๆแล้วก็เดินจากไป พนักงานต้องไปดูอีกสาขาใกล้ๆกัน สาขานี้วันที่ผมไปพักไม่มีพนักงานอยู่ ต้องดูแลกันเอง ชอบอ่ะ ชอบจริงๆนะไม่ได้ประชด เหมือนมาพักบ้านตัวเอง และ Blu Monkey Boutique Phuket Town ไม่มีที่จอดรถให้นะครับ ต้องหาที่จอดข้างถนนเอาเองหรือขับไปจอดที่ลานจอดรถอีกสาขาหนึ่งไม่ไกล
หลังจากได้กุญแจห้อง ได้เวลามื้อเย็น วันนี้เราฝากท้องไว้ที่ร้านสังกะสี อยู่แถว สามกอง จากที่พักประมาณ 4 กม. คลิกเลย ดูเมนูกันก่อน ราคาไม่แรงสั่งไป 4 อย่างเมนูแรก หมูคั่วเกลือ หมูสามชั้นทอดแห้งๆ กรอบ ติดเค็มนิดๆกำลังดี จานนี้อร่อย ทอดมันกุ้ง กุ้งล้วนๆ เต็มปากเต็มคำ กัดคำแรกกลิ่นกุ้งออกมาเลยจานนี้ก็อร่อย ผัดผักบุ้งไฟแดง ผักบุ้งกรอบ รสชาติเค็มกำลังดี กลมกล่อมมาก ไม่มันเลี่ยน จานนี่ก็อร่อยแกงส้มปลายอด พระเอกสุดๆ ผมไม่ใช่คอแกงส้มทางใต้ ตั้งแต่กินแกงส้มมา ร้านนี้อร่อยสุดใน 3 โลก ยอดมะพร้าวกรอบมาก ปลาก็สดเนื้อหวาน ให้มาเยอะมากกินไม่หมด ส่วนรสชาติแกงส้ม เปรี้ยวนำมีออกหวานนิดๆ หวานแบบกลมกล่อมเข้ากับรสเปรี้ยว ไม่ได้หวาน-เปรี้ยวทางใครทางมัน ส่วนมากจะเจอเปรี้ยวกับเค็ม บรรยายไม่ถูก รู้แต่ว่า แกงส้มรสชาตินี้ที่ตามหา ร้านนี้เพิ่งมาชิมเป็นครั้งแรก เคยหาข้อมูลมาว่าร้านนี้อร่อยและถูกแต่ไม่มีโอกาสได้มาชิมสักที ครั้งนี้ถือโอกาสมาชิม ไม่ผิดหวัง อาหารทุกอย่างเต็ม 5 ให้เต็ม 5 ทั้ง 3 เมนู ส่วนแกงส้มนี้ ให้เต็ม 7 เลย อร่อยจริงๆ แถมราคาน่าคบหา อาหารให้มาจานใหญ่พอประมาณ เป็นร้านบ้านๆบริการแบบบ้านๆ ถูกใจมาก ถ้าไปภูเก็ตอีก ร้านนี้ถือเป็นร้าน 1 ในดวงใจอีก 1 ร้าน ไม่พลาดแน่ ของอร่อยและถูกต้องอวยให้ไส้แตก
ราคาตามใบเสร็จเลยครับ (ในบิลข้าว 2 จาน 20 บาท สั่งเพื่มอีก 1 จานไม่ได้จดในบิล มาคิดเพิ่ม รวม 3 จาน 30 บาท )ได้เวลากลับเข้าห้อง มาถึงโรงแรมเวลา 20.20 น.ระยะทาง 1,227.8 กม. เข้ามาด้านในโรงแรม ประตูไม้คลาสสิกแต่ใช้รหัสเปิดประตู เป็นความคลาสสิกที่ใช้ไฮเทคผสมผสานได้ลงตัวมากด้านในชั้นล่างจะเปิดเป็นร้าน Coffee Shop เล็กๆ ผมมาเย็นออกแต่เช้าเลยไม่ได้ถ่ายรูปภายในร้านให้ดู ใครอยากเห็นลองค้นในเนทดูได้ครับ แต่งร้านได้น่ารักมากผมได้ห้อง 22 อยู่ชั้น 2 ดีหน่อย ขึ้นบันไดชั้นเดียว โรงแรมไม่มีลิฟต์ให้นะครับ ไม่งั้นปีนขึ้นบันไดหอบแน่ บันไดขึ้นไปยังชั้น 2ตรงบริเวณมุมบันไดมีแผนที่ประเทศไทย จะบอกจุดแต่ละสาขาของโรงแรมว่าเปิดจังหวัดไหนบ้าง ด้านข้างมีกระดาษพร้อมปากกาไว้ให้ลูกค้าเขียนข้อความแล้วไปแขวนตรงตะแกรง มุมนี้ก็น่ารักดี ขึ้นมาชั้น 2 เหมือนเป็นห้องรับแขก มีโต๊ะไว้ให้นั่งเล่นหรือจะซื้ออาหารขึ้นมากินตรงนี้ก็ได้ ด้านข้างมีโต๊ะวางของ ทางที่พักได้เตรียมจาน ชาม ช้อน พร้อมอ่างล้านจานไว้บริการให้ด้วย ใช้เสร็จแล้วอย่าลืมล้างจัดเก็บให้เรียบร้อยเหมือนเดิมด้วยละครับ ด้านข้างจะมีมุมเครื่องดื่มพร้อมกระติกน้ำร้อนไว้ให้บริการฟรี ขนมนมเนย รวมถึงมาม่า คัพก็มีให้ หิวเมื่อไหร่ก็เปิดใส่น้ำร้อนได้เลย ในตู้เย็นเตรียมน้ำดื่ม น้ำผลไม้ ผลไม้ไว้ให้บริการเหมือนกัน แต่ก่อนจะหยิบดูด้วยนะครับ เผื่ออาจเป็นของห้องอื่นเอามาฝาก แต่ที่เห็นอยู่ในตู้เย็นทั้งหมดน่าจะเป็นของโรงแรมไว้บริการลูกค้า หยิบไปกินได้เลย มุมบันไดชั้น 2 ก่อนเข้าห้องห้อง 21 อยู่หน้าบันไดขึ้นไปชั้น 3ห้อง 22 ห้องที่ผมพักถัดไป 1 ห้อง ไม่รู้ต้องใช้รหัสเข้าห้องเปล่า ผมใช่กุญแจไขเข้าไป แต่ก็ดูไฮเทคดีเข้ามาในห้องกันครับ
เปิดประตูเข้ามา ห้องไม่กว้างแต่ก็ไม่แคบจนเกินไป ภายในห้องจะใช้สีโทนขาวดูสะอาด สบายตา ตัดกับสีดำ ส่วนพื้นกระเบื้องลายไม้ดูลงตัวดีเข้าไปด้านขวามือเจอเตียงดูดวิญญาณอีกแล้ว เป็นเตียงเหล็กดูเรียบง่ายแต่คลาสสิก
ตอนแรกนึกว่าเตียงจะก๊องแก๊งอีก ผิดคาดเตียงแข็งแรงมาก หัวเตียงมีโคมไฟให้คนละข้าง วางบนเก้าอี้ไม้พร้อมปลั๊กไฟคนละข้างปลายเตียงมีโต๊ะกับเก้าอี้ไว้นั่งเล่น พร้อมผ้าเช็ดตัวและผ้าเช็ดมือ ด้านผนังมี Smart TV สามารถเปิดดู netflix ได้ด้วยแต่ต้องใส่รหัส ขั้นตอนอยู่ใน line ของโรงแรม แต่ผมใส่รหัสไม่ผ่านเลยดูแค่ YouTube เพิ่งเห็นที่นี่แหละที่มี Smart TV ให้ดู ใต้ทีวีมีโต๊ะชั้นวางของเอนกประสงค์ มีไดร์เป่าผมให้ด้วย ข้างเตียงด้านในห้องเป็นห้องน้ำ ไม่มีประตูใช้ผ้าม่านกันแทน สไตล์โรงแรมเจ้านี้เลย ไม่มีประตูห้องน้ำใช้ผ้าม่านกั้นแทนด้านหน้ามีอ่างล้างหน้าวางบนโต๊ะเหมือนสมัยเก่าแล้วมาดัดแปลง พร้อมกระจก 1 บาน ดูเรียบง่ายแต่มีสไตล์ ถัดไปเป็นชักโครกพร้อมสายชำระ ห้องอาบน้ำมีม่านกั้น เรียบง่ายดี ไม่ซับซ้อน แต่สะอาดมาก แค่นี้ก็พอใจแล้วHighlight มาแล้ว ด้านหลังมีประตูเปิดไปด้านนอกเหมือนชานเรือนหรือเป็นห้องนั่งเล่นส่วนตัว เปิดประตูเข้าไป พื้นปูกระเบื้องลายดอก ตรงกลางเป็นมุมสวนต้นไม้เล็กๆ มีโต๊ะวางกระถางต้นไม้พร้อมเก้าอี้ สำหรับคนที่ชอบต้นไม้ต้องชอบแน่ๆ
รู้สึกว่าแฟนจะกรี๊ดกร๊าด ห้องนี้เป็นพิเศษ น่าจะแพ้ลายกระเบื้อง มีอุปกรณ์ทำสวนเล็กๆด้านขวาในสุดให้อ่างล้างมือ มีกระถางต้นไม้ประดับ มุมนี้ก็น่ารักด้านประตู มีอักษรเก๋ๆกับมุมน่ารักๆสรุป โรงแรมไม่ใหญ่มากใช้ตึกเก่า 2 คูหามารีโนเวทใหม่เป็นแนววินเทจร่วมสมัย การตกแต่งคลาสสิกตั้งแต่ประตูทางเข้าจนถึงในห้องนอน ภายในห้องนอนไม่กว้างแต่ไม่ถึงกับแคบจนวางกระเป๋าไม่ได้ ห้องสะอาด ไม่มีกลิ่นเหม็นอับใดๆ ผ้าเช็ดตัว สะอาดพอประมาณ ผ้าห่ม ผ้าคลุมเตียงสะอาดมาก ที่นอนนุ่มกำลังดี นอนแล้วหลับไปไม่รู้ตัว ตื่นมาไม่ปวดหลัง ห้องน้ำไม่มีประตูใช้ผ้าม่านแทน บางคู่อาจไม่ชอบแนวนี้ แต่ห้องสะอาด ไม่มีคราบหรือเชื้อราตามกระเบื้อง น้ำไหลแรง เครื่องทำน้ำอุ่นใช้ได้ปกติแต่ไม่ค่อยชอบก๊อกน้ำ 2 หัวเป็นการส่วนตัว เวลาปรับน้ำร้อน น้ำเย็น ปรับลำบาก ไฟฟ้าปกติไม่มีดับหรือไฟตก แอร์เย็นฉ่ำ ไวไฟแรงดี สิ่งอำนวยความสะดวกมีให้ครบ อาหารสามารถไปหยิบที่ชั้นรับรองได้ตลอด ที่ชอบคือห้องนั่งเล่นส่วนตัว ตกแต่งได้น่ารักดี ถ้ามีโอกาสมาภูเก็ตจะมาพักที่นี่อีก
ลาด้วยเตียงนุ่มๆที่ Blu Monkey Boutique Phuket Town คืนนี้หลับฝันดี พรุ่งนี้ One day trip เกาะพีพี กันครับ คลิกเลย
การเดินทางวันนี้ทั้งหมด 347.8 กม.
ค่าใช้จ่ายวันนี้ Blu Monkey Boutique Phuket Town ราคาคืนละ 690 บาท จองในงานไทยเที่ยวไทย ครั้งที่ 58 ไบเทค บางนา ข้าวแกงปั๊ม ปตท.นาเค็ม สุราษฎร์ฯ 200 บาท (ข้าวราดแกง 2 จาน 90 บาท,ข้าว+ปลาทู 50 บาท,แกงส้ม 50 บาท,ขนม 10 บาท) บ้านน้ำราด ค่าจอดรถ 20 บาท ค่านั่งเรือพาย+ค่าเข้า+จ้างเด็กพายเรือ 180 บาท (ค่าเข้าพร้อมเรือพายคนละ 65x2 บาท,ค่าจ้างเด็กพายเรือ 50 บาท) เสม็ดนางชี ค่านั่งรถชมวิว ไป/กลับ 180 บาท (คนละ 90X2 บาท) ภูเก็ต ร้านสังกะสี 487 บาท (หมูคั่วเกลือ 120 บาท,ผักบุ้งไฟแดง 70 บาท,ทอดมันกุ้ง 120 บาท,แกงส้มปลายอด 120 บาท,ข้าว 30 บาท,น้ำขวดใหญ่+น้ำแข็ง 27 บาท)
สรุปแยกค่าใช้จ่าย ค่าเข้าสถานที่ท่องเที่ยว+ค่าบริการพนักงาน 380 บาท ค่าอาหาร 687 บาท ค่าที่พัก 690 บาท
รวมค่าใช้จ่ายวันนี้ทั้งหมด 1,757 บาท
Create Date : 28 เมษายน 2564 |
|
2 comments |
Last Update : 2 กุมภาพันธ์ 2565 17:16:03 น. |
Counter : 1311 Pageviews. |
|
|
|