Bloggang.com : weblog for you and your gang
ลุยมั่วๆ 2 คน @ KANSAI (วันที่ 3 NARA + KYOTO)
ย้อนดูวันที่ 2 Aquarium KAIYUKAN+OSAKA
คลิ๊กเลย
วันอาทิตย์ที่ 31 มี.ค.62
06.30 น. ออกจากโรงแรม APA Hotel Namba Shinsaibashi ใช้เส้นทางเดิม มาลง SUBWAY ประตู 25 วันนี้ไป NARA เราจะใช้บัตร
Kansai Thru Pass 3 Day
เปิดวันที่ 1 โดยนั่งรถไฟ HANSHIN
ไปเที่ยวกัน
ลง SUBWAY มาได้ จับป้าย HANSHIN แล้วเดินตามป้ายเลยครับ มีลูกศรบอกตลอดทาง
ป้ายนี้เลี้ยวขวาลงบันไดตามลูกศรไป
มาถึงทางเข้า เสียบบัตรเข้าไปเลยครับ อย่าลืมดึงบัตรกลับเอามาด้วยละ เพราะต้องใช้อีก 2 วัน ตามป้ายจะมีทั้ง LOCAL และ SEMI-EXP. ให้นั่ง SEMI-EXP.(ป้ายสีเขียว)
ไปรอที่ชานชาลาที่ 1 เวลาออก 06.57 น. ทันเที่ยวนี้พอดี
รถไฟใหม่ดี มาตรงเวลามาก
สีแดงสดใสเชียว
ภายในตู้ เก้าอี้จะเป็นแถวยาวนั่งหันหน้าเข้าหากันเหมือนบีทีเอสบ้านเรา
ขึ้นต้นทางจะมีที่ว่าง เลือกที่นั่งได้ตามสบาย
การเดินทางจาก Osaka-Namba Station นั่งขบวน KINTETSU NARA LINE SEMI-EXP. for KINTETSUNARA 15 ป้ายลง Kintetsu-Nara Station สุดสายที่สถานี ไม่ต้องกลัวหลง นั่งยาวเลยครับ จากต้นสายลงสุดสาย ประมาณ 45 นาที ก็ถึง NARA
ถ้าไม่ง่วงนอน นั่งชมวิวระหว่างทางก็สวยดีเหมือนกัน เหมือนทางจะไต่ระดับขึ้นเนินเขาไปเรื่อยๆ
ถึงแล้วเสียบบัตรออก ออกได้ทั้ง 2 ประตู จะซ้ายหรือขวาก็ได้ ผมออกทางซ้าย
ใครลากกระเป๋า สัมภาระติดตัวมา ไม่ต้องกังวลที่สถานีมีที่ฝากกระเป๋าให้ด้วย ส่วนห้องน้ำยังคงสะอาดตามมาตรฐานญี่ปุ่น
ออกประตูมาได้เลี้ยวขวา 7/11 รอต้อนรับท่านอยู่
ถ้าออกประตูขวาจะเป็นถนนคนเดิน มี LAWSON คอยต้อนรับเช่นกัน ทางเดินจะขนานกันไป
เดินตรงไปเรื่อยๆ จะมีป้ายบอก เป้าหมายเช้านี้คือวัดโทไดจิ (Todaiji)
ตอนดูแผนที่ประมาณเกือบ 2 กม.เหมือนจะไกล แต่พอเดินจริงๆ
เดินเพลินๆมีอะไรให้ชมตลอดทาง แถมอากาศเย็นสบาย 4 องศา ทำให้ไม่รู้สึกไกลเลยครับ
มีป้ายเตือนนักท่องเที่ยวตลอด
เดินตามป้ายไป
ผ่านวัดหรือศาลเจ้าอะไรก็ไม่รู้ ซากุระ ย้อยเต็มต้น อยู่ติดถนนเลย
อยู่ตรงนี้ประมาณ 15 นาที ได้เวลาไปต่อ เดินตรงไปจะมีทางลอดอุโมงค์ข้ามถนน จะมีป้ายบอกในอุโมงค์ว่าไปที่ไหนบ้าง ลอดลงไปก็จะเป็นสวนนาราแล้วครับ
มีร้านขายขนมแซมเบ้ไว้ให้น้องกวาง
ราคาจะเท่ากันทุกร้าน แต่ยังไม่ใช่เป้าหมาย เดินต่อไป
ใกล้ถึงวัดแล้ว น้องกวาง มารอต้อนรับเต็มเลย
ประตูใหญ่จะมีรูปปั้นเป็นเทพหรืออะไรซักอย่างแหละ
คอยยืนเฝ้าประตูทั้ง 2 ข้าง
ผ่านประตูใหญ่ก็ใกล้ตัววัดแล้วครับ
วัดโทไดจิ (Todaiji)
ความหมายตามตัวอักษรคือ วัดใหญ่แห่งทิศตะวันออก ตั้งอยู่ที่เมืองนารา ภูมิภาคคันไซ ถือเป็นโบราณสถานที่มีความเก่าแก่และสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศญี่ปุ่นและยังถือว่าเป็นวัดที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากที่สุดในนาราเลยก็ว่าได้
วัดโทไดจิ สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 752 ในช่วงที่พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรืองจนถึงขีดสุด สิ่งก่อสร้างที่สำคัญของวัดนี้ คือ วิหารไม้หลังใหญ่ ไดบุตสึเดน (大仏殿) ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานองค์หลวงพ่อโต (ไดบุตสึ) ว่ากันว่าเป็นอาคารไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีความสูง 157 ฟุต ความยาว 187 ฟุต แม้ว่าวิหารไม้ที่เห็นในปัจจุบันนี้มีขนาดเพียงแค่ 2 ใน 3 ของวิหารหลังเดิมที่เคยถูกไฟไหม้ไปจากภัยสงคราม แต่ก็ยังคงมีความยิ่งใหญ่จนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก
ถึงวัดแล้ว ผ่านทางเข้าจะมีช่องจำหน่ายบัตรเข้าไปชม
ค่าเข้าคนละ 600 เยน ถ้ารวมเข้าชมพิพิธภัณฑ์ด้วย 1,000 เยน
ได้บัตรเข้าชมแล้วครับ ผมซื้อแค่เข้าชมวัดอย่างเดียว 600 เยน
บัตร KTP ใช้เป็นส่วนลดไม่ได้
วัดใหญ่มาก
ซากุระเริ่มบาน 80 % แล้ว
ได้เวลาเข้าไปชมภายใน
วิหารไดบุตสึเดน
เป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปองค์ใหญ่ “ไดบุตสึ” (Daibutsu 大仏) หรือองค์พระไวโรจนะพุทธเจ้า (หมายถึงพระพุทธเจ้าที่มี รัศมีส่องสว่างไปทั่วจักรวาลดุจดังพระอาทิตย์ มีการนับถือกันมากในจีน เกาหลี และญี่ปุ่น) องค์พระสร้างด้วยบรอนซ์ ประทับอยู่ในปางนั่งขัดสมาธิเพชร แสดงธรรม พระหัตถ์ซ้ายวางหงายบนพระพาหา พระหัตถ์ขวาอยู่ในท่ามุทรา องค์พระมีความสูง 14.98 เมตร หนักประมาณ 500 ตัน สร้างเสร็จในปี ค.ศ. 752 นอกจากพระพุทธรูปองค์ใหญ่ องค์พระไวยโรจนะแล้ว ที่เบื้องขวามีพระอากาศครรภ์โพธิสัตว์(虚空蔵菩薩) และที่เบื้องซ้ายมีพระจินดามณีอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ (如意輪観音菩薩) ประดิษฐานอยู่เป็นพระอันดับ ทั้ง 2 องค์นี้ เป็นพระพุทธรูปไม้ที่สร้างขึ้นในสมัยเอโดะ
แล้วก็มาถึงเสาซึ่งมีการเจาะรูอยู่ที่โคนเสา ซึ่งอยู่ภายในวิหาร
เชื่อกันว่า ถ้าใครสามารถลอดรูเสาต้นนี้ได้คำอธิษฐานจะเป็นจริง
ในเนทมีคนบอกว่ารูเสากว้างเท่ากับความกว้างของรูพระนาสิก (รูจมูก) ขององค์ไดบุทสึครับ
ใครจะมาลอดรูเสาขอพรแนะนำมาแต่เช้า ถ้าสายๆ ทัวร์ลงคนจะเยอะมากกก
ไม่รู้ให้ทำบุญกระเบื้องหลังคาแบบบ้านเราเปล่า เห็นมีชื่อแกะสลัก อันนี้ไม่แน่ใจเดาล้วนๆ
ประมาณ 09.30 น.ได้เวลาไปสวนนาราแล้ว
ทางออกจะอยู่ด้านซ้ายมือ ตอนเช้าเราเข้ามาทางขวา
จะมีร้านขายของที่ระลึกเกี่ยวกับกวางรวมถึงเครื่องรางของขลังเยอะเลย
ออกจากวัดได้เลี้ยวซ้ายจะเจอเสาโทริอิ ไม่รู้วัดอะไรเดินไปเรื่อย
ที่จริงเมือง NARA ไม่ได้อยู่ในแผน เพราะไม่ได้ตั้งใจมาดูกวางหรือวัด แต่ที่มาเพราะซากุระล้วนๆ เลยจัดมาครึ่งวันพอ ที่เหลือเป็นของแถม
ข้อมูลเมืองนารา สำหรับผมน้อยมากไม่ได้หาข้อมูลมาเลย รู้แค่ว่าเป็นจุดหนึ่งที่ต้องมาดูซากุระเท่านั้นเอง
ตัดสินใจถูก ต้นซากุระเยอะมาก แม้จะบานแค่ 80% ก็สวยคุ้มค่ากับการเดินทางมาชม
แค่จุดนี้ก็สวยละลายแล้ว
เดินออกมาทางสวน เป็นลานกว้างมีน้องกวางเต็มไปหมด
น้องกวางถึงจะน่ารักแค่ไหน แต่ก็ไม่ใช่เป้าหมาย
อย่าน้อยใจน๊า ลาเมืองนาราด้วยน้องกวางแล้วกัน ชอบก้นตัวนี้ รูปหัวใจ
เดินกลับไปขึ้นรถไฟที่สถานีเดิม
ผ่านป้ายรถเมล์เมืองนารา ป้ายเก๋ เชียว
เดินเพลินๆมาถึงสถานีรถไฟ Kintetsu-Nara ของ HANSHIN แล้ว (สถานีเดียวกับตอนเช้าที่เรามา) ซ้ายมือจะเป็นถนนช้อปปิ้ง ขอแวะหน่อย
ถนนช้อปปิ้ง
ไม่ยาวเท่าไหร่แต่มีร้านขายของน่ารักๆให้เลือกเยอะ เดินจนทะลุมาอีกถนน เลี้ยวซ้ายเห็นคนมุงกันเยอะเลย
เข้าไปดูใกล้ๆ เป็นร้านขายขนมโมจิเจ้าดังนั้นเอง เดี๋ยวค่อยเข้ามาดู
ใกล้ๆมีร้าน Family Mart ขอฝากท้องไว้ที่นี่แล้วกัน มีที่นั่งให้กินด้วย
พอประทังท้องได้ มาดูเข้าทำแป้งโมจิกันดีกว่า
โชว์นวดแป้งประมาณ 1 นาที นวดเร็วมาก ถ่ายคลิปมาให้ดูด้วยครับ
ลองชิม 1 ชิ้น แป้งนุ่มมาก ไส้ถั่วแดงก็หอม แนะนำๆ
ราคาตามป้ายเลยครับ ชิ้นละ 130 เยน มีทั้งขายแบบชิ้นและแบบกล่อง
ประมาณ 11.00 น.
เดินกลับมาขึ้นรถไฟ ถึงหน้าสถานี Kintetsu-Nara มีรูปปั้นไม่รู้ว่าเป็นใครอ่ะ
เป้าหมายต่อไป ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ ใช้บัตร KTP ขึ้นได้เลย
นั่งขบวน Kintetsu-Kyoto Line
วิ่งฉ่ำไปเรื่อยๆ 9 ป้าย มาลง Takeda แง่ววว ที่จริงต้องลงสถานี FUSHIMI แต่ไม่เห็นจอดหรือผมนั่งผิดขบวน ช่างมัน ลงก่อน
ออกประตู K 15 จะเจอป้ายรถเมล์
ดูแผนที่ก่อน มีสาย 105 ผ่าน
นั่งรอสิครับ
นั่งรอซักพัก 105 มาจอดที่ป้าย ดูสัญลักษณ์ แม่มด ใช้บัตร KTP ขึ้นได้ฟรี
เดินขึ้นประตูตรงกลาง ไม่เห็นเครื่องแตะบัตรอะไรทั้งนั้น ขึ้นไปหาที่นั่งได้เลย
หน้าตารถจะประมาณนี้ แต่ไม่ใช่คันที่ผมนั่งมา
นั่งมา 6 ป้าย ประมาณ 10 นาที ลงป้ายรถเมล์ Inari taisha-mae Bus Stop
บนรถเมล์ข้างหน้าจะมีป้ายไฟวิ่งบอกแต่ละป้ายว่าถึงไหนบ้าง
ถึง Inaritaishamae Bus Stop จะตีเส้นชัดเจน ใครจะไปไหน ขึ้นรถเมล์สายอะไร ยืนรอตามลูกศรได้เลย เมืองไทยจะทำแบบนี้ได้ไหม
ลงมางงๆนิดหน่อย แต่เห็นนักท่องเที่ยว ทัวร์ถือธง สบายใจแล้ว เดินตามไปได้เลย ไม่หลงแน่
จากป้ายรถเมล์ จะเห็นป้าย Infromation อยู่ฝั่งตรงกันข้าม เดินข้ามทางม้าลาย
เดินตรงต่อไป จะผ่านสถานี KEIHAN
ข้ามทางรถไฟ เดินตรงไปเรื่อยๆ ไม่ต้องกลัวหลง นักท่องเที่ยวเดินกันเยอะมาก
เห็นเสาโทริอิ ใกล้ถึงแล้ว
ผ่านเสาโทริอิ มาได้ระวังกระเป๋าให้ดี มีร้านอาหารพร้อมจะกระชากตังค์ออกกระเป๋าเราโดยไม่รู้ตัว 555
หมายถึง ร้านอาหาร+ร้านค้า ที่ทำของน่ารักและอยากกิน เราห้ามใจไม่ไหวต้องควักตังค์ซื้อ โดนเจ้าแรกทาโกยากิ ไม่รอด ร้านนี้อร่อยกว่ากินที่ร้านดงทงโบริเมื่อคืนอีก 555
ของน่ารักๆ ก็เยอะ
ขนมไทยากิ ไส้ถั่วแดง ไม่ได้ลองชิม แต่ดูน่ากินดี
น่ากินทั้งนั้น
มันทอดร้อนๆ กินช่วงอากาศ 6 องศา ฟินสุดๆ
ทางก็ไม่ไกล แต่กว่าจะเดินถึง ไม่ใช่นักท่องเที่ยวเยอะนะครับ แต่ร้านมันน่ากินทั้งนั้น หอมไปหมด
เนื้อร้านนี้ควันฉุยเลย หอมมากกก จัดมา 1 ไม้ เนื้อนุ่มจัง รสชาติดีเลยอ่ะ
ไส้กรอก ยาวมาก เสียดายไม่ได้ชิมแต่ดูน่ากินดี
หมู B.B.Q. ร้านนี้ก็อร่อย
ขนมดังโงะ ไม่ได้ชิม
หมดเวลากับทางเดินเข้าตรงนี้ ครึ่งชั่วโมง ได้เวลาขึ้นไปชมเสาโทริอิแล้วครับ
สุดถนนเลี้ยวซ้ายก็ถึงศาลเจ้า
ดูแผนผังกันก่อน
ไม่เสียค่าเข้าชมศาลเจ้า นอกจากอยากจะทำบุญแล้วแต่ศรัทธา
ศาลเจ้า Fushimi Inari
มีชื่อเสียงมากสำหรับประตู Senbon-Torii แต่ยังเป็นที่รู้จักในหมู่สุนัขจิ้งจอก Inari เมื่อเดินผ่านสถานที่ของศาลเจ้าคุณจะเห็นรูปปั้นสุนัขจิ้งจอกหลายรูปแบบ จิ้งจอกเหล่านี้เป็นที่รู้จักกันในชื่อ messenger ของพระเจ้า Inari (ข้าว) และอาหารที่พวกเขาโปรดปรานเป็นที่รู้จักกันในชื่อ Abura-age ซึ่งเป็นเต้าหู้ทอด ต่อมามีคนมากับซูชิที่ใช้ Abura-age และเนื่องจากเป็นที่ชื่นชอบของสุนัขจิ้งจอกพวกเขาจึงตั้งชื่อว่า Inari sushi
หลังจากนั้นเริ่มเข้าสู่เสาโทริอิ ที่เต็มไปด้วยฝูงชนนักท่องเที่ยว
เสาโทริอิ ต้นใหญ่
ด่านแรกคนเยอะจริงๆ เข้าสู่ด่านที่ 2
จะมีแผ่นไม้ให้เขียนคำอธิษฐานเป็นรูปสุนัขจิ้งจอกเพราะเชื่อว่าสุนัขจิ้งจอกคือผู้ส่งสารของเทพเจ้า
ด้านหลังให้เขียนคำอธิษฐาน ส่วนด้านหน้ามีคิ้วให้ ที่เหลือจะวาดอะไรลงไปก็แล้วแต่เราเลยครับ
อธิษฐานเสร็จแล้ว ลองเดินไปยกหินวิเศษกันดู เป็นหินที่เค้าว่ากันว่า ถ้าใครยกขึ้นคำอธิษฐานจะเป็นจริงล่ะ จะอยู่มุมในด้านขวามือ
อธิฐานเสร็จเดินเข้าไปถ่ายรูปกัน
เห็นคนอื่นเค้าถ่ายกันแบบไม่มีคน เค้ามาเที่ยวกันวันไหนอ่ะ ทำไมของผมคนเต็มตลอด
17.00 น.ได้เวลาไปย่าน Gion
ดูแผนที่ก่อน
กลับทางเก่า ออกจากวัดเลี้ยวขวาเดินตรงไปจนถึงทางรถไฟ ทางขวามือเป็นสถานี Fushimi-Inari Station
มีสองฝั่ง ข้ามทางรถไฟไปขึ้นอีกฝั่งครับ ตอนแรกผมไม่ได้ข้ามขึ้นฝั่งนี้เลย นั่งไป 2 สถานีต้องลงมาแล้วนั่งย้อนกลับ
ตอนแรกผมขึ้นฝั่งนี้ครับ (ยังไม่ได้ข้ามทางรถไฟ) ไปคนละทางที่ไป Gion
นั่งขบวน Keihan Main Line ชานชาลาที่ 1 (ต้องข้ามทางรถไฟไปก่อน) นั่งไป 5 ป้าย ลงสถานี Gion-Shijo Station
ออกประตู 7 จากสถานี Gion-Shijo Station เดินตรงยาวประมาณ 500 ม.ก็มาถึงศาลเจ้ายาซากะ (八坂神社, Yasaka Jinja) (ผ่านถนน Hanamikoji Dori เดี๋ยวค่อยกลับมาเดินเล่น)
ชมสวนข้างๆก่อน ซากุระบานเต็มต้นแล้ว
เข้าไปชมศาลเจ้ายาซากะกัน
เดินกลับมาถนน Hanamikoji Dori อยู่ตรงกันข้ามกับร้านกระดาษหน้าขาว
ได้ของมานิดหน่อย แต่ราคาไม่นิดหน่อยเลย
เข้าไปเดินที่ถนน Hanamikoji Dori กันครับ
ถนน Hanamikoji Dori เป็นย่านเก่าแก่ อาคารบ้านเรือนร้านค้าแต่ละหลังจะยังคงความเป็นบ้านเก่าสไตล์มาชิยะ (Machiya) ซึ่งให้ความรู้สึกถึงความเป็นญี่ปุ่นดั้งเดิม
มาที่นี่ตั้งใจมาดู ไมโกะกับเกอิชา ช่วงค่ำๆหน่อยถึงจะมีโอกาสเจอ แต่วันที่ผมไปฝนตกปรอยๆ เลยกลับไปเดินเล่นแถวโรงแรมดีกว่า
เดินกลับมาที่ Gion-Shijo Station (ออกจากถนน Hanamikoji Dori เลี้ยวซ้ายเดินตรงยาวไปเลยครับ สถานีจะอยู่ติดแม่น้ำ ไม่ต้องข้ามฝั่ง) นั่งขบวน Keihan Main Line ชานชาลาที่ 2 นั่งไป 9 ป้ายประมาณ 1 ชั่วโมง
ลงสถานี Yodoyabashi เดินเปลี่ยนขบวนเป็น Midosuji Line นั่งไป 3 ป้ายลงสถานี Namba เดินออกประตู 25 เอาของไปเก็บที่โรงแรม แล้วลงมาหาอะไรกินแถวดงทงโบริต่อ
ตั้งใจกินราเมงอิชิรัน (ราเมงข้อสอบ เห็นคิวแล้วถอยดีกว่า เปลี่ยนมากินราเมงมังกรก็ได้ คิวไม่นาน)
มี 2 ราคา ชามใหญ่ 900 เยน ชามธรรมดา 600 เยน หยอดเหรียญ กดบัตรจ่ายตังค์ได้เลย จะให้ใบเสร็จมา
ได้ใบเสร็จแล้วไปยื่นให้ที่เค้าเตอร์ เค้าจะให้บัตรคิวมา ได้คิวที่ 11
ยื่นใบเสร็จตรงนี้ เวลามารับราเมงก็มารับตรงนี้ จะใส่เครื่องอะไรก็เติมตรงนี้เหมือนกัน
พวกผักดอง กระเทียม ตักไปกินได้เลย คิดรวมในราเมงแล้ว
ด้านหลังจะหุงข้าวไว้ให้ ตักไปกินกับผักดองได้เหมือนกัน
ตักมากินรองท้อง น้ำเปล่าฟรี
รอไม่นาน ถึงคิวก็เดินไปรับที่เค้าเตอร์
ชามใหญ่ 900 เยน ให้หมูเยอะมาก
ชามธรรมดา 600 เยน
รสชาติ เส้นเท่ากับชามใหญ่ ต่างกันตรงหมูให้น้อยกว่าเห็นๆ
ไม่รู้ว่าอร่อยหรือหิว กินหมดชามเลย
เพิ่ง 3 ทุ่มกว่าๆ เดินย่อยตรงถนนเส้นนี้ อยู่แถวๆดงทงโบรินั้นแหละ
ได้รองเท้ามาคู่ เมื่อวานไปดูที่สาขาโยโดบาชิ แต่ไม่มีเบอร์ สาขานี้มีเลยจัดไป 1 คู่
สบายใจ กลับโรงแรม APA Hotel Namba Shinsaibashi
เข้าห้องนอนได้หลับสนิท
พรุ่งนี้ไป WAKAYAMA กันครับ
คลิ๊กเลย
โรงแรมทำความสะอาดห้องเปลี่ยนผ้าปูที่นอน ผ้าเช็ดตัว เก็บถังขยะ ให้มีดโกนหนวด ให้น้ำดื่ม 2 ขวดทุกวัน ดีงามมาก
ค่าใช้จ่ายวันนี้
ค่าเข้าวัด
1,200
เยน (คนละ 600 )
ค่าขนมโมจิ
1
30
เยน (1 ชิ้น)
ร้าน Family Mart
909
เยน
ทาโกยากิ
500
เยน (6 ลูก)
มันทอด
400
เยน (1 กป.เล็ก)
เนื้อย่าง
500
เยน (1 ไม้)
หมู B.B.Q.
500
เยน (1 ไม้)
กระดาษซับมันร้านหน้าขาว
2,400
เยน
ราเมงมังกร
1,500
เยน
รองเท้าไนกี้ ห้าง ABC-MART
9,828
เยน
สรุป
ค่าใช้จ่ายวันนี้
17,837
เยน
วันนี้ใช้บัตร
Kansai Thru Pass 3 Day
ราคา
5,200
เยน วันที่ 1 ใช้ขึ้นรถไฟ+ขึ้นรถบัส ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม
สรุป
ถ้าซื้อเป็นเที่ยววันนี้ จ่ายทั้งหมด
2,210
เยน เหลืออีก 2 วัน
จากสถานี Osaka-Namba Station – สถานี Kintetsu-Nara Station ค่าโดยสาร
560
เยน
จากสถานี Kintetsu-Nara – สถานี Takeda 1 ต่อ
620
เยน
จากป้ายรถเมล์ Takeda Sta. (Higashiguchi) – ป้ายรถเมล์ Inaritaishamae Bus Stop
230
เยน
จากสถานี Fushimi-Inari Station - สถานี Gion-Shijo Station 1 ต่อ
210
เยน
จากสถานี Gion-Shijo - สถานี Namba 2 ต่อ
590
เยน
Create Date : 08 เมษายน 2562
Last Update : 23 มกราคม 2567 15:49:07 น.
0 comments
Counter : 2643 Pageviews.
Share
Tweet
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
nongmalakor
Location :
นนทบุรี Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 120 คน [
?
]
ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง
Group Blog
ทักทาย
ท่องเที่ยวไทย (เหนือ)
ท่องเทียวไทย (กลาง)
ท่องเที่ยวไทย (อีสาน)
ท่องเที่ยวไทย (ตะวันออก)
ท่องเทียวไทย (ใต้)
ท่องเที่ยวเทศ (ASEAN)
ท่องเที่ยวเทศ (เอเชีย)
ท่องเทียวเทศ (ยุโรป)
ทริปถ่ายรูป
ทำบุญ-ทำทาน
ทบทวน
แทก แถ่ก แถก
เถิดเทิง
ท่วงทำนอง
ทั่วไป
ทุ่มทุน H
ทุ่มทุน T
ทุ่มทุน J
ทุ่มทุน M
ทำงาน
ทุกเรื่องรถ ฟอร์จูนเนอร์
ทุกเรื่องรถ Honda Wave
ทุกเรื่องรถ จักรยาน
ที่ดิน นนทบุรี
ที่ดิน ดอนตะโก
ที่ดิน โคกหม้อ
สุขภาพ T
สุขภาพ J
สุขภาพ M
ลำน้ำซอง
เมษายน 2562
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
8 เมษายน 2562
ลุยมั่วๆ 2 คน @ KANSAI (วันที่ 3 NARA + KYOTO)
ลุยมั่วๆ 2 คน @ KANSAI (วันที่ 2 Aquarium KAIYUKAN+OSAKA)
All Blogs
TRIP : หลง...KANSAI จนใจละลาย (วันที่ 13 เที่ยวในโอซาก้าเป็นครั้งสุดท้าย คืนนี้กลับบ้าน)
TRIP : หลง...KANSAI จนใจละลาย (วันที่ 12 เที่ยว้Kifune Shrine - Kyoto)
TRIP : หลง...KANSAI จนใจละลาย (วันที่ 11 เที่ยวเมือง UJI เมืองชาเขียว)
TRIP : หลง...KANSAI จนใจละลาย (วันที่ 10 เที่ยวเมือง WAKAYAMA)
TRIP : หลง...KANSAI จนใจละลาย (วันที่ 9 เที่ยวเมืองKyoto - Philosopher's Path)
TRIP : หลง...KANSAI จนใจละลาย (วันที่ 8 เที่ยวแบบบOne day trip OSAKA )
TRIP : หลง...KANSAI จนใจละลาย (วันที่ 7 เที่ยว Himeji - Kobe )
TRIP : หลง...KANSAI จนใจละลาย (วันที่ 6 เที่ยวFree Day OSAKA )
TRIP : หลง...KANSAI จนใจละลาย (วันที่ 5 เที่ยวHikone - Hachiman-bori Canal)
TRIP : หลง...KANSAI จนใจละลาย (วันที่ 4 เที่ยวเมือง Kurashiki Okayama)
TRIP : หลง...KANSAI จนใจละลาย (วันที่ 3 เที่ยวKinosaki Onsen SHIN OSAKA)
TRIP : หลง...KANSAI จนใจละลาย (วันที่ 2 เที่ยวเมือง Izushi)
TRIP : หลง...KANSAI จนใจละลาย (เที่ยววันที่ 1 สุวรรณภูมิ - Kinosaki Onsen)
ลุยมั่วๆ 2 คน @ KANSAI (วันที่ 7 WAKAYAMA สุวรรณภูมิ)
ลุยมั่วๆ 2 คน @ KANSAI (วันที่ 6 สวนซากุระ Kameoka ที่ Kyoto)
ลุยมั่วๆ 2 คน @ KANSAI (วันที่ 5 HIMEJI - KOBE )
ลุยมั่วๆ 2 คน @ KANSAI (วันที่ 4 Wakayama)
ลุยมั่วๆ 2 คน @ KANSAI (วันที่ 3 NARA + KYOTO)
ลุยมั่วๆ 2 คน @ KANSAI (วันที่ 2 Aquarium KAIYUKAN+OSAKA)
ลุยมั่วๆ 2 คน @ KANSAI (วันที่ 1 สุวรรณภูมิ โอซาก้า)
นมัสเต.. ณ ดินแดนภารตะ (วันที่ 7-8 จามมู Jammu-เดลลี-สุวรรณภูมิ)
นมัสเต.. ณ ดินแดนภารตะ (วันที่ 6 ศรีนาคา จามมู Jammu)
นมัสเต.. ณ ดินแดนภารตะ (วันที่ 5 ศรีนาคา-โซนามาร์ค Sonamarg)
นมัสเต.. ณ ดินแดนภารตะ (วันที่ 4 ศรีนาคา-กุลมาร์ค Gulmarg)
นมัสเต.. ณ ดินแดนภารตะ (วันที่ 3 พาฮาลแกรม Pahalgam ศรีนาคา)
นมัสเต.. ณ ดินแดนภารตะ (วันที่ 2 เดลลี-ศรีนาคา นอนพาฮาลแกรม Pahalgam)
นมัสเต.. ณ ดินแดนภารตะ (วันที่ 1 สุวรรณภูมิ-เดลลี)
7 วันที่ KYUCHU (วันที่ 6-7 SHOPPING เมือง FUKUOKA กลับบ้าน )
7 วันที่ KYUCHU (วันที่ 5 นั่งรถไฟ ASO BOY-A TRAIN )
7 วันที่ KYUCHU (วันที่ 4 Yufuin-Beppu )
7 วันที่ KYUCHU (วันที่ 3 พายเรือ Takachiho จังหวัด Miyazaki )
7 วันที่ KYUCHU (วันที่ 2 ดูใบไม้แดงที่เมือง SAGA)
7 วันที่ KYUCHU (วันที่ 1 เดินทาง-นอน HAKATA)
จางเจียเจี๋ย ฉางซา 6 วัน 5 คืน (วันที่ 5 - 6 ระเบียงภาพเขียนสิบลี้ ดอนเมือง)
จางเจียเจี๋ย ฉางซา 6 วัน 5 คืน (วันที่ 4 ขึ้นกระเช้า ลงลิฟต์แก้ว อช.อู่หลิงหยวน--จางเจียเจี้ย)
จางเจียเจี๋ย ฉางซา 6 วัน 5 คืน (วันที3 เทียนเหมินซานหรือประตูสวรรค์-ล่องเรือทะเลสาบเป่าเฟิงหู)
จางเจียเจี๋ย ฉางซา 6 วัน 5 คืน (วันที่ 2 หมู่บ้านโบราณเฟิ่งหวง-โชว์จิ้งจอกขาว-จางเจี่ยเจี้ย)
จางเจียเจี๋ย ฉางซา 6 วัน 5 คืน (วันที่ 1 ดอนเมือง ฉางซา หมู่บ้านโบราณเฟิ่งหวง)
11 Day Summer in Japan (วันที่ 11 วันสุดท้ายเก็บตก Shopping ที่ตึกม่วง- Ueno)
11 Day Summer in Japan (วันที่ 10 เที่ยว เที่ยววัดเมจิ Shopping ฮาราจูกุ เย็น Roppongi)
11 Day Summer in Japan (วันที่ 9 เที่ยว Sendai เย็นนอน Ueno Tokyo)
11 Day Summer in Japan (วันที่ 8 เช้า Tanbo Art เย็น Nebuta Matsuri )
11 Day Summer in Japan (วันที่ 7 เที่ยว โรงงานช็อกโกแลต ISHIYA นอนบนรถไฟไปเมือง Aomori)
11 Day Summer in Japan (วันที่ 6 ขับรถเที่ยวเมือง Biei )
11 Day Summer in Japan (วันที่ 5 เช้าเก็บ cherry บ่ายเที่ยว otaru )
11 Day Summer in Japan (วันที่ 4 Hitsujigaoka Observatory Hill Sapporo)
11 Day Summer in Japan (วันที่ 3 เที่ยวเมือง Hakodate)
11 Day Summer in Japan (วันที่ 2 Chill Chill ที่กินซ่า-ฮาราจูกุ)
11 Day Summer in Japan (วันที่ 1 สุวรรณภูมิ อาซากุสะ โตเกียว)
ญี่ปุ่น... 9 วันที่อยู่ในความทรงจำ (วันที่ 8 - 9 ตลาดปลาซึกิจิ- วัดอาซากุสะ Shopping กลับบ้าน)
ญี่ปุ่น... 9 วันที่อยู่ในความทรงจำ (วันที่ 7 เช้าเที่ยวใน Kyoto บ่ายไปนอน Tokyo)
ญี่ปุ่น... 9 วันที่อยู่ในความทรงจำ (วันที่ 6 ช่วงบ่ายเที่ยว Enkoji Temple - Kiyomizu-dera ใน Kyoto)
ญี่ปุ่น... 9 วันที่อยู่ในความทรงจำ (วันที่ 6 ช่วงเช้าเที่ยววัด Ginkaku-ji ในKyoto)
ญี่ปุ่น... 9 วันที่อยู่ในความทรงจำ (วันที่ 5 ตลุยเที่ยววัดในKyoto)
ญี่ปุ่น... 9 วันที่อยู่ในความทรงจำ (วันที่ 4 Kawagujiko Lake ดูภูเขาไฟฟูจิ-ใบไม้เปลี่ยนสี)
ญี่ปุ่น... 9 วันที่อยู่ในความทรงจำ (วันที่ 3 ชิมไข่ดำ ล่องเรือ Lake Arshi ที่ Hagone )
ญี่ปุ่น... 9 วันที่อยู่ในความทรงจำ (วันที่ 2 Tokyo DisneySea)
ญี่ปุ่น... 9 วันที่อยู่ในความทรงจำ (วันที่ 1 สุวรรณภูมิ-นาริตะ-วัดเมจิ-ชินจูกุ)
เกาหลีใต้ 3 วัน 5 คืน ( วันที่ 4-5 หอคอยกรุงโซล-ช๊อปปิ้ง- Jump show-สุวรรณภูมิ)
เกาหลีใต้ 3 วัน 5 คืน (วันที่ 3 ซอรัคซาน-วัดวาวูจองซา-สวนสนุกเอเวอร์แลน)
เกาหลีใต้ 3 วัน 5 คืน (วันที่ 1-2 กทม.-อินซอน-เกาะนามิ)
Friends' blogs
nongmalakor
veeda
มาเรีย ณ ไกลบ้าน
นางสาวดุ่บดั่บ
n_nink
FreakGirL
บ้านอุ่นรัก
ลำน้ำซอง
watase
paerid
อุ้มสี
บ้านดินริมสวน
fondakelly
ตัวp_box
nam_sila
tanjira
คนชุมแสง
KowneawMooping@Moobambam
pinkyrose
PrettyNatty
M011
foreverlovemom
Webmaster - BlogGang
[Add nongmalakor's blog to your web]
Links
Photoscape
ยากับคุณ
จิ๊กซอว์
เช็คเบอร์มือถึอ
คำขวัญประจำจังหวัด
อัดภาพถ่าย
photofunia
ทำ รูปภาพ
Foto Relax
เส้นทางการบิน
โค้ดป้ามด
โปรแกรมแต่งภาพจีน
ดอกไม้ประจำจังหวัด
แผนที่
รหัสโค้ดบล็อก
skyscanner
keisei.co.jp
โค้ดแต่งบล็อก
ดูตารางรถไฟญี่ปุ่น
hyperdia ตารางรถไฟ
ตารางเดินทางรถไฟญี่ปุ่น
โปรแกรมค้นหาเส้นทางญี่ปุ่น
เส้นทางรถไฟญี่ปุ่น
ระบบติดตามขบวนรถไฟ
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.