ย้อนดูวันที่ 3 พาฮาลแกรม Pahalgam – ศรีนาคา //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=nongmalakor&month=04-2017&group=12&date=24&gblog=63

วันพุธที่ 12 เม.ย.60

เช้านี้ตามโปรแกรมเราจะไปกุลมาร์ค (Gulmarg) ไกด์บอกให้ออกแต่เช้าวันนี้ไม่ต้องเก็บกระเป๋า เพราะเราไปเช้ากลับเย็น มานอนที่ Houseboats เหมือนเดิม

เวลา 4.30 น.พ่อบ้านมาปลุกที่ห้องตีห้าครึ่งกินข้าวที่ Houseboats เป็นข้าวต้ม ปลาเกร็ดแข็งกระป๋อง ไข่เจียวหัวไชเท้า พร้อมกาแฟ ขนม นม เนย กล้วยอีกคนละลูก

เวลา 6.30 น. ออกเดินทาง

ขับมาประมาณ 1 ชม.จอดแวะให้ถ่ายรูปข้างทาง

แวะถ่ายรูปประมาณ 10 นาทีเดินทางต่อ

นั่งมาประมาณชั่วโมงครึ่งมาจอดจุดพักรถทำธุระเสร็จ ไกด์แนะนำให้เช่ารองเท้าบูทไว้เดินบนหิมะ

ค่าเช่ารองเท้าบูทคนละ 100 รูปี***จ่ายตังค์ตอนขากลับ ส่วนถุงมือคู่ละ 150 รูปี ถุงมือราคาไม่แพง เป็นหนังใส่อุ่นมือมากโดนไป 2 คู่

จากจุดพักรถต่อไปก็ขึ้นเขาประมาณครึ่งชั่วโมง ทางราดยางอย่างดี วิวสองข้างทางสวยมาก

สองข้างทางเป็นหิมะ

ระหว่างทางมีจุดชมวิวจอดให้ลงไปยืดเส้นยืดสาย

ชมวิวประมาณ 15 นาที ไปอีก 20 นาทีก็มาถึงแล้วครับ

รถจอดเรานั่ง สเลท Sleigh แคร่เลื่อนหิมะ ตรงนี้เราจ่ายเอง คนละ 600 รูปีส่วนทิปทางทัวร์จ่ายให้ แต่ผมให้เค้าเพิ่มต่างหากอีกคนละ 100 รูปี

***คนมาประคองตลอดทางเค้าจะถามเราก่อนครับว่าจะให้ช่วยประคองดูแลเปล่าพร้อมบอกราคาเสร็จถ้าเราไม่เอาก็บอกปฏิเสธไป ไม่งั้นจะมีปัญหาตอนขากลับ เค้าจะรอเอาทิปเรา อินเดียไม่มีช่วยฟรีครับเค้ามาช่วยต้องการทิปจากเรา

1 คนต่อ 1 Sleigh ลูกทัวร์ครบก็ลากไปตามลานหิมะ

ลากมาไกลเหมือนกันครับ พอขึ้นเนินเราลงเดินขึ้นเขาไปหน่อย

พอขึ้นเนินเสร็จก็นั่งแคร่เลื่อน ช่วงที่ลงเนินสนุกมาก เจ้าของลากเค้าจะนั่งข้างหน้าเราด้วย แล้วปล่อยลงมาตามเนินเหมือนเล่นสไลเดอร์

Sleigh มาส่งยังจุดหมายแล้วเดินขึ้นไปอีกนิดเดียวก็ถึงกระเช้ากอนโดล่า

สถานีกอนโดล่า

กระเช้าเปิดเวลา 10.30 น.นั่งรอไปเรื่อยๆ

นั่งกระเช้าไฟฟ้า ค่าเข้าคนละ 700 รูปีตรงนี้ทางบริษัททัวร์จ่ายให้ตามโปรแกรมครับ

ถึงเวลาขึ้นกระเช้าไฟฟ้านั่งได้ไม่เกิน 6 คน ด้านหน้า 3 คน ด้านหลัง 3 คน

กระเช้าจะนั่งหันหลังชนกันไม่มีบังวิว

ขาไปผมได้นั่งด้านหน้า พร้อมแล้วลุย

กลางทางจะมีบ้านยิบซีหนีหนาวมาปลูกบ้านอยู่ พอหมดหน้าหนาวถึงย้ายกลับไปถิ่นเดิม

นั่งประมาณ 10 นาที มาถึงเฟส 1 แล้วครับ

เราลง เฟส 1

ออกจากเฟส 1 จะเป็นลานหิมะกว้างไกด์ปล่อยให้เราเล่น ถ่ายรูปเต็มที่

บ่ายโมงมาเจอที่ร้านอาหารเฟส 1

มีเวลาประมาณ 2 ชม. ลั้นล้ากันน่าดู

ข้างบนมีกิจกรรม

-สโนโมบิลมีคนขับให้ 20 นาที 1,500 รูปี

-นั่งสเลส มีคนลาก ประมาณ 500-800 รูปี ต่อ 1 ท่าน/1 ชม.

-เล่นสกีหิมะ

-นั่งกระเช้าขึ้น เฟส 2 คนละ 500 รูป

ทั้งหมดถ้าใครอยากเล่นจ่ายเองตามความชอบได้เลยครับ

ตอนแรกก็ดีใจได้เล่นหิมะนานๆ อยู่ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงทั้งหนาว แดดก็ร้อนมาก เผ่นเข้าห้องอาหารตรงจุดนัดพบดีกว่า

เข้าไปในร้านอาหารอุ่นมากแอบตกใจเล็กๆ มีกรุ๊ปผมมารออยู่ข้างในเกือบหมดแล้ว 555

สั่งโกโก้ร้อนมา 1 แก้ว ส่วนแฟนกาแฟร้อนกินแล้วดีขึ้นเยอะ

*** ไกด์เลี้ยงคนละแก้ว แถมมาม่าอินเดียแห้งให้ลองมาชิมรสชาติกลิ่นเครื่องเทศมาเลย แต่เส้นเหมือนมาม่าบ้านเรา

ไม่ถึงบ่ายโมง ประมาณเที่ยงสิบนาทีสมาชิกมากันครบ ตกลงขอกลับก่อนกันทุกคน

ลงถึงสถานีแรก

เดินไปหาคนที่ลากแคร่เลื่อนหิมะ ขากลับไม่ได้กลับทางเดิมระยะทางจะสั้นกว่า

ลากมาแค่ครึ่งทางตรงขึ้นเขา ปล่อยให้เราเดินไปประมาณ70 ม.ส่วนพวกคนลากแคร่ก็เดินไปรับนักท่องเที่ยวรอบต่อไป

เดินมาถึงจุดจอดรถแอบถ่ายป้ายราคามาให้ดู

ลูกทัวร์พร้อม ออกเดินทาง

เวลา 13.45 น.มาถึงร้านเช่ารองเท้าคืนเสร็จทัวร์ให้กินข้าวที่จุดนี้

อาหารวันนี้จัดเต็มทางร้านจัดเป็นบุฟเฟ่ต์ อาหารอินเดีย มีเนื้อแพะคล้ายต้มแซ่บบ้านเราเนื้อนุ่มมากรสชาติดีมาก โรตี แกงอะไรก็ไม่รู้คล้ายมัสมั่นเนื้อแพะ ส่วนทัวร์ไกด์ไทยทำไข่ลูกเขยทำน้ำราดมาจากเมืองไทยแล้วทอดไข่ต้มที่ร้านอาหารอร่อยดี แกงส้มก็ทำเองรสจัดเข้มข้นมาก น้ำพริกปลาดุกฟูกับน้ำพริกกุ้งเสียบไม่พลาด

อิ่มเสร็จเดินลงมาย่อยหน้าร้านมีขายอะไรก็ไม่รู้น่าสนใจเหมือนกัน แต่ไม่ได้ซื้อชิม เสียดาย

เวลา 12.20 น.เดินทางกลับศรีนาคา ถึงตัวเมืองศรีนาคาแวะมัสยิดจามาเวลา 15.30 น.

เข้าไปชมมัสยิดข้างในต้องถอดรองเท้าไว้ข้างนอกครับ ส่วนผู้หญิงต้องมีผ้าคลุมศีรษะ เสื้อแขนกุดห้ามเข้ากระโปรงหรือกางเกงต้องเลยหัวเข่า

มัสยิดเริ่มก่อสร้างในศตวรรษที่ 17 ในรัชสมัยของพระเจ้าชาห์ชะฮันจักรพรรดิผู้สร้างทัชมาฮาลและป้อมแดงความวิจิตรหรูหราทางสถาปัตยกรรมทอดตัวอยู่ในความละเอียดปราณีตของลวดลายและสัดส่วนที่อลังการในทุกมุมมอง

ไกด์ให้เวลาตรงนี้ประมาณ 1 ชั่วโมง ผมเดินชมมัสยิดประมาณ15 นาที ออกมาเดินดูตลาดหน้ามัสยิด มีอะไรน่าสนใจกว่าเยอะ 555

เดินเลาะตามตรอก ซอกซอยดูวิถีชีวิตบ้านเค้าเพลินดีเหมือนกัน

ร้านนี้ขายเครื่องเทศ พวกผงกระหรี่ลูกกระวาน มีครบหมด

ของทอดน่าสนใจเหมือนกัน

ออกจากตลาดในซอยเดินข้ามวงเวียนน้ำพุไปถนนใหญ่ตรงนี้เหมือนท่ารถสาธารณะ มีจอดหลายสายมาก

ผ่านร้านขายขนมปังลองซื้อปนๆมาชิมครึ่งโล ไม่อร่อยซักอย่าง ฮือๆๆ

เดินกลับมาตรงตลาดหน้ามัสยิด

กระป๋องน้ำพร้อมเก้าอี้ตัวเล็กและกระป๋อง 2 ขนาด ขายเป็นชุดน่ารักมากอยากซื้อกลับมาใช้ที่เมืองไทยจัง

เวลา 16.20 น.กลับเข้าที่พัก ก่อนกลับขออีกรูป

จากมัสยิดถึงที่พักใช้เวลาประมาณ 20 นาที เวลา 18.00 น.พ่อบ้านเตรียมอาหารมื้อเย็นไว้ให้แล้ว มื้อนี้มีน้ำพริกปลาทูเสริมพร้อมแกงส้ม แล้วก็เนื้อแพะตุ๋น ส่วนผมท้องเสียตั้งแต่มื้อเที่ยงแล้วแถมไม่สบายอีกต่างหากเลยไม่ได้กินอะไร แต่แฟนบอกว่าวันนี้น้ำพริกกับเนื้อแพะอร่อยมาก

กลางคืนได้มาม่าคัพช่วยชีวิต

คืนนี้กินมาม่า คัพเสร็จกินยาธาตุน้ำขาวกับยาพารา นอนหลับสนิท

พรุ่งนี้ไปเที่ยวโซนามาร์ค ( Sonamarg) กันครับ //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=nongmalakor&month=04-2017&group=12&date=26&gblog=65

สรุปค่าใช่จ่ายวันพุธที่ 12 เม.ย.60

***ออกส่วนตัว นอกนั้นรวมอยู่ในค่าทัวร์ตามโปรแกรม

-ซื้อถุงมือ 2 คู่ 300 รูปี (คู่ละ 150 รูปี)

-เช่ารองเท้าบูท 2 คู่ 200 รูปี (คู่ละ 100 รูปี) 

-ค่ารถลาก 1,200 รูปี (คนละ 600 รูปี)

-ทิปคนลากรถ 200 รูปี (คนละ 100 รูปี)

-ทิปคนช่วยลาก 200 รูปี

-ค่าเข้าห้องน้ำ 10 รูปี

-องุ่น 100 รูปี (1 กิโล)

Create Date : 25 เมษายน 2560
Last Update : 26 เมษายน 2560 14:41:36 น.		5 comments
Counter : 3081 Pageviews.
Share Tweet