ย้อนดูวันที่ 1 สุวรรณภูมิ-เดลลี //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=nongmalakor&month=04-2017&date=19&group=12&gblog=61 คลิ๊กตรงลิงค์ได้เลยครับ

วันจันทร์ที่ 10 เม.ย.60

เมื่อคืนหัวถึงหมอนหลับสนิทเช้านี้ตามสูตรทัวร์ ปลุก 6 โมงกินข้าว 7 โมงเดินทาง 8 โมงเช้าได้เวลาเราลงมากินอาหารเช้าที่ห้องอาหารโรงแรม

ห้องอาหารกว้าง สะอาด

ไลน์อาหารเยอะมาก อาหารมีทั้งแบบอินเดียและอินเตอร์ขนม นม เนย เพียบ อลังการมากส่วนรสชาติพวกเบค่อนไส้กรอกอร่อยอยู่แต่อาหารอินเดียรสชาติค่อยว่ากันอีกทีเนาะ 555

เวลา 8.00 น.รถมารอที่หน้าโรงแรมเตรียมตัวเดินทาง

จากโรงแรมใช้เวลาแค่ 15 นาทีก็มาถึงสนามบินภายในประเทศแล้วครับ

ถึงสนามบินไกด์จัดการนำกระเป๋าลูกทัวร์ทั้งหมดโหลดเสร็จพร้อมBoarding Pass มาให้ เรานั่งรอเฉยๆ ไม่ต้องทำอะไรส่วนกระเป๋าโหลดได้น้ำหนัก 25 กก.ต่อท่าน

***ซื้อในงาน ในโบชัวร์ ใช้สายการบินแอร์อินเดีย เที่ยวบิน AI866 แต่พอไปจริงเปลี่ยนเที่ยวบินเป็น AI821 ต้องไปลงที่เมืองหลวงแคว้นจามมู (Jammu) นั่งรอในเครื่องบินประมาณ 40 นาทีรอคนลงที่แคว้นจามูแล้วค่อยให้คนที่จะไปต่อศรีนาคาขึ้น แล้วบินไปลงสนามบินศรีนาคา (Srinagar) มีลูกทัวร์ถามทำไมไม่บินตรงไปลงศรีนาคา (Srinagar) ไกด์บอกว่า บินตรง เวลาไม่ดี จบ

บินภายในประเทศด่านตม.ไม่ค่อยยุ่งยากมาก ใช้เวลาไม่นาน เราเลยมีเวลาเดินเล่นในสนามบินอินทิราคานธีร์ ดิวตี้ ฟรี ใหญ่เหมือนกันพวกของกินน้ำดื่มราคาเท่ากับข้างนอก ไหงบ้านเราทำไมแพงต่างกันลิบลับ

ได้ลำโพงบลูธูทมา 1 อันเสียงดีเหมือนกัน คิดเป็นเงินไทยประมาณ 700 บาท

อย่าช้อปเพลินนะครับ สนามบินแต่ละ GATE ไกลมาก ระวังตกเครื่องด้วย

ชอบห้องน้ำในสนามบิน มีรูปหญิง-ชายชัดเจนดี

นั่งเล่นได้ซักพัก เวลา 10.25 น.ขึ้นเครื่อง เปลี่ยนเกตจาก 34A เป็น 27A

เวลา 11.05 น.บินตรงเวลา

อาหารบนเครื่อง หน้าตาดูดีชิมไปคำเดียวเองครับ จบนะ

ผมได้นั่ง 13F ติดหน้าต่างทางขวามือ จะอยู่เหนือปีกเครื่องบินอยากบอกวิวสวยมาก ก่อนถึงสนามบินจามมู เครื่องบินเลียบเทือกเขาหิมาลัย สวยมากกก

ใครมีโอกาสบินเส้นนี้ช่วงก่อนเที่ยงแนะนำนั่งริมหน้าต่างด้านขวามือแต่ระวังกลางปีกนะครับเดี๋ยวจะไม่เห็นวิวอะไร

ถึงเมืองจามมู 12.20 น.

เครื่องจะจอดที่สนามบินจามมูให้ผู้โดยสารลงแล้วรอผู้โดยสารจากจามมูขึ้นเครื่องต่อไปยังสนามบินศรีนาคาส่วนพวกเราก็นั่งรอในเครื่องบิน

นั่งรอในเครื่องบินประมาณ 40 นาที เวลา 13.00 น.เราก็บินต่อ

วิวสวยอ่ะ บินผ่านเทือกเขาหิมาลัย

ใกล้ถึงแคชเมียร์ ทุ่งมัสตาด Mustard สีเหลืองอร่ามทั้งเมืองรอต้อนรับเราอยู่

เวลา 13.30 น.มาถึงสนามบินศรีนาคาจากจามมูใช้เวลาเดินทางแค่ 30 นาที อากาศที่นี่ประมาณ 12 องศา ตอนเช้าที่เดลลียัง 37-39 องศาปรับตัวแทบไม่ทัน

ขาเข้าผ่านด่าน ตม.ไม่ยุ่งยาก รอไม่นานเท่าไหร่ประมาณ 20 นาทีก็ออกจากสนามบินแล้วครับ

แอร์เอเชียก็มาแจมถึงที่นี่

ไกด์พาไปขึ้นรถโตโยต้า อินโนว่า 1 คันนั่งได้ 4-5 คน ผมได้รับเกียรตินั่งคันแรก นั่งหน้ารถอีกต่างหาก คันนี้แหละครับทั้งคนขับและรถจะอยู่กับเราทั้ง 4 วัน

วันนี้ได้ไกด์ท้องถิ่น Agency อีกเจ้ามาดูแล้วพร้อมกับไกด์ไทยเรา

ออกจากสนามบินไกด์พามาทานอาหารเที่ยงที่ร้านนี่ครับ

อาหารมื้อเที่ยงเป็นอาหารอินเดีย บุฟเฟ่ต์ส่วนมากเป็นไก่กับเนื้อแพะ กินกับโรตี ส่วนข้าวสวยเมล็ดเค้ายาวๆเรียวๆ หุงแห้งแข็งมาก ดีที่ไกด์ไทยเอาน้ำพริกปลาดุกฟูกับให้ทางโรงแรมเจียวไข่เสริมมาให้ (ทอดแบบออมเลท) รอดตายไปได้อีก 1 มื้อ

อิ่มเสร็จ ตามโปรแกรมต้องไปพาฮาลแกรม(Pahalgam) แต่วันนี้ตอนเช้ามีข่าวก่อการร้ายยิงผู้เสียชีวิต 7 ศพในระหว่างทางที่เราไป ไกด์เราเลยเปลี่ยนแผนให้เที่ยวในเมืองศรีนาคาก่อนแล้วค่อยไปพาฮาลแกรมตอนดึกๆ

ออกจากร้าอาหารไกด์พาเราไปที่สวนทิวลิปนั่งรถประมาณ 20 นาที ระหว่างทางจะขับเลียบทะเลสาบดาล

แล้วก็มาถึงสวนทิวลิป รอไกด์ซื้อบัตรผ่านเข้าประตู ดูด้านหน้าประตูแล้วไม่น่าเข้าไปชมเลย

แต่พอเดินผ่านประตูเข้าไปในสวนทิวลิปแล้วอึ้ง พูดไม่ออก สวยมากกกกกก

ไกด์ให้เวลาในสวนนี้ 1 ชั่วโมงตอนแรกนึกว่านาน แต่พอถ่ายรูปยังไม่ไปไหนหมดไป 20 นาทีแล้ว

สวนทิวลิป ปลูกสลับสี โดยมีเทือกเขาเป็นแบล็คกราวด์สุดลูกหูลูกตา บรรยายความสวยไม่ถูก ต้องมาเห็นกับตาเองครับ ส่วนอากาศประมาณ 10 องศา มันฟินมากกกกกก

ชื่อสวนครับ เผื่อใครไปเองจะได้บอกชื่อได้ถูก

เวลามีน้อย ลุยต่อ

ข้อใดไม่เข้าพวก

ครบ 1 ชั่วโมงสมาชิกทุกคนก็มารอที่จุดนัดหมายตรงหน้าประตูทางเข้า

สมาชิกครบออกเดินทางไปสวนนิชาท Nishat ห่างจากสวนทิวลิปไม่เกิน 10 นาที

สวนนิชาท Nishat เป็นสวนที่ใหญ่ที่สุด มีต้นเมเปิลอายุกว่า 400 ปี ต้นปอปลาร์ ต้นทิวลิป และดอกไม้นานาชนิดตามฤดูกาลตั้งอยู่ริมทะเลสาบดาล มีภูเขา Zabarwan ซึ่งตั้งเป็นฉากหลัง

สวนนี้อาซาฟข่านได้สร้างให้กับน้องสาวนอร์จาร์ฮาล มเหสีของกษัตริย์ชาร์ฮังกีร์ในปี ค.ศ. 1633 ต่อมา กษัติรย์ชาร์จาฮาล (คนเดียวกับเจ้าของตำนาน Taj Mahal)ได้เสด็จมาชมสวนแห่งนี้และพระองค์ได้ตรัสกับ อาซาฟข่านถึง 3 ครั้งด้วยกัน ว่าสวนแห่งนี้งดงามชนิดไม่สามารถหาสวนแห่งใดในโลกนี้เทียบได้

สวนนิชาท Nishat เราอยู่ไม่นานครับ 30 นาที ไกด์พาไปสวนชาลิมาร์(Shalimar Garden) อยู่ไม่ไกลกันครับ

ระหว่างทางไปสวนชาลิมาร์ (Shalimar Garden)

มาถึง สวนชาลิมาร์ (Shalimar Garden) ช่วงรอไกด์ไปติดต่อเข้าชมสวน ถ่ายบรรยากาศด้านหน้าเข้าสวนไปพรางๆก่อน

สวนชาลิมาร์ (Shalimar Garden) สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1619 โดยกษัตริย์ชาห์ฮังกีร์ ซึ่งเป็นพระราชโอรส ของกษัตริย์อัคบาร์โดยทรงสร้างสวนนี้เป็นของขวัญมอบให้แด่มเหสีผู้เป็นที่รัก คือพระนาง นูร์จาฮาล(ป้าของพระนางมุมตัส เจ้าของตำนานทัชมาฮาล)งดงามไปด้วยไม้ดอกและไม้ประดับตามริมสองข้างทาง มีศาลาขนาดเล็กทั้งสองฝั่งตรงกลางมีธารน้ำและมีน้ำพุตั้งเป็นแถวเรียงลำดับกันลงมา

ต้น chinar อายุ 320 ปี ที่นี่เค้าอนุรักษ์ต้นไม้ได้ดีมีต้นไม้เก่าแก่อายุหลายร้อยปี เยอะมาก

สวนชาลิมาร์ เดินชมประมาณครึ่งชั่วโมงก็กลับแล้วครับ

ลูกทัวร์ทั้งหมด 26 ท่าน น่ารักมากทุกท่าน  ตรงเวลาทุกที่ที่ไกด์นัด ทำให้โปรแกรมไปได้ตามที่ไกด์วางไว้นอกเหนือเหตุสุดวิสัยที่ต้องเปลี่ยนแผนตามสถานการณ์ ณ ตอนนั้น

วันนี้โปรแกรมเปลี่ยนกะทันหัน ไกด์ให้เอากระเป๋าใบใหญ่มาเก็บที่ Houseboats แล้วเอาชุดกับของจำเป็นใส่กระเป๋าเล็กไปนอนค้างที่พาฮาลแกรม

เรามาถึง Houseboats ประมาณ 18.20 น. ไกด์ให้เวลาเก็บของพอสมควรไว้วันสุดท้ายค่อยลงที่พัก  Houseboats ให้ดูครับตอนนี้ชมบรรยากาศข้างนอกไปก่อน

นั่งเล่นนอนเล่น เก็บของใน  Houseboats เสร็จ เวลาหนึ่งทุ่มเดินทาง ไกด์ท้องถิ่นให้แวะโรงงานผ้าของฝากที่ระลึก มีพวกเปเปอร์ มาเช่ ผ้าแคชเมียร์ ไม้แกะสลัก พลอยต่างๆพรมเปอร์เซีย สวยๆทั้งนั้นแต่ไม่มีอารมณ์ดู ได้แค่เดินผ่านแล้วก็ไปนั่งรอที่รถ

เวลา 19.30 น.รถมาถึงร้านอาหารเพื่อทานมื้อเย็น ร้านเดิมที่มากินตอนกลางวัน เป็นบุฟเฟ่ต์สไตล์อาหารอินเดียอีกแล้วลองชิมมันทุกอย่าง กินกันตายไปก่อน

ประมาณสองทุ่มครึ่งทานอาหารเสร็จไกด์ไทยบอกว่าจะเดินทางเลย แต่ไกด์ท้องถิ่นเช็คข่าวบอกว่า ประมาณสี่ทุ่มค่อยเดินทางดีกว่าให้พวกก่อความไม่สงบหลับกันก่อนค่อยเดินทาง จะปลอดภัยกว่า เห็นไกด์เค้าคุยกันก็เลยต้องเดินทางสี่ทุ่ม

ได้เวลาเดินทางจากศรีนาคาเดินทางไปพาฮาลแกรมประมาณ 90 กม.แต่ใช่เวลาเดินทางประมาณสองชั่วโมงครึ่ง ผมมาถึงพาฮาลแกรม 00.30 น.พอดี

คืนนี้เราพักที่โรงแรมนี้ (รูปนี้ถ่ายตอนเช้า)

ผมได้ห้อง 410 ชั้นบนสุดไม่มีลิฟต์ต้องเดินขึ้น แต่วิวในห้องสวยมาก

เข้าไปดูในห้องกันครับห้องไม่กว้างแต่ก็ไม่แคบเกิน ภายในมีเตียงเดี่ยวขนาด 5 ฟุต ที่นอนนุ่มมากแต่หมอนนิ่มเกินส่วนผ้าเช็ดตัว ผ้าห่ม ผ้าต่างๆ สะอาดในระดับหนึ่ง

อากาศภายนอกที่ผมไปประมาณ 6 องศาดีที่ภายในห้องพักเปิดฮีตเตอร์ให้ อุ่นสบายดี ส่วนหน้าต่างเป็นกระจกเปิดม่านออกไปจะเป็นวิวเขาหิมาลัยไว้ตอนเช้าค่อยถ่ายรูปให้ดูครับ

ปลายเตียงมีกระจก ทีวี ชั้นวางของส่วนขยะที่วางเกะกะแถมภาพเบลออีก ไม่ต้องไปสนใจครับ ช่วงนั้นตาจะปิดแล้ว

ด้านข้างหัวเตียงติดหน้าต่างมีโต๊ะวางกระติกน้ำร้อนไฟฟ้าพร้อมเครื่องดื่มทางที่พักให้น้ำเปล่า 2 ขวดตามมาตรฐาน ส่วนปลั๊กไฟเป็นสองขาใช้ได้ทั้งหัวแบนและหัวกลมเสียบใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าบ้านเราได้สบายๆ

หัวเตียงอีกฝั่งมีโต๊ะวางโทรศัพท์ ส่วนปลั๊กจะเป็นสามขาหัวกลม ปลั๊กนี้ต้องใช้ปลั๊กอินเตอร์ถึงจะใช้ได้

ด้านขวามือมีตู้เสื้อผ้าไม้ให้ 1 ใบถัดไปเป็นห้องน้ำ

เปิดประตูห้องน้ำเข้าไป อลังการกว่าที่คิด

ชักโครกมีสายชำระให้ด้วย น้ำร้อน-น้ำอุ่นใช้ได้ดี น้ำไหลแรงมาก ฝักบัว มีให้พร้อมซิงค์ล้างหน้า กระจกบานเงาบานใหญ่ไดร์เป่าผมก็มีให้ มันยอดมาก

สำหรับคืนนี้ขอสลบก่อนพรุ่งนี้ขี่ม้าขึ้นยอดเขาพาฮาลแกรมกันครับ //www.bloggang.com/mainblog.php?id=nongmalakor&month=24-04-2017&group=12&gblog=63

สรุปค่าใช่จ่ายวันจันทร์ที่ 10 เม.ย.60

***ออกส่วนตัว ที่เหลือทั้งหมดอาหาร ที่พัก ค่าทิปพนักงาน ค่าเข้าสถานที่อยู่ในโปรแกรม

ดิ้วตี้ฟรี สนามบินอินทิราคานธี เดลลี

-เครื่องเสียงบลูทูธ 1399 รูปี (1รูปีไม่มีทอน)

Create Date : 23 เมษายน 2560
Last Update : 26 เมษายน 2560 14:43:33 น.		3 comments
Counter : 2873 Pageviews.
Share Tweet